ทำนา สูตร ลุงเกษม แชมป์อันดับ 1 ระดับภาค บอกสูตรทำนา 130 ถัง/ไร่ คนจองคิวซื้อข้าว ข้ามปี การทำนา ด้วยต้น การทำนา ไม่ถึง 2,400 บาท/ไร่
ขอขอบคุณบทความจาก นิตยสารข้าวเศรษฐกิจ [กดลิ๊ง]
เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทางทีงานข้าวเศรษฐกิจ ได้บุกตะลุยบ้านของ คุณเกษม ยวงสวัสดิ์ หรือเรียกสั้นว่า ลุงเกษม ชาวนาผู้มีดีกรี แชมป์อับดับที่ 1 ระดับภาค ซึ่งจะรับรางวัล ในวันที่ 5 มิถุนายน “วันข้าวและชาวนาแห่งชาติ” นี้ นาของลุงเกษม มีพื้นที่ปลูกข้าว 17 ไร่ 2 งาน และของญาติๆรวมกันที่ดูแลอยู่อีก 50 กว่าไร่ ซึ่งพอทีมงานไปถึง บ้านกลับกลายเป็นศูนย์ส่งเสริมและผลิตเมล็ดพันธุ์ข้างชุมชนวัดคู้ ศูนย์ใหญ่ของจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งมีลุงเกษมเป็นประธานศูนย์ฯ มีสมาชิกกว่า 30 ราย เนื้อที่รวมกันเกือบพันไร่ มีเครื่องจักรกลการเกษตรเองครบชุดตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ทำทั้งข้าวปลูกและข้าวขาย มีโรงสีเองขนาดชุมชน รุ่น M1 ของบริษัท นาทวี เทคโนโลยี่ จำกัด กำลังการผลิต 200- 350 กิโลกรัมต่อชั่วโมง พร้อมอุปกรณ์บรรจุภัณฑ์ครบ เป็นกลุ่มตัวอย่างที่พึ่งพาตนเองได้จริง ไม่พึ่งรัฐบาลช่วย แถมสมาชิกทุกรายนั้น ไม่มีหนี้สินจาก การทำนา รวมถึงตัวลุงด้วย ทำให้ทีมงานข้าวเศรษฐกิจ ต้องขอเปิดใจคุยถึงแนวคิดและวิธีการบริหารจัดการ
ลุงเกษมมีหลัก การทำนา ให้ได้ผลผลิตดีอยู่ 6 ข้อ 1.พันธุ์ข้าวดี 2. ดินดี 3.น้ำดี 4.ปุ๋ยดี 5.ยาดี 6.ดูแลรักษาดี
การทำนา เพื่อการลดต้นทุนการผลิต 2,381 บาท/ไร่ ของ นายเกษม ยวงสวัสดิ์ “เกษตรกรต้นแบบ การทำนา ”
1: ต้นทุนการเตรียมดิน
1.1 จิ้มดิน…ใช้เครื่องมือจิ้มดินให้อ่อนตัวพร้อมหมักฟางข้าวทิ้งไว้ 5 วัน [255 บาท]
1.2 ทุบดิน 2 ครั้ง ใช้เครื่องทุบตี กันครั้งละ 5-7 [ค่าน้ำมัน 52 บาท ]
2: ต้นทุนเมล็ดพันธุ์
2.1 นาปี…พันธุ์พิษณุโลก ๒ กข ๔๗ อัตรา ๑๐ กก. (นาปักดำ) ปัญหาอากาศหนาว มีน้ำค้าง เชื้อรา [ค่าเมล็ดรวม 160 บาท]
2.2 นาปรัง…พันธุ์สุพรรณบุรี ๙๐ กข ๔๗ อากาศร้อน ใช้ข้าวพันธุ์ รวงตั้ง ชูรวง
3: ต้นทุนการปลูก
3.1 ใช้เครื่องปักดำ (ค่าเช่าเครื่อง) ค่าน้ำมัน ๒ ลิตร [ค่าเช่าเครื่อง + น้ำมัน 252 บาท]
4 : ค่าการใส่ปุ๋ย
4.1 ปุ๋ยรองพื้น
4.1.1 ก่อนปักดำ 1-2 วันปุ๋ย ผสมปุ๋ยใช้เอง แม่ปุ๋ย 18-41-0 จำนวน 12 กก.+ 46-0-0 จำนวน 6 กก. [ค่าปุ๋ย 295 บาท สูตร 16-20-0]
4.1.2 ปุ๋ยปลาหมัก 150 ซีซี./ไร่ [10 บาท]
4.2 ปุ๋ยซ่อมต้นที่เจริญเติบโต เร่งการเจริญเติบโต ผสมปุ๋ยใช้เอง 41-0-0 จำนวน 3 กิโลกรัม + ปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดจำนวน 5 กิโลกรัม ทั้งหมดสำหรับ หยอดเฉพาะต้นที่เจริญเติบโตช้าเท่านั้น [75 บาท]
4.3 ปรับปรุงคุณภาพ: อายุข้าว 55-60 วัน (อายุข้าว 50% ของพันธุ์ข้าว) ผสมปุ๋ยใช้เอง 46-0-0 จำนวน 9 กก.+ 0-0-60 จำนวน 3 กก. [127 บาท]
5 : ค่าการดูแลรักษา
5.1 หนอนกอ | หนอนกินใบ | เพลี้ยไฟ ต้องปรับด้วย สารคลอไพรีฟอสหรือฟิโปนิล 50 ซีซี./น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่น 2-3 ครั้ง (4๐ บาท/ไร่) + ปุ๋ยปลาหมัก ๓๐๐ ซีซี./ไร่ (๒๐ บาท/ไร่) [180 บาท]
5.2 เพิ่มคุณภาพข้าว ด้วย ฮอร์โมนปรับปรุงคุณภาพข้าว (สูตรน้ำมะพร้าว ๓๐๐ ซีซี./ไร่) ฉีดป้องกันเมื่อออกดอก 5% ร่วมกันป้องกันกำจัดแมลง [15 บาท]
5.3 ค่าสูบน้ำ จำนวน 4 ครั้งๆ ละ 4 ชั่วโมง ซึ่งมีค่าน้ำมันครั้งละ 5 ลิตร [520 บาท]
5 : ค่าใช้จ่ายสำหรับเก็บเกี่ยว
5.1 เก็บเกี่ยว จากเริ่มเห็นดอก 5% จนถึงเก็บเกี่ยว 5๐ วัน มีค่าจ้างรถเกี่ยว 350 บาท และค่าน้ำมัน 90 บาท [440 บาท]
ต้นทุนการผลิตรวม 2,381 บาท/ ไร่
ไม่เคยกู้เงิน ทำนา แล้วเอาเงินมาจากไหนลงทุน
ลุงเกษมบอกว่าเริ่มแรกพ่อแม่ ปู่ย่า ทำนา มาตลอด ลุงเลยซึมซับ แต่พอต้องมาดูแลทำเอง จึงมีแนวคิดว่า เราจะเอาเงินใส่โหลไว้เป็นต้นทุน การทำนา หมดเมื่อไหร่ก็จบการลงทุนปีนั้น เริ่มต้นซื้อเมล็ดพันธุ์ทุน จากศูนย์วิจัยมาแค่ 5 รวง ประมาณ 2 กิโล แล้วเรามาขยายเอาเอง ก็ทุนต่อทุน ซึ่งทุกปีรายได้สรุปหลัง การทำนา จะต้องได้ 110,000 บาท/ไร่ ลุงจะใช้เงินหน้าหนึ่ง 60,000บาทหักต้นทุกไป 50,000 บาท ที่เหลือก็เก็บออม เพราะลุงมีแนวคิดด้านเศรษฐกิจพอเพียง มีน้อยก็ใช้น้อย
ทางกลุ่มเริ่มต้น รวมตัวเริ่มจากทุนแค่ 20,000 บาท/คน
ในส่วนของลุงเกษม อายุ 61 ปี ทำนา มาทั้งชีวิต ยึดถือพระแม่ธรณีเป็นหลักในการใช้เริ่มมีการรวมตัวกันตั้งกลุ่ม เพราะตอนนั้นมีปัญหาเรื่องข้าวดีด ประมาณปี 2549 ไม่รู้จะแก้ไขยังไง พอรวมกลุ่มทางราชการก็เริ่มเข้ามาช่วยให้ความรู้ แรกเริ่มเรามีกันแค่ 11 คน ลงทุนกันคนละ 20,000 บาท หุ้นกันแล้วได้ 220,000 บาท ไปซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวแท้ จากศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าว ซึ่งพื้นที่แถวนี้เป็นดินเหนียวเราเลย ทำนาดำ กัน แล้วซื้อรถดำนามือสอง คันแรกมาใช้กันในกลุ่ม แล้วกลุ่มก็รับจ้างดำนา จนพอมีรายได้เข้ามา จากนั้นก็ขยับขยายมาเรื่อยๆ จนตอนนี้กลุ่มมีรถดำนา 7 คัน และมีเครื่องสีข้าว M1 ของนาทวี ของรับจ้างสีข้าวด้วย ทั้งข้าวกล้อง ข้าวสี และข้าวขาวได้หมด
จ้าง ทำนา + เช่าที่ จุดตายของชาวนาไทย
ลุงเกษมกล่าวว่า เมื่อเราเลือกที่จะเป็นชาวนาแล้ว ต้องทำนา เอง อย่าจ้าง เพราะการจ้างนั่นจะทำให้ต้นสูงการผลิตสูงมาก และเช่าที่ ทำนา ทำไปก็มีแต่หนี้ ชาวนาต้องศึกษาเรียนรู้เอง ต้องรู้ว่าข้าวพันธุ์ไหนชอบอะไร พันธุ์ไหนต้านทานโรคดี เชื้อรามี 10 ชนิด ไวรัส มี 4 ชนิด แมลงมีอยู่ 2 ชนิด หนอนมีอยู่ 2 ชนิด แบบปากดูดและปากกัด ต้องเรียนรู้มันก่อน ถึงจะแก้ปัญหาถูกจุด ลุงบอกว่าชาวนาแถวนี้ เดี๊ยวนี้ยกหูโทรศัพท์หมด แต่กลุ่มเราไม่ใช่ ลุงเกษมเน้นให้ทุกสมาชิกทำนา เอง ลุงเกษมให้แนวคิดว่าจริงๆแล้ว ชาวนา 1 คน สามารถ ทำนา ได้เอง 20 – 25 ไร่ หากมีครอบครัวช่วยกันยังไงก็พอ ไม่ต้องจ้าง ทุกวันนี้จ้าง ทำนา นั้นต้นทุนสูงมาก ลุงเกษมจึงชี้แจงราคา จ้าง ทำนา แถวฉะเชิงเทรา ตามตาราง นอกจากนั้น ชาวนาหลายคนยังเช่าที่ ทำนา ค่าเช่าบวกเพิ่มเข้าไปอีก 1,500 บาท / ไร่ / ปี เช่า 10 ไร่ ต้นทุนเพิ่มไปอีก 15,000 บาท นี่ยังไม่รวมค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าปุ๋ย ค่าฟอสฟอรัส ค่ายา ซึ่งต้องไปซื้อ เงินเชื่อ ที่ร้านเกษตรอีก
ลดต้นทุน + เพิ่มผลผลิต คือหัวใจ พูดง่ายแต่ทำยาก
ลุงเกษมบอกว่า นา 17ไร่ 2 งาน ทำเอง ตอนนี้ที่นาลุงทำข้าวปลูกพันธุ์ กข61 ซึ่งเป็นพันธุ์ใหม่ จากศูนย์ฯที่คุณลุงทดลองปลูกอยู่ เราปลูกพันธุ์ข้าวแท้ที่มาจากศูนย์เท่านั้น ทำพันธุ์ข้าวคุณภาพเองเลยที่คนมาสั่งและจองเมล็ดพันธุ์ข้าว ตรงแปลงนาเลย ลุงจะขายสด ไม่ต้องตากเพิ่มต้นทุนแรงงานตาก แต่ราคาจะลุงจะสูงกว่าของเจ๊กแค่ 1,000 บาทเท่านั้น ทำให้ลูกค้าแย่งกัน ทำไม่พอขาย ในส่วนต้นทุน นาลุงต้นทุนแค่ 2,000 -2,500 บาท/ไร่และต้องทำเอง ที่ดินก็เป็นของลุงเองไม่เช่า ซื้อเมื่อก่อนไร่ละ 15,000 บาท ครอบครัวลุงซื้อไว้ 50 กว่าไร่ ตั้งแต่ข้าวเกวียนละ 2,000 บาท แต่ตอนนี้ ไร่ละ2,000,000 บาทแล้ว ลุงเกษมมีสูตรการลดต้นทุนดังตาราง ในส่วนเพิ่มผลผลิต ทุกวันนี้ นาลุงทำได้ 100-130 ถัง/ไร่
ช่วงเวลาปลูกข้าวที่เหมาะสม ช่วยเพิ่มผลผลิตได้
ลุงเกษมบอกว่า การจดบันทึกนั้นสำคัญ เพราะคนเราจำไม่ได้หมด ต้องหัดจดบันทึก ของลุงจดบันทึก การทำนา ของตัวเองมาตลอด ทำให้เรียนรู้ว่าอากาศนั้นเป็นปัจจัยสำคัญมาก ลุงทดลองปลูกมาทุกช่วงแล้ว ถึงได้สูตรช่วงเวลาทีเหมาะสมกับกับข้าวแต่ละสายพันธุ์ ลุงบอกว่า นักวิชาการก็เอานาของลุงเป็นต้นแบบศึกษาหลายโครงการ ประสบการณ์การจดบันทึกของลุงทำให้ได้สูตรช่วงเวลาปลูกข้าว ที่จับต้องได้ ไม่นั่งเทียนเขียน ดังตารางข้างล้างนี้
ต้องรู้จัก พันธุ์ข้าว ที่จะปลูก องค์ความรู้เรื่องข้าว
สูตรเด็ด เคล็ดลับของความสำเร็จ
อย่าหยุดที่จะเรียนรู้ ลุงไม่เคยหยุดพัฒนา ต้องชอบสังเกตุและจดบันทึก เรียนรู้พันธุ์ข้าว ดิน น้ำ อากาศ ทำยาเอง ปุ๋ยเองลองผิดลองถูกเอง ทุกวันนี้รางวัลแห่งความภาคภูมิใจที่เกษตรกรคนนี้ ได้เป็นเกษตรกรดีเด่นของจังหวัดและระดับภาค ลุงบอกว่าเรื่องข้าวลุงนิ่งแล้วเพราะจะให้ลูกทีมขึ้นมาดูแลและเป็นประธานคนต่อไป เพราะลุงเองก็อายุ 60 กว่าแล้ว จะให้คนหนุ่มมาช่วยดู ต่อไปจะเริ่มเรียนรู้ไปทำไม้ผล ซึ่งตอนนี้ตัวที่ลุงมองคือ กล้วย ต้องเริ่มจากสิ่งที่ตลาดต้องการ ถึงจะทำอาชีพเกษตรได้ยั่งยืน
ทำนา
, พันธุ์ข้าว, การปลูกข้าว, การใส่ปุ๋ยข้าว, การทํานา, 1 ไร่ 1 แสน