ปลาเป็นโปรตีนที่ให้คุณค่าทางด้านอาหารที่ดี สามารถหาซื้อเพื่อบริโภคได้ง่าย ราคาเหมาะสม และเป็นอาหารที่สำคัญต่อมนุษย์มาโดยตลอด หากจะกล่าวถึงการเลี้ยงปลาในปัจจุบัน สิ่งสำคัญที่สุดคือ “ลูกพันธุ์ปลา” ที่จะส่งผลให้การเลี้ยงประสบความสำเร็จ การเพาะพันธุ์ปลาของประเทศไทยได้ริเริ่มขึ้นมา เนื่องจากปลาในธรรมชาติลดลงด้วยเหตุปัจจัยทางสภาพแวดล้อมต่างๆ ที่เกิดขึ้น
เกษตรกรบางรายจึงหันมาผลิตลูกปลาเอง จากการจับพ่อแม่พันธุ์ในธรรมชาติมาเลี้ยงโดยอาศัยวิธีเลียนแบบธรรมชาติ แล้วนำไข่มาฟักให้ได้ลูกพันธุ์นำไปขาย จนเกิดเป็นอาชีพ สร้างรายได้ให้กับครอบครัว ซึ่งแต่ละฟาร์มจะมีเทคนิคในการเพาะพันธุ์ปลาที่แตกต่างกันไป เพื่อผลิตลูกปลาให้ได้คุณภาพ และเป็นที่ยอมรับกับผู้เลี้ยงฟาร์มอื่นๆ
นิตยสารสัตว์น้ำ ได้เล็งเห็นแล้วว่าการเพาะพันธุ์ปลานั้นเป็นอาชีพที่น่าสนใจ เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของการเลี้ยงปลาให้ได้คุณภาพ จะต้องมาจากลูกพันธุ์ที่ดี ทางทีมงานจึงลงพื้นที่พูดคุยกับเจ้าของฟาร์มหนุ่มไฟแรง “อั๋นพันธุ์ปลา” ที่ผลิตลูกพันธุ์ปลากรายและปลาแรดที่ได้คุณภาพสูง จากอดีตชาวสวนที่ครั้งหนึ่งสังเกตเห็นว่าบ่อน้ำในสวนของตนมีลูกพันธุ์ปลาเข้ามาอาศัยอยู่ และเพิ่มจำนวนมากขึ้น จึงได้สนใจและหันมาศึกษาเรื่องพันธุ์สัตว์น้ำมากขึ้น
จุดเริ่มต้นการเพาะพันธุ์ลูกปลาแรด และปลากราย
ก่อนที่คุณอั๋นจะมาเพาะพันธุ์ปลากรายและปลาแรดนั้น เดิมทีตนเป็นเกษตรกรชาวสวน ทำสวนอยู่ในพื้นที่อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ด้วยความที่ตนสนใจเรื่องเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ จึงลองนำปลาแรดมาปล่อยในบ่อที่อยู่ในสวน จนวันหนึ่งเห็นไข่ปลาแรดจึงลองเอามาเพาะพันธุ์ดู ปรากฏว่าทำได้ง่าย และมองว่าน่าจะเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ได้ดี เพราะว่าลูกพันธุ์ปลาสามารถทำเงินได้ดีกว่าการทำสวน
อีกทั้งตลาดยังเปิดกว้างมากกว่า ใช้เวลาเพาะเลี้ยงเพียงไม่กี่เดือนก็สามารถทำเงินได้แล้ว ถึงแม้การเพาะพันธุ์ปลาจะต้องใช้ความละเอียดมากกว่าการทำสวน แต่จริงๆ แล้วไม่ได้ยุ่งยากมากนัก เพียงแค่ต้องใส่ใจ ศึกษาหาข้อมูล เพียงเท่านี้ก็สามารถผลิตลูกพันธุ์ปลาที่มีคุณภาพได้ ด้วยเหตุนี้ตนจึงเริ่มปรับปรุงพื้นที่สวนมาเป็นบ่อเพาะเลี้ยงพันธุ์ปลาแรด และในภายหลังได้เพิ่มการเพาะพันธุ์ปลากรายเข้ามาบนพื้นที่ 18 ไร่ หากนับเวลาในการทำธุรกิจนี้ก็ร่วม 19 ปีแล้ว ปัจจุบันนอกจากการเพาะพันธุ์ปลาแรดและปลากรายแล้ว ตนยังปรับพื้นที่เลี้ยงปลากะพงในน้ำจืดและกุ้งขาวควบคู่ไปด้วย เป็นการหารายได้เสริม
“เราเพาะพันธุ์ปลาก็ถือว่าเป็นค่าใช่จ่ายรายวันไป เพราะเราขายได้ทุกวัน ส่วนกุ้งกับปลากะพงที่ใช้เวลาเลี้ยงนานกว่า เมื่อจับขึ้นมาก็ถือว่าเป็นเงินเก็บ ฟาร์มเราถือว่ามีการบริหารพื้นที่ค่อนข้างดี แบ่งสัดส่วนชัดเจน ซึ่งใครมาเที่ยว มาดูฟาร์ม ก็ชอบการจัดการฟาร์มของเรา” คุณอั๋นกล่าวถึงการบริหารจัดการพื้นที่ฟาร์ม
ขั้นตอนการเพาะพันธุ์ปลาแรด และปลากราย
ขั้นตอนในการเพาะพันธุ์ปลาคุณภาพของทางฟาร์ม เริ่มจากการเพาะปลาแรด ปลาแรดเป็นปลาน้ำจืดชนิดหนึ่งที่มีความนิยมกันในหลายพื้นที่ นิยมเลี้ยงกันในกระชังในแม่น้ำ เป็นปลาที่กินได้ทั้งพืชและสัตว์น้ำ การเพาะพันธุ์ก็ไม่ยุ่งยาก ทางฟาร์มใช้ปลาแรด “พันธุ์เหลืองทอง”
เนื่องจากสายพันธุ์นี้ตัวปลาจะเป็นสีเหลือง ขาว ลำตัวสวย และเจริญเติบโตไว โดยธรรมชาติในการเพาะพันธุ์สภาพแวดล้อมจะต้องไม่ร้อนเกินไป และไม่ร่มจนเกินไป เริ่มจากการนำใยมะพร้าวสีน้ำตาลมาผูกรวมกันเพื่อทำเป็นรังใช้สำหรับวางไข่ภายในบ่อเลี้ยง หลังจากนั้นนำพ่อแม่พันธุ์ปล่อยลงไป เมื่อแม่ปลาไข่เสร็จทำการอุดรังเพื่อป้องกันไม่ให้ไข่หลุด และเมื่อลูกปลาฟักออกมาจะได้ไม่หลุดออกมาจากรัง ปล่อยไว้ประมาณ 24 ชั่วโมง หลังจากนั้นนำขึ้นมาอนุบาลต่อให้แข็งแรง สมบูรณ์
ขั้นตอนการเพาะพันธุ์ปลากราย ทางฟาร์มใช้ปลากรายจากธรรมชาติที่หาได้ตามแม่น้ำมาทำการผสมเพาะพันธุ์ โดยนำพ่อแม่พันธุ์ใส่ลงในบ่อเลี้ยง อัตราการใส่พ่อพันธุ์ 300 ตัว/ไร่ และแม่พันธุ์ 200 ตัว/ไร่ ปลากรายจะชอบวางไข่บริเวณโคนต้นไม้ ตอไม้ หรือเสาไม้บริเวณริมชายฝั่งที่มีที่ยึดเกาะ และเป็นที่โล่ง
ทางฟาร์มจะปักไม้กระดานลงในบ่อเลี้ยงเพื่อให้แม่ปลาได้นำไข่มาติด ไข่มีลักษณะคล้ายกับเม็ดสาคู สีเหลืองอ่อน ขนาดไข่ประมาณ 3.5-4.5 มิลลิเมตร ทิ้งไว้ประมาณ 6 วัน จึงเก็บไม้กระดานมาใส่ในในบ่อฟัก หลังจากนั้นอีก 2-3 วัน ลูกปลาก็จะฟักออกมา แต่โดยธรรมชาติแล้วปลากรายจะออกไข่ในช่วงหน้าฝน ประมาณเดือนมีนาคมจะเป็นช่วงที่เริ่มได้ไข่ และจะหมดไข่ช่วงเดือนตุลาคมของทุกปี
การเพาะพันธุ์ลูกปลาแรดเผือก
นอกจากนี้ทางฟาร์มยังได้เพาะลูกปลาแรดให้เป็นแรดเผือก โดยการปล่อยพ่อแม่พันธุ์ที่เป็นเผือกลงไป เพื่อให้ได้ลูกปลาที่เป็นปลาเผือก แต่อัตราการได้ผลผลิตไข่จะน้อยกว่าปลาแรดธรรมดา และลูกปลาที่ฟักออกมาแล้วนั้นสามารถขายเป็นปลาสวยงาม ซึ่งราคาขายจะสูงกว่าปลาแรดธรรมดา โ
ดยทางฟาร์มจะนำปลาแรดเผือกไปขายที่ตลาดปลาสวยงาม จ.ราชบุรี ในทุกวันอาทิตย์ และนอกจากปลาแรดเผือกแล้วยังมีปลาสวยงาม อย่าง ปลา เทวดา และปลาทอง ของพี่สาวอีกด้วย
การอนุบาลลูกปลากราย และลูกปลาแรด
การอนุบาลลูกปลากรายและลูกปลาแรดนั้น จะอนุบาลอยู่ในบ่อปูนขนาด 5×7 เมตร ประมาณ 10วัน ในช่วงแรกจะให้อาหารเป็น “ไรแดง” ทุกวัน วันละ 2-3 ครั้ง หลังจากนั้นย้ายลูกปลาลงบ่อดิน ปลากรายจะอนุบาลในบ่อปูน เพราะว่าง่ายต่อการจับ ส่วนลูกปลาแรดสามารถปล่อยลงบ่อดินได้ เพราะเลี้ยงในบ่อดินจะเลี้ยงง่าย ลูกปลาแข็งแรง ตัวใหญ่ มีอัตราการรอดสูง เป็นการเลี้ยงเลียนแบบธรรมชาติ
ซึ่งในแต่ละบ่อจะมีการฝังท่อกันน้ำล้นไว้ทุกบ่อ เพื่อป้องกันช่วงหน้าฝนที่จะมีน้ำมากเป็นพิเศษ และไม่ต้องใช้มอเตอร์ในการดูดน้ำ ลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไป ในส่วนของน้ำที่ใช้เลี้ยงและอนุบาลเป็นน้ำที่มาจากคลองชลประทาน เป็นแหล่งน้ำที่สะอาด สามารถปล่อยน้ำเข้าบ่อเลี้ยงได้เลย สามารถปล่อยน้ำเข้าบ่อตลอดเวลา เพื่อให้น้ำหมุนเวียนอยู่เสมอ เหมือนในแหล่งน้ำธรรมชาติ
การให้อาหารลูกปลากราย และลูกปลาแรด
การให้อาหารลูกปลากรายและลูกปลาแรด อย่างที่บอกว่าในช่วงแรกทางฟาร์มจะให้อาหารเฉพาะไรแดงเท่านั้น เพื่อให้ปลาได้โปรตีนอย่างเต็มที่ ประมาณ 15-20 วัน ในบ่อปูน เมื่อปลาได้ขนาดจับประมาณ 2 นิ้ว ทางฟาร์มจะเริ่มให้อาหารเม็ดควบคู่กับไรแดง โดยใช้อาหารกบเป็นหลัก เพื่อฝึกปลาให้กินอาหารเม็ด
โดยทางฟาร์มจะเน้นให้อาหาร 2 ครั้ง ต่อวัน คือ เช้า และเย็น เมื่อปลาลงกระชังบ่อดิน จะเปลี่ยนมาให้เป็นอาหารเม็ดอย่างเดียว ซึ่งอาหารเม็ดที่ให้ก็จะเปลี่ยนเบอร์ไปตามขนาดของตัวปลา เลี้ยงไปจนครบ 2 เดือน จะได้ลูกปลากรายและลูกปลาแรดตามขนาดที่ตลาดต้องการ
การจำหน่ายลูกปลากราย และลูกปลาแรด
ทางฟาร์มจะเริ่มขายปลาตั้งแต่ขนาด 1 นิ้ว ไปจนถึง 5 นิ้ว ขึ้นอยู่กับความต้องการของทางฟาร์มเลี้ยงที่จะมีออเดอร์เข้ามา ในขั้นตอนการแยกขนาดลูกปลาจะใช้เป็นตะแกรงคัดไซส์ โดยจะเอาลูกปลาใส่ในตะแกรงแล้วร่อนในน้ำ ตะแกรงจะมีขนาดตั้งแต่ 1 นิ้ว 2 นิ้ว และ 3 นิ้ว ลูกปลาของทางฟาร์มมีคุณภาพสูง เนื่องจากมีแหล่งน้ำที่ดี
การดูแลการเลี้ยงที่ดี และยังมีปลาผู้ช่วยในการทำความสะอาดในบ่อปูนก็คือ ปลาเทศบาล ทางฟาร์มนำปลาเทศบาลมาเลี้ยงภายในบ่ออนุบาล และบ่อพักลูกปลา เพื่อในการเก็บตะกอนก้นบ่อ ช่วยในการทำความสะอาดก้นบ่ออยู่เสมอ ลดแรงในการคัดและดูดตะกอน
ราคาซื้อขายลูกปลากรายในหน้าฟาร์มตอนนี้เริ่มต้นที่ลูกปลาขนาด 1 นิ้ว ขายอยู่ที่ 1 บาท/ตัว ราคาจะอยู่ที่ขนาดไซส์ของปลา ส่วนลูกปลาแรดจะขายอยู่ที่ขนาดเท่าเหรียญ 5 บาท ขายอยู่ที่ 2.5 บาท/ตัว เนื่องจากปลาแรดเป็นปลาที่วางไข่ในสภาพสิ่งแวดล้อมที่ธรรมชาติมากๆ ราคาต้นทุนอาจจะสูงกว่าปลากราย เมื่อนำปลาไปปล่อยเลี้ยงอัตรารอดสูงเกือบ 100%
ด้านตลาดลูกปลากราย และลูกปลาแรด การเลี้ยงปลาเเรด
การตลาดส่วนใหญ่จะอยู่โซนภาคอีสาน และภาคกลางตอนบน อัตราการสั่งซื้อจะอยู่ที่เท่ากัน ลูกค้าส่วนใหญ่จะสั่งปลาทั้ง 2 ชนิด ไปเลี้ยงควบคู่กันไป เพราะปลากรายจะเป็นปลาที่กินผิวน้ำ ปลาแรดจะเป็นปลาที่ชอบเก็บกินไปเรื่อยๆ ภายในที่เลี้ยง ทำให้ลูกค้ากระชังปลา หรือฟาร์มปลาน้ำจืด จะซื้อไปคู่กัน
ขั้นตอนในการส่งลูกปลา การแพ็คลูกปลากรายและลูกปลาแรดส่งจำหน่ายจะมีทั้งการแพ็คถุง และใส่ถังส่ง แล้วแต่ลูกค้าสะดวก ในการแพ็คลงถุงจะมีการอัดออกซิเจนไปให้ทุกถุง แต่ถ้าลูกค้าต้องการลูกพันธุ์ปลาจำนวนมาก ทางฟาร์มจะใส่ถังส่งให้ ในการส่งแบบถังจะไม่มีการใช้ออกซิเจน เพราะลูกปลา 2 ชนิดนี้มีความอดทนสูง และลูกพันธุ์ปลาของทางฟาร์มแข็งแรง รับประกันการขนส่ง เมื่อถึงฟาร์มสามารถปล่อยลงเลี้ยง อัตรารอดเกือบ 100% ไม่มีค่าจัดส่ง จัดส่งให้ถึงที่ และยังให้คำปรึกษาฟรีอีกด้วย
หากลูกค้าท่านใดที่สนใจอยากจะเลี้ยงปลากรายและ การเลี้ยงปลาเเรด ต้องการลูกปลาที่มีคุณภาพ สามารถติดต่อได้ที่ คุณภานุวัฒน์ ห้วยเรไร (คุณอั๋น) หรือคุณชฎาภรณ์ สุวรรณรัตน์ (คุณอั้ม) ที่อยู่ 6 หมู่ที่ 4 ตำบลศีรษะทอง อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม เบอร์โทร : 092-269-6300,098-284-4146 การเลี้ยงปลาเเรด