ในประเทศไทยมีการปลูกว่านหางจระเข้กันอย่างแพร่หลาย แต่แหล่งที่ปลูกว่านหางจระเข้เยอะที่สุดในประเทศ ได้แก่ ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเกษตรกรผู้ปลูกหนึ่งในนั้น คือ คุณธงชัย เทียนอิ่ม
สมัยก่อนคุณธงชัยทำไร่อ้อย และเปลี่ยนมาปลูกสับปะรด แต่หลังจากว่านหางจระเข้มีกระแสการบริโภคที่มากขึ้น และราคาการรับซื้อที่สูงถึงกิโลกรัมละ 12-15 บาท จึงทำให้คุณธงชัยหันมาปลูกว่านหางจระเข้ตั้งแต่นั้นมา
วิธีการปลูกและการดูแลรักษา
- การขยายพันธุ์ ว่านหางจระเข้สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การแยกหน่อ การตัดเหง้า การปักชำยอด และการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ แต่วิธีที่คุณธงชัยใช้จะเป็นวิธีที่นิยม และสะดวกที่สุด คือ การขยายพันธุ์ด้วยวิธีการแยกหน่อ
- การเตรียมดินปลูก ทำการไถแปรให้ดินร่วน พร้อมกำจัดวัชพืช ยกร่องกว้างประมาณ 1.10-1.20 เมตร ระยะห่างระหว่างปลูกประมาณ 50 เซนติเมตร
- การปลูก ขุดหลุมปลูกลึกประมาณ 1 ฝ่ามือ และนำต้นกล้าที่เตรียมไว้ใส่หลุมปลูก กลบดินให้แน่นพอประมาณ พร้อมรดน้ำให้ชุ่ม ภายใน 1 ไร่ ของคุณธงชัยจะสามารถปลูกว่านหางจระเข้ ได้ประมาณ 2,500 ต้น ขึ้นอยู่กับระยะห่างระหว่างต้นที่ปลูก
- การให้น้ำ ถ้าเป็นช่วงฤดูฝนไม่จำเป็นต้องรดน้ำ หน้าแล้งควรรดอาทิตย์ละ 1 ครั้ง นานๆ ครั้งๆ ละ 20-30 นาที คุณธงชัยจะใช้น้ำด้วยระบบสปริงเกลอร์เพื่อสะดวกในการให้น้ำในแต่ละครั้ง เพราะพื้นที่ที่ปลูกว่านหางจระเข้ ของที่นี่มีจำนวนมาก การให้น้ำด้วยสปริงเกลอร์จึงเป็นวิธีที่ง่าย และสะดวก ใน 1 ไร่ จะใช้หัวสปริงเกลอร์ประมาณ 100 หัว ระยะห่างในแต่ละหัวจะอยู่ที่ประมาณ 4 เมตร
- การให้ปุ๋ย จะเน้นเป็นปุ๋ยสูตรตัวหน้าสูง 25-7-7 ใส่ปีละ 1 ครั้ง ดูตามสภาพแวดล้อม ถ้าต้นโทรมมากก็ใส่ปีละ 2 ครั้ง เพื่อให้ต้นว่านหางจระเข้มีอาหารและแร่ธาตุเพียงพอต่อความต้องการ
ปลูกว่านหางจระเข้ ปลูกง่าย รายได้ดี
ในประเทศไทยพบมีการปลูกว่านหางจระเข้มากในจังหวัดปราจีนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และราชบุรี เนื่องจากมีการตั้งโรงงานแปรรูปและรับซื้อเพื่อทำเป็นผลิตภัณฑ์ว่านหางจระเข้ และเพื่อส่งออกในรูปของใบสด ที่ส่งจำหน่ายทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ว่านหางจระเข้เป็นพืชที่เติบโตได้ดีในดินร่วนซุย ดินร่วนปนทราย ที่มีหน้าดินลึก และระบายน้ำได้ดี ไม่ชอบน้ำท่วมขัง และชอบพื้นที่ที่แสงส่องทั่วถึง
เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคว่านหางจระเข้มีจำนวนเพิ่มขึ้น และที่สำคัญว่านหางจระเข้สามารถนำมาแปรรูปในรูปแบบของยาสระผม ครีมทาผิว หรือนำมาทำเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ จึงไม่น่าแปลกใจเท่าใดนักที่ความต้องการว่านหางจระเข้นั้นเพิ่มมากขึ้นกว่าในอดีต ด้วยเหตุนี้เกษตรกรผู้ ปลูกว่านหางจระเข้ จึงมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี และมีการขยายพื้นที่ปลูกเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย
คุณสมบัติของ ว่านหางจระเข้
นับเป็นเวลาหลายศตวรรษที่เรารู้จักกับว่านหางจระเข้ด้วยคุณสมบัติที่มากมาย สามารถใช้ป้องกันบรรเทา และรักษาโรคต่างๆได้ อาทิเช่น รักษาแผลไฟลวก โรคสะเก็ดเงิน กระเพาะอาหาร ช่วยระงับอาการปวด และอื่นๆ อีกมากมาย
ว่านหางจระเข้ เป็นต้นพืชที่มีเนื้ออิ่มอวบ จัดอยู่ในตระกูลลิเลียม (Lilium) แหล่งกำเนิดดั้งเดิมอยู่ในชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และบริเวณตอนใต้ของทวีปอาฟริกา ซึ่งพันธุ์ของ ว่านหางจระเข้ มีมากมายกว่า 300 ชนิด ซึ่งมีทั้งพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่มากไปจนถึงพันธุ์ที่มีขนาดเล็กกว่า 10 เซนติเมตร
ลักษณะพิเศษของ ว่านหางจระเข้ ก็คือ มีใบแหลมคล้ายกับเข็ม เนื้อหนา และเนื้อในมีน้ำเมือกเหนียวอยู่ในปริมาณมาก ซึ่งสามารถนำมาใช้เป็นสมุนไพรได้ ในคัมภีร์ไบเบิล (ยอห์น 19:39) มีบันทึกไว้ว่า ยาชโลมพระศพพระเยซูมีส่วนผสมของ ว่านหางจระเข้ อยู่ด้วย
การปลูกและดูแลรักษาว่านหางจระเข้
คุณธงชัยก็เป็นเกษตรกรอีกรายที่สามารถ ปลูกว่านหางจระเข้ จำหน่ายให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมและผู้ผลิตว่านหางจระเข้แปรรูป สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวได้อย่างยั่งยืน ถ้าเปรียบเทียบกับพืชชนิดอื่น การดูแลรักษาของว่านหางจระเข้นั้นทำได้ง่าย ไม่มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก และที่สำคัญตลาดมีรองรับเป็นจำนวนมากทีเดียว
การป้องกันกำจัดศัตรูพืช
โรคและแมลงในว่านหางจระเข้ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยพบปัญหา ที่พบก็จะเป็นโรคโคนเน่า สาเหตุเกิดจากเชื้อรา มีสาเหตุสำคัญมาจากปัญหาน้ำท่วมขัง การให้น้ำในปริมาณมาก หรือการปลูกซ้ำในที่เดิมหลายๆ ครั้ง ทำให้เกิดการสะสมของเชื้อโรค
การเก็บเกี่ยวว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้จะใช้เวลาปลูกถึงเก็บเกี่ยวครั้งแรกประมาณ 6-8 เดือน จากนั้นก็สามารถเก็บผลผลิตได้เรื่อยๆ ซึ่งว่านหางจระเข้จะมีอายุการให้ผลผลิตเฉลี่ยประมาณ 4-5 ปี แต่ด้วยวิธีการดูแลของคุณธงชัยสามารถปลูกและเก็บผลผลิตได้นานถึง 10 ปี
การเก็บผลผลิตของว่านหางจระเข้ควรตัดใบข้างล่างขึ้นข้างบน โดยสังเกตเนื้อวุ้นที่โคนใบด้านในเต็ม และลายที่ใบลบหมดแล้ว ระวังอย่าให้ใบว่านช้ำ
การรับซื้อว่านหางจระเข้
เกณฑ์การรับซื้อว่านหางจระเข้เพื่อส่งโรงงานอุตสาหกรรม หรือพ่อค้า แม่ค้า ที่มารับซื้อ ส่วนใหญ่จะกำหนดที่น้ำหนัก อายุ และลักษณะ คือ ใบว่านต้องมีน้ำหนักตั้งแต่ 0.5 กิโลกรัม มีอายุตั้งแต่ 8 เดือน-1 ปี ขึ้นไป มีลำต้นอวบใหญ่ ใบกว้าง ตั้งแต่ 2 เซนติเมตร ขอบใบเขียว สด แน่น ไม่ช้ำ ไม่มีบาดแผล
“ว่านหางจระเข้” สร้างรายได้เกือบแสนบาท/เดือน
ตลาดว่านหางจระเข้ของคุณธงชัยส่วนใหญ่จะเป็นการรับซื้อจากโรงงานอุตสาหกรรม และส่งให้กลุ่มแปรรูปผลิตผลทางการเกษตรสามร้อยยอดของ คุณวสันต์ กิจเกษตรสถาพร ซึ่งในแต่ละเดือนจะมีผลผลิตของว่านหางจระเข้ประมาณ 30 ตัน ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า
ราคาที่จำหน่ายจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 3 บาท หรืออาจจะเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล และสภาพแวดล้อม ของในแต่ละปี แต่จะคงที่อยู่ที่กิโลกรัมละ 3 บาท ทำให้คุณธงชัยมีรายได้จากการ ปลูกว่านหางจระเข้ ในพื้นที่ 400-500 ไร่ เกือบหลักแสนบาท/เดือน
หากผู้อ่านท่านใดสนใจข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ คุณธงชัย เทียนอิ่ม 5 หมู่ 8 ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 77110 โทร.08-9078-3827