ถ้าพูดถึงเรื่องการรักษาหน้าดินหรือการป้องกันดินเสื่อมสภาพ หลายคนๆ คงอาจจะนึกถึงหญ้าแฝก หญ้าที่ช่วยป้องกันและรักษาสภาพดิน แต่รู้หรือไม่ว่าในประเทศไทยเองมีการปลูกพืชที่ช่วยในเรื่องของการปกป้องดินให้มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดินขึ้น หรือเรียกว่า การปลูก พืชคลุมดิน
ซึ่งพืชคลุมดินนั้นก็มีหลากหลายประเภท และนิยมขึ้นแบบเป็นพุ่มเตี้ยและดกหนา ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการรักษาสภาพดินให้ดินดีขึ้น และสามารถช่วยให้ดินนั้นอุ้มน้ำได้ดี เก็บความชุ่มชื้นได้นาน จึงเป็นที่มาของพืชคลุมดิน
การปลูกพืชคลุมดิน
พืชคลุมดิน คือ พืชที่คอยช่วยเหลือในการปลูกคลุมดินที่ทำหน้าที่คอยปรับสภาพดินให้ดีขึ้น ช่วยให้ดินอุ้มน้ำได้ดี และมีความชุ่มชื้นที่นานขึ้น ซึ่งพืชคลุมดินนั้นก็มีหลากหลายชนิดให้เลือกนำมาใช้ อีกทั้งพืชคลุมดินเองยังช่วยทำให้พืชหลักสามารถดูดซึมน้ำในดินไปใช้ได้เป็นอย่างดีด้วย นอกจากนี้พืชคลุมดินยังนำมาใช้ในการตกแต่งสวน เพื่อให้บ้านนั้นดูสวยงาม และร่มรื่น ได้อีกด้วย การปลูกพืชคลุมดินนั้นทำไม่ยาก เพราะเป็นพืชที่สามารถปลูกได้เรื่อยๆ และพืชคลุมดินเองก็เป็นพืชทรงพุ่มที่มีความหนา คอยสนับสนุนพืชหลักได้เป็นอย่างดีเลย นับว่าเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่มีความน่าสนใจไม่น้อย
พืชคลุมดินแม้จะเป็นพืชที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก แต่ก็สามารถปกคลุมหน้าดินที่ว่างเปล่าให้มีความเขียวขจีได้ ซึ่งช่วยสร้างความสวยงามให้กับพื้นดินได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นพืชพรรณที่สามารถนำมาปรับใช้ในเรื่องของการตกแต่งสวนหน้าบ้าน หรือตามรั้วกำแพงบ้าน เพิ่มความน่าสนใจให้กับตัวบ้านได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ยังเป็นพืชที่ช่วยให้ดินนั้นสามารถปรับตัวกับสภาพอากาศได้เป็นอย่างดี เพิ่มความชื้นในดิน ทำให้ต้นไม้บริเวณใกล้เคียงมีความเขียวขจีได้ตลอดเวลา อีกทั้งยังเป็นพืชพรรณที่หลากหลายชนิด ที่ช่วยปรับภูมิทัศน์ได้ เมื่อใครก็ตามที่ได้พบต่างก็ต้องพอใจในความสีเขียวนี้อย่างแน่นอน
ข้อดีของพืชคลุมดิน
พืชคลุมดินเป็นพืชที่เกิดขึ้นการหว่านหรือปลูกให้เจริญเติบโตแบบหนาแน่นหรือทำให้เป็นพุ่ม โดยพืชคลุมดินแต่ละชนิดนั้นจะแตกต่างกันออกไป บ้างก็มีใบหนาและระบบรากที่แน่น บ้างก็ใบไม่หนาแต่กับเติบโตอย่างแน่นหนา ซึ่งพืชคลุมดินนี้ คือ พืชที่ช่วยในการเกาะยึดดิน ทำให้ดินมีความแน่นขึ้น ช่วยให้ดินมีการระบายน้ำและอุ้มน้ำได้ดีขึ้น อีกทั้งมักจะชอบเติบโตอยู่บนพื้นดินมากกว่าตามกำแพงหรือปูน ซึ่งช่วยให้ดินนั้นมีสิ่งรองรับและลดแรงปะทะได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้พืชคลุมดินยังช่วยในการป้องกันการพังทลายของหน้าดินได้เป็นอย่างดีในช่วงที่น้ำมาก ซึ่งหญ้าแฝกก็ถือว่าเป็นพืชคลุมดินด้วยเช่นกัน นอกจากนี้เมื่อฝนตกไม่จำเป็นที่จะต้องถอดพืชคลุมดินทิ้ง เพราะจะช่วยรองรับน้ำฝนได้เป็นอย่างดี และพืชคลุมดินนั้นยังมีการนำมาตกแต่งสวนเพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับบ้านได้
โดยส่วนใหญ่แล้วจะนิยมนำมาประดับตกแต่งตามสวนหน้าบ้าน หรือบริเวณพื้นหญ้าหน้าบ้านเล็กๆ หรือแม้กระทั่งรอบต้นไม้ขนาดใหญ่ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะพืชคลุมดินจะช่วยเก็บความชื้นในดิน ทำให้ต้นไม้ขนาดใหญ่นั้นไม่แห้งตายได้ง่าย รวมไปถึงยังมีการนำไปปลูกบริเวณพื้นที่อื่นได้อีกด้วย เห็นได้เลยว่าพืชคลุมดินที่มีขนาดเล็กแต่ประโยชน์นั้นไม่เล็กตามตัวเลย
สภาพพื้นที่ปลูกพืชคลุมดิน
สำหรับการปลูกพืชคลุมดินนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะต้องมีขั้นตอนก่อนที่จะเริ่มปลูก และต้องรู้ถึงวัตถุประสงค์ในการปลูกพืช โดยพืชคลุมดินที่จะปลูกนั้นจะต้องปลูกให้เติบโตอยู่บนดินในระยะที่ไม่มีการปลูกพืชหลัก เพราะว่าถ้าเราปลูกกับพืชหลักที่ไม่ใช่พืชหรือต้นไม้ที่สร้างความสวยงาม พืชคลุมดินอาจจะไปแย่งอาหาร และแย่งการเจริญเติบโตของพืชหลักได้
วิธีการปลูกพืชคลุมดินนั้นส่วนใหญ่แล้วจะใช้วิธีการหว่านลงไปในดิน โดยการหว่านนั้นจะหว่านระหว่างแถวของไม้ยืนต้นเป็นหลัก ซึ่งเป็นที่นิยมทำกันมาก โดยเฉพาะในสวนยาง และสวนผลไม้ และในการปลูกพืชคลุมดินนั้นควรที่จะปลูกตามแปลงปลูกพืช เพราะว่าจะช่วยในเรื่องของการรักษาสภาพดินให้มีความชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา โดยควรปลูกบนคันดินของพืชหลัก หรือจะปลูกแบบขั้นบันไดบนทางระบายน้ำก็ได้เช่นกัน เพราะถ้าปลูกในทางระบายน้ำจะทำให้พืชคลุมดินนั้นสามารถอุ้มน้ำ และช่วยรักษาสภาพดินให้มีความชุ่มชื้นตลอดด้วย
ในการปลูกพืชโดยปกติแล้วก็ต้องมีการคัดสายพันธุ์หรือพันธุ์ที่ดีและมีคุณภาพมาปลูก พืชคลุมดินก็เช่นกัน ก็จะมีการคัดเลือกเพื่อให้ได้พรรณพืชที่สามารถปลูกได้ดี หรือสามารถเติบโตขึ้นมาเป็นพืชคลุมดินได้ดีมาปลูก โดยหลักที่เหมาะสมในการเลือกนั้นควรจะเลือกพืชคลุมดินที่สามารถมีอายุอยู่ได้หลายปีหรือยาวนาน เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องปลูกซ้ำๆ หรือนำมาปลูกใหม่บ่อยๆ
ควรจะเป็นพืชที่รากแน่นหรือมั่นคง สามารถที่แผ่ขยายออกไปได้ไกลหรือมาก และจะต้องช่วยยึดเหนี่ยวเม็ดดินให้ติดกันได้มากที่สุด เพื่อที่ดินนั้นจะได้ไม่พังทลายได้ง่าย อีกทั้งยังจะต้องเป็นพืชที่ทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดี คือ ไม่ว่าจะอยู่ในที่ร่มหรือกลางแจ้งก็สามารถเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้พืชคลุมดินที่ดีจะต้องเป็นพืชที่สามารถทนต่อแมลงที่จะมารบกวนได้ รวมไปถึงสามารถทนทานต่อโรคได้ดี เพราะว่าถ้าพืชคลุมดินทนโรคได้ดีก็จะช่วยให้ดินนั้นไม่มีโรคเจือปน ทั้งนี้ถ้าใช้ปลูกในนาข้าว หรือสวนผลไม้ ถ้าเป็นพืชตระกูลถั่วก็จะช่วยในเรื่องของการเพิ่มไนโตรเจนให้แก่ดินได้เป็นอย่างดี นับว่าการเลือกพืชคลุมดินที่เหมาะสมนั้นควรจะเลือกจากองค์ประกอบต่างๆ ที่กล่าวมา เพราะจะช่วยให้ดินและพืชที่อยู่ใกล้เคียงสามารถเจริญเติบโตได้ดี ดินก็จะมีสภาพดินที่ดีขึ้นกว่าเดิมด้วย
ชนิดของพืชคลุมดิน
เมื่อเรารู้หลักการในการคัดเลือกพืชคลุมดินที่เหมาะสมจะนำมาปลูกในพื้นที่ตกแต่งสวน หรือตามสวนผัก ผลไม้ แล้ว เราจะยกตัวอย่างพืชคลุมดินหรือดอกไม้คลุมดินที่สามารถช่วยในเรื่องของการปรับสภาพดินให้ดีขึ้นได้ มาดูกันว่ามีพืชชนิดไหนบ้างที่เรายกตัวอย่างมาให้เพื่อเป็นการตัดสินใจในการเลือกซื้อและคัดเลือกพืชคลุมดินในการนำมาใช้
ถั่วลิสงหรือถั่วบราซิล
เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าพืชตระกูลถั่วนั้นเป็นพืชปกคลุมดินชั้นดี ที่ช่วยในเรื่องของดินเป็นอย่างดี โดยความสูงของต้นถั่วนั้นจะสูงประมาณ 5 นิ้ว และมีดอกสีเหลืองสวย มีใบเล็ก จัดได้ว่าเป็นพืชที่นิยมนำมาปกคลุมดินเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นสนามหญ้า หรือตามท้องนา หลังการเก็บเกี่ยว เพราะลำต้นที่สามารถเลื้อยคลุมดินได้เป็นอย่างดีนี่เอง ที่ทำให้ต้นถั่วสามารถปกคลุมดินได้เร็วและดี
อีกทั้งระบบรากที่เป็นรากแก้วที่มีความแข็งแรงนั้นยังช่วยในเรื่องของการเกาะหน้าดิน และทำให้ดินมีความแข็งแรงขึ้นในทุกสภาพดินเลยก็ว่าได้ เป็นพืชที่ทนแล้งได้ดี สามารถปลูกเพื่อป้องกันวัชพืชได้ดี นอกจากนี้การดูแลรักษาก็ไม่ยากอย่างที่คิด
ในหนึ่งปีนั้นควรจะทำการตัดประมาณ 3 ครั้ง แต่ถ้าต้องการที่จะลดความสูงของต้นถั่วก็สามารถตัดเล็มบ่อยๆ ได้ตามต้องการ ต้นถั่วลิสงนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องใส่ปุ๋ยบ่อย เพราะมีการดึงไนโตรเจนจากอากาศมาช่วยในเรื่องของรากได้ แต่ถ้าต้องการให้ใบเขียวก็สามารถใส่ปุ๋ยได้ ซึ่งราคาปุ๋ยที่ใช้ก็ไม่ได้แพงมากนัก จึงเหมาะอย่างมากที่จะเป็นพืชคลุมดิน
ใบต่างเหรียญ พืชคลุมดินอายุยาว เหมาะแก่การนำมาใช้ในการปกคลุมดิน
หนึ่งพรรณพืชคลุมดินที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ใบต่างเหรียญนั้นเป็นพืชล้มลุกที่มีอายุหลายปี จึงนับว่าเป็นพืชที่เหมาะแก่การนำมาเป็นพืชคลุมดิน มีใบที่กลมเล็ก สีเขียวสด ลักษณะทางพรรณพืชนั้นจะทอดเลื้อยแผ่ไปกับพื้นดิน มีคุณสมบัติที่มีความทนทาน ทนแล้ง หรือแม้แต่โดนเหยียบย่ำก็จะไม่บอบช้ำได้ง่าย ทั้งยังแผ่ต้นได้เร็วและมีความแข็งแรงเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นพืชที่นิยมนำมาปลูกเป็นพืชคลุมดิน ที่สามารถปลูกได้ทุกสภาพดิน แม้กระทั่งดินที่มีความเป็นลูกรังก็ยังสามารถที่จะเติบโตได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังออกดอกตลอดทั้งปีด้วย ผิวสัมผัสนั้นจะมีความนุ่มเมื่อกระทบหรือนั่งเล่น
ใบต่างเหรียญนั้นชอบดินที่มีความร่วนปนทรายหรือดินที่มีการระบายน้ำที่ดี ไม่มีน้ำขัง ถ้าปลูกในที่โล่งแจ้งหรือแสงแดดจัดตลอดทั้งวันก็ได้เช่นกัน แต่ใบจะละเอียดแน่น ถ้าปลูกในที่รำไรหรือในร่ม ใบจะใหญ่ และยอดก็จะยืดออก แต่พุ่มจะไม่แน่นเท่ากับการปลูกไว้ในกลางแจ้ง ตัวใบนั้นจะเป็นตัวป้องกันอย่างดีที่ช่วยไม่ให้น้ำฝนนั้นโดนผิวดินโดยตรง ซึ่งจะช่วยป้องกันการชะล้างของหน้าดินได้เป็นอย่างดี
หญ้าเกล็ดหอย พืชคลุมดินอายุยาว เหมาะแก่การนำมาปลูก
หญ้าเกล็ดหอยถือได้ว่าเป็นพรรณพืชล้มลุกที่นำมาปลูกเป็นพืชคลุมดินได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นพืชล้มลุกคลุมดินที่มีอายุหลายปี โดยตัวลำต้นนั้นจะมีการแตกออกเป็นกิ่งทอดไปตามพื้นแล้วจะเริ่มตั้งสูงขึ้น โดยลำต้นจะมีความสูงประมาณ 15 เซนติเมตร ลักษณะใบเดียวออกตรงข้ามกัน และเป็นรูปหัวใจขนาด 1 เซนติเมตร และยังมีดอกที่มีขนาดเล็กๆ เป็นสีม่วง ช่วยให้ดูแล้วสบายตาน่ามอง
ใบพืชล้มลุกคลุมดินที่ใบนั้นจะมีขนขึ้นอยู่เล็กน้อยหรือมาก อาจจะขึ้นอยู่กับแต่ละวิธีในการปลูก ซึ่งตัวใบที่มีขนนี้เองจะช่วยให้เวลาเหยียบหรือสัมผัสนั้นจะนุ่มและไม่เจ็บเท้ามากนัก เมื่อเหยียบด้วยเท้าเปล่า ซึ่งเหมาะแก่การนำมาปลูกเป็นพืชคลุมดินเป็นอย่างมาก ด้วยระบบรากที่ดีทำให้ยึดเกาะดินไม่ให้ดินทะลายลงได้ง่ายด้วย อีกทั้งยังเป็นพืชคลุมดินที่นิยมนำมาตกแต่งสวนเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
ผักเบี้ยหนู พืชคลุมดินอีกหนึ่งชนิดที่ปลูกได้ง่ายและโตได้ทั้งปี
ผักเบี้ยหนูหรือบานเที่ยง คือ ไม้ล้มลุกที่มักจะขึ้นปกคลุมดินและทอดออกไปตามดิน โดยลักษณะของลำต้นนั้นจะมีใบที่ค่อนข้างอวบน้ำ ใบเดี่ยวรูปใบรี ปลายและขอบเรียบ โดยความยาวจะอยู่ที่ประมาณ 1 เซนติเมตร ดอกจะมีสีเหลือง มีกลีบดอกสี่กลีบ แต่เมื่อบานได้เต็มที่แล้วจะไม่เกิน 1 เซนติเมตร ต้นและใบจะมีขนาดเล็กจิ๋ว ดูน่ารัก
อีกทั้งพืชปกคลุมดินชนิดนี้เป็นพรรณพืชที่สามารถทนแดดและอากาศที่แห้งแล้งได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อโดนแดดแรงมากๆ ดอกจะเริ่มมีการเปลี่ยนสี โดยอาจจะเปลี่ยนเป็นสีแดง แต่พืชชนิดนี้จะมีระบบรากที่ไม่ยาวมากนัก เมื่อเทียบกับพืชคลุมดินชนิดอื่นๆ เพราะว่าถ้าเราต้องการที่จะปลูกพืชอื่นๆ ทดแทนนั้นก็สามารถทำได้ง่าย โดยการดึงต้นผักเบี้ยออกก็สามารถปลูกต้นไม้หรือพืชหลักได้แล้ว
แต่ต้นผักเบี้ยหนูนั้นจะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการปลูกแทรกระหว่างต้นไม้ในสวน เนื่องจากว่าเป็นไม้คลุมดินที่ช่วยควบคุมปริมาณวัชพืชได้เป็นอย่างดี จึงเป็นที่นิยมนำมาปลูกกับต้นไม้เป็นอย่างมาก เพราะว่าเป็นไม้คลุมดินประเภทไม้เลื้อย เมื่อเติบโตอย่างเต็มที่แล้วจะคลุมเต็มพื้นที่ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับต้นไม้เป็นอย่างมากเพราะว่าจะช่วยป้องกันไม่ให้วัชพืชหรือหญ้าชนิดอื่นๆ นั้นไม่สามารถที่แทรกหรือเติบโตในบริเวณนั้นได้ อีกทั้งยังช่วยในเรื่องของการรักษาความชุ่มชื้นให้กับดินได้เป็นอย่างดี
ข้อดีของต้นผักเบี้ยหนูนั้น คือ ไม้ล้มลุกที่สามารถปลูกได้ง่าย ไม่ค่อยมีระยะเวลาที่โทรม และสามารถเติบโตได้ตลอดทั้งปี อีกทั้งยังสามารถที่จะทนต่อการเหยียบย่ำซ้ำได้เป็นอย่างดี จึงนิยมที่จะปลูกแทนต้นหญ้าในสนามหน้าบ้าน เลยทีเดียว
หญ้าเบอร์มิวด้าหรือหญ้าแพรก
หญ้าเบอร์มิวด้าหรือหญ้าแพรก นับเป็นหญ้าที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการนำมาปลูกเป็นพืชคลุมดิน หญ้าเบอร์มิวด้านั้นเป็นพืชค้างปีที่ขึ้นอยู่ทั่วไปในเมืองไทย จัดว่าเป็นพืชคลุมดินที่เติบโตได้อย่างรวดเร็ว โดยจะอาศัยการเติบโตบนดินและไหลที่อยู่ใต้ดิน
ลักษณะของลำต้นนั้นจะมีขนาดเล็ก ใบเล็กละเอียดอ่อนเป็นฝอย สามารถปลูกได้ง่าย ซึ่งหญ้าเบอร์มิวด้านั้นถ้าปลูกในดินที่มีความชื้นได้เหมาะสมก็จะสามารถตั้งตัวได้อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลา 10 วัน เลยทีเดียว ซึ่งในช่วง 1 เดือนแรกนั้นจะเติบโตได้อย่างหนาแน่นบนดิน
แต่ถ้าเป็นช่วงหน้าแล้งหรือฤดูร้อนที่มีแสงแดดจัด หญ้าชนิดนี้จะเหี่ยวตายได้ง่าย แต่จะกลับมาเติบโตได้อย่างรวดเร็วอีกครั้งในช่วงที่เข้าสู่หน้าฝน เหมาะกับการเป็นพืชปกคลุมดินได้เป็นอย่างดี เพราะมีระบบรากที่ค่อนข้างแตกตัว คอยช่วยยึดดินไม่มีร่องแตกและแห้งได้ง่าย อีกทั้งยังช่วยในเรื่องของการเก็บความชื้นในดินได้เป็นอย่างดี จึงเป็นที่นิยมในการนำมาปลูกเป็นพืชคลุมดินเป็นอย่างมาก
ถั่วคุดซู วัชพืชที่ช่วยให้ดินมีความชุ่มชื้นได้ยาวนาน
สำหรับบางคนวัชพืชอาจจะเป็นสิ่งที่น่ากวนใจ และเป็นอันตรายต่อพืชหลัก แต่ถ้าเป็นพืชตระกูลถั่ว อย่าง ถั่วคุดซู นับว่าเป็นพืชคลุมดินที่ได้รับความนิยมและน่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะพืชชนิดนี้ถูกนำมาใช้ในการปกคลุมดินช่วยในเรื่องของการปรับสภาพดินให้ดียิ่งขึ้น
โดยถั่วคุดซูนั้นจะช่วยในเรื่องของการปราบหญ้าคา และเพิ่มธาตุอาหารในดินได้เป็นอย่างดี แต่ก็เป็นพืชตระกูลถั่วที่ค่อนข้างโตเร็ว เมื่อเติบโตจะเริ่มปกคลุมทั้งพื้นดิน และเลื้อยขึ้นไปคลุมยังยอดไม้ได้เลย อีกทั้งยังมีประโยชน์ในเชิงอาหารประเภทแป้งด้วย และมีความเป็นสมุนไพรอยู่ในตัวเองเช่นกัน
ซึ่งการปกคลุมดินนี้เองทำให้พืชชนิดนี้สามารถปกคลุมดินให้มีความหนาแน่นได้ในระยะเวลาไม่ถึงปี แต่เป็นพืชที่มีอายุค่อนข้างสั้น เมื่อเทียบกับไม้ล้มลุกปกคลุมดินหรือพืชคลุมดินอื่น เป็นพืชที่ไม่ค่อยทนแล้ง ถ้าอากาศร้อนจัดหรือแห้งแล้งเกินไปอาจจะทำให้ตายได้ โดยการปลูกนั้นจะใช้วิธีการปลูกเมล็ดประมาณ 2-3 กิโลกรัมต่อไร่ เมล็ดที่เริ่มปลูกนั้นจะเริ่มงอกออกมาภายใน 1 สัปดาห์ และออกดอกภายใน 3-5 เดือน หลังจากนั้นอีกประมาณ 3 เดือน ก็จะเริ่มเก็บเกี่ยวได้แล้ว
การบำรุงดูแลพืชคลุมดิน
ในช่วงแรกของการเริ่มปลูกพืชคลุมดินนั้น จะมีบางส่วนที่มีพืชคลุมดินอาจจะยังไม่ขึ้นหรือเริ่มตาย อาจจะมีการปลูกซ่อมบริเวณนั้นโดยเร็วก็ได้ และจะต้องคอยหมั่นกำจัดวัชพืชที่บางครั้งอาจจะเป็นตัวก่อกวนในการเติบโต สามารถกำจัดได้เป็นครั้งคราวก็พอ
จนกว่าพืชคลุมดินจะขึ้นทั้งหมด หรือทั่วทั้งแปลงปลูก และเมื่อพืชคลุมดินเริ่มเจริญเติบโตมากขึ้น บางส่วนก็เริ่มที่จะเป็นเถาวัลย์หรือเป็นเถาเลื้อยไปตามดิน ตามกำแพง หรือสวนที่เราจัดการปลูก หรือวางพืชคลุมดินไว้ อาจจะมีการเลื้อยขึ้นไปยึดเกาะตามต้นไม้ด้วยเช่นกัน หรือถ้าเป็นพืชหลักอาจจะมีการตลบเถาพืชคลุมดินอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้พืชคลุมดินนั้นเข้าไปวุ่นวายกับพืชหลัก
สำหรับการใส่ปุ๋ยนั้นควรใส่ปุ๋ยในระยะแรก เพราะจะทำให้พืชคลุมดินนั้นสามารถเติบได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการกำจัดวัชพืชได้เป็นอย่างดี หลังจากที่พืชคลุมดินเริ่มงอกและเจริญเติบโตได้ประมาณ 1-3 อาทิตย์แล้ว ถ้าเป็นพืชคลุมดินตระกูลถั่วอาจจะต้องใช้ปุ๋ยฟอสเฟตร่วมกับปุ๋ยโพแทสเซียมคลอไรด์ สูตร 0-15-15 ก็ได้เช่นกัน ซึ่งควรใช้ในปริมาณ 10 กิโลกรัมต่อไร่ และต้องหว่านยิปซัมลงไปเพื่อเป็นการเพิ่มธาตุอาหารแคลเซียมและซัลเฟอร์ปริมาณ 10 กิโลกรัมต่อไร่ และถ้าเป็นพืชตระกูลหญ้าที่ใช้ในการปกคลุมก็ควรจะใช้ปุ๋ยยูเรียที่เหมาะสม หรือแอมโมเนียมซัลเฟต ประมาณ 10 กิโลกรัมต่อไร่ ก็ได้เช่นกัน จะช่วยให้พืชคลุมดินนั้นสามารถเติบโตและคลุมดินได้เร็วยิ่งขึ้น
ประโยชน์ของ พืชคลุมดิน
พืชคลุมดินนั้นนับว่าเป็นพืชที่มีประโยชน์เป็นอย่างมากสำหรับดิน เรามาดูกันดีกว่าว่าประโยชน์ของพืชคลุมดินนั้นมีอะไรบ้าง
ช่วยเพิ่มธาตุอาหารให้กับดิน
ในช่วงที่เศษใบหรือเศษกิ่งของพืชคลุมดินนั้นหลุดร่วงลงไปยังพื้นดินจนกลายเป็นการทับถมกันเรื่อยๆ นั้น ก็จะเริ่มผุพังตามกาลเวลา และรวมตัวกับดินไปเอง ซึ่งตรงนี้เองที่เป็นแหล่งอาหารที่มีความสำคัญกับดินเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังช่วยเร่งปฏิกิริยาเคมีทำให้ธาตุอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อพืช พืชสามารถที่จะดึงนำไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว และยังช่วยเพิ่มจำนวนประชากรของไส้เดือนและจุลินทรีย์ในดินด้วย
ช่วยป้องกันการชะล้างหรือการพังทลายของหน้าดิน
ระบบรากของพืชคลุมดินนั้นจะมีการแตกรากออกไปมากมายภายในดิน ซึ่งตัวรากนี้เองที่มีส่วนช่วยในทำให้ดินนั้นสามารถยึดเกาะได้เป็นอย่างดี ช่วยเข้าไปอุดช่องว่างในดิน ทำให้ดินนั้นกระชับและมีความแน่นยิ่งขึ้น จึงทำให้ดินนั้นไม่ถูกกัดเซาะจากกระแสน้ำได้ง่าย เมื่อเป็นช่วงน้ำหลากหรือปริมาณฝนมากกว่าปกติ
นอกจากนี้ถ้ามีทำสวนแบบขั้นบันไดก็ควรที่จะปลูกพืชคลุมดินไว้เป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าตัวพืชคลุมดินนั้นจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการพังทลายของหน้าดินได้ง่าย ในช่วงที่กระแสน้ำมีความแรงกว่าปกติ อีกทั้งพืชคลุมดินที่ขึ้นในบริเวณนั้นมีความหนาแน่น ก็จะช่วยป้องกันเม็ดฝนที่มีขนาดใหญ่และแรงไม่ให้สัมผัสกับผิวดินได้โดยตรง ซึ่งก็ถือว่าเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดดินโคลนถล่มหรือหน้าดินเกิดการพังทลายได้นั่นเอง
ช่วยเก็บความชื้นในดินได้เป็นอย่างดี
การปล่อยให้พืชคลุมดินไปตามผิวดินนั้น ถ้าปลูกในที่ที่มีการพรวนดินแล้ว มีเกิดฝนตกครั้งสุดท้ายก็จะช่วยในเรื่องของการกักเก็บน้ำได้เป็นอย่างดี และช่วยลดการระเหยของน้ำได้อีกด้วย เพราะพืชคลุมดินนี้จะช่วยป้องกันแสงแดดไม่ให้ดินนั้นโดนแสงแดดโดยตรง เพราะว่าพืชคลุมดินนั้นจะมีการดูดน้ำไว้และซึมลงสู่ผิวดิน จึงทำให้ดินนั้นมีความชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา
ช่วยกำจัดวัชพืชได้เป็นอย่างดี
พืชคลุมดิน ส่วนมากนั้นจะเป็นพืชที่มีใบค่อนข้างมาก และทับถมบนผิวดินได้เป็นอย่างดีเมื่อเริ่มหลุดร่วง จนทำให้แสงสว่างนั้นไม่สามารถที่จะส่องไปยังชั้นผิวของดินได้มากเท่าที่ควร เมื่อเป็นอย่างนี้จึงทำให้วัชพืชไม่ค่อยมีการเจริญเติบโต หรือเติบโตได้ยากขึ้น เพราะว่าถ้าเราปลูกพืชคลุมดินที่ทำให้แสงแดดไม่สามารถส่องผ่านลงมาได้ หญ้าหรือวัชพืชที่ต้องอาศัยแสงแดดก็จะตายกันหมด เพราะไม่มีแสงเพียงพอที่จะช่วยในการเจริญเติบโต
การปลูกพืชคลุมดินถือว่าเป็นตัวช่วยในเรื่องของดิน และช่วยคืนความสมดุลให้กับธรรมชาติ เพราะว่าพืชคลุมดินนั้นจะช่วยสร้างความชุ่มชื้นให้กับดินได้เป็นอย่างดี อีกทั้ง พืชคลุมดิน ยังมีส่วนช่วยในเรื่องของการยับยั้งการพังทลายของหน้าดินได้เป็นอย่างดี ยิ่งถ้าปลูกในบริเวณที่แปลงแบบขั้นบันไดจะช่วยทำให้ดินนั้นสามารถยึดเกาะกันได้เป็นอย่างดี ทำให้ไม่พังทลายไปกับกระแสน้ำในช่วงที่น้ำแรงอีกด้วย
นอกจากนี้ พืชคลุมดิน ยังมีให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย แต่ที่นิยมมากก็อาจจะเป็นพืชตระกูลถั่ว เพราะว่าช่วยทั้งเพิ่มความชุ่มชื้นและยังปรับสภาพดินให้มีสภาพที่ดินขึ้นด้วย จึงไม่แปลกที่จะนำมาปลูกเพื่อใช้งานในรูปแบบที่หลากหลาย
เรื่องของการปลูก พืชคลุมดิน นั้นยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจอีกมากมาย ทั้งนี้พืชคลุมดินสามารถแยกออกไปเป็น พืชคลุมดิน โดยตรง หรืออาจจะเป็นไม้เลื้อยที่ช่วยคลุมดิน ก็ถือว่าเป็น พืชคลุมดิน เช่นกัน ซึ่ง พืชคลุมดิน นั้นเป็นพืชที่ช่วยในเรื่องของดิน ทำให้ดินนั้นมีคุณภาพที่ดีขึ้น
อีกทั้งยังสามารถนำมาปรับตกแต่งเป็นการแต่งสวนได้อีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งถ้าใครจะเริ่มปลูกลองนำบทความนี้ไปประยุกต์ใช้ได้ เพราะเราได้อธิบายถึงวิธีการปลูกแบบง่ายๆ ให้เข้าใจแล้ว หรือจะปรึกษาผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ในด้านนี้ ก็เป็นทางเลือกที่ดีอีกเช่นกัน
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลอ้างอิง
http://www.thr-organic.com/th/knowlage_detail.php?id=27,http://village.haii.or.th/thaiag/index.php/147-2011-03-03-08-58-28/534-2016-07-01-06-12-08,http://www.cpiagrotech.com/knowledge-107/,https://www.banidea.com/8-ground-cover-plants/,http://www.kasetkawna.com/article/186/พืชคลุมหน้าดินและการพัฒนาดิน