ฟ้าทะลายโจร สมุนไพรไล่หวัด
เมื่อพูดถึง Covid – 19 เราคงไม่ต้องอธิบายสิ่งใดให้ยืดยาว เพราะทุกคนคงจะทราบถึงความเป็นมาของเชื้อโรคนี้ได้เป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าเป็นเชื้อโรคที่สามารถเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเราไปมากเลยทีเดียว
การระบาดระยะแรกของโควิด – 19 ในประเทศไทย ทุกคนต่างเริ่มใส่ใจเรื่องการป้องกันตนเองเป็นพิเศษ หลายคนเริ่มกักตุนสิ่งจำเป็น อย่าง หน้ากากอนามัย และ แอลกอฮอล์ ตามกำลังทรัพย์ของตนเอง ต่อมาอีกไม่นานสองสิ่งนี้กลายเป็นสินค้าขาดตลาด หาซื้อได้ยากมาก หากหาซื้อได้ก็มีราคาที่สูงมากเช่นกัน แต่เมื่อของมันต้องมี เราก็ต้องยอมจ่าย…ระยะนั้นผู้เขียนเคยซื้อหน้ากากอนามัยชิ้นละ 30 บาท แอลกอฮอล์ล้างแผลขวดละเกือบ 300 บาท เป็นเช่นนี้อยู่หลายสัปดาห์ จนกระทั่งเปิดใจให้กับหน้ากากผ้า จึงประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้หนึ่งอย่าง
ในขณะที่หน้ากากผ้ากำลังได้รับความนิยม แอลกอฮอล์ยังเป็นสินค้าขาดตลาด ที่ผู้บริโภคมีความต้องการสูง กระแสเรื่องฟ้าทะลายโจรช่วยป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 ก็เริ่มมา แน่นอนว่าไม่กี่วันต่อมา ฟ้าทะลายโจร ชนิดเม็ด หรือ แคปซูล ขาดตลาด ไม่ว่าจะเป็น ร้านขายยา ร้านสะดวกซื้อ หรือ ร้านค้าออนไลน์ ต่างก็ไม่มีสินค้าเช่นเดียวกัน
ยาสมุนไพร
บ้านที่มี คนเฒ่า คนแก่ คงจะรู้จัก ฟ้าทะลายโจร กันอยู่แล้วว่า เป็นสมุนไพรช่วยป้องกันไข้หวัด เมื่อมีอาการเริ่มเจ็บคอคล้ายจะเป็นไข้หวัด ให้รับประทานน้ำต้มฟ้าทะลายโจร อาการที่เป็นจะค่อยๆ ดีขึ้น
ฟ้าทะลายโจรเป็นยาสมุนไพรที่ได้รับการบรรจุอยู่ในบัญชายาหลักแห่งชาติของกระทรวงสาธารณสุข โดยอยู่ในกลุ่มยาบรรเทาอาการท้องเสียชนิดที่ไม่เกิดจากการติดเชื้อ รับประทานครั้งละ 500 มิลลิกรัม – 2 กรัม วันละ 4 ครั้ง หลังอาหาร และ ก่อนนอน ทั้งยังอยู่ในกลุ่มยารักษาอาการของระบบทางเดินหายใจ บรรเทาอาการเจ็บคอ บรรเทาอาการของโรคหวัด เช่น เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ รับประทานครั้งละ 1.5 – 3 กรัม วันละ 4 ครั้ง หลังอาหาร และ ก่อนนอน ซึ่งปัจจุบันฟ้าทะลายโจรมีการผลิตในรูปของ ยาเม็ด ยาลูกกลอน ยาแคปซูล จึงทำให้ง่ายต่อการรับประทานมากยิ่งขึ้น
การรับประทานฟ้าทะลายโจรมีข้อห้ามหลักๆ คือ ห้ามใช้ในผู้ที่มีอาการแพ้ฟ้าทะลายโจร ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ และ ให้นมบุตร เนื่องจากอาจทำให้เกิดทารกวิรูป (พิการ) ได้ หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้ แขน ขา มีอาการชา หรือ อ่อนแรง ไม่ควรใช้ร่วมกับยาลดความดัน ระมัดระวังในการใช้ร่วมกับสารกันเลือดเป็นลิ่ม และ ยาต้านการจับตัวของเกล็ดเลือด เมื่อรับประทานฟ้าทะลายโจรติดต่อกัน 3 วัน แล้วไม่หาย หรือมีอาการรุนแรงขึ้นระหว่างใช้ยา ควรหยุดใช้ และพบแพทย์
สำหรับอาการไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นได้ คือ อาการผิดปกติของทางเดินอาหาร เช่น ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ เบื่ออาหาร วิงเวียนศีรษะ ใจสั่น และลมพิษ
ฟ้าทะลายโจรกับ โควิด – 19
ศูนย์ปฏิบัติการด้านข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุขได้กล่าวถึงผลการวิจัยฟ้าทะลายโจรในการป้องกันไวรัสโคโรนา เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2563 ว่า การวิจัยครั้งนี้เป็นความร่วมมือของกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และ องค์การเภสัชกรรม ซึ่ง นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ชี้แจงว่า ฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อและยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสได้ แต่ไม่มีฤทธิ์ในการป้องกันเซลล์จากการติดเชื้อ
จึงไม่แนะนำให้รับประทานเพื่อการป้องกันโรคโดยที่ยังไม่มีอาการ เพราะไม่มีผลในการป้องกัน แต่ควรรับประทานทันที เมื่อเริ่มมีอาการคล้ายอาการของโรคไข้หวัดใหญ่ ได้แก่ มีไข้ ไอ เจ็บคอ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่ก่อโรคไข้หวัดใหญ่ หรือ ไวรัสก่อโรคทางเดินหายใจอื่น
สอดคล้องกับ ดร.สุภาพร ภูมิอมร ผู้อำนวยการสถาบันชีววัตถุ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า จากการศึกษาฤทธิ์ต้านไวรัสโควิด – 19 ของสมุนไพรฟ้าทะลายโจรในหลอดทดลอง โดยทำการศึกษาจากสารสกัดหยาบเทียบกับแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ที่เป็นสารสำคัญ พบว่า กลไกต้านไวรัสโควิด – 19 สามารถทำลายไวรัสโดยตรง และต้านไม่ให้ไวรัสเพิ่มจำนวนเซลล์ได้ แต่ไม่มีฤทธิ์ในการชักนำให้เซลล์หลั่งสารที่ช่วยยับยั้งไวรัสโควิด – 19 จึงไม่แนะนำให้รับประทานเพื่อการป้องกันโรค และจำเป็นต้องทำการศึกษาวิจัยในคนต่อไป
สำหรับการทดลองในคน กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ร่วมกับสถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรค คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และ องค์การเภสัชกรรม ศึกษานำร่องผลของยาสารสกัดฟ้าทะลายโจรในผู้ป่วยโรคโควิด – 19 ระดับความรุนแรงน้อย ในระหว่างเดือนเมษายน – กรกฎาคม 2563
รวมทั้งได้เตรียมความพร้อมให้เพียงพอกับความต้องการ โดยร่วมกับกรมวิชาการเกษตร ให้เกษตรกรปลูกในพื้นที่ 65 ไร่ ให้ได้วัตถุดิบ 50,000 กิโลกรัม สำรองไว้ 1 ล้านแคปซูล สำหรับบุคลากรสาธารณสุขที่ดูแลรักษาผู้ป่วย และประสานภาคธุรกิจเตรียมการผลิตเพิ่ม
วิธีการปลูกฟ้าทะลายโจร
ฟ้าทะลายโจร มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Andrographis paniculata (Burm.f.) Wall Ex Nees เป็นพืชวงศ์ AANTHACEAE เป็นไม้ล้มลุก สูง 30-70 เซนติเมตร ลำต้นเป็นเหลี่ยม ผิวเกลี้ยง ลักษณะใบ เป็นใบเดี่ยว ออกตรงข้าม รูปใบหอกแกมรูปไข่ รูปใบหอกหรือรูปรีแคบ กว้าง 1-2.5 เซนติเมตร ยาว 1.5-7 เซนติเมตร ผิวเกลี้ยง ออกดอกเป็นช่อที่ซอกใบบริเวณปลายยอด กลีบดอกสีขาว ยาว 0.9-1.5 เซนติเมตร ส่วนฐานเชื่อมกันเป็นรูปกรวย ยาว 4-8 มิลลิเมตร ปลายแยกเป็นแฉก ผลแห้งแตก รูปทรงรี กว้าง 0.3-0.4 เซนติเมตร ยาว 1.5-2 เซนติเมตร
พื้นที่ที่ใช้ปลูกฟ้าทะลายโจร จะต้องไม่มีน้ำท่วมขัง ไม่อยู่ใกล้แหล่งสารพิษ สามารถปลูกได้ในดินทุกประเภท แต่เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุย และระบายน้ำได้ดี ชอบแสงแดดปานกลาง
การปลูกฟ้าทะลายโจรแบบง่าย สามารถทำได้โดยการเพาะเมล็ด นำเมล็ดฟ้าทะลายโจรจากฝักแก่สีน้ำตาลเข้ม เปลือกหุ้มแข็ง แช่น้ำอุณหภูมิปกติ 2 คืน หรือ น้ำร้อน 80-100 องศาเซลเซียส ประมาณ 5-10 นาที จากนั้นนำเมล็ดที่แช่น้ำแล้วไปหว่านลงแปลงปลูก แต่หากปลูกในพื้นที่ลุ่มต้องยกร่อง 1-2 เมตร ไถพรวนดิน กำจัดวัชพืชก่อนปลูก ในกรณีที่มีวัชพืชมากต้องไถพรวน 2 ครั้ง คือ ไถดะ เปิดหน้าดิน และตากดินไว้ประมาณ 2 สัปดาห์ จากนั้นจึงปรับปรุงบำรุงดินด้วย ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยคอก หรือ ปุ๋ยหมัก
ในขั้นตอนการหว่านเมล็ดนั้น ควรนำเมล็ดผสมกับทรายหยาบ จะทำให้หว่านได้ง่าย หว่านให้หนาพอประมาณ โดยใช้เมล็ด 100-400 เมล็ดต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตร หรือหยอดเมล็ดในร่องปลูก ใช้เมล็ด 50-100 เมล็ดต่อความยาว 1 เมตร หากปลูกในกระถางให้ใช้จอบขุดเป็นร่องตื้นๆ ระหว่างแถวห่างกัน 40 เซนติเมตร โรยเมล็ดลงในร่องแล้วกลบดินบางๆ พอไม่ให้เห็นเมล็ด หรือใช้เมล็ดหยอดหลุม ขุดหลุมลึก 3-4 เซนติเมตร แต่ละหลุมห่างกัน 30 เซนติเมตร หยอดหลุมละ 3-5 เมล็ด แล้วเกลี่ยดินกลบ
การบำรุงดูแลต้นฟ้าทะลายโจร
หลังปลูก 30-60 วัน ควรดูแลอย่าให้ขาดน้ำ ถ้าแดดจัด ควรรดน้ำวันละ 2 ครั้ง เช้า และ เย็น ถ้าแดดไม่จัด ควรรดน้ำพอชุ่มวันละครั้งในตอนเช้า หลังจากอายุ 60 วัน สามารถรดน้ำวันเว้นวันได้ โดยสังเกตจากสภาพดิน หากดินแห้ง หรือ ฝนทิ้งช่วง ควรรดน้ำให้พอชุ่ม
เมื่อต้นฟ้าทะลายโจรมีอายุ 60 วัน ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ประมาณ 125 กรัมต่อต้น หรือ 300-400 กรัมต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตร ระยะอายุ 90-110 วัน ให้ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ 300-500 กรัมต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตร
การกำจัดวัชพืช เนื่องจากฟ้าทะลายโจรปลูกเพื่อใช้ประโยชน์ทางยา จึงควรใช้วิธีการถอน หรือ ใช้จอบดาย หลีกเลี่ยงการใช้ปุ๋ยเคมี และการใช้สารเคมีกำจัดวัชพืช โรค และ แมลงต่างๆ
การเก็บเกี่ยวผลผลิตฟ้าทะลายโจร
ฟ้าทะลายโจรเก็บเกี่ยวใบได้เมื่ออายุ 3-4 เดือน ซึ่งเป็นระยะที่ฟ้าทะลายโจรเจริญเติบโตเต็มที่ และเริ่มออกดอกถึงระยะดอกบาน 50 เปอร์เซ็นต์ โดยใช้กรรไกรตัด หรือใช้เคียวเกี่ยวมาทั้งต้น เหลือตอไว้เหนือดิน 10-15 เซนติเมตร เพื่อให้แตกยอดและกอใหม่ สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ปีละ 2 ครั้ง ถ้าปลูกต้นฤดูฝนจะเก็บเกี่ยวครั้งแรกได้ประมาณปลายเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนสิงหาคม หลังจากนั้น 3 เดือน หรือต้นฤดูหนาว ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้อีกครั้ง
แม้ว่าการรับประทานฟ้าทะลายโจรจะไม่มีส่วนช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา แต่หากเป็นการรักษาอาการไข้หวัดในเบื้องต้น ฟ้าทะลายโจรก็ยังสามารถทำหน้าที่ในส่วนนี้ได้เป็นอย่างดี
การระบาดของโควิด – 19 ทำให้ทราบว่ามนุษย์เราสามารถปรับตัวได้ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะต้องใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ รักษาระยะห่าง เราต่างยอมรับในวิถีชีวิตแบบใหม่นี้
ขอขอบคุณข้อมูล : องค์การสวนพฤกษศาสตร์ ผลงานวิจัยเรื่องวิจัยและพัฒนาการผลิตฟ้าทะลายโจรเพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรพิจิตร สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 2 กรมวิชาการเกษตร