รถเกี่ยวข้าวมือสอง สร้างอาชีพรับจ้าง เกี่ยวข้าว เผยวิถีการทำนายุคใหม่
การใช้ รถเกี่ยวข้าว ในการเก็บ เกี่ยวข้าว
“ การทำนาของชาวนาในปัจจุบันได้มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการทำนากันอย่างแพร่หลาย เพราะมีความสะดวก สบาย รวดเร็ว ลดการใช้แรงงานคน ประหยัดเวลา
โดยเฉพาะในเรื่องของการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ต้องการความรวดเร็ว ในปัจจุบันจึงได้มีการพัฒนารถเกี่ยวข้าวให้ เกี่ยวข้าว ได้ปริมาณมากขึ้น และตัวรถเกี่ยวต้องมีความแข็งแรง ทนทาน แข็งแกร่ง มากขึ้น เพื่อให้การเก็บเกี่ยวได้อย่างรวดเร็วและทันต่อฤดูการเก็บเกี่ยวของชาวนาในทุกภูมิภาค”
ปรึกษาสอบถามข้อมูล การเกี่ยวข้าว ได้ที่ คุณวัลลภ ชาวอบทม (หากบอกว่ามาจาก พลังเกษตร.com)
โทร. 089-260-9329
คุณวัลลภ ชาวอบทม เจ้าของ รถเกี่ยวข้าวมือสอง และชาวนาตำบลวังหว้า อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรีบอกกับทีมงานเราว่า รถเกี่ยวนวดข้าวใช้เก็บผลผลิตมีอยู่ 2 คัน
เป็นรถเกี่ยวขนาดใหญ่ สามารถ เกี่ยวข้าว ได้ครั้งละ 2 ตันครึ่ง น้ำหนักรถอยู่ที่ประมาณ 8 ตัน รวมแล้วก็ประมาณ 10 ตัน โดยตัวรถมีความยาว 3 เมตร ใบมีดมีความยาวถึง 6.30 เมตร ซึ่งหน้าตัดใบมีดที่กว้างขึ้น จะทำให้เก็บเกี่ยวผลผลิตได้มากขึ้นนั่นเอง
คุณวัลลภเผยเส้นทางชีวิตก่อนหันมายึดอาชีพรับจ้าง เกี่ยวข้าว ว่า เดิมได้เดินทางไปทำงานอยู่ในต่างประเทศ ไปเป็นลูกจ้างเขาก่อน ก็พอมีความรู้เกี่ยวกับเครื่องจักร เครื่องยนต์ เพราะต้องทำงานอยู่เป็นประจำทุกวัน ทำให้รู้เรื่องเกี่ยวกับการซ่อมบำรุงบ้าง
เมื่อกลับมาเมืองไทยแล้วก็เริ่มต้นซื้อรถเกี่ยวนวดข้าวคันแรกในปี 2540 ด้วยความที่เป็นคนภาคกลาง ที่เกษตรกรส่วนใหญ่ในพื้นที่ทำนา และมองว่าอาชีพรับจ้างเกี่ยวนวดข้าวจะเป็นอาชีพที่มั่นคงได้ ก็ทำมาเรื่อยๆ ประกอบกับมีความรู้เรื่องช่าง และการซ่อมบำรุง ทำให้สามารถดูแลรักษารถเกี่ยวนวดข้าวได้ด้วยตนเอง ภายใต้อุปกรณ์ที่ครบมือ
คุณสมบัติของรถเกี่ยวนวดข้าว
เมื่อก่อนใช้ รถเกี่ยวนวดข้าว คันเล็กกว่านี้ประมาณตันกว่า อีกทั้งรถเกี่ยวนวดข้าวบางรุ่นก็ใส่กระสอบได้ แต่บางรุ่นก็ไม่มี ทำให้ผู้ผลิต รถเกี่ยวข้าว ได้ปรับปรุงการผลิตให้มีตัวอุ้มข้าวอย่างในปัจจุบัน โดยคุณวัลลภจะเลือกใช้รถเกี่ยวนวดข้าวที่มีความแกร่ง อึด และหน้าตัดกว้าง สามารถเกี่ยวข้าวได้ปริมาณมากต่อรอบ เมื่อใช้ดีก็บอกต่อๆ กันมา
แต่คุณวัลลภจะเน้นใช้ รถเกี่ยวข้าวมือสอง ราคาจะถูกกว่าประมาณ 750,000 – 760,000 บาท ในขณะที่ราคา รถเกี่ยวข้าว ป้ายแดงจะอยู่ที่ 2,600,000 บาท เพราะคุณวัลลภเป็นช่างฝีมือที่สามารถซื้อรถเกี่ยวนวดข้าวมาแล้วสามารถซ่อมจนมีสภาพดีได้ สามารถใช้งานได้ดี แต่ตอนนี้ได้ทุนคืนแล้ว เพราะซื้อมาหลายปีแล้ว
แต่รถเกี่ยวนวดข้าวต้องคอยดูแลทุกอย่าง ต้องคอยสังเกตตลอดเวลา ถ้ามันมีเสียงดังขึ้น คนที่เขาใช้รถเกี่ยวนวดข้าวบ่อยจะรู้เลยว่าเครื่องยนต์อะไร ผิดปกติตรงไหนบ้าง ส่วนคนที่ใช้ไม่เป็นไม่รู้ว่าต้องดูแลยังไง หรือมีวิธีการดูแลรักษาแบบไหน พอมีปัญหาคนขับไม่สังเกต ขับไปไม่กี่วันรถเกี่ยวนวดข้าวก็เริ่มมีปัญหา และเกิดความเสียหายที่เพิ่มขึ้น และต้องจ้างช่างซ่อมตลอด รถถูกจอดรอซ่อมศูนย์ เสียรายได้
การรับจ้าง เกี่ยวข้าว และการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าว
อีกทั้งปัญหาปีนี้ของชาวนา คือ ชาวนาจะปลูกข้าวพร้อมกัน แต่ทุกปีชาวนาจะปลูกข้าวสลับหมุนเวียนกัน เก็บเกี่ยวผลผลิตไปในแต่ละพื้นที่ ทำให้มีเวลาเก็บเกี่ยวได้ทัน แต่ในปีนี้คาดว่าจะเกี่ยวไม่ทัน ซึ่งในปีหนึ่งๆ คุณวัลลภจะรับจ้างเกี่ยวข้าวในพื้นที่อยู่ประมาณ 2,000 กว่า ไร่
แต่ปีนี้มักมีปัญหาที่รถเกี่ยวไม่ค่อยทัน เนื่องจากรถมีปริมาณน้อย จะแก้ด้วยการซื้อรถเพิ่มก็ไม่ได้ เพราะต้องลงทุนสูง และการปลูกข้าวพร้อมกันก็ไม่บ่อยเหมือนลมพัดมาชั่ววูบ จึงไม่มีใครกล้าลงทุนเพิ่ม เพราะมีความเสี่ยงมาก มีเวลาเกี่ยวนวดข้าวได้ในช่วงเช้าถึงเย็น แต่ตอนเช้าต้องรอให้ต้นข้าวแห้งดีก่อนถึงจะลงเกี่ยวได้ ถ้ายังไม่แห้งเราก็เกี่ยวไม่ได้
“ ซึ่งฤดูกาลเก็บเกี่ยวอยู่ประมาณเดือนพฤศจิกายนพร้อมกัน เพราะพอชลประทานเปิดน้ำก็จะปลูกพร้อมกันเลยโดยส่วนใหญ่การรับจ้างเกี่ยวข้าวจะอยู่พื้นที่ใครพื้นที่มัน แต่ถ้าพื้นที่ไหนเกี่ยวไม่ทัน รถรับจ้างในแต่ละพื้นที่ที่รู้จักกันดีก็จะไปช่วยกันได้ แต่ถ้าไม่ทันเขาก็มาช่วยเรา แต่ส่วนใหญ่จะมีเจ้าประจำที่เขาจ้างเราในทุกๆ ฤดูการเก็บเกี่ยวอยู่แล้ว ” คุณวัลลภกล่าว
รายได้จากการเกี่ยวนวดข้าว
ด้านรายได้ในการเกี่ยวนวดข้าวนั้นจะคิดค่าเกี่ยวนวดข้าวให้กับชาวนาในพื้นที่ประมาณ 450 บาท / ไร่ แต่จะมีช่วงหนึ่งที่น้ำมันราคาแพง ก็ขอขึ้นราคา 40-50 บาท / ไร่ รวมกันแล้วประมาณ 500 บาท / ไร่ ให้ชาวนาอยู่ได้ ผู้รับจ้างก็อยู่ได้
ที่นี่เน้นรับจ้างเกี่ยวนวดข้าวราคาที่ถูกกว่าที่อื่น เพราะส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าประจำที่เกี่ยวข้าวให้ชาวนาทุกปี พอถึงเวลาเก็บเกี่ยวก็จะเรียก รถเกี่ยวข้าว ไปเกี่ยวข้าวให้ ยกเว้นว่าทีมงานเกี่ยวไม่ทันจริงๆ ก็จะติดต่อหา รถเกี่ยวข้าว เจ้าอื่นบนพื้นที่ที่มีอยู่หลายกลุ่มมาช่วยเกี่ยวข้าวให้กับลูกค้า
ความแตกต่างระหว่างการเกี่ยวข้าวในแต่ละที่กับการเกี่ยวข้าวในพื้นที่อื่นๆ จะแตกต่างกันไป อย่าง ภาคอีสาน จะเกี่ยวข้าวยากหน่อย เพราะแปลงนาเล็ก ไม่ใช่แปลงใหญ่ เหมือนแถวภาคกลาง เพราะในช่วงที่ว่างจากการรับจ้างในพื้นที่ก็จะไปเกี่ยวข้าวภาคอีสานนาน 1 เดือน
โดยจะมีนายหน้าที่ติดต่อชาวนาที่จะเกี่ยวข้าวไว้ ซึ่งต้องใช้ต้นทุนค่าน้ำมันในการใช้รถลากรถเกี่ยวไปประมาณ 3,000 บาทต่อขา ที่สำคัญทีมงานต้องเกี่ยวข้าวทุกวันราคาจะอยู่ที่ 450-500 บาท ซึ่งไม่ต่างกันมากนัก และการเกี่ยวข้าวในแต่ละหน้าจะได้เงินก้อน ที่จะนำมาเป็นค่าใช้จ่าย ค่าซ่อมบำรุงรถเกี่ยวนวดข้าว ค่าใช้จ่ายในครอบครัว และใช้หนี้สลับกันไป ในแต่ละปี
ในขณะที่ชาวนาส่วนใหญ่ในพื้นที่ภาคกลางจะเน้นขายข้าวเปลือกและเมล็ดพันธุ์ข้าวแประกอบกับในช่วงที่หมดหน้านา หมดช่วงเกี่ยวข้าว ประมาณ 2 เดือน คุณวัลลภก็จะหันไปทำนาเมล็ดพันธุ์ข้าวเนื้อที่ 30 ไร่ เป็นเมล็ดพันธุ์ข้าวพื้นเมือง เนื่องจากเมล็ดพันธุ์ข้าวพื้นเมืองจะคัดเลือกง่าย อีกทั้งราคาเมล็ดพันธุ์ข้าวจะมีราคาที่ดีกว่าการผลิตข้าวเปลือกขายให้กับโรงสีทั่วไป
“อาชีพรับจ้างเกี่ยวนวดข้าว เป็นอาชีพที่ต้องศึกษาเกี่ยวกับ รถเกี่ยวข้าว ให้เป็นอย่างดี เพราะบางคนซื้อมาไม่ถึง 3 ปี ก็ไม่ไหว เพราะรถพัง เพราะไม่ได้ศึกษา จึงไม่รู้ว่ารถเสียหายตรงไหนบ้าง เมื่อรถเสีย ทำงานไม่ได้ ก็จะเสียงาน รายได้ไม่ถึงล้านก็ขาดทุน แต่ถ้าคนพื้นที่อื่นมาซื้อ แต่ซ่อมไม่เป็น ผมก็ไม่อยากขาย ต้องถามว่าซ่อมเป็นไหม ต้องมีคนที่ซ่อมเป็นในทีม การซื้อ รถเกี่ยวข้าวมือสอง ทั่วไปก็ต้องดูด้วยว่าจะเอาไปใช้ในงานที่หนัก หรือเบา แค่ไหน ต้องดูงานที่ทำเป็นหลักด้วย”
ขอขอบคุณข้อมูล และสามารถ ปรึกษาสอบถามข้อมูล การเกี่ยวข้าว ได้ที่ คุณวัลลภ ชาวอบทม (หากบอกว่ามาจาก พลังเกษตร.com) โทร. 089-260-9329