น้ํามันรําข้าว สกัดจาก”ข้าวฮางงอกแดงใหญ่” แปรรูปแล้วจำหน่ายได้ลิตรละ 500 บาท

โฆษณา
AP Chemical Thailand

ทุกวันนี้ตลาดคนรักสุขภาพมองหาสิ่งต่างๆ ที่ผลิตจากธรรมชาติเพื่อรับประทานให้ร่างกายแข็งแรง  หลายคนเริ่มเล็งเห็นปัญหาของการกินอาหารที่ผสมสารเคมี ไม่ว่าจะพวก ผักสด ผลไม้ หรือบางทีเนื้อหมู เห็ด เป็ดไก่ ทั้งหลาย สมัยนี้เขาว่ากันว่าโรคภัยไข้เจ็บทั้งหลายก็มาจากอาหารการกิน ที่ส่วนใหญ่ด่วนๆ รีบอิ่มท้องเข้าว่า จากจุดนี้เองก็ทำให้สินค้าสุขภาพเริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น แต่ก็อีกนั่นแหละเมื่อมีมากก็ต้องพูดถึงว่าคุณภาพดีหรือเปล่าด้วย เพราะบางครั้งก็เป็นแค่การจับจุดทางการตลาด และความต้องการของผู้บริโภค แต่สินค้าปราศจากคุณภาพ ซึ่งผลร้ายที่ตามมา คือ กินเข้าไปเท่าไหร่ ก็ไม่ทำให้ร่างกายแข็งแรง หรือดีขึ้น

ดังนั้นถ้าคิดจะหาอาหารเสริมเพื่อเพิ่มเติมเรื่องสุขภาพ แนะนำว่าศึกษาหาข้อมูลความเป็นมาจากแหล่งผลิตที่มีคุณภาพ เสียเวลามากขึ้นอีกนิด แต่รับรองว่าสิ่งที่ได้รับคุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปแน่นอน และด้วยเหตุนี้เพื่อแนะนำแหล่งผลิตดีๆ นิตยสารผักเศรษฐกิจที่เป็นศูนย์กลางของคนรักสุขภาพอย่างแท้จริง ขอพาทุกท่านไปรู้จักกับ “กลุ่มวิสาหกิจข้าวฮางงอกแดงใหญ่” ที่ตอนนี้เขาเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาด ไม่ได้ผลิตข้าวฮางงอกแต่มุ่งผลิต น้ํามันรําข้าว ที่ว่ากันว่าคุณประโยชน์มากมาย ต้านทานโรคได้เยอะแยะ ที่สำคัญรับประทานเป็นประจำร่างกายแข็งแรงทีเดียว

1.คุณธนพัชร์-เจริญสุข-กับน้ำมันรำข้าวแบบแคปซูล
1.คุณธนพัชร์-เจริญสุข-กับ น้ํามันรําข้าว แบบแคปซูล

คุณธนพัชร์ เจริญสุข ประธานกลุ่มวิสาหกิจข้าวฮางงอกแดงใหญ่ ต.แดงใหญ่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผู้ชักนำชาวบ้านให้เปลี่ยนแนวทางจากการผลิตข้าวฮางงอกที่นับวันจะมีหลายกลุ่มเริ่มผลิตมากขึ้น เกิดการแข่งขันด้านราคา ทำให้การส่งขายได้ราคาต่ำกว่าที่ควรจะเป็น เกษตรกรเองก็ไม่ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ แม้ว่าตัวข้าวฮางงอกเองจะมีคุณค่าในตัวเองมาก แต่ราคาขายกลับสวนทางกับประโยชน์ที่มี

2.รำสดที่ได้จากการสีใหม่ๆ เพื่อใช้นำมาผลิต น้ำมันรำข้าว
2.รำสดที่ได้จากการสีใหม่ๆ เพื่อใช้นำมาผลิต น้ำมันรำข้าว

การผลิต น้ํามันรําข้าว

ข้าวฮางงอกถือว่าเป็นข้าวที่มีวิตามิน แร่ธาตุ ไฟเบอร์ สูงกว่าธัญพืชอีกหลายชนิด การรับประทานข้าวฮางงอกจะช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน ป้องกันโรคได้มากมาย เช่น ความดัน เบาหวาน ไขมันสูง โรคหัวใจ โรคอ้วน ไขข้ออักเสบ โรคไต โรคเกี่ยวกับประสาทและสมอง ความจำเสื่อม การแก่เกินวัย โรคมะเร็งต่างๆ (ที่เกิดจากการรับประทานอาหารไม่ถูกต้อง)

คุณประโยชน์เหล่านี้ถือว่าโดดเด่น แต่ในความเป็นกลุ่มวิสาหกิจต้องมองความเข้มแข็งของชุมชนเป็นสำคัญ จึงเกิดการเปลี่ยนรูปแบบจากข้าวฮางงอกสู่การทำ “ น้ํามันรําข้าว ” ที่คุณธนพัชร์มองว่า ตลาดยังต้องการอีกมาก และราคาจำหน่ายก็ยุติธรรมกว่าด้วย

รำสำหรับที่จะนำมาทำ น้ํามันรําข้าว ต้องเป็นรำจากข้าวหอมมะลิเท่านั้น เพราะในข้าวหอมมะลิมีสารอาหารต่างๆ อยู่อย่างครบถ้วน ตามงานวิจัยถือว่าเป็นข้าวที่มีสารสกัดต่างๆ มากที่สุดในบรรดาตระกูลข้าวด้วยกัน รำที่ได้มาจากข้าวหอมมะลิจะมีจมูกข้าวติดมาด้วย เมื่อสกัดออกมาเป็นน้ำมันรำข้าวแล้ว จึงได้ประโยชน์คู่กันทั้งสองข้าง ทั้งจากรำข้าว และจมูกข้าว ด้วย  กระบวนการตรงนี้ต้องผ่านเครื่องบีบเย็นเพื่อสกัดจากรำข้าวให้กลายเป็นน้ำมันรำข้าวที่มีคุณภาพ

โฆษณา
AP Chemical Thailand

การเอารำมาบีบเย็นจะรับรำจากโรงสีข้าวหอมมะลิแบบวันต่อวัน และรำที่เอามาต้องเป็นรำที่มาจากการสีข้าวกล้องเท่านั้น ไม่ใช้รำที่มาจากการสีข้าวขาว ซึ่งส่วนมากจะมีแต่แป้ง  รำข้าวที่รับมาประมาณวันละ 150-200 กิโลกรัม จะต้องเอาเข้าเครื่องบีบเย็นในระยะเวลาไม่เกิน 35 ชั่วโมง ซึ่งถ้าเกินกว่านั้นจะเกิดความชื้น กรดไขมันก็จะเริ่มออกมา แล้วเชื้อราก็จะลงไปในรำข้าว

3.กระบวนการสกัดน้ำมันรำข้าว
3.กระบวนการสกัดน้ำมันรำข้าว
น้ำมันรำข้าวไหลออกมาจากเครื่อง
น้ำมันรำข้าวไหลออกมาจากเครื่อง
ที่กรองเอากากรำออกก่อนบรรจุใส่แกลลอน
ที่กรองเอากากรำออกก่อนบรรจุใส่แกลลอน
กากรำข้าวที่สกัดเอาน้ำมันออกแล้ว
กากรำข้าวที่สกัดเอาน้ำมันออกแล้ว

การสกัดน้ำมันรำข้าว

การสกัดให้ได้น้ำมันรำข้าวต้องใช้ความร้อนไม่เกิน 70 องศา ในปริมาณรำข้าว 100 กิโลกรัม จะผลิตน้ำมันได้ 5 ลิตร ส่วนกากที่เหลือจากการผลิตก็เอาไปเป็นอาหารวัว เพราะอุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต และไขมันที่ยังเหลืออยู่อีกมาก

กลับมาที่น้ำมันหลังจากที่สกัดได้แล้วก็ต้องเอาไปกรองเอากากที่หลงเหลือออก จากนั้นบรรจุใส่แกลลอน 6 ลิตร ที่เตรียมไว้ทันที เพื่อไม่ให้ถูกอากาศ ป้องกันเชื้อแบคทีเรียลงไปปะปน แล้วจึงส่งไปแปรรูปอีกทีเพื่อให้กลายเป็นแคปซูล ซึ่งราคาจำหน่ายน้ำมันจากรำข้าวนี้ราคาลิตรละ 500 บาท หักลบต้นทุนแล้วเป็นกำไรประมาณ 60 % ถือว่ามากเพียงพอที่จะทำให้เกษตรกรสามารถลืมตาอ้าปากได้เป็นอย่างดี

น้ำมันรำข้าวที่เอามาผ่านกระบวนการผลิตต่ออีกขั้นหนึ่งแล้ว น้ำมันรำข้าว 1 ลิตร จะผลิตได้ 800 แคปซูล จากนั้นก็สู่กระบวนบรรจุภัณฑ์เพื่อส่งขายเป็นอาหารเสริมเพื่อสุขภาพตามท้องตลาดกันต่อไป

4.น้ำมันรำข้าวแบบแคปซูล
4.น้ำมันรำข้าวแบบแคปซูล

ประโยชน์ของน้ำมันรำข้าว

น้ำมันรำข้าวว่า เป็นน้ำมันพืชที่ผลิตมาจากน้ำมันรำข้าวดิบ ซึ่งสกัดมาจากรำข้าว (Seed Membrane Layer) และจมูกข้าว (Rice Germ)  มีสารสำคัญหลายอย่างที่มีคุณค่าทางโภชนาการ และสามารถต้านทานโรคต่างๆ ได้อีกมาก รวมถึงโรคสำคัญอย่าง  “มะเร็ง”  เช่น

1.วิตามินอี ในธรรมชาติที่อยู่ในกลุ่มโทโคฟิรอล (Tocophyrol) และ กลุ่มโทโคไตรอินอล (Tocotrienol) ซึ่งช่วยในการต้านอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดมะเร็ง ช่วยลดระดับไขมันในเลือด เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคหลอดเลือด โดยเฉพาะ กลุ่มของโทโคไตรอินอล สามารถลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือด และลดการเกิดหลอดเลือดหัวใจ

โฆษณา
AP Chemical Thailand

2.โอไรซานอล (Oryzanol) เป็นสารธรรมชาติที่พบเฉพาะในรำข้าวเท่านั้น ไม่พบในน้ำมันพืชชนิดอื่น ช่วยในการต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่าวิตามินอีถึง 6 เท่า และยังช่วยลดระดับของคอเลสเตอรอลตัวร้าย (HDL-C) ในเลือด ลดการสังเคราะห์คอเลสเตอรอลในตับ ลดอาการผิดปกติร้อนวูบวาบ (Hot Flashes) ในสตรีวัยทอง

3.ไฟโตสเตอรอล (Phytosterol) เป็นสารที่ช่วยในการลดคอเลสเตอรอลตัวร้าย (HDL-C) โดยที่ไม่ลดคอเลสเตอรอลตัวดี (LDL-C) และช่วยในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์เนื้องอก ทำลายเซลล์มะเร็งเต้านม ป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ และต่อมลูกหมาก

4.กรดไขมันจำเป็น (Essential Fatty Acid) มีกรดไขมันจำเป็น คือ กรดไลโนเลอิค (Linoleic Acid) และ กรดไลโนเลนิค (Linolenic Acid) ซึ่งเป็นกรดที่ร่างกายสร้างขึ้นเองไม่ได้ ต้องได้รับจากสารอาหารที่รับประทานเท่านั้น

5.มีสัดส่วนของกรดไขมันที่สมดุลและเหมาะสมต่อการบริโภค ซึ่งใกล้เคียงกับคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) และโครงการศึกษาคอเลสเตอรอลแห่งชาติของประเทศสหรัฐอเมริกา

6.มีค่ากรดไขมันทรานส์ เท่ากับ 0 กรัม ต่อหนึ่งหน่วยบริโภค จึงไม่ทำให้เกิดปัญหาการเพิ่มของ LDL-C ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับหัวใจ และหลอดเลือด

7.มีจุดเกิดควันสูง คือ ทนความร้อนได้ดี สามารถนำไปทอดอาหารได้อย่างปลอดภัย ไม่ต้องกังวลเรื่องควันจากน้ำมัน เพราะว่ามีจุดเกิดควันสูงถึง 245-257 องศาเซลเซลเซียส ซึ่งสูงกว่าน้ำมันพืชทั่วๆ ไป จึงเหมาะในการทำอาหารทุกประเภท

โฆษณา
AP Chemical Thailand

8.ปลอดภัยจากการดัดแปลงทางพันธุกรรม (Non-GMO) เพราะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้การรับรองว่าข้าวไทยปลอด GMO

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทางองค์การอาหารและยา (อย.) ก็ได้แนะนำว่าผลิตภัณฑ์อาหารเสริมน้ำมันรำข้าวไม่ใช่ยารักษาโรค หากแต่เป็นเพียงผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ควรใช้ควบคู่กันไปกับการรักษา และควรอยู่ใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่สำคัญอย่า “หลงเชื่อโฆษณาที่เกินจริง” ต้องศึกษาข้อมูล หรือสอบถามรายละเอียดให้ดี เพราะไม่เช่นนั้นนอกจากไม่ป้องกัน หรือรักษา อาจกลายเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคได้อีกด้วย

5.แกลลอนไว้สำหรับบรรจุน้ำมันรำข้าว
5.แกลลอนไว้สำหรับบรรจุ น้ํามันรําข้าว

การจำหน่ายน้ำมันรำข้าว

แม้จะมองว่าราคาจำหน่ายดีถึงดีมาก แต่แนวทางของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนข้าวฮางงอกแดงใหญ่ไม่ได้เน้นปริมาณ แต่เน้นคุณภาพในการส่งออกมากกว่า ปัจจุบันทางกลุ่มก็ผลิต น้ํามันรําข้าว ส่งให้เพียงผู้ผลิตรายเดียวเท่านั้น ปริมาณการส่งต่อเดือนก็อยู่ที่ 100-150 กิโลกรัม เป็นการทำตามกำลังของชุมชน ไม่ใช่ธุรกิจที่ต้องการกำไรให้มากเข้าไว้

ซึ่งการอยู่ในตลาดสุขภาพนั้นให้คำนึงถึงผู้บริโภคเป็นสำคัญ ถ้าเราคงคุณภาพที่ดี ไม่ต้องกลัวเรื่องคู่แข่ง ตามปรัชญาที่ว่า “ขายน้อย กำไรไม่มาก” ดีกว่า “ขายได้มากๆ แต่กำไรไม่มี” ที่สำคัญเป็นบาปทางอ้อม ถ้ามุ่งหาแต่กำไร แต่ไม่ใส่ใจสุขภาพของผู้บริโภค ถือว่าผิดหลักการของการทำอาหารเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง

ท่านใดสนใจน้ำมันรำข้าว หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ คุณธนพัชร์ เจริญสุข โทร.086-339-4189