โครงการนา ข้าวหอม มะลิ 1 ล้านไร่ ทุ่งกุลาฯ ใช้ เครื่องหยอดข้าว ทำนาได้ 50 ไร่/วัน
อนุสนธิ์จากวิกฤติข้าวไทย อันเนื่องมาจากตลาดโลกหดตัว และประเทศคู่แข่งมีศักยภาพในการผลิต ด้วยต้นทุนต่ำ แต่ผลผลิตสูงขึ้น ส่งผลให้ข้าวไทยมีความสามารถในการแข่งขันน้อยลง ประกอบกับปัจจัยลบภายในประเทศ เช่น ต้นทุนการผลิตข้าวของไทยสูงขึ้น ผลผลิต/ไร่ยังต่ำ การแทรกราคาของรัฐมีจุดอ่อนหลายประการ
ทำให้โรงสีและผู้ส่งออกวางแผนธุรกิจได้ยาก หากปล่อยให้สถานการณ์การผลิตและการค้าข้าวของไทยลื่นไหลไปในกระแสเดิมๆ ทำให้อุตสาหกรรมข้าวไทยจะทรุดตัวอย่างหนัก จนกระทบต่อห่วงโซ่ข้าวเศรษฐกิจทั้งระบบ และยากต่อการฟื้นตัว เหตุนี้ สมาคมชาวนาและโรงสีข้าวไทย จึงได้กำหนดยุทธศาสตร์การผลิตข้าวเชิงกลยุทธ์ ด้วยการโฟกัสไปที่ ข้าวหอม มะลิทุ่งกุลาร้องไห้ 1 ล้านไร่
โดยใช้ “นวัตกรรม” การผลิต ที่ตอบโจทย์เรื่องลดต้นทุน-เพิ่มผลผลิตชัดเจน นอกจากนี้ยังได้ส่งเสริมชาวนาให้มีอาชีพรับจ้างทำนา ในราคา/ไร่ที่ต่ำกว่ารูปแบบการปลูกข้าวทั้งหมด แม้ราคาข้าวหอมมะลิจะไม่สูงสุดเหมือนอดีต แต่ชาวนาในโครงการก็มีกำไร เพราะต้นทุนการผลิตต่ำมาก
การผลิตข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาฯ 1 ล้านไร่ ด้วยนวัตกรรมลดต้นทุน-เพิ่มผลผลิต หากสำเร็จจะเป็นโมเดลการทำนาเชิงกลยุทธ์ที่ล้ำหน้ากว่าประเทศคู่แข่งแน่นอน เพื่อให้โครงการบรรลุเป้าหมายเป็นรูปธรรมชัดเจน สมาคมได้ร่วมกับ วิสาหกิจชุมชนอาสาทำนาอินทรีย์ เลขที่ 191 ถนนนิตโย (ติดถนนอุดรฯ-สกลฯ) อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร
ปรึกษาฟรี! หากบอกว่ามาจาก พลังเกษตร.com หรือ ข้าวเศรษฐกิจ
ติดต่อ : คุณณพดน 091-095-4566 , คุณอัสนี 082-118-7671
“เครื่องทำเมล็ด” ที่มีกำลังการผลิต 50-100 ไร่/วัน
การร่วมมือครั้งนี้จะทำให้สมาชิกกลุ่มเข้าสู่อาชีพรับจ้างทำนาได้เร็วขึ้น เพราะทางโครงการได้สนับสนุน “เครื่องทำเมล็ด” ที่มีกำลังการผลิต 50-100 ไร่/วัน ให้ฟรี โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เป็นกลุ่มตัวอย่าง แล้วขยายฐานการผลิตเข้าสู่พื้นที่ 1 ล้านไร่ ทุ่งกุลาฯ
เครื่องทำเมล็ดเป็นงานวิจัย โดย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติจังหวัดสกลนคร ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อนุกูล วัฒนสุข มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม อาจารย์ธฏษธรรมช์ ลาโสภา และมีการพัฒนาด้วยปราชญ์ชาวนา คุณอัสนี รัตนวิจารณ์ และนักธุรกิจ จนเป็นรถต้นแบบที่ตอบโจทย์ทางธุรกิจได้ดีเยี่ยม มีผลงานให้อ้างอิง
นาดำแบบสมัยใหม่
การทำนาแบบ “นาดำแบบสมัยใหม่” สามารถที่จะทำนาในทุ่งนาที่เก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวเสร็จเแล้ว พื้นดินยังมีตอซังฟางข้าวอยู่สามารถทำนาได้ภายในวันเดียวถึง 30-50 ไร่ต่อวัน โดยที่ยังมีฟางข้าวอยู่ โดยการใช้แรงงานคนเดียวทำงาน ทั้งกระบวนแรกของการเตรียมดินจนถึงการดำนาเสร็จในขั้นตอนเดียว
“แต่ทว่า ชาวนาโดนหลอกมาเยอะ แล้วเราไปแก้ปัญหาไปหาชาวนา เขาก็ไม่ค่อยจะฟัง เขาโดนหลอกมาเยอะ เราก็ต้องค่อยๆ เปิดใจกับเขาไป แล้วก็พิสูจน์ให้เขาเห็นว่าเรานั้นคือทองแท้ ไม่ใช่เป็นทองปลอม”
นวัตกรรม รถไถ ปั่นตีนตะขาบ- เครื่องหยอดข้าว
นวัตกรรมที่ต่อยอดจากการร่วมมือ ระหว่างปราชญ์ชาวนาและนักธุรกิจ ผลิตรถตัวนี้ออกมาผสานกับนวัตกรรมการดำนาแบบใหม่ จนเป็นรถต้นแบบที่ตอบโจทย์ทางธุรกิจได้ดีเยี่ยมในการทำนาแบบสมัยใหม่ รถตัวนี้ยังไม่มีออกมาสู่ท้องตลาด จะมีแค่ในส่วนวิสาหกิจฯ เท่านั้น
ขั้นตอนในการทำงานของรถจะเป็นรถตีนตะขาบปั่นดิน การปั่นรอบแรกนั้นฟางข้าวจะขาดหมด ปั่นรอบที่สองจะเป็นการปั่นผสมรวมกัน ระหว่างตอซังและดิน พร้อมกับพ่นสารจุลินทรีย์ย่อยตอซังลงไปในดินและปุ๋ยอินทรีย์ พร้อมกับสามารถที่จะหยอดเมล็ดพันธุ์ดำนารอบใหม่ได้โดยไม่ต้องเตรียมดินและตากดิน
ในฤดูกาลนี้ในพื้นที่ทุ่งกุลาจะได้เห็นนวัตกรรมทั้งสองตัวทำงานร่วมกันในเดือนหน้า เป็นการนำรถไปต่อพ่วงเข้ากับเครื่องดำเมล็ด กลไกการทำงานของรถจะปั่นดินพร้อมกับตีฟางให้ขาด พร้อมกันนวัตกรรมทั้งสองตัวที่ได้คิดค้นขึ้นมาเพื่อการทำนาแบบสมัยใหม่ และลดต้นทุนในการทำนาเพื่ออนาคต และความเป็นอยู่ของชาวนาที่ดีขึ้น
การเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวหอมมะลิสถิติ 1 ไร่ 1 ตัน
เมื่อวันที่ 29 เมษายน ที่ผ่านมา ของเถียงนาอิงฟ้า บ้านขมิ้น ต.วังยาง จ.สกลนคร ผลงานที่เห็นได้อย่างชัดเจนในการใช้นวัตกรรม เครื่องหยอดข้าว แบบประณีตของวิสาหกิจชุมชนอาสาทำนาอินทรีย์ คือ การทำลายสถิติ 1 ไร่ 1 ตัน จากผลผลิตเฉลี่ยของเกษตรกรชาวอีสานที่ไม่ถึง 400 กิโลกรัม/ไร่ ให้มีผลผลิตมากขึ้น ลดต้นทุนแบบเบ็ดเสร็จ ต้นแบบการทำนาสมัยใหม่สู่วิถีการทำนาแห่งอนาคต “การฝ่าฟันความเชื่อเดิม ๆ ในการทำนา เป็นสิ่งที่ยากจะกระทำ ถ้าไม่ลงมือทำให้แจ้งประจักษ์ แต่การจะแจ้งประจักษ์ไปทั้งหมดก็เป็นไปไม่ได้ วิสาหกิจชุมชนอาสาทำนาอินทรีย์เป็นเพียงผู้มีหัวใจในการที่จะมุ่งหวังช่วยชาวนาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงต้นทุน และประสิทธิภาพของนวัตกรรมที่จะนำมาทดแทน แรงงานคนในอนาคตอันไกล้ที่ชาวนานับวันโรยแรงแก่เฒ่าไปมาก ทั้งหนุ่ม-สาวก็ยังมีคติลบต่ออาชีพทำนาที่ยากแก่การดูดีในสายตาของมิติทางสังคม กับคติอมตะที่ว่า“ปลูกฝัง” ให้เรียนหนังสือจบสูง ๆ เป็นเจ้าคน นายคน จะได้ไม่ต้องมาทนลำบากเป็นชาวนาฯ” อาจารย์ทศ ได้กล่าวไว้
ส่งเสริมสนับสนุนการทำนาแบบอินทรีย์
คุณณพดน ทัพผดุง หรือ คุณดน อีกหนึ่งบุคคลสำคัญในการส่งเสริมสนับสนุนการทำนาแบบอินทรีย์ จากการเป็นลูกเขยของชาวนา ผูกพันกับชาวนามาตลอดชีวิต เมื่อมีโอกาสที่จะทำนาหรือมีนวัตกรรมที่จะช่วยให้ชาวนาลดต้นทุนลง ผลผลิตที่สูงขึ้น รวมถึงการส่งเสริมให้เยาวชนยุคใหม่เข้ามาร่วมในการพัฒนาประเทศทางด้านการเกษตรต้องเริ่มตั้งแต่การเป็นยุวชนเกษตรเพื่อให้เกิดการปลูกฝังในอาชีพแต่เยาว์วัย
เพราะ“ชาวนาไทยมีอายุเยอะแล้ว” ยังเห็นกันอยู่มากในปัจจุบัน การเกษตรหลักของไทยก็คือ เรื่อง “ข้าว” เป็นหัวข้อแรก และถือเป็นหัวใจหลัก ส่วนหัวข้ออื่นในการทำเกษตรก็ค่อยๆ ตามมา วิสาหกิจชุมชนอาสาทำนาอินทรีย์ มุ่งเน้นส่งเสริมทำนาแบบอินทรีย์ เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคและผู้ทำนา
จากนวัตกรรมเครื่องหยอดข้าว ได้มีการต่อยอดสู่นวัตกรรมอื่นอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับการปรับเปลี่ยนหรือว่าประยุกต์ใช้เทคโนโลยีตัวอื่นที่มาจากอินเตอร์เน็ต อย่าง นิตยสารด้านการเกษตรต่างๆ หรือที่มาจากเว็บไซต์พลังเกษตร.คอม ซึ่งมีความรู้หลากหลายทางด้านเกษตรรวมอยู่ในนั้นที่คนส่วนมากเรียนรู้แล้วนำมาประยุกต์ใช้ในการทำเกษตรแบบใหม่ เช่น ในที่ดินควรจะมีการผสมผสานกับการเลี้ยงเป็ด ไก่ ปลา
แล้วมุ่งออกสู่การตลาด ต้องผสานควบคู่กันทุกด้านเข้าด้วยกัน ไม่ใช่เน้นแค่การผลิต ต้องผสานด้านวัฒนธรรม การพาณิชย์ รวมเข้าด้วยกัน “อาชีพทุกอาชีพดีหมด แต่ต้องการฝึกเยาวชนให้มีจิตใจที่ยิ่งใหญ่ ประเทศจะยิ่งใหญ่ได้นั้นต้องมีประชาชนที่มีจิตใจที่ยิ่งใหญ่ ต้องทำตามกฎเกณฑ์ กฎระเบียบ ก่อน ไม่ใช่ว่าเห็นแก่ตัว ไม่ใช่ใช้เทคโนโลยีอย่างเดียว ต้องฝึกเยาวชนควบคู่ไปกับการใช้เทคโนโลยีด้วย”
อบรม-แนะนำ-ให้ความรู้แก่เยาวชน ณ เถียงนาอิงฟ้า
วันนี้ความพร้อม ความเข้มแข็ง ในการจัดตั้งวิสาหกิจชุมชน อาสาทำนาอินทรีย์อย่างเดียวไม่พอ คุณดนยังกล่าวอีกว่า ต้องมีหลายด้านประกอบด้วยกัน เช่น การเงิน จำนวนคน เทคโนโลยี ความรู้ที่มี ความซื่อสัตย์ต่อตัวเอง และต่อหน่วยงานที่ทำ ความซื่อตรงต่อลูกค้า ต้องผสานกันทุกๆ ด้าน
ซึ่งในวันนี้คุณดนถือว่ามีพร้อมในทุกๆ ด้านแล้ว และพร้อมที่จะขยายตลาดเต็มที่ไปทั่วประเทศ โดยจะมุ่งเน้นไปที่ “ภาคอีสาน” ก่อนเป็นหลัก เพื่อทำให้ชาวนาได้รับผลผลิตที่สูงขึ้น ราคาการทำนาต้นทุนที่ถูกลง พร้อมทั้งแนวทางด้านความคิดที่เกิดขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างจะแยกส่วนกันไม่ได้ ทั้งด้านนวัตกรรม ความรู้ ความซื่อสัตย์ การพาณิชย์ต้องผสานไปกับชาวนาพร้อมๆ กัน
การทำนาแต่ก่อนตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษต้องมีการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด ต้องอาศัยเศรษฐกิจนำเพื่อที่จะพาไปหาชาวนา ชาวบ้าน เมื่อชาวบ้านเข้ามาก็จะได้เห็นว่าวิถีทางแนวทางชีวิตที่ถูกต้องว่าคืออะไร ถึงจะสามารถสอดแทรกปรัชญาแห่งชีวิตเข้าไปได้ วิถีชุมชนทำแบบนี้ตามปรัชญาในการดำรงชีวิต การแทรกปรัชญาเข้าไป คือ “เศรษฐกิจนำ ปรัชญาชีวิตตาม” ต้องควบคู่กันไป
คุณดน ได้กล่าวถึงปรัชญาในการดำเนินชีวิตไว้ว่า “…ข้าวปลาเป็นของจริง เงินทองเป็นของปลอม…โลกเราต้องเกิดวิกฤตขึ้นแน่นอน ถ้าเรามีข้าวปลาอาหารอยู่ในมือ เราไม่อดตาย ถ้าเราพึ่งเทคโนโลยีตัวอื่น เก็บเงิน เก็บทองไว้ธนาคารเยอะๆ เราจะลำบาก เพราะฉะนั้นเราก็ต้องเตรียมให้พร้อม
ถ้าเกิดสงครามโลกขึ้นมันเกิดวิกฤตแน่นอนครับดังนั้นเราต้องเตรียมของกิน เช่น ข้าวปลาอาหาร คือ ของกิน เงินทองแค่ของปลอม และเศรษฐกิจต้องควบคู่ไปกับปรัชญาชีวิตถูกต้อง ต้องผสานกันคนละก้าว เศรษฐกิจก้าวไปอีกขานึง ปรัชญาชีวิตก็ต้องก้าวไป ไม่ใช่เก่งแต่เศรษฐกิจคอยแต่หาเงิน ก้าวนี้เดินไปก็โกงไป ก้าวนี้ก็ผิดเวลา ก้าวนึงเดินไปก็เห็นแต่เงิน ไม่เห็นปรัชญาชีวิตก็ล้มเหลว
ปรัชญาชีวิตที่ถูกต้อง คือ คนเราไม่ต้องเป็นคนดีทั้งหมด คอยแต่นับถือคนอื่นนั้นไม่ใช่ คนเรา ไม่มีใครที่เป็นคนดีพร้อม ต้องเข้าใจแล้วก็ค่อยๆ ปรับปรุงกันไป เศรษฐกิจของเราอาจจะดีก็ต้องคอยประคองเพื่อนฝูง หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กันปนกันไป เพื่อที่จะดึงเพื่อนที่กำลังล้มลงให้ลุกขึ้น ดึงเขาขึ้นมาอย่าให้เขาตกน้ำนะ”
ขอขอบคุณข้อมูลติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติจังหวัดสกลนคร ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อนุกูล วัฒนสุข, อาจารย์ธฏษธรรมช์ ลาโสภา
และ วิสาหกิจชุมชนอาสาทำนาอินทรีย์ และคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร 191 ถ.นิตโย อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร 47130
ปรึกษาฟรี! หากบอกว่ามาจาก พลังเกษตร.com หรือ ข้าวเศรษฐกิจ
ติดต่อ : คุณณพดน 091-095-4566 , คุณอัสนี 082-118-7671
ข้าวหอม เครื่องหยอดข้าว รถปลูกข้าว รถไถ การปลูกข้าวหอมมะลิ ขายข้าวหอมมะลิ พันธุ์ข้าวหอมมะลิ ข้าวหอม เครื่องหยอดข้าว รถปลูกข้าว รถไถ การปลูกข้าวหอมมะลิ ขายข้าวหอมมะลิ พันธุ์ข้าวหอมมะลิ