แจกฟรี! ขั้นตอนการทำ ข้าวฮางหอมทอง สกลทวาปี ราชาข้าวกล้องเพื่อสุขภาพ

โฆษณา
AP Chemical Thailand

ข้าวฮางหอมทองสกลทวาปี ราชาข้าวกล้องเพื่อสุขภาพ

  1. แปลงนาข้าวฮางหอมทองสกลทวาปี
  2. กระบวนการผลิตข้าวฮางหอมทอง
  3. กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตข้าวหอมทองบ้านจำปา
  4. ขั้นตอนการ ทำข้าวฮางหอมทอง
  5. ประโยชน์ของข้าวฮางหอมทอง
  6. ขั้นคอนการปลูกข้าวฮางหอมทอง
  7. ข้อดีของข้าวฮางหอมทอง
  8. เครื่องยิงสีเมล็ดข้าวฮางหอมทอง
  9. การใช้เตาสำหรับนึ่งข้าวฮางหอมทอง
  10. เจ้าหน้าที่เน้นการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกข้าวเป็นหลัก
  11. เครื่องบรรจุภัณฑ์แบบสุญญากาศ
  12. การแปรรูปเป็นข้าวฮางหอมทองสกลทวาปี

แปลงนา ข้าวฮางหอมทองสกลทวาปี

2.แปลงนาข้าวฮางหอมทองสกลทวาปี
2.แปลงนาข้าวฮางหอมทองสกลทวาปี

“ ข้าวฮางหอมทองสกลทวาปี ” เป็นข้าวกล้องชนิดหนึ่ง ที่ผลิตมาจากข้าวหอมทองมะลิ 105 ที่ปลูกแบบปลอดจากสารพิษ โดยประยุกต์กรรมวิธีการผลิต “ข้าวฮาง” ซึ่งเป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน โดยชาวภูไทอำเภอวาริชภูมิ จ.สกลนคร

ที่ผ่านกรรมวิธีการนึ่งก่อนนำไปสีเป็นข้าวสาร ข้าวฮางหอมทองสกลทวาปีโดยยังคงรักษาไว้ซึ่งคุณค่าทางโภชนาการและคุณภาพของข้าวไว้ได้อย่างครบถ้วนได้มากกว่าขั้นตอนการสีข้าวแบบทั่วๆไป

3.กระบวนการผลิตข้าวฮางหอมทอง
3.กระบวนการผลิตข้าวฮางหอมทอง

กระบวนการผลิตข้าวฮางหอมทอง

นอกจานี้ ข้าวฮางหอมทองสกลทวาปี ยังได้รับคัดเลือกให้เป็นสินค้า OTOP ของจังหวัดสกลนครหรือผลิตภัณฑ์สุดยอด หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย “ระดับห้าดาว” ภายใต้กระบวน การผลิต ข้าวฮางหอมทองสกลทวาปี ที่ถูกสุขอนามัย มีคุณภาพ ได้มาตรฐานในทุกขั้นตอน ข้าวฮางหอมทองสกลทวาปี ยังมีรำข้าวและเส้นใยอาหารอยู่ในเมล็ดข้าวอย่างครบถ้วนด้วย เนื่องจากผ่านการนึ่งสุกมาแล้ว ไม่มีเมล็ดแตกร้าว มีสีเหลืองธรรมชาติสวยงาม

ในปัจจุบันกระบวน การผลิตข้าวหอมทองสกลทวาปี มีการผสมผสานทั้งภูมิปัญญาท้องถิ่นกับการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อผลิตสินค้าให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ภายใต้การรักษามาตรฐานและการเก็บรักษาไว้ได้นานขึ้นโดยการบรรจุในถุงพลาสติกในระบบสุญญากาศและบรรจุขวดพลาสติก ที่สำคัญเป็นภูมิปัญญาของชาวภูไท จังหวัดสกลนคร

นับเป็นข้าวสุขภาพที่อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย เช่น “ GABA ” ที่สูงกว่าข้าวกล้องธรรมดากว่า 15 เท่า ช่วยลดความเครียด อีกทั้งช่วยให้สมองผ่อนคลาย ป้องกันความจำเสื่อม มีสารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามิน B1  B2  B3  B6 และ E ที่สูงกว่าข้าวธรรมดามาก ซึ่งถือเป็นอาหารทางเลือกของ “คนรักสุขภาพ” ที่พร้อมส่งต่อสุขภาพดี เพื่อคนที่คุณรัก

โฆษณา
AP Chemical Thailand
4.กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตข้าวหอมทองบ้านจำปา
4.กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตข้าวหอมทองบ้านจำปา

กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตข้าวหอมทองบ้านจำปา

ทีมงานพลังเกษตร จะนำพาทุกท่านไปพบกับ คุณ มะลิวัลย์ สารพัฒน์ หรือ พี่มะลิวัลย์ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตข้าวหอมทองบ้านจำปา ซึ่งได้เดินทางไปศึกษาดูงานกับกลุ่มแม่ที่บ้านนาบ่อในพื้นที่เดียวกันเพื่อให้สมาชิกกลุ่มทอผ้าได้มีอาชีพเสริม จึงมีการผลิต “ข้าวฮาง” ขึ้นมาที่หมู่บ้านจำปา ซึ่งเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่เกิดขึ้นในชุมชนมาอย่างช้านาน

โดยมีผู้เฒ่าผู้แก่เป็นผู้ถ่ายทอดวิธีการผลิตแบบดั้งเดิมให้ในทุกขั้นตอนไปพร้อมๆกับการประยุกต์ใช้วิธีการผลิตข้าวฮางจากบ้านนาบ่อซึ่งต้นแบบด้านแนวคิดเข้ามาผสมผสานได้อย่างลงตัว  โดยมีขั้นตอนตั้งแต่การคัดเมล็ดพันธ์ทุกเมล็ดด้วยสมาชิกทางกลุ่มเอง ซึ่งสายพันธุ์ข้าวที่นำมาผลิตส่วนใหญ่คือ “ ข้าวหอมมะลิ 105  และ “ ข้าวเหนียว กข. เนื่องจากในพื้นที่จังหวัดสกลนครจะปลูกข้าว 2 พันธุ์นี้ค่อนข้างมาก จัดหาวัตถุดิบเข้าสู่การผลิตได้ง่ายและเพียงพอต่อกำลังการผลิตที่มีอยู่  จึงทำให้ข้าวที่ได้มีกลิ่นหอม เหนียวนุ่ม น่ารับประทาน  ที่สำคัญกระบวนการเพาะงอกจะช่วยให้ผู้บริโภคได้รับคุณค่าสารอาหารและได้ประโยชน์เพิ่มมากขึ้น

5.จุดเด่นของข้าวฮางหอมทอง
5.จุดเด่นของข้าวฮางหอมทอง

ขั้นตอนการทำ ข้าวฮางหอมทอง

จุดเด่นของข้าวฮางสกลทวาปี คือ เมล็ดข้าวไม่แตกหัก จมูกข้าวไม่หลุด มีรำข้าวและมีเส้นใยอาหารอยู่ในเมล็ดข้าวอย่างครบถ้วน เมื่อกะเทาะเปลือกออกแล้วคุณค่าทางอาหารจึงไม่สูญเสียไปกับเปลือกข้าว

และจากคำบอกเล่าของปู่ย่าตายายทำให้ทราบว่า ข้าวฮางหอมทองสกลทวาปี ประยุกต์มาจากภูมิปัญญาการผลิต “ข้าวฮาง” ที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นของคนในพื้นที่ ซึ่งการผลิตข้าวฮางงอก สามารถผลิตได้ทุกสายพันธุ์ แต่ชาวอีสานจะนิยมนำข้าวหอมมะลิ 105 และข้าวเหนียว กข. 6 มาผลิตเป็นข้าวฮางงอกมากกว่าโดยมีขั้นตอน ดังนี้

  1. นำเมล็ดข้าวที่คัดจากแหล่งปลูกคุณภาพมาล้างทำความสะอาด คัดเลือกเมล็ดข้าวที่ลีบออกไป ให้เหลือแต่เมล็ดข้าวที่เต็มเมล็ดและสมบูรณ์ที่สุดเข้สู่กระบวนการผลิต
  2. นำเมล็ดข้าวเปลือกที่ได้ไปทำความสะอาดในน้ำสะอาดอีกครั้งแล้วแช่ทิ้งไว้ประมาณ 48 ชั่วโมง หรือประมาณ 2 วัน ก่อนนำข้าวที่ได้มาบ่มในกระสอบเพื่อให้ความร้อนที่เมล็ดโดยต้องบ่มทิ้งไว้นาน 24 ชั่วโมง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการงอกของข้าวฮางและเพิ่มสารกาบา (GABA) ในเมล็ดข้าว
  3. นำข้าวที่ได้จากการบ่มจนเป็นเมล็ดงอกมาล้างทำความสะอาดอีกครั้ง แล้วนำไปนึ่งนานประมาณ 40 นาที
  4. จากนั้นนำเมล็ดข้าวที่นึ่งจนได้ที่ไปผึ่งเพื่อไล่ความชื้นในเมล็ดข้าวในโรงเรือนที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ได้ความชื้นที่เหมาะสม โดยทางกลุ่มจะไม่ตากเมล็ดข้าวไว้กลางแสงแดดจัดจ้า เพราะจะทำให้คุณค่าและสารอาหารลดลงไป ทางกลุ่มจึงเน้นการตากเมล็ดข้างงอกไว้ใต้หลังคาที่มุงด้วยตาข่ายหนาที่พรางแสงแดดได้ 50 – 70 เปอร์เซ็นต์ ก่อนจะทำการกลับกองเมล็ดข้างงอกบ่อย ๆ เพื่อให้ข้าวแห้งเสมอกันทั้งหมด
  5. เมื่อตากข้าวแห้งจนได้ที่แล้วก็จะนำข้าวไปสีกะเทาะเปลือก แล้วคัดเลือกเมล็ดข้าวงอกที่เสียหายและไม่สมบูรณ์ออกไป ก่อนจะนำไปตากอีกหนึ่งแดด เพื่อลดความชื้นโดยให้เหลือค่าความชื้นประมาณ 11-12 เปอร์เซ็นต์ก็จะได้ข้าวฮางงอกที่น่ารับประทานพร้อมเข้าสู่กระบวนการแปรรูปเป็นสินค้าโอทอปที่ผู้บริโภคได้ประโยชน์ครบถ้วน
  6. การแปรรูปเน้นการกะเทาะเปลือกให้ได้ข้าวฮางที่ดี ก่อนจะทำการคัดแยกเมล็ดที่เสียหายออกไป มีการแยกเมล็ดสีของข้าวด้วยเครื่องยิงสีและต้องทำความสะอาดอีกครั้งโดยการนำเข้าเครื่องเป่าฝุ่น ก่อนจะนำข้าวมาบรรจุด้วยเครื่องสุญญากาศ เพื่อผลิตข้าวปลอดภัย ข้าวเพื่อสุขภาพ ที่สามารถเก็บรักษาได้นานขึ้น
6.ประโยชน์ของข้าวฮางหอมทอง
6.ประโยชน์ของข้าวฮางหอมทอง

ประโยชน์ของข้าวฮางหอมทอง

นอกจาก ข้าวฮางงอก จะมีกาบา (GABA-Gamma aminobutyric acid) เป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นผ่านกระบวนการเพาะงอกที่มีปริมาณมากกว่าข้าวที่ไม่ผ่านการเพาะงอกมากถึง 15 เท่า ช่วยรักษาสมดุลในสมอง ลดความวิตกกังวล หลับสบาย ป้องกันอัลไซเมอร์หรือโรคความจำเสื่อม คลายกล้ามเนื้อ ชะลอความชรา ลดความดันเลือด กระตุ้นการขับถ่าย และป้องกันมะเร็งลำไส้ได้เป็นอย่างดี

มีโปรตีนที่ช่วยย่อยให้เป็นสารเปปไทด์และมีกรดอะมิโนมากกว่า 22 ชนิด ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย  มีไฟเบอร์สูงกว่าข้าวขาว 15 – 20 เท่า ช่วยให้อิ่มท้องได้นานขึ้น ไม่หิวง่าย ลดความอ้วน ป้องกันและรักษาโรคเบาหวาน ขับถ่ายสะดวก และดูดซับสารพิษออกจากร่างกาย มีไขมันชนิดดีหลายชนิด ช่วยป้องกันโรคหัวใจ มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้ดีกว่าวิตามินอีถึง 6 เท่า

โฆษณา
AP Chemical Thailand

และยับยั้งป้องกันการเกิดฝ้าบนใบหน้าและปัญหาวัยทอง มีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยต้านทานป้องกันมะเร็งชนิดต่าง ๆ ได้ดี และโรคเกาต์ โรคไขข้ออักเสบ มีวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญอยู่ครบทุกตัว ทั้งวิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 6 วิตามินอี กรดโฟลิก ธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส และแมกนีเซียม ฯลฯ

7.ขั้นคอนการปลูกข้าวฮางหอมทอง
7.ขั้นคอนการปลูกข้าวฮางหอมทอง

ขั้นตอนการปลูกข้าวฮางหอมทอง

ด้านวัตถุดิบหรือข้าวอินทรีย์ซึ่งเป็นแหล่งที่มาของข้าวฮางงอกบ้านจำปานั้นพี่มะลิวัลย์จะมุ่งเน้นการปลูกข้าวเองเป็นหลักร่วมกับพี่สาวบนพื้นที่กว่า 20 ไร่ เพื่อควบคุมการผลิตและการจัดการให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง

โดยจะแบ่งเป็นการปลูกข้าวหอมมะลิ 105 จำนวน 10 ไร่และ ข้าว กข.6  จำนวน ประมาณ 10 ไร่ ไปพร้อมๆกับการส่งเสริมให้สมาชิกในกลุ่มผลิตข้าวคุณภาพทั้งสองสายพันธุ์นี้เป็นหลัก ทำให้ทางกลุ่มมีพื้นที่รวมกันมากกว่า 250 ไร่

โดยทางกลุ่มจะมีการเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ข้าวตลอดเพื่อให้ผลผลิตที่มีคุณภาพซึ่งทางกลุ่มได้รับการสนับสนุนด้านเมล็ดพันธุ์จากกรมการข้าว โดยทางกลุ่มนิยมทำนาหว่านที่มีขั้นตอนการปลูกข้าวตั้งแต่ต้นไปจนถึงกระบวนการเก็บเกี่ยวผลผลิต ดังนี้

“ การเตรียมดิน ” พี่มะลิวัลย์จะจ้างรถไถกลบตอซังประมาณ 2 รอบ อัตราค่าไถประมาณ 250  บาทต่อไร่ แล้วปั่นตีดินให้ร่วนซุยอีก 1 รอบ รวมอัตราค่าใช้จ่ายในกระบวนการเตรียมดินเฉลี่ยตกอยู่ที่  800  บาทต่อไร่

“ การหว่านเมล็ดพันธุ์ ” จะใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวในการหว่านนาน้ำตมในอัตรา  20 กิโลกรัมต่อไร่ ซึ่งสาเหตุที่กลุ่มเลือกทำนาหว่านก็เพื่อต้องการลดปัญหาด้านแรงงาน เนื่องจากแรงงานในพื้นที่หายาก โดยเฉพาะการทำนาดำนั้นเริ่มหาแรงงานยากขึ้นทุกวัน

โฆษณา
AP Chemical Thailand

“ การบำรุงดูแลรักษา ” ปัจจัยหลักในการบำรุงดูแลรักษาข้าวให้เจริญเติบโตได้ดีนั้นก็คือ “น้ำ” หลังจากหว่านข้าวได้ประมาณ 1 เดือนจะเป็นช่วงที่ข้าวเริ่มแตกกอ โดยพี่มะลิวัลย์จะสังเกตว่า หากในนาข้าวมีวัชพืชขึ้นก็จะทำการถอนทิ้งด้วยแรงงานโดยไม่มีการฉีดพ่นสารเคมีเพื่อกำจัดวัชพืชในนาข้าว ก่อนจะบำรุงต้นข้าวด้วยการให้ปุ๋ยอินทรีย์ทั้งแบบหว่านและการฉีดพ่นฮอร์โมนบำรุงทางใบประมาณ 2 รอบโดยช่วงแรกคือช่วงที่ข้าวเริ่มแตกกอและช่วงที่ 2 คือช่วงที่ข้าวกำลังตั้งท้องเพื่อเพิ่มความสมบูรณ์

“ ปัญหาของโรค ศัตรู วัชพืชและการดูแลรักษา ” ส่วนใหญ่ในพืชที่ อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร โชคดีที่ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรคจะมีแค่เพียงเพลี้ยไฟและโรคใบด่างลงเพียงนิดหน่อยเท่านั้นหรือจะมีโรคระบาดค่อนข้างเยอะบ้างในบางปีเท่านั้น ส่วนวิธีการดูแลรักษาหากเป็นโรคระบาดเพียงเล็กน้อยก็แทบไม่ต้องทำอะไรเลยเพราะโรคต่าง ๆ เหล่านั้นจะหายไปเองได้ ส่วนในปีไหนที่เป็นโรคมากก็จะขอรับการสนับสนุนสารชีวภัณฑ์เพื่อใช้ในการกำจัดโรคและแมลงจากทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ทันที

“การเก็บเกี่ยว” เมื่อต้นข้าวมีอายุได้ประมาณ 90-120 วัน ก็จะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ทางพี่มะลิวัลย์จะใช้รถเกี่ยวนวดข้าวเก็บเกี่ยวผลผลิตในแปลงทั้งหมดหรือให้ผลผลิตได้ประมาณ 350-380 กิโลกรัมต่อไร่ โดยทางกลุ่มจะรับซื้อข้าวเปลือกส่วนหนึ่งจากสมาชิกเพื่อกักเก็บไว้เพื่อการแปรรูป โดยจะรับซื้อในราคาที่สูงกว่าราคาตลาดประมาณ 1-2 บาทต่อกิโลกรัม

8.ข้อดีของข้าวฮางหอมทอง
8.ข้อดีของข้าวฮางหอมทอง

ข้อดีของข้าวฮางหอมทอง

โดยข้าวฮางที่ทางกลุ่มได้ผลิตขึ้นนี้ผ่านการผลิตและแปรรูปที่ได้มาตรฐาน มีการรับรองผ่าน GAP. GI. และ อย. เป็นข้าวคุณภาพ เพื่อสุขภาพที่ดี

ดังนั้นข้าวฮางงอกจึงเปรียบได้กับการรับประทานยา วิตามิน หรือ สมุนไพรเข้าไปพร้อมกัน นอกจากอิ่มท้องแล้วยังทำให้ร่างกายแข็งแรง ห่างไกลโรค และเหมาะอย่างยิ่งกับผู้ป่วยหรือผู้ที่รักสุขภาพอย่างแท้จริง ข้าวฮางงอกจึงได้รับยกย่องให้เป็นข้าวมหัศจรรย์ อาหารต้านโรคอย่างแท้จริง

จุดเด่นที่สำคัญคือ ข้าวฮางเป็นข้าวที่มีความหอมเพราะข้าวยังมีน้ำนมอยู่ ถ้าข้าวแก่จัดจะไม่หอม จาก “ข้าวฮาง” จึงกลายเป็น “ข้าวทองคำ” เนื่องจากเมื่อปี 2540 นายอำเภอได้มาเห็นชาวบ้านนาบ่อ ผลิตข้าวฮางที่มีสีสันสวยงาม มีสีเหลืองอร่ามเหมือนทองคำ จึงเปลี่ยนชื่อให้เป็น “ข้าวทองคำ”

โฆษณา
AP Chemical Thailand

เมื่อปี 2542 โดยคณะกรรมการกลุ่มแม่บ้านมีความเห็นพร้อมกันว่าให้เปลี่ยนชื่อจาก “ข้าวทองคำ”  เป็น “ข้าวหอมทอง” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เนื่องจาก “ข้าวทองคำ” นั้นก็คือการนำข้าวมะลิมาผลิตจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็นข้าวหอมทอง” และตัดคำว่า “คำ” ออก จึงเปลี่ยนจากข้าวหอมมะลิมาเป็น “ข้าวหอมทอง”

9.เครื่องยิงสีเมล็ดข้าวฮางหอมทอง
9.เครื่องยิงสีเมล็ดข้าวฮางหอมทอง

เครื่องยิงสีเมล็ดข้าวฮางหอมทอง

จากการบอกเล่าของปู่ย่าตายาย “ ข้าวหอมทอง ” ประยุกต์มาจากการผลิต “ ข้าวฮาง ” ของชาวบ้านซึ่งเป็นชาวภูไทกระป๋อง (กระป๋อง หมายถึง สมอง/ปัญญา) วิถีชีวิตความเป็นอยู่นั้นจะสร้างบ้านเรือนอยู่ใกล้แหล่งทำกินติดกับแหล่งน้ำ ยึดอาชีพการทำนาเป็นหลัก ชาวภูไทยเป็นคนช่างสังเกต เรียนรู้ ดัดแปลง คิดค้นสิ่งใหม่ ๆ

มีภูมิประเทศอยู่ในที่ราบลุ่ม ลำห้วยปลาหาง เหมาะแก่การทำนา การทำข้าวฮางได้สะท้อนภูมิปัญญาด้านการดำรงชีพและการถนอมอาหารไว้เป็นอย่างดี เพราะข้าวหอมทองจะมีรำข้าวและเส้นใยอาหารอยู่ในเมล็ดข้าวด้วยทำให้เมื่อกะเทาะเปลือกออกมาแล้วก็ยังคงคุณค่าทางอาหารไว้โดยไม่สูญเสียไปเปลือกข้าว

เนื่องจากผ่านการนึ่งสุกแล้วข้าวหอมทองจะไม่มีเมล็ดที่แตกร้าวเลยซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ดีโดยเฉพาะภูมิปัญญาของชาวภูไทที่อำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร

ส่งผลให้ข้าวฮางเพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ “ ข้าวฮางงอกสกลทวาปี ” เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์หลักของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตข้าวหอมทองบ้านจำปา ที่ทางกลุ่มได้มุ่งมั่นดำเนินกิจกรรมมาอย่างยาวนานและต่อเนื่องที่คงไว้ซึ่งคุณภาพและมาตรฐาน จาก “ ข้าวฮาง ” มาเป็น “ ข้าวหอมทอง ” และปัจจุบันเรียกชื่อว่า “ ข้าวหอมทองสกลทวาปี ” มีความหมายและความเป็นมา

10.การใช้เตาสำหรับนึ่งข้าวฮางหอมทอง
10.การใช้เตาสำหรับนึ่งข้าวฮางหอมทอง

การใช้เตาสำหรับนึ่งข้าวฮางหอมทอง

“ ข้าวฮาง ” สมัยก่อนบางครอบครัวมีลูกมากและยากจน บางปีมีข้าวในยุ้งฉางที่ไม่เพียงพอต่อการบริโภคในครัวเรือนให้ครบถึงสิ้นปีได้ ซึ่งภาษาชาวบ้านเรียกว่า “ ข้าวบ่ฮอดถึงปี ” ประมาณปลายเดือนตุลาคมข้าวก็หมดแล้ว ถ้าจะรอให้ถึงหน้าเก็บเกี่ยวข้าวฤดูกาลใหม่ก็จะไม่มีข้าวให้ลูก ๆ กินหรือคนในครอบครัวกิน ชาวบ้านจึงไปเก็บเอารวงข้าวในนาที่กำลังเป็นน้ำนมแก่จัด ๆ

โฆษณา
AP Chemical Thailand

(เริ่มจะออกเหลืองอ่อน ๆ) นำมานวดหรือขูดเอาเมล็ดออกจากรวงข้าวแล้วห่อบ่มไว้ประมาณ 2 คืน ก่อนนำมานึ่ง ซึ่งเตาที่ใช้นึ่งจะขุดดินทำเป็นร่องหรือราง (ฮาง) เพื่อเป็นที่ใส่ฟืน แล้วทำเป็นปากปล่องสำหรับให้เปลวไฟลอยขึ้นมาแล้วตั้งหม้อนึ่ง ภาษาอีสานเรียกว่า “ เตาฮาง ”

เมื่อนึ่งข้าวสุกแล้ว ก็จะนำไปผึ่งแดดให้แห้ง แล้วนำไปกะเทาะเปลือกออก (มีทั้งตำด้วยมือและตำด้วยครกไม้กระเดื่อง) เสร็จแล้ว ก็จะฝัดข้าวด้วยกระด้งเพื่อเอาแกลบออก ให้เหลือแต่ข้าวสารก่อนนำไปนึ่งกินได้ ดังนั้น ชื่อที่เรียกว่า “ ข้าวฮาง ” จึงเรียกตามลักษณะนามของเตาฮางที่ใช้นึ่ง “ ข้าวหอมทอง ”

ดังนั้น “ ข้าวฮาง ” ก่อนจะนำไปตำหรือปัจจุบันได้นำมาสีนั้นจะผ่านขบวนการนึ่งให้สุกก่อน วิตามินหรือสารอาหารในเมล็ดข้าวจะเคลือบติดเมล็ดข้าวดี เมื่อนำไปสีจะไม่มีการขัดสี ทำให้เมล็ดข้าวสารที่ได้มีสีเหลืองเข้มเหมือนกับสีของทองคำ

ต่อมาจึงเรียกว่า “ ข้าวหอมทองสกลทวาปี ” เป็นชื่อเดิมของจังหวัดสกลนคร โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร นายปานชัย บวรรัตนปราณ ในขณะนั้น ต้องการให้ “ ข้าวหอมทอง ” เป็นผลิตภัณฑ์จากข้าวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ทั้งขบวนการผลิต แหล่งผลิต และคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ จึงเห็นชอบให้ใช้ชื่อ “ สกลทวาปี ” ต่อท้ายอีก จึงเป็นชื่อและที่มาของคำว่า “ ข้าวหอมทองสกลทวาปี ” ปัจจุบันได้ จดอนุสิทธิบัตรเครื่องหมายการค้าไว้แล้ว

โดย “ ข้าวหอมทอง ” เป็น “ ข้าวกล้อง ” ชนิดหนึ่งที่ผลิตมาจากข้าวหอมทองมะลิ 105 เป็นข้าวนึ่งก่อนที่จะนำไปสีโดยประยุกต์มาจากการผลิต “ ข้าวฮาง ” ภูมิปัญญาชาวบ้านที่ผลิตข้าวหอมทองจนลือชื่อที่มีคุณภาพ กระทั่งติดอันดับสินค้า “โอทอป” ของจังหวัดสกลนคร

11.เจ้าหน้าที่เน้นการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกข้าวเป็นหลัก
11.เจ้าหน้าที่เน้นการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกข้าวเป็นหลัก

เจ้าหน้าที่เน้นการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกข้าวเป็นหลัก

การผลิต ข้าวฮาง หรือ ข้าวหอมทองสกลทวาปี นั้นพี่มะลิวัลย์ ยังได้เปิดเผยอีกว่าในช่วงที่ผ่านมากลุ่มมีปัญหาในการดำเนินธุรกิจอยู่บ้างในบางช่วง โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนที่สภาพ ดิน ฟ้า อากาศ ส่งผลกระทบต่อการผลิตในเรื่องของความชื่น

โฆษณา
AP Chemical Thailand

แม้จะมีโรงอบที่ใช้อบไล่ความชื้นแต่กลุ่มฯ ก็ยังมีปัญหาอยู่บ้าง รวมถึงวัสดุอุปกรณ์ยังไม่มีความพร้อมด้วยปัจจัยทางธรรมชาติที่ไม่อำนวย ทำให้มีกำลังการผลิตที่น้อยลง ไม่พอกับความต้องการของตลาดหรือผลิตได้ไม่ครบตามปริมาณที่ลูกค้าต้องการในแต่ละครั้ง แต่ละปี ต่อมาทางกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านจำปา ได้รับการส่งเสริมสนับสนุนจากทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร

ที่เน้นการส่งเสริมเกษตรกรเป็นหลัก ที่เข้ามาดูแลเรื่องโครงการเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผ่านการยื่นเสนอโครงการเข้าไปเพื่อของบประมาณจากทางหน่วยงานภาครัฐทางโดยทางคณะอาจารย์ได้แวะเวียนเข้ามาติดตามงานพร้อมให้คำปรึกษาและแนะนำกลุ่มอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อจะได้ช่วยกันแก้ไขได้ตรงจุด

12.เครื่องบรรจุภัณฑ์แบบสุญญากาศ
12.เครื่องบรรจุภัณฑ์แบบสุญญากาศ

เครื่องบรรจุภัณฑ์แบบสุญญากาศ

โดยมี อาจารย์วีระยุทธ  สีหานู หรือ อาจารย์แจ็ค อาจารย์สาขาพืชศาสตร์ เป็นผู้ดูแลโครงการจากภารกิจ 4 ด้าน ทั้งงานสอน งานวิจัย งานบริการวิชาการและงานทำนุบำรุงศาสนา รวมทั้งเป็นผู้ดูแลเรื่องสายพันธุ์ข้าว การปลูกข้าว การดูแลรักษาข้าวด้วย

“เพื่อให้เกษตรกรผลิตยังไงให้ได้ผลผลิตเยอะ ใช้ต้นทุนน้อยที่สุด ปีนี้จะนำข้าวพันธุ์พื้นเมืองมาให้พี่ ป้า น้า อา บ้านเราปลูก” จากการวิจัยสายพันธุ์ข้าวพื้นเมืองกว่า 100 สายพันธุ์ที่จะทำการคัดให้เหลือเพียง 50 สายพันธุ์ เพื่อดูศักยภาพของสายพันธุ์ข้าวว่าเหมาะกับสภาพภูมิอากาศและภูมิศาสตร์ของพื้นที่หรือไม่

ก่อนจะส่งเสริมให้เกษตรกรปลูก เนื่องจากในพื้นที่ส่วนใหญ่จะอาศัยน้ำฝนในการทำนาเป็นหลักจึงต้องคัดเลือกสายพันธุ์ให้ดี เพื่อให้ได้ข้าวพันธุ์ใหม่เพื่อนำมาแปรรูป สร้างเป็นแบรนด์ใหม่ขึ้นมาให้เป็นเอกลักษณ์ของกลุ่มต่อไป

โดยอาจารย์แจ็คได้กล่าวทิ้งท้ายว่า“สำหรับเกษตรกรที่แปรรูปทำข้าวฮางเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง แต่ละพื้นที่มีศักยภาพของข้าวที่แตกต่างกัน การปลูกข้าวแบบเดียวกัน แต่มีความหอม ความอร่อยต่างกัน  เราจึงมีจุดเด่นในพื้นที่เรื่องนี้ และอย่าลืมว่าจุดเด่นของเราสามารถนำมาพัฒนาเป็นอะไรได้บ้าง โดยที่เราไม่ต้องไปเลียนแบบใครๆ แต่มุ่งเน้นนำสิ่งที่ตนเองมีมาต่อยอดและพัฒนาให้ดีก็พอแล้ว” 

โฆษณา
AP Chemical Thailand
13.การแปรรูปเป็นข้าวฮางหอมทองสกลทวาปี
13.การแปรรูปเป็นข้าวฮางหอมทองสกลทวาปี

การแปรรูปเป็น ข้าวฮางหอมทองสกลทวาปี

ด้านการพัฒนาในส่วนของบรรจุภัณฑ์และสถานที่ รวมทั้งอาคารพัฒนาการผลิตข้าวหอมทองนั้นได้มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ เข้ามาช่วย เช่น เตานึ่ง เครื่องสี เครื่องบรรจุภัณฑ์ เป็นต้น

ที่ทำให้มีกำลังการผลิตที่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้ามากขึ้น โดยเฉพาะตลาดคนรักสุขภาพ  โดยใช้เม็ดเงินในการลงทุนเพื่อสร้างโรงสีไปมากกว่า 500,000 บาท เครื่องคัดแยกเมล็ดพันธุ์มูลค่า 60,000 บาท  เครื่องยิงสีราคา 1,000,000 บาท อาคารบรรจุภัณฑ์ เตาเศรษฐกิจ และเครื่องบรรจุภัณฑ์แบบสุญญากาศ ได้จากเงินกู้ยืมจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อนำมาต่อยอดการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ที่สามารถสร้างรายได้เข้ากลุ่มได้มากถึง 5 – 6 หมื่นบาทต่อเดือนหรือบางเดือนมีรายได้มากถึงหลักแสน บาทเลยทีเดียว โดยทางกลุ่มจะมุ่งเน้นจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้กับผู้ที่สนใจและบริษัทต่าง ๆ ตามออเดอร์ที่ทางลูกค้าสั่งซื้อเข้ามาเป็นหลัก

ผ่านทางระบบโซเชียลทั้ง เฟสบุ๊ค  ไลน์ และทางไปรษณีย์ โดยจะจำหน่ายในราคาส่งที่ 60 บาท / กิโลกรัม หรือมีราคาขายปลีก 70 บาทต่อกิโลกรัม

โดยพี่มะลิวัลย์ได้ยืนยันว่าจะมุ่งมั่นพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ในรูปแบบอื่นๆเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค เช่น แป้งข้าวฮางงอก ข้าวบดพร้อมชงดื่ม เป็นต้น ที่สำคัญที่สุดอยากให้เกษตรกรรวมกลุ่มกันและอยากจะเพิ่มสมาชิกในกลุ่มขึ้นมาอีกเพื่อให้เป็นกลุ่มที่เข้มแข็งและสามารถสร้างรายได้เข้าสู่ชุมชนได้อย่างต่อเนื่อง นำมาซึ่งรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนในพื้นที่ โดยเฉพาะชาวนาในพื้นที่

ขอบคุณการสนับสนุนส่งเสริมเกษตรกร และข้อมูลเพิ่มเติมจากทาง

โฆษณา
AP Chemical Thailand

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร

ผศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร,อาจารย์นิสาชล,อาจารย์สัญทะยา,อาจารย์วีระยุทธ

และอาจารย์จากทางมหาลัยราชมงคลฯ ทุกท่าน

สามารถติดต่อสอบถามผลิตภัณฑ์ทางกลุ่มได้ที่

กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตข้าวหอมทองบ้านจำปา

เลขที่ 41 หมู่ที่ 5 ต.หนองลาด อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร 47150

โฆษณา
AP Chemical Thailand

คุณมะลิวัลย์ สารพัฒน์ โทร/ID Line. 085-760-1517  Facebook : ข้าวฮางงอกสกลทวาปี