กระแสสารปรับปรุงดินแรงขึ้น เพราะปุ๋ยเคมีแพง อันเนื่องมาจากสงครามยูเครน-รัสเซีย แม้ราคาปุ๋ยจะถูกลง แต่กระแสสารปรับปรุงดินก็ยังเหมือนเดิม
นั่นก็เพราะเกษตรกรสัมผัสได้ว่า “ดิน” ที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น มีธาตุอาหารเพิ่มขึ้น พืชสามารถนำธาตุอาหารที่ถูกตรึงจากการใช้ปุ๋ยเคมีไปใช้ได้ ทำให้ผลผลิตดีขึ้น และลดการใช้ปุ๋ยเคมีลง
คนที่ไม่กล้าลองก็ต้องซื้อปุ๋ยเคมีต่อไปเป็นเรื่องปกติ
การผลิตสารปรับปรุงดิน
สารปรับปรุงดิน แบรนด์ พืชสมบูรณ์ เป็นที่รู้จักของเกษตรกรทุกจังหวัด เพราะผู้ใช้ศรัทธาใช้ซ้ำ และยังบอกให้คนอื่นใช้ต่อ เป็นผลิตภัณฑ์ภายใต้การตลาดแบบ “บอกต่อ” และใช้ซ้ำ ถูกพิสูจน์กับดินแต่ละโซนทั่วประเทศ กับพืชหลายชนิด เห็นผล คุ้มค่ากับการลงทุน
การผลิตสารปรับปรุงดินให้มี “คุณภาพ” ตั้งแต่การคัดสรรเลือกวัตถุดิบที่นำมาใช้ผลิต ทำให้การผลิตสม่ำเสมอ ทุกล็อตของการผลิต โดยเฉพาะโรงงาน “ปั้นเม็ด” ต้องมีฝีมือ และความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า
แบรนด์ พืชสมบูรณ์ ลงตัวทั้ง 2 อย่าง นั่นคือ เจ้าของแบรนด์เป็นลูกชาวนาเมืองร้อยเกิน คุณนัทพงษ์ มรรคนันท์ (คุณนัท) และ คุณภัทรานิษฐ์ เดชอิสริยโยธิน (คุณไก่) เป็นผู้เชี่ยวชาญคิดสูตรและคัดสรรวัตถุดิบต่างๆ ที่เป็นองค์ประกอบของสารปรับปรุงดินคุณภาพ โดยวิเคราะห์คุณสมบัติของดินแต่ละภาคให้สัมพันธ์กัน ไม่ว่าจะเป็น ดินทราย ดินเหนียว หรือ ดินดำ จะต้องได้รับสูตรสารที่สัมพันธ์กัน เพื่อให้ดินดีขึ้น และเหมาะกับพืชที่เพาะปลูกด้วย
การบำรุงดูแลพืชผัก
“สารปรับปรุงดิน แบรนด์ พืชสมบูรณ์ จะมีธาตุอาหารหลัก NPK ธาตุอาหารรอง และ ธาตุอาหารเสริม ครบ และมีกลุ่มกรดอะมิโนด้วย” คุณไก่ เปิดเผย และยืนยันว่า วัตถุดิบแต่ละตัว คุณไก่และคุณนัทจะเป็นคนคัดเลือกเอง และ กรดอะมิโน ที่เป็นวิตามินพืช 18 ชนิด ก็นำเข้าเอง โดย บริษัท อัพ ทู การเกษตร จำกัด
แม้แต่มูลสัตว์ อย่าง ขี้ไก่ไข่ และ ขี้หมู ที่ไม่ได้เลี้ยงในเล้าอีแวป ก็เป็นคนจัดหาเอง ทั้ง 2 อย่าง มีธาตุอาหารที่จำเป็นต่อพืช วันนี้คุณไก่ยืนยันว่า ขี้ควาย ที่มีธาตุไนโตรเจนสูงหายากมากขึ้น แต่ด้วยความที่โรงงานปั้นเม็ดมืออาชีพ ทำให้การสูญเสียน้อย เวลาปั้นก็ทำให้การผลิตมีคุณภาพ เม็ดสวย ง่ายต่อการหว่านมือ และหว่านเครื่อง
การเริ่มธุรกิจผลิตสารปรับปรุงดินคุณภาพ แบรนด์ พืชสมบูรณ์ ตั้งแต่ปี 2557 เป็นเวลาเกือบ 10 ปี ในวงการธุรกิจเติบโตมาตลอด โดยเฉพาะในช่วงที่ปุ๋ยเคมีราคาแพง เกษตรกรหันมาใช้สารปรับปรุงดิน แบรนด์ พืชสมบูรณ์ มากขึ้น
การบริหารบุคลากร
ในด้านการตลาด บริษัทจะเน้นพนักงาน หรือ เซลล์ เป็นหลัก เพราะเจาะจงเกษตรกร ผู้ใช้ โดยตรง ไม่มุ่งเอเยนต์เหมือนหลายๆ แบรนด์ ดังนั้นการเทรนด์หรืออบรมพนักงานขายร่วม 100 คน ให้รู้จักโปรดักส์เป็นอย่างดี พร้อมวิธีการใช้ที่ถูกต้อง จึงเป็นภารกิจหลักของบริษัท
เป็นโปรดักส์ที่ต้องใช้ร่วมกับปุ๋ยเคมี จึงจะได้ผลผลิตที่สมบูรณ์ “ต้องเจอกันคนละครึ่งทาง ให้เขาใช้ผสมผสานแนวทางของเราเป็นอย่างนี้ เพราะอย่างน้อยถ้าเขาลดครึ่งหนึ่ง การใช้ปุ๋ยเคมีจะลดลง ต้นทุนหายไปครึ่งหนึ่ง กำไรจะมากขึ้น” คุณไก่ ยืนยันถึงแนวทางการตลาด
การใส่ปุ๋ย พืชผัก ข้าว
การใช้สารปรับปรุงดินอินทรีย์ ผลผลิตจะช้ากว่าปุ๋ยเคมี ซึ่งใช้แล้วเขียวไว ทันใจ แต่เมื่อหมดฤทธิ์เคมี อินทรีย์ยังคงเขียวให้เห็น โรคแมลงไม่ค่อยรบกวน เพราะต้นพืชแข็งแรง เหมือนพืชได้รับวัคซีนนั่นเอง “การใช้ปุ๋ยเคมีจะได้ NPK เต็มๆ แต่ธาตุรอง ธาตุเสริม ไม่มี หรือมีแต่น้อย เราจึงต้องเติมอินทรีย์พร้อมกับเคมี” คุณไก่ ย้ำถึงการตั้งเป้าโปรดักส์ให้สอดคล้องกับการใช้ปุ๋ยของเกษตรกร
อย่างเรื่อง “ข้าว” มีทั้ง นาปี นาปรัง เมื่อใส่สารปรับสภาพดิน ตรา พืชสมบูรณ์ 4 เดือน ต้นข้าวใบตั้ง สมบูรณ์และเขียวขึ้น แสดงว่าตอบโจทย์ โดยใส่ 3 รอบ/ครอป ไร่ละ 25 กก. ซึ่งคุณไก่บอกว่า ถ้าเป็นข้าวนาปีใส่ครั้งแรกเพื่อรองพื้น แต่เมื่อข้าวออกรวงก็ต้องใส่ปุ๋ยเคมี 0-0-60 เพื่อน้ำหนัก แต่ทั้งนี้แล้วแต่สภาพดินด้วย ถ้าดินเหนียว หรือดินทราย จะใช้สูตรเคมีที่แตกต่างกันไป
การให้ความรู้แก่เกษตรกร
เนื่องจาก แบรนด์ พืชสมบูรณ์ มี 2 สูตร ได้แก่ “กระสอบสีเขียวจะเน้นอินทรีย์เคมี” และ “กระสอบสีน้ำเงินจะเป็นธาตุรอง ธาตุเสริม” ดังนั้นเวลาใช้ต้องดูด้วยว่าพืชต้องการอะไร และชุดดินเป็นอย่างไร ถ้าเป็นพืชหัว เช่น มันสำปะหลัง ไม่จำเป็นต้องใช้ปุ๋ยเคมีก็ได้ “มันสำปะหลังเป็นพืชผลผลิตอยู่ในดิน เราจึงต้องให้ความรู้แก่เกษตรกร ตั้งแต่เตรียมดิน ต้องตีดินให้ร่วน ต้องเน้นปรับปรุงดินให้ร่วนซุย การเก็บหญ้าก็สำคัญ
ทีมงานต้องศึกษาขนาดของพันธุ์มันฯ ว่าเหมาะกับดินอะไร อย่างโซนดินเหนียวดำ มันฯจะชอบ ถ้าอีสานใช้ห้วยบง หรือระยอง ใช้ไม่ได้เลย เราต้องบอกวิธีปลูกกับลูกค้า ระยะห่างแต่ละพันธุ์ หัวสั้น หัวยาว ไม่เท่ากัน เกษตรกรไม่ค่อยมีความรู้ ยังปักถี่อยู่ เมื่อหัวใหญ่เกยกัน จะหยุดการเติบโต” คุณไก่ ให้ความเห็น
หรือพืชสวน อย่าง “ทุเรียน” ต้องใส่ต้นละ 3-5 กก. 2-3 ครั้ง เพื่อฟื้นฟูต้น จะใส่ร่วมกับปุ๋ยเคมีก็ได้ ซึ่งการติดตามผลการใช้ของเกษตรกรเป็นหน้าที่ของเซลล์ทุกคน และเมื่อเริ่มเก็บผลผลิตก็ต้องประเมินผลเก็บสถิติว่าสูตรที่แนะนำให้ใช้เป็นอย่างไร ต้นทุนลดลงกี่เปอร์เซ็นต์ เป็นต้น ทุกคนต้องเป็น “นักส่งเสริม” เป็นที่ปรึกษาให้กับเกษตรกร และแนะนำให้ถูกต้อง ไม่ใช่ใช้แล้วทิ้งขว้าง ให้เกษตรกรรับกรรม
ด้านตลาดและช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ แบรนด์ พืชสมบูรณ์
“บริษัทฯ เน้นการบริการหลังการขาย โดยจะดูแลและติดตามผลเกษตรกรผู้ใช้ทุกราย เกษตรกรจึงพึงพอใจ และประทับใจ ใน แบรนด์ พืชสมบูรณ์” คุณไก่ ย้ำถึงการผลักดันให้ลูกค้าใช้เพื่อบอกต่อ ซึ่งได้ผลดีมาก
ดังนั้นทางบริษัทฯ จึงไม่ใช้หลักการตลาดแบบทดลองให้ดูก่อน ต้องการให้เปิดใจใช้เลย แค่ 1 กระสอบ ก็เห็นผล และไม่เน้นวางขายที่ร้านปุ๋ย ยา หรือเอเยนต์ ขายแบบ “เงินสด” อย่างเดียว เพราะเคยพลาดแบบให้เครดิตมาแล้ว
เมื่อสภาวะ โลกเดือด เกิดทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย การขาดน้ำเพื่อการระบาดทั่วไทย ส่งผลกระทบต่อการขาย สารปรับปรุงดิน หรือปุ๋ยทางดิน เนื่องจาก “น้ำฝน” ไม่พอ และเกษตรกรรายย่อยต้องอาศัยน้ำฝน ดังนั้นคุณไก่จึงต้องผลิต “ผลิตภัณฑ์ชนิดน้ำ” เพื่อฉีดพ่นทางใบ แม้ฝนจะน้อยก็ไม่มีปัญหา ขณะนี้กำลังดำเนินการขอขึ้นทะเบียนจากกรมวิชาการเกษตร เมื่อมีผลิตภัณฑ์ 2 กลุ่ม ก็ทำตลาดได้ทั้งปี และทั่วประเทศ
ในทางธุรกิจ บริษัท อัพ ทู การเกษตร จำกัด ถือว่าประสบความสำเร็จมาก ยอดขายปีละหลายล้านบาท แบรนด์ พืชสมบูรณ์ ติดตลาด เพราะฝีมือจริงๆ
ดังนั้นการใช้ สารอินทรีย์ เพื่อปรับปรุง บำรุงดิน บำรุงพืช ให้ได้ธาตุอาหารครบ จนพิสูจน์ได้ในพืชหลายชนิด และเมื่อเกิดวิกฤตภัยแล้งก็ ปรับตัว เร่งผลิต ผลิตภัณฑ์ชนิดน้ำ เป็นการบ่งบอกวิสัยทัศน์ของผู้บริหารโดยแท้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท อัพ ทู การเกษตร จำกัด 126 หมู่บ้านวิมเบอร์รี่โฮม ซอยลาซาล 1 แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ 10260 สำนักงานใหญ่ คุณไก่ 092-256-6909 ภาคอีสาน คุณธนาภู 095-285-1564 ภาคเหนือ คุณศิริลักษณ์ 082-173-8879