นวัตกรรมรวยด้วยพืช ในโรงเรือน มะเขือเทศ พัฒนาการปลูกพืชอย่างต่อเนื่อง

โฆษณา
AP Chemical Thailand

ในที่สุดโลกก็แบ่งการปลูกพืชเป็น 2 ระบบ ปลูกในที่เปิด และ ปลูก ในโรงเรือน เหมือนการเลี้ยงสัตว์

ทั้ง 2 รูปแบบ มี “เป้าหมาย” เหมือนกัน แต่ “วิธีการ” ต่างกัน

ประเทศไทยก็เหมือนหลายๆ ประเทศ ที่ปลูกพืชทั้ง 2 ระบบ โดยเฉพาะปลูกในโรงเรือน  เริ่มเป็นกระแสที่แรง เพราะ “กัญชง-กัญชา” ทำให้เกิดสีสัน ปลูกในโรงเรือนชัดเจน

นิตยสารพลังเกษตร ฉบับนี้ ได้นำเรื่องการปลูกมะเขือเทศในโรงเรือน ในประเทศอิสราเอล และจะถูกนำมาขยายผลในไทยในปีนี้

ประเทศอิสราเอล เป็นประเทศที่มีข้อจำกัดด้านทรัพยากรธรรมชาติอย่างมาก ดังนั้นการลงทุนปลูกพืชจึงต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและองค์ความรู้ ให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ ดิน ฟ้า อากาศ ในประเทศ จึงต้องวิจัยและพัฒนาการปลูกพืชอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ผลผลิตสูง และมีคุณภาพ

ภายใต้ข้อจำกัดด้านทรัพยากร แม้จะถูกจำกัดด้านทรัพยากร แต่กลับเป็นที่ยอมรับในด้านผู้นำเทคโนโลยีการปรับปรุงพันธุ์พืช โดยเฉพาะมะเขือเทศ และการปลูกพืชในโรงเรือนเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ครองส่วนแบ่งตลาดมะเขือเทศโลก โดยเฉพาะภูมิภาคอเมริกา และ ยุโรป

โฆษณา
AP Chemical Thailand
1.คุณสุธี ชำนาญไพร
1.คุณสุธี ชำนาญไพร

การปลูกมะเขือเทศ

ฉบับนี้ผู้เขียนมีโอกาสได้พูดคุยกับ คุณสุธี ชำนาญไพร หนึ่งในแรงงานไทยที่เป็นลูกจ้างในฟาร์มปลูกมะเขือเทศ ณ หมู่บ้าน Moshav Gan Yoshiya เขต Ahituv Israel ให้ข้อมูลการปลูกและดูแลมะเขือเทศเพื่อให้ได้ผลผลิตสูง และสามารถเก็บผลผลิตได้นานถึง 10 เดือน เพื่อเป็นแนวทางสำหรับการปลูกและพัฒนามะเขือเทศในประเทศไทย

โดยคุณสุธีให้ข้อมูลว่า ตนเป็นคนพื้นเพ ต.หลุ่งประดู่ อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา ประมาณปี 2559 ได้เดินทางมาเป็นแรงงานในภาคเกษตรในประเทศอิสราเอลผ่านกรมแรงงาน ได้รับค่าตอบแทนไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท/เดือน เป็นเวลากว่า 6 ปีแล้ว ที่มาทำงานในฟาร์มแห่งนี้ ซึ่งนายจ้างปลูกมะเขือเทศในระบบโรงเรือนเป็นหลัก

2.มะขือเทศ Rina
2.มะขือเทศ Rina
มะเขือเทศ Montaroza
มะเขือเทศ Montaroza
มะเขือเทศ Chaob
มะเขือเทศ Chaob
มะเขือเทศ Papaya tomato
มะเขือเทศ Papaya tomato

สายพันธุ์มะเขือเทศ

สายพันธุ์มะเขือเทศที่นิยมปลูกเป็นการค้ามีอยู่ประมาณ 30 สายพันธุ์ แต่ที่ฟาร์มนายจ้างจะปลูกอยู่ประมาณ 10 สายพันธุ์ ได้แก่ Belinda, Tiger, Megi Montaroza, Raf, Chaob, Plum, Papaya tomato, Rina และ Vermelio เป็นต้น

มะเขือเทศ Belinda
มะเขือเทศ Belinda

แต่สายพันธุ์ที่ต้องปลูกอยู่ตลอด และตลาดต้องการ คือ มะเขือเทศ Belinda เพราะมีจุดเด่นด้านรสชาติที่จัดจ้าน หวานนำเปรี้ยว และไม่มีกลิ่นฉุน ซึ่งการปลูกมะเขือเทศของที่นี่จะปลูก 2 ระบบ คือ 1.ปลูกในระบบโรงเรือน 2.ปลูกนอกโรงเรือน ส่วนการปลูกในโรงเรือน แต่ละโรงเรือนจะมีขนาดไม่เท่ากัน บางโรงเรือนใช้พื้นที่ 1 ไร่ ไปจนถึง 8 ไร่

อุณหภูมิที่เหมาะสม เจริญเติบโตได้ดี คือ อุณหภูมิ ราวๆ 25 -35 องศา กำลังดี  ถ้าอากาศเย็นมากก็จะทำให้มะเขือเทศสุกช้า หรือถ้าร้อนมาก แดดแรงเกินไป ทำให้ลูกมะเขือเทศมีขนาดเล็ก และสุกเร็ว

3.การปลูกมะเขือเทศในระบบโรงเรือนปิด ขนาดใหญ่
3.การปลูกมะเขือเทศในระบบโรงเรือนปิด ขนาดใหญ่

สภาพพื้นที่ปลูกมะเขือเทศ

เริ่มจากการคัดเลือกสายพันธุ์มะเขือเทศที่จะปลูก จากนั้นนำไปปลูกลงในดินที่มีส่วนผสมของกากมะพร้าวที่ผ่านการอบฆ่าเชื้อ เพื่อฆ่าเชื้อโรคที่อาจติดมากับกากมะพร้าว ดิน รวมทั้งกำจัดวัชพืช แล้วนำไปเข้าเครื่องเพื่อหยอดเมล็ดบนถาดปลูกขนาด 120 หลุม และรดน้ำลงบนถาดปลูก จากนั้นนำเข้าห้องอนุบาลต้นกล้าเป็นเวลาประมาณ 2 อาทิตย์ เมื่อต้นกล้างอกออกมาจนสูงประมาณ 5-10 เซนติเมตร และเมื่อต้นสูงประมาณ 20 เซนติเมตร จะนำออกจากถาดเก่าแล้วนำใส่ถาดปลูกใบใหม่ที่ใหญ่กว่า

โฆษณา
AP Chemical Thailand

ขั้นตอนการเพาะ คุณสุธีให้ข้อมูลว่า ที่ฟาร์มจะจ้างให้บริษัทข้างนอกเพาะต้นกล้า ซึ่งเป็นต้นกล้ามะเขือเทศแบบเสียบยอด จะทำให้ต้นแข็งแรง รากเยอะ ตอบสนองปุ๋ยดี ทนต่อโรค อายุเก็บเกี่ยวนานกว่าต้นที่ไม่ได้เสียบยอด เมื่อต้นกล้าได้อายุที่เหมาะสม จึงนำมาส่งที่ฟาร์มเพื่อนำไปปลูกต่อในโรงเรือน

การเตรียมดินก่อนปลูกจะตีดินให้ละเอียด และวางสายยางน้ำหยดแบบคู่ คือ 1 ร่อง วางสายยางคู่ 2 เส้น มีระยะห่างระหว่างสาย 60 ซม. ปูพลาสติกแต่ละร่องเพื่อคลุมดิน เจาะรูให้ได้ระยะ และนำมะเขือเทศมาปลูกในระยะห่าง 50 ซม. เมื่อปลูกมะเขือเทศลงดินอายุประมาณ 1 เดือน จะใช้แรงงานคัดต้นมะเขือเทศที่สมบูรณ์ไว้ 1 ต้น และเลือกแขนงที่สมบูรณ์ที่สุดไว้ 2 แขนง ให้ได้ต้นมะเขือเทศและกิ่งแขนงที่อยู่ในรูปตัว Y เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการ ส่วนแขนงที่เกินมาจะตัดทิ้งหมด

4.ระบบเก็บปุ๋ยน้ำที่ควบคุมการเปิด-ปิดผ่านระบบมือถือ
4.ระบบเก็บปุ๋ยน้ำที่ควบคุมการเปิด-ปิดผ่านระบบมือถือ

การให้ปุ๋ยในระบบน้ำ Fertigation

ภายในโรงเรือนสำหรับปลูกต้นมะเขือเทศนั้น จะติดตั้งระบบน้ำหยดแบบสายคู่ไว้ทุกโรงเรือน และให้ปุ๋ยผ่านระบบน้ำ ทางฟาร์มจะมีสูตรปุ๋ย แต่ไม่รู้ว่ามีอะไรบ้าง เป็นความลับของบริษัท นายจ้างซื้อปุ๋ยน้ำผสมสำเร็จมาเป็นรถใหญ่ และเปิดใส่ถังไว้แล้วปล่อยไปตามท่อน้ำหยด ระบบ fertigation จะให้น้ำและปุ๋ยไปพร้อมกัน ตามเวลาที่นายจ้างสั่งผ่านมือถือ เป็นระบบการให้ปุ๋ยที่มีประสิทธิภาพมาก ช่วยลดการชะล้างปุ๋ยลงนอกเหนือรากพืช ใช้เวลาในการดูแลประมาณ 3 เดือน ถึงจะให้ผลผลิต

“ผมยอมรับเลยว่า ระบบให้ปุ๋ยผ่านระบบน้ำดีมากๆ  ลองนำเมล็ดผักที่เมืองไทยมาปลูกไว้ทานเอง ปลูกแซมในในร่องมะเขือเทศ เช่น คะน้า ผักชี จะเจริญเติบโตเร็ว ต้นใหญ่ ใบเขียว สมบูรณ์” คุณสุธีกล่าว

5.การแต่งใบ เลือกตัดใบทิ้งเฉพาะผลที่จะเริ่มเก็บ
5.การแต่งใบ เลือกตัดใบทิ้งเฉพาะผลที่จะเริ่มเก็บ

เทคนิคการโหลดต้นมะเขือเทศ

ฟาร์มที่นี่จะใช้เทคนิคการโหลดต้นมะเขือเทศ เพื่อที่จะให้เก็บได้นานถึง 10 เดือน  คือ การย่อต้นให้ต่ำแล้วจะมัดยอดขึ้นใหม่ ต้นจะอยู่ได้ 6-7 เดือน แต่ถ้าเราโหลดต้นเหมือนนอนต้นและมัดยอดขึ้นใหม่ ใส่ปุ๋ย รดน้ำ ต้นมะเขือเทศจะให้ผลผลิตต่อเนื่องและยาวนานขึ้น ซึ่งขั้นตอนการโหลดต้นจะใช้แรงงานคนไทยจำนวน 8 คน มีทั้งหมด 9 โรงเรือน

กิจกรรมในแต่ละวันเริ่มปลูกตั้งแต่ 1 เดือน ต้นกล้ามีขนาดยาว 1 ฟุต จะมัดต้นขึ้น ต้นด้วยเชือก เมื่อต้นโตขึ้นจะแต่งใบ ไม่ให้รกมาก ดูหญ้าหรือวัชพืช สำรวจโรคที่เกิดขึ้นกับมะเขือในโรงเรือน โรคในมะเขือเทศก็คล้ายกับประเทศไทย คือ โรคหลัก “หนอนชอนใบ” ที่เข้าทำลายเจาะผลและใบมะเขือเทศ เป็นสาเหตุทำให้ผลผลิตลดลง เพลี้ยไฟ ไรแดง

โฆษณา
AP Chemical Thailand
6.มะเขือเทศที่เก็บได้จะถูกนำมาบรรจุใส่กล่อง
6.มะเขือเทศที่เก็บได้จะถูกนำมาบรรจุใส่กล่อง

ด้านตลาดและช่องทางจำหน่ายมะเขือเทศ

การเก็บผลผลิตของมะเขือเทศภายในฟาร์ม คุณสุธีบอกว่า จะเก็บมะเขือเทศแต่ละสายพันธุ์ที่ปลูกไว้ในโรงเรือนตาม ออเดอร์ของลูกค้าที่สั่งซื้อผ่านนายจ้าง โดยจะเก็บมะเขือเทศคละไซซ์ บรรจุใส่ในบล็อกพลาสติก น้ำหนัก 1.3 กก./กล่อง ราคาประมาณ 12-13 นิวเชเกลอิสราเอล/กก. ซึ่งส่วนใหญ่จะขายผ่าน shop เหมือนพ่อค้าคนกลางบ้านเรา แล้วนำไปส่งต่อที่ shopใหญ่ และนายจ้างจะขายปลีกด้วยเช่นกัน มีหน้าร้านที่ฟาร์ม ราคาขายประมาณ 20 นิวเชเกลอิสราเอล/กก.

ต้องยอมรับว่าการปลูกมะเขือเทศในโรงเรือนของประเทศอิสราเอล มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และมะเขือเทศยังเป็นพืชที่นิยมรับประทานกันมากที่สุดในโลก อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามินซี วิตามิเอ วิตามินเค วิตามินพี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส และ ธาตุเหล็ก และยังมีสาร จำพวกไลโคปีน (Lycopene) แคโรทีนอยด์ เบตาแคโรทีน และ กรดอะมิโน มีสรรพคุณช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด ขับปัสสาวะ รักษาความดัน

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล คุณสุธี ชำนาญไพร หรือ คุณรุจิรา เทพวงค์ 105 หมู่ 3 ต.หลุ่งประดู่ อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา 30240 โทร.086-723-0356

อ้างอิง : นิตยสารพลังเกษตร ฉบับที่ 23