การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์
“คุณสาโรจน์ พึ่งสุข” เป็นอีกหนึ่งท่าน ที่ได้เข้ามาดูงานการปลูกผักในโรงเรือน ซึ่งท่านได้ให้สัมภาษณ์ “เมืองไม้ผล&พืชสุขภาพ” ทางด้านวิธีการเพาะปลูก และใช้เทคโนโลยีการจัดการภายในโรงเรือนอย่างละเอียดและมีมาตรฐาน
โดยส่วนตัวเขาให้การยอมรับสินค้าทางด้านเมล็ดพันธุ์ผักสลัดและเมล่อน รวมไปถึงวัสดุอุปกรณ์ โรงเรือนปลูกผัก ของ “บริษัท ดัทซ์ กรีนเนอรี่ จำกัด” ซึ่งเป็นบริษัทฯ ที่เขาไว้ใจมาตั้งแต่เริ่มต้นการทำสวน โดยเห็นว่าเป็นบริษัทฯ ที่มีมาตรฐานทางด้านงานวิจัยคิดค้นสายพันธุ์ผักสลัดสายพันธุ์ใหม่ และมีทรงต้นและใบที่ใหญ่แตกต่างจากสายพันธุ์อื่นๆ
ปัจจุบันคุณสาโรจน์ทำสวนอยู่ที่ ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ สำหรับท่านที่จะเดินทางไปเริ่มต้นสี่แยกบางนาไปทางจังหวัดสมุทรปราการ สวนของคุณสาโรจน์จะเข้าซอยสุขุมวิท 107 หรือคนที่อาศัยในเขตบางนาและสำโรงรู้จักดีในชื่อ “ซอยแบริ่ง” นั่นเอง
ทีมงานผู้ทำข่าวได้ฟังสถานที่ทำสวนก็ถึงกับอึ้ง พร้อมยอมรับในตัวตนและจิตใจที่รักในอาชีพการทำสวนจนถึงแก่นอย่างแท้จริง ซึ่งต้องบอกว่าหายากมากสำหรับคนไทยที่อาศัยอยู่ในป่าปูนแต่ชื่นชอบความเขียวชอุ่มของสวนผัก จนสามารถแปรเปลี่ยนเป็นรายได้ให้กับเขาและครอบครัวเป็นไปตามความคาดหวังที่วางเอาไว้
สภาพพื้นที่ โรงเรือนปลูกผัก ไฮโดรโปนิกส์ เมล่อน และมะเขือเทศ
“ปัจจุบันมีน้อยคนที่จะแบ่งที่นำมาทำอาชีพทางด้านการเกษตร ส่วนมากที่พบโดยทั่วไปจะสร้างคอนโดหรือที่พักไว้ให้สำหรับคนเช่ามากกว่า พื้นที่ที่ใช้ทำสวนมีเพียง 1 ไร่ ภายใน 1 ไร่ จะแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งพื้นที่ 2 งาน ใช้สำหรับปลูกผักสลัดระบบไฮโดรโปนิกส์ ที่วางโปรแกรมให้ผลผลิตออกทุกๆ สัปดาห์ สัปดาห์ละ 100 กิโลกรัม อีกครึ่งหนึ่ง 2 งาน สร้างขึ้น 4 โรงเรือน ใช้สำหรับเมล่อน มะเขือเทศ ฟาสเตอร์นัท ซึ่งตั้งโปรแกรมวางแผนไว้ให้ผลผลิตออกมาเดือนหนึ่งต่อครั้ง ที่ผ่านมาก็ถือว่าได้ผลตอบรับที่ดีพอสมควร”
คุณสาโรจน์เล่าให้ฟังพร้อมกับแสดงออกในกิริยาท่าทางความพึงพอใจในสิ่งที่ตัวเองเลือกทำ ซึ่งถือว่าเป็นจิตวิญญาณที่ติดตัวและฝังลึกมาอย่างยาวนาน ทั้งนี้น่าจะมาจากความประทับใจที่พ่อกับแม่เป็นชาวนาและพาทำมาตั้งแต่เด็ก เขาจึงได้รับการแนะแนวทางและฝึกฝนให้รู้จักวิธีการทำด้วยความขยัน อดทน และไม่ย่อท้อ อาชีพประจำอีกด้านหนึ่ง ก็คือ ทำกิจการบริษัทธุรกิจส่วนตัวทางด้านการรับเหมา ซึ่งมีลูกชายที่เรียนจบทางด้านวิศวกรรมเครื่องมือวัดมาเป็นหัวแรงอีกด้านหนึ่ง
แต่ด้วยใจรัก 2 พ่อลูกจึงเจียดเงินกำไรที่ได้มาจากธุรกิจหลัก นำมาลงทุนปลูกผักระบบไฮโดรโปนิกส์จาก บริษัท ดัทซ์ กรีนเนอรี่ จำกัด ในครั้งนี้ก็ได้รับคำแนะนำทุกๆ ด้าน จนเกิดความมั่นใจในการทำสวนมากยิ่งขึ้น เริ่มแรกเขาเริ่มทำเพียง 3 โต๊ะปลูกเท่านั้น โดยเน้นหลักการค่อยเป็นค่อยไป และทำตามแผนงานที่วางเอาไว้ตามอายุการเก็บเกี่ยวของผักที่ออกมา ปัจจุบันในพื้นที่ 2 งาน คุณสาโรจน์สามารถขยายโต๊ะปลูกผักเพิ่มขึ้นทั้งหมด 12 โต๊ะ ซึ่งสามารถกำหนดวันเก็บผลผลิตได้ตามโปรแกรมเวลาที่ได้วางเอาไว้ได้ทุกๆ สัปดาห์
“การปลูกผักระบบไฮโดรโปนิกส์ถือว่าเป็นเรื่องที่ทำง่ายมาก เพราะราคาไม่แพงเหมือนเมื่อก่อนที่ได้รับรู้มา ปัจจุบันเกษตรกรคนไม่มีเงินซื้อโครงสร้างอุปกรณ์โรงเรือนท่านสามารถทำขึ้นมาเองได้ โดยใช้ไม้ที่หาได้ง่ายในพื้นที่ ซึ่งบริษัทเองก็ไม่ได้หวงห้าม แต่หลังคาและมุ้งตาข่ายขึงรอบโรงเรือน จะต้องเข้ามาขอคำแนะนำจากบริษัทว่าท่านจะปลูกพืชชนิดไหน ควรใช้ตาข่ายความถี่ที่เท่าไหร่ สำหรับโครงสร้างภายในสวนของผมจะทำเองทั้งหมด เพราะเรามีความรู้ทางด้านโครงสร้างเหล็กอยู่แล้วนั่นเอง”
ด้านตลาดและช่องทางจำหน่ายผักไฮโดรโปนิกส์ และเมล่อน
ทางด้านลูกชายเป็นอีกผู้หนึ่งที่มีบทบาทในการทำสวนมากพอสมควร ซึ่งได้กล่าวถึงโครงสร้างโรงเรือนที่ทำขึ้นเองว่าก่อนที่จะทำควรเข้าไปศึกษาเรียนรู้หลักวิธีการทำจากผู้รู้ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับการริเริ่มที่ถูกต้อง เมื่อถามถึงลักษณะการขายผักสลัดและเมล่อนออกสู่ท้องตลาด ก็ได้รับคำตอบว่าปัจจุบันเป็นยุคโซเชียลมีเดีย เป็นยุคที่ทำการโฆษณาขายของในระบบออนไลน์ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่ง ซึ่งไม่พอขายความต้องการของลูกค้าในตัวเมือง ลักษณะการขายทางสวนจะนำไปส่งเองตามระยะทางไม่เกิน 5 กิโลเมตร
สำหรับราคาขายเราสามารถกำหนดได้เพราะสินค้าของเรามีความสดอยู่เสมอ อีกทั้งยังเป็นภาพลักษณ์ และความใส่ใจของเรา และความสำเร็จของสองพ่อลูกที่ทำสวนในใจกลางเมืองที่มีคนในชุมชนหนาแน่น ซึ่ง “เมืองไม้ผล&พืชสุขภาพ”ได้สัมภาษณ์ถึงความสำเร็จที่ได้รับจากการทำสวนผักที่ได้รับอานิสงค์ทางด้านการแนะนำทุกๆ ด้านจากบริษัทฯ ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นอาชีพที่สามารถทำรายได้ให้กับตนและครอบครัวได้เป็นอย่างดีทีเดียว
การแนะนำขั้นตอนการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์
ทางด้าน “มร.วิม ดัมสตีจท์” ผู้จัดการบริษัท ดัทซ์ กรีนเนอรี่ จำกัด ได้แนะนำและเสนอมุมมองของบริษัทฯที่นำสินค้ามาให้กับเกษตรกรที่สนใจได้เข้ามาเยี่ยมชมว่า ผักในโรงเรือนที่ให้เกษตรกรที่สนใจเข้ามาเยี่ยมชมนี้ ทางบริษัทฯ เพาะปลูกเพื่อทำเป็นงานวิจัยและเก็บข้อมูลทางด้านการเจริญเติบโต วิเคราะห์ทางด้านปัญหาอุปสรรคที่จะเกิดขึ้น และหาวิธีแก้ไขในทางที่ถูกต้อง พร้อมกับมีการพัฒนาผลผลิตที่มีมาตรฐาน ซึ่งเป็นเรื่องที่ส่งผลดีทางด้านความปลอดภัยต่อสุขภาพ จนสร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรที่จะนำไปสร้างอาชีพต่อยอดทำเป็นการค้า และส่งต่อผู้บริโภคต่อไป
“สำหรับวัสดุอุปกรณ์ในการปลูก ผมอยากให้เกษตรกรที่เข้ามาเยี่ยมชมสอบถามให้ละเอียดว่าขั้นตอนการปลูกแต่ละช่วงต้องใส่อะไรบ้าง พอต้นโตระดับหนึ่งต้องเปลี่ยนวัสดุตามลักษณะพืชที่ปลูกอย่างถูกต้อง ทั้งหมดทั้งมวลสำหรับเกษตรกรที่ตัดสินใจซื้อ ไม่ว่าจะเป็นโรงเรือน และเมล็ดพันธุ์ บริษัทฯ เรามีความพร้อมและยินดีเข้าไปแนะนำวิธีการทำทุกๆ ขั้นตอน
เกษตรกรที่เข้ามาดูงานนอกจากประเทศไทยแล้วยังมีเกษตรกรที่มาจากประเทศฟิลิปปินส์, เวียดนาม, พม่า, มาเลเชีย, อินโดนีเซีย และลาว จากข้อมูลเกษตรกรที่เข้ามาดูงานจะเห็นว่าประเทศเวียดนามจะมาแรงทางด้านการลงมือทำอย่างจริงจังมากกว่าทุกๆ ประเทศ ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากรัฐบาลเขาให้ความสำคัญ และสนับสนุนที่ดีนั่นเอง”
ฝากถึงเกษตรกรที่สนใจปลูกผักไฮโดรโปนิกส์
มร.วิม ดัมสตีจท์ เปรียบเทียบ พร้อมกล่าวส่งท้ายก่อนจากกันถึงความสนใจของเกษตรกรที่เข้ามาทำการปลูกผักในโรงเรือนอย่างเป็นระบบว่า เกษตรกรไทยเองก็มีบ้างในปัจจุบันที่สนใจ ซึ่งเขามองเห็นความสำคัญและอนาคตที่สดใสทางด้านมาตรฐานสินค้าที่ได้มาตรฐาน และไม่มีสารตกค้าง ที่ทุกภาคส่วนกำลังรณรงค์กันอยู่ทั่วประเทศในขณะนี้
ในส่วนของบริษัทฯ ก็จะไม่หยุดนิ่ง มีความตั้งใจและพยายามยกระดับทางด้านส่งเสริมและพัฒนาสายพันธุ์ที่ดีอยู่ตลอดเวลา ทั้งเพื่อเป็นทางเลือกให้เกษตรกรที่สนใจนำไปปลูกเพื่อการค้า และส่งขายตามความต้องการของท้องตลาด และพัฒนาผลผลิตให้ดียิ่งขึ้น ได้มาตรฐาน และมีความแตกต่างตลอดไป
อย่างไรก็ดีสำหรับความเคลื่อนไหวและรายละเอียดเกี่ยวกับบริษัท ดัทซ์ กรีนเนอรี่ จำกัด เมืองไม้ผล&พืชสุขภาพ จะนำมาเสนอให้ได้ติดตามในครั้งต่อไป สำหรับเกษตรกรที่สนใจสามารถติดต่อไปได้ที่บริษัท ดัทซ์ กรีนเนอรี่ จำกัด 118/35 ม.1 หมู่บ้านมณีรินทร์ เลค แอนด์ ลากูน ต.บ้านกลาง อ.เมืองปทุมธานี 12000 โทร.02-598-4911 โทรสาร 02-598-4912 หรือเกษตรกรที่มีความประสงค์เดินไปเยี่ยมชมโรงเรือนทดลองสามารถติดต่อไปได้ที่ 201 หมู่ 7 ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 30130 โทร.087-255-2662, 091-774-2615 ได้ทุกวัน
