การปลูกฝรั่งกิมจู
จิจริงใจโฮมสเตย์ เป็นแหล่งพักผ่อนของคนที่ชอบบรรยากาศแบบธรรมชาติสไตล์เชิงเกษตร โดยมี คุณจิรพรรณ เพ็ญทอง เป็นเจ้าของดูแลกิจการ ทั้งทำ สวนฝรั่งกิมจู เลี้ยงกบ เลี้ยงปลาดุก และทำโฮมสเตย์ ไปพร้อมๆ กัน ซึ่งทั้งหมดทำเป็นรายได้เสริมหลังว่างจากอาชีพรับราชการพยาบาลในโรงพยาบาลสมุทรปราการ
คุณจิรพรรณเล่าให้ทีมงานเมืองไม้ผลฟังว่า เริ่มแรกตนเลี้ยงกบ แต่เพราะอยู่ใกล้แม่น้ำเพชรบุรีที่เป็นแม่น้ำสายอนุรักษ์ จึงไม่สามารถนำน้ำที่ใช้เลี้ยงกบปล่อยลงไปในแม่น้ำได้ ก็เลยคิดว่าจะนำน้ำที่เลี้ยงกบไปปล่อยไว้ที่ไหน??? จนคิดปลูกผัก และผลไม้ ภายในพื้นที่ แล้วนำน้ำที่เลี้ยงกบมาใช้รดน้ำต้นไม้แทน
การทำระบบผันน้ำขึ้นไปใช้ในการเกษตรจะช่วยประหยัดในเรื่องค่าใช้จ่ายในการทำระบบสปริงเกลอร์ แล้วเปลี่ยนมาทำระบบนำร่องแทน ตรงนี้ลงทุนน้อยมาก เมื่อมีน้ำใช้ในการหล่อเลี้ยงต้นพืชแล้ว คุณจิรพรรณจึงคิดที่จะปลูกพืชแบบครั้งเดียวจบ แล้วสามารถเก็บผลผลิตได้ตลอดทั้งปี ดังนั้นแนวคิดที่จะปลูก ฝรั่งกิมจู จึงเกิดขึ้น เพราะดูเพื่อนบ้านปลูกแล้วดูแลง่าย มีตลาดมารับซื้อถึงที่ เลยตัดสินใจปลูก ฝรั่งกิมจู เป็นจำนวน 300 ต้น ในพื้นที่ 2 ไร่
การเก็บเกี่ยวผลผลิตฝรั่งและราคาขาย ฝรั่งกิมจู
หลังจากการห่อผล ฝรั่งกิมจู ประมาณ 1 เดือน จึงเก็บผลผลิตที่ห่อได้ ควรแย้มดูผลฝรั่งที่ห่อว่ามีลักษณะเป็นสีเขียวแบบไหน ถ้าเป็นสีเขียวแก่แสดงว่าผลฝรั่งยังไม่แก่เต็มที่ ถ้ารับประทานเข้าไปแล้วจะมีรสชาติฝาด ไม่อร่อย แต่ถ้าผลฝรั่งมีสีเขียวออกขาวเนียน แสดงว่าสามารถเก็บผลผลิตมารับประทาน หรือจำหน่ายได้ เพราะแก่เต็มที่แล้ว รสชาติจะมีลักษณะหวาน กรอบ และเนื้อฝรั่งจะไม่แข็งจนเกินไป
การห่อผลฝรั่งจะช่วยให้เกษตรกรประหยัด ประโยชน์อีกทางหนึ่งนั่นคือ ไม่ต้องเสี่ยงเรื่องสารเคมี และลดการใช้สารเคมีจากการกำจัดโรคและแมลงได้ ถึงแม้ การปลูกฝรั่งกิมจู จะใช้ระยะเวลาไม่นาน แต่คุณจิรพรรณก็พิถีพิถันในการเก็บผลผลิต พร้อมกับคัดเลือกสิ่งที่ดีให้กับผู้ซื้อ ผลผลิตจะแบ่งเกรด 2 เกรด คือ
- เกรด A : เกรด A จะค่อนข้างราคาสูงประมาณ 25-30 บาท/ต่อกิโลกรัม
- เกรด B : เกรด B จะเป็นเกรดที่มีตำหนิบ้าง หรือผลไม่ใหญ่ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 10 บาท/ต่อกิโลกรัม
ระยะเวลาการออกดอกจนสามารถเก็บผลผลิตได้ ทางสวนจะเคร่งครัดในเรื่องนี้ ทั้งนี้เพื่อให้รสชาติของ ฝรั่งกิมจู ออกหวาน กรอบ เป็นที่ชื่นชอบแก่ผู้ซื้อ และผู้บริโภค
การจำหน่าย ฝรั่งกิมจู
ในปีนี้ราคาของ ฝรั่งกิมจู ถือว่าค่อนข้างดี ผลผลิตที่เกษตรกรสามารถเก็บได้ในช่วงนี้ ถ้ามีปริมาณมากรายรับก็จะได้เพิ่มตามไปด้วย ถ้าในช่วงนี้เกษตรกรมีผลผลิตจำนวนมาก ก็จะเป็นผลดีของตัวเกษตรกรเองอีกด้วย เพราะจะทำให้รายได้เพิ่มขึ้น
“พ่อค้า แม่ค้า ตอนนี้ที่มารับมันมีหลายจุด แล้วแต่ว่าเราจะผูกขาดกับจุดไหน อย่างที่นี่พี่จะขายในโฮมสเตย์ตลอด แต่ก็มีหลายจุดที่เขารับไปส่งทางใต้ ส่งตลาดไท ส่งพระประแดง และตลาดหลักที่ทำรายได้ให้เรา คือ ตลาดกลางหนองบ้วย ตรงนี้ก็คือ ราคามันจะดีกว่าที่อื่น แต่เราต้องขนไปเอง
ตลาดกลางหนองบ้วยเป็นตลาดเกษตร จะมีพ่อค้า แม่ค้า มาประมูลสินค้าเกษตร ขึ้น-ลง ตามราคาตลาด อย่างเช่น ราคาที่ตลาดไท 25 บาท เขาจะบวกค่าน้ำมันอีก 2 บาท ต่อกิโลกรัม เพราะฉะนั้นเราจะไม่รู้เลยว่าวันนี้ฝรั่งราคาจะได้เท่าไหร่ มันจะขึ้นๆ ลงๆ” คุณจิรพรรณกล่าวถึงตลาดของ ฝรั่งกิมจู
การปลูกพืชผักสวนครัว ใน สวนฝรั่งกิมจู
ซึ่งระหว่างรอผลผลิตฝรั่งกิมจู คุณจิรพรรณได้เล็งเห็นว่าควรมีพืชอายุสั้นปลูกเพื่อรอผลผลิตฝรั่ง จึงปลูกมะเขือเปราะไว้ระหว่างแปลง กว่าฝรั่งจะได้เก็บผลผลิตก็สามารถเก็บมะเขือเปราะจำหน่ายได้ก่อนที่ผลผลิตของฝรั่งจะออกมาให้เราได้จำหน่าย เพราะมะเขือเปราะจะมีอายุประมาณ 3 เดือน ก็สามารถเก็บผลผลิตได้ แต่ฝรั่งกิมจูกว่าจะได้ผลผลิตต้องรอประมาณ 6-8 เดือน ดังนั้นกว่าจะได้เก็บผลผลิตของฝรั่งกิมจูเราก็สามารถเก็บมะเขือเปราะขายเป็นทุนระหว่างรอได้
การเตรียมพื้นที่ปลูกฝรั่ง
หลังจากที่เลือกพื้นที่ปลูกได้แล้ว ควรจัดระยะปลูกห่างระหว่างแถว และระหว่างต้นประมาณ 2×2 เมตร เพราะจะได้สะดวกในการเก็บผลผลิต และต้นของฝรั่งกิมจูจะได้ไม่เกิดความแออัดจนทรงพุ่มชนกัน จากการที่ศึกษาสวนใกล้เคียง ทำให้รู้ถึงปัญหา และนำมาปรับใช้ในสวนของตน ทำให้การดูแลเป็นไปอย่างได้ผลดี
เมื่อเตรียมหลุมโดยการนำปุ๋ยสูตร 15-15-15 รองก้นหลุมแล้ว ให้นำกิ่งพันธุ์ที่เตรียมไว้ไปลงปลูกในหลุม กลบดินให้แน่นพอสมควร แล้วใช้ไม้ปักเป็นหลักกันลมโยก และรดน้ำทันที การกลบดินต้องเน้นกลบให้สูงกว่าระดับดินเดิม เพื่อเวลาปลูกดินจะยุบตัวลงเล็กน้อย ซึ่งจะทำให้พอดีกับระดับดินเดิม ถ้าไม่เผื่อไว้จะเป็นแอ่ง และมีน้ำขัง ทำรากเน่าตายได้
การให้น้ำต้นฝรั่ง
หลังจากปลูกฝรั่งแล้วต้องหมั่นคอยรดน้ำในช่วงระยะแรกจนกว่าต้นฝรั่งจะตั้งตัวได้ หลังจากนั้นก็ต้องสังเกตความชื้นของดิน ถ้าดินแห้งมากต้องรีบให้น้ำ คุณจิรพรรณจะรดน้ำฝรั่งกิมจูโดยใช้น้ำจากการเลี้ยงกบมาปล่อยลงในแปลงปลูกฝรั่ง 3 วัน/ครั้ง ตรงนี้ต้นฝรั่งกิมจูจะได้ทั้งน้ำ และปุ๋ย ในคราวเดียวกัน เพราะน้ำที่ปล่อยลงไปจะมีปุ๋ยจากขี้กบอยู่ในนั้น ทำให้ประหยัดเรื่องปุ๋ย และรายจ่าย ได้มากทีเดียว
ใช้น้ำจากบ่อเพาะเลี้ยงกบ เป็นปุ๋ย ใน สวนฝรั่งกิมจู
“การถ่ายน้ำกบ คือ จะมีระบบท่อระหว่างบ่อกบกับท่อน้ำ จะขุดฝังไปท่อจากก้นบ่อประมาณเมตรกว่า ถึงเวลาก็ดูดน้ำจากบ่อกบขึ้นไปหมด แล้วให้น้ำที่ดูดไปไหลลงมาจากสูงลงที่ต่ำเพื่อให้น้ำไหลเข้ามาในแปลงฝรั่งที่ปลูกไว้ น้ำที่ได้ก็เป็นปุ๋ยจากขี้กบ
จากก่อนหน้านี้ไม่ได้เลี้ยงกบ ต้องใส่ปุ๋ยเดือนละครั้ง หรือ 2 อาทิตย์ครั้ง เพราะดินที่ปลูกไม่ค่อยมีปุ๋ย มันเป็นดินทราย ปุ๋ยที่ใช้จะเป็นสูตร 15-15-15 แต่พอใช้น้ำขี้กบก็ลดการใช้ปุ๋ยลงได้ถึง 50%” คุณจิรพรรณกล่าว
การใช้น้ำเลี้ยงกบมิใช่แต่เป็นการลดต้นทุนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังทำให้ต้นฝรั่งกิมจูสามารถออกผลผลิตได้ไวกว่าแปลงอื่นๆ คือ ประมาณ 6 เดือน ก็ทำการห่อผลผลิตที่ออกมาได้แล้ว เพราะได้น้ำ ได้ปุ๋ย ดี ผลผลิตที่ได้ก็จะออกมามีคุณภาพ และดก
การห่อผลฝรั่ง
การห่อฝรั่งจะมีการห่อทุกวัน เพราะผลผลิตจะทยอยออกมาตลอด ทำให้เมื่อมีการเก็บผลผลิตเราจะสามารถเก็บได้ทุกอาทิตย์ และมีรายได้เข้ากระเป๋าอยู่ตลอดเวลา
สำหรับการห่อผลฝรั่งของสวนคุณจิรพรรณจะใช้วิธีการห่อผลด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ หรือกระดาษโฆษณาสินค้า และถุงพลาสติกที่มีรูระบายอากาศ โดยจะเริ่มห่อฝรั่งเมื่อผลใหญ่ประมาณหัวนิ้วแม่มือ ขนาดประมาณลูกมะนาวผลเล็ก หรือหลังดอกบานแล้ว 1 เดือน การห่อจะห่อด้วยการใช้ถุงพลาสติกที่มีรูระบายอากาศก่อน หลังจากนั้นจะใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อทับอีกชั้น
นอกจากจะช่วยป้องกันกำจัดโรคและแมลงศัตรูของฝรั่งแล้ว ยังช่วยป้องกันแสงแดด และยังทำให้ผิวของฝรั่งสวย น่ารับประทาน นอกจากนั้นยังป้องกันเวลาฉีดพ่นสารเคมีไม่ให้ตกค้างภายในผลฝรั่งอีกด้วย
ด้านตลาดฝรั่งกิมจู
จากการที่ทำโฮมสเตย์ จึงมีลูกค้ามาพักอยู่เสมอๆ ทำให้ผลไม้ และพืช ที่ปลูกไว้สามารถจำหน่ายให้ลูกค้าที่มาพักผ่อนได้อยู่ตลอด บางรายซื้อไปรับประทานแล้วติดใจในรสชาติก็กลับมาซื้อใหม่ ทำให้ทางสวนมีลูกค้าเข้ามาสั่งฝรั่งกิมจูอยู่ไม่ขาดสาย
นอกจากลูกค้าที่เข้ามาพักในโฮมสเตย์จะติดใจในรสชาติของฝรั่งกิมจูแล้ว ยังมีลูกค้าจากทางโรงพยาบาลที่คุณจิรพรรณทำงานอยู่อีกด้วย ส่วนใหญ่เป็นหมอ พยาบาล และคนรักสุขภาพ ที่ชอบรับประทานผัก และผลไม้ ปลอดสารพิษ ทำให้ในทุกอาทิตย์มีการสั่งจองฝรั่งกิมจูของลูกค้าในโรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง
ตลาดส่วนใหญ่ของเกษตรกรชาวเพชรบุรีจะมาจากพ่อค้า แม่ค้า ที่มารับซื้อผลผลิตถึงสวน มีเท่าไหร่รับซื้อหมด ตรงนี้เป็นความโชคดีของชาวเกษตรกรในแถบนี้ การกำหนดราคาก็ต้องเป็นไปตามกลไกของตลาด และพ่อค้า แม่ค้า ที่มารับซื้อ ส่วนเกษตรกรนั้นไม่สามารถกำหนดราคาผลผลิตของตนได้เลย
ฝากถึง…ผู้ที่สนใจทำเกษตรแบบผสมผสาน
ในพื้นที่ประมาณ 4 ไร่ คุณจิรพรรณเน้นทำเกษตรแบบผสมผสาน เพราะจะมีการเลี้ยงกบ ปลูกชะอม และปลูกผัก ผลไม้ ทั่วๆ ไป ตามบริเวณโฮมสเตย์ เพื่อสร้างรายได้หมุนเวียนภายในพื้นที่ให้มีอยู่ตลอด นักท่องเที่ยวก็จะได้ชิมผัก ผลไม้ ตามฤดูกาลที่ปลูกเอาไว้ด้วยเช่นกัน เป็นการมาพักผ่อนแบบเชิงอนุรักษ์ และเชิงเกษตรได้ไปพร้อมๆ กัน
ผู้ที่มาพักโฮมสเตย์ส่วนใหญ่เมื่อได้ลิ้มลองรสชาติของ ฝรั่งกิมจู ที่นี่จะต้องมาซื้อติดกลับบ้านเกือบทุกราย เพราะติดใจในรสชาติหวาน กรอบ อร่อย และที่สำคัญปลอดภัย ไร้สารเคมี จึงไม่น่าแปลกใจที่ลูกค้าซื้อไปแล้วจะติดใจในรสชาติกลับมาซื้ออีกอย่างไม่ขาดสาย และมีความคิดว่าอยากให้ผู้ที่มาเข้าพักในโฮมสเตย์รู้สึกประทับใจ
จึงจัดให้มีการทำกิจกรรมการห่อฝรั่งเอง โดยมีการเขียนชื่อคนห่อเอาไว้ เมื่อถึงเวลาเก็บ ใครอยากมาเก็บผลฝรั่งที่ห่อก็สามารถกลับมาเก็บได้ ตรงนี้ทำให้ลูกค้าคิดถึงเรา ถึงจะไม่สามารถมาเก็บผลฝรั่งที่ห่อได้ ทางสวนก็ยังเก็บผลผลิตขายได้ การปลูกฝรั่งกิมจู การปลูกฝรั่งกิมจู การปลูกฝรั่งกิมจู การปลูกฝรั่งกิมจู การปลูกฝรั่งกิมจู การปลูกฝรั่งกิมจู
“การทำเกษตร ถ้าใครทำจริงๆ ก็อยากให้คุ้มค่า ทำไปหลายๆ อย่าง ไม่ใช่รอแต่ฝรั่ง กว่าจะได้กินฝรั่งก็ยังอีกนาน อยากให้ปลูกแบบพืชหมุนเวียน อาจจะปลูกแตงกวาไปก่อน พอได้ผลผลิตแล้ว ระหว่างรอก็สลับเป็นมะเขือ อาจจะแซมด้วยตะไคร้ กว่าจะได้เก็บผลผลิตของฝรั่งกิมจูก็สามารถเก็บพืชพวกนี้ได้ก่อน โดยไม่ต้องรอให้สูญเปล่า ไม่ต้องมีพื้นที่เยอะ เอาแค่ไร่เดียว คุณก็ทำได้จริง ก็สามารถเลี้ยงครอบครัวได้แล้ว” คุณจิรพรรณฝากถึงผู้ที่สนใจทำเกษตรแบบผสมผสาน การปลูกฝรั่งกิมจู การปลูกฝรั่งกิมจู การปลูกฝรั่งกิมจู การปลูกฝรั่งกิมจู การปลูกฝรั่งกิมจู
ประโยชน์ของฝรั่ง
ต้องยอมรับโดยทั่วไปว่าเมืองไทยของเราอุดมไปด้วยผลไม้หลากหลายชนิดมากมาย มีให้รับประทานหมุนเวียนตลอดทั้งปี ผลไม้บางชนิดก็ราคาแพง บางชนิดก็ราคาถูกคละกันไป และหนึ่งในผลไม้ที่เราสามารถซื้อหาได้ราคาสบายกระเป๋า นั่นก็คือ ฝรั่ง ซึ่งเราเห็นวางขายอยู่ตามตลาดทั่วไป มีอยู่ตลอดทั้งปี ในยุคเศรษฐกิจแบบนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องเลือกสรร ทั้งคุณค่า และราคา ไปพร้อมๆ กัน ซึ่งฝรั่งมีคุณสมบัติครบทั้ง 2 ประการ
ฝรั่งเป็นพืชยืนต้นขนาดกลาง ออกผลตลอดปี แต่จะมีมากช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน นอกจากฝรั่งจะรับประทานผลผลิตได้แล้วยังสามารถแปรรูปได้หลายอย่างอีกด้วย เช่น ทำฝรั่งดอง แยมฝรั่ง หรือฝรั่งหยี เป็นต้น
สำหรับคุณค่าทางด้านอาหารของฝรั่งนั้นในปริมาณ 100 มิลลิกรัม ฝรั่งจะอุดมไปด้วยวิตามินซีถึง 160 มิลลิกรัม และวิตามินอื่นอีกอย่างละเล็กอย่างละน้อย เช่น วิตามินเอ แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินบี 1 และวิตามินบี 2
ซึ่งหลายๆ คน อาจยังไม่ทราบว่าฝรั่งมีวิตามินมากกว่าส้มเขียวหวานถึง 9 เท่า ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน ประมาณ 30-60 มิลลิกรัม โดยวิตามินซีจะมีมากบริเวณเปลือก จึงไม่ควรปอกเปลือกทิ้ง เพียงแต่ต้องล้างน้ำให้สะอาดก่อนรับประทาน
ฝรั่งมีเส้นใยอาหารสูง ช่วยทำความสะอาดระบบขับถ่าย จึงลดโอกาสเสี่ยงจากการเป็นโรคมะเร็งลำไส้ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และลดความดันโลหิตได้ ทั้งยังมีสารฟลาโวนอยด์ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันมะเร็งได้อีกทางหนึ่ง สวนฝรั่งกิมจู สวนฝรั่งกิมจู สวนฝรั่งกิมจู สวนฝรั่งกิมจู สวนฝรั่งกิมจู สวนฝรั่งกิมจู สวนฝรั่งกิมจู
สรรพคุณของใบฝรั่ง การปลูกฝรั่งกิมจู การปลูกฝรั่งกิมจู
“ใบฝรั่ง” มีสรรพคุณที่เหมาะสำหรับ “สิงห์อมควัน” และผู้มีปัญหากลิ่นปาก ด้วยการเด็ดใบสด 3-4 ใบ มาเคี้ยวแล้วคายกากทิ้ง กลิ่นหอมเฉพาะตัวจากน้ำมันหอมระเหยในใบฝรั่งจะช่วยดับกลิ่นปากได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ทั้งผลและใบของฝรั่งจะมีสารแทนนินสูง สารนี้จะให้รสชาติฝาด มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ จึงช่วยลดอาการท้องเสีย แก้อาการท้องเดิน ที่ไม่ใช่เกิดจากเชื้อบิด และอหิวาต์ โดยใช้ใบแก่ 10-15 ใบ ปิ้งไฟ แล้วนำไปชงน้ำดื่ม หรือใช้ผลอ่อน 1 ผล ฝนกับน้ำปูนใสดื่ม แต่อย่ารับประทานมากจนเกินไป เพราะจะทำให้เกิดอาการท้องอืดได้
หากท่านผู้อ่านมีข้อสงสัย หรือสนใจข้อมูล สามารถติดต่อได้ที่ คุณจิรพรรณ เพ็ญทอง (จิจริงใจโฮมสเตย์) 86 ม.12 ต.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี 76130 โทร.08-1875-4929