ปลูกผัก แตงกวา วิธี การปลูกแตงกวา (แบบละเอียด)
วิธี การปลูกแตงกวา
อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการงอกของเมล็ดระหว่าง 25-30 องศาเซลเซียส สามารถเจริญเติบโตได้ผลดี ระหว่างอุณหภูมิ กลางวัน 22-28 องศาเซลเซียส
แตงกวาเป็นพืชที่ไม่ต้องการน้ำมาก แต่ขาดน้ำไม่ได้ โครงสร้างของดินที่ปลูกแตงกวาควรมีลักษณะเป็นดินร่วนปนทราย มีระยะน้ำดี ควรมีความเป็นกรดด่าง (pH) อยู่ระหว่าง 5.5-6.5 ในสภาพดินที่เป็นดินทรายจัด หรือเหนียวจัด จำเป็นต้องปรับปรุงดินก่อนการปลูก
จำเป็นต้องปรับปรุงดินก่อนการปลูก
โดยดินที่เป็นดินทรายจัด หรือเหนียวจัด จำเป็นต้องปรับปรุงดินก่อนการปลูก โดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก ที่สลายตัวแล้ว และสภาพความเป็นด่างนั้น ควรจะวิเคราะห์หาค่าความต้องการปูนก่อน ที่จะใช้ปูนขาวเพื่อให้มีการใช้ในปริมาณที่เหมาะสม
ขั้นตอนการเตรียมดิน-เตรียมเมล็ดพันธุ์
การเตรียมดิน ก่อนการปลูกแตงไถพรวนดินตากไว้ประมาณ 7-10 วัน เพื่อทำลายวัชพืช และศัตรูพืชบางชนิดที่อยู่ในดิน จากนั้นจึงไถพรวนเก็บเอาเศษวัชพืชออก แล้วเตรียมแปลงขนาดกว้าง 1-1.2 เมตร โดยมีความยาวตามลักษณะของพื้นที่ แล้วจึงใส่ปุ๋ยอินทรีย์ลงไป ปรับโครงสร้างของดินให้เหมาะกับการเจริญเติบโตของแตงกวา
การเตรียมหลุมปลูกนั้นควรกำหนดระยะระหว่างต้นประมาณ 60-80 เซนติเมตร ระหว่างแถวประมาณ 1 เมตร สำหรับการใส่ปุ๋ยเคมีรองพื้นนั้นอาจใช้สูตร 15-15-15 ในอัตรา 30-50 กิโลกรัม ต่อไร่ ในบางแหล่งอาจใช้ พลาสติกคลุมดินเพื่อรักษาความชื้นในดิน ป้องกันความงอกของวัชพืช และพลาสติกบางชนิด สามารถที่จะไล่แมลงไม่ให้เข้ามาทำลายแตงกวาได้
ขั้นตอนการเตรียมเมล็ดพันธุ์
การเตรียมพันธุ์ ขั้นตอนการเตรียมพันธุ์นับว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญใน การปลูกแตงกวา แบ่งได้ดังนี้
1.การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ แตงกวา ควรคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ที่มีความสมบูรณ์ ซื้อจากร้านค้าให้เลือกซื้อ
2.การเตรียมดินเพาะกล้า อัตราส่วนดิน : ปุ๋ยคอก 3 : 1 และใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 12-24-12 อัตรา 0.5 กิโลกรัม ต่อต้นกล้า 1 ไร่ คลุกให้เข้ากัน แล้วบรรจุลงในถุงพลาสติกขนาด 6×10 เซนติเมตร เพื่อเตรียมสำหรับหยอดเมล็ด แตงกวา ต่อไป
3.ทำการบ่มเมล็ด โดยนำเมล็ดบรรจุพลาสติกที่เจาะรูพรุนแช่ในสารละลายเคมี ป้องกันและกำจัดศัตรูพืช เช่น แคปเทนออโธไซด์ ผสมอัตรา 5 กรัม ต่อน้ำ 1 ลิตร แช่เมล็ดนาน 30 นาที เพื่อทำลายเชื้อราที่เมล็ด จากนั้นนำมาแช่น้ำ 4 ชั่วโมง แล้วจึงบ่มในผ้าชุบน้ำหมาดๆ ซึ่งบรรจุอยู่ในถุงพลาสติก รัดปากถุงให้แน่น บ่มในสภาพอุณหภูมิห้องนาน 24 ชม. หลังจากรากงอกยาว 0.5 เซนติเมตร จึงนำไปเพาะต่อไป
4.การหยอดเมล็ดลงถุง นำเมล็ดที่ได้บ่มไว้หยอดลงถุง จำนวนถุงละ 1 เมล็ด แล้วใช้ดินผสมหยอดกลบบางประมาณ 1 เซนติเมตร
การบำรุงดูแลรักษา ต้นแตงกวา
การดูแลรักษากล้า หลังจากหยอดเมล็ดแล้วให้น้ำทันที โดยวิธีฉีดพ่นให้เป็นฝอยละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้ ปริมาณน้ำที่ให้นั้นไม่ควรให้ปริมาณที่มากเกินไป ในช่วงฤดูร้อนควรจะให้วันละ 1 ครั้ง ทั้งนี้ให้ตรวจความชื้นก่อนการให้น้ำทุกครั้ง ถุงเพาะกล้านี้ควรเก็บไว้ในที่แดดไม่จัด มีการใช้วัสดุกันแสงไม่ให้มากระทบต้นกล้ามากเกินไป
เมื่อแตงกวาเริ่มงอกให้หมั่นตรวจดูความผิดปกติของต้นกล้าเป็นระยะๆ หากมีการระบาดของแมลง หรือโรคพืช ต้องรีบกำจัดโดยเร็ว และเมื่อต้นกล้ามีใบจริงประมาณ 5-4 ใบ จะอยู่ในระยะพร้อมที่จะย้ายปลูก
การให้น้ำ-การใส่ปุ๋ยต้นแตงกวา
การให้น้ำ หลังจากย้ายกล้าปลูกแล้วต้องให้น้ำทันที ระบบการให้น้ำนั้นจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ แต่ระบบที่เหมาะสมกับแตงกวา คือ การให้น้ำตามร่อง เพราะว่าจะไม่ทำให้ลำต้นและใบไม่ชื้น ลดการลุกลามของโรคพืชทางใบ ช่วงเวลาให้น้ำ ระยะแรกควรให้ 2-3 วัน ต่อครั้ง
และเมื่อต้นแตงกวาเจริญเติบโตจึงปรับช่วงเวลาให้น้ำนานขึ้น ควรคำนึงสำหรับการให้น้ำต้องกระจายในพื้นที่สม่ำเสมอตลอดแปลง ตรวจดูความชื้นในดินไม่ให้สูงเกินไปจนกลายเป็นแฉะ เพราะทำให้รากเน่าได้
การใส่ปุ๋ย การใส่ปุ๋ยในแตงกวาแบ่งเป็นระยะต่างๆ ดังนี้
1.ระยะเตรียมดิน ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก อัตรา 1-2 ต้นต่อไร่ ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ 12-24-12 อัตราประมาณ 20-30 กิโลกรัม ต่อไร่
2.หลังย้ายปลูกประมาณ 7 วัน ใส่ปุ๋ยที่มีไนโตรเจน เช่น ยูเรีย หรือแอมโมเนียซัลเฟต ในอัตราประมาณ 20 กิโลกรัม ต่อไร่
3.ระยะแตงกวาออกดอก ซึ่งจะใช้ระยะเวลาประมาณ 25 วัน หลังจากย้ายที่หลังใส่ปุ๋ย 15-15-15 หรือ 12-24-12 ประมาณ 20-30 กิโลกรัม ต่อไร่ หลังจากใส่ปุ๋ยเคมีทุกครั้งพรวนดิน
ปลูกผัก แตงกวา การปลูกแตงกวา ปลูกแตงกวา ปลูกผักสวนครัว ผักสวนครัว วิธีปลูกแตงกวา การปลูกผักสวนครัว