การปลูกอ้อย ในนาข้าว ผลผลิต 20 ตัน/ไร่ สร้างรายได้ 10,000 บาท/ไร่
“อ้อย” หนึ่งในพืชเศรษฐกิจที่เกษตรกรนิยมปลูกมากที่สุด เพราะเป็นพืชอาหารและพืชพลังงาน ซึ่งอ้อยนับว่าเป็นพืชสำคัญอันดับ 4 ของโลก รองจากข้าวสาลี ข้าวโพด และข้าว นอกจากนี้อ้อยยังเป็นพืชที่ปลูกง่าย ปลูกครั้งเดียวสามารถเก็บเกี่ยวได้หลายครั้ง อ้อยชอบอากาศร้อนชื้น
และอ้อยถือเป็น 1 ใน 5 พืชเศรษฐกิจหลักสำคัญของประเทศไทย ได้แก่ ข้าว ยางพารา อ้อย มันสำปะหลัง และปาล์มน้ำมัน
โดยอ้อยเป็นพืชทนแล้ง ใช้น้ำน้อย จึงเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญที่ช่วยยกระดับรายได้สู่ความมั่นคง ที่สำคัญยังมี พ.ร.บ. อ้อยคุ้มครองอีกด้วย โดยเฉพาะอ้อยสายพันธุ์ “พันธุ์ขอนแก่น” ที่กำลังนิยมมากในวันนี้ เพราะเนื้ออ้อยจะตันดี ทำให้อ้อยได้น้ำหนักที่ดี แข็งแรง และทนแล้งได้ดี
ปรึกษาฟรี! เรียนรู้ การปลูกอ้อย ในนาข้าว หากบอกว่ามาจาก พลังเกษตร.com โทร.081-780-6028
อีกทั้ง “ต้นทุน การปลูกอ้อย ” ถ้าเทียบกับการปลูกข้าวแล้ว อ้อยถือว่ามีต้นทุนการปลูกน้อยกว่ามาก เพราะเป็นพืชที่ไม่ต้องดูแลอะไรมากมายเหมือนข้าว การใส่ ปุ๋ยอ้อย แค่ 2-3 ครั้ง/ปี ปัญหาเรื่องโรคและแมลงก็ไม่มากเหมือนในข้าว การจัดการดูแลง่ายกว่า รวมถึงราคาอ้อยที่ดีกว่าราคาข้าวอย่างเห็นได้ชัด
อีกทั้งในสภาวะที่เศรษฐกิจไม่แน่นอน “อ้อยโรงงาน” ถือว่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่น่าจับตามอง เป็นพืชทนแล้งที่สามารถปลูกได้ทุกพื้นที่ หรือแม้กระทั่งในนาข้าวก็ปรับเปลี่ยนมา ปลูกอ้อย ได้ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจในยามที่ข้าวราคาถูก และเกิดวิกฤติขึ้นอย่างนี้
ทีมงานนิตยสารพืชพลังงานจึงขอนำเสนอเรื่องราวของเกษตรกรรุ่นใหม่ที่จังหวัดสุพรรณบุรีนางสาวสุรีพร เพิ่มมงคล หรือ คุณพร ลูกหลานชาวนา โดยมีพื้นที่ในการทำนา 90 ไร่ จนกระทั่งได้ผันตัวเองมา “ทำไร่อ้อย” ในพื้นที่นาเดิมบนพื้นที่กว่า 70 ไร่ ประมาณ 5 แปลง เพื่อป้อนผลผลิตให้กับโรงงานน้ำตาลในพื้นที่
โดยมีผู้ใหญ่ใจดีในพื้นที่ซึ่งเป็นเพื่อนของพ่อคอยให้คำแนะนำ และให้ความช่วยเหลือในทุกด้าน ที่เน้นให้ ปลูกอ้อย อย่างเป็นระบบภายใต้การบริหารจัดการที่ดี เพื่อทำไร่อ้อยให้มีกำไร ไม่ขาดทุน ให้ผลผลิตปริมาณมากต่อไร่เพื่อรายได้ที่ดี ควบคู่ไปกับการทำนาข้าว “ไรซ์เบอร์รี่” บนเนื้อที่ 20 ไร่ ป้อนผลผลิตให้กับโรงสีในพื้นที่ในราคาประกันที่ 15,000 บาท/ไร่
การให้น้ำ แบบท่วมร่องอ้อย
ดังนั้น “การทำไร่อ้อย” ของคุณพรที่ได้ปรับเปลี่ยนจากที่นามาเป็นไร่อ้อย จะเริ่มตั้งแต่การเตรียมพื้นที่ โดยใช้รถแทรกเตอร์ดันโล๊ะคันนาออกให้หมด ก่อนไถพลิกหน้าดิน และไถแปร แล้วค่อยยกร่อง การปลูกอ้อย ทั้งหมด 70 ไร่ ด้วยสายพันธุ์ “ขอนแก่น”
ที่เน้นใช้แรงงาน การปลูกอ้อย ทั้งหมด ตั้งแต่แบกมัดอ้อยไปวางไว้เป็นระยะ ก่อนจะวางอ้อยลงไปในร่อง และสับลำอ้อยให้ขาดเป็นท่อนๆ ก่อนให้คนงานใช้จอบขุดดิบกลบร่องอ้อยทุกร่อง หลังจาก การปลูกอ้อย เสร็จแล้วจะเริ่มฉีดพ่นยาคุมหญ้าวัชพืชทันที (ยาคุมแห้ง)
ต่อมาอีก 3 วันจะเริ่มปล่อยน้ำเข้าในไร่อ้อยให้ท่วมร่องอ้อย เพื่อคุมหญ้าที่หลงเหลือจากการฉีดยาคุมหญ้าแล้วไม่ตาย เมื่อน้ำเริ่มแห้งอ้อยจะเริ่มแทงหน่อขึ้นมา หากมีหญ้าขึ้นมาอีกก็จะฉีดพ่นยาฆ่าหญ้าอีกครั้งเป็นรอบที่ 2 เมื่ออ้อยเริ่มแทงหน่อขึ้นมาจนหมดแล้วจะเริ่มให้น้ำอีกรอบ
ซึ่งข้อควรระวัง คือ หากอ้อยยังแทงหน่อขึ้นมาไม่หมด อย่าเพิ่งให้น้ำ เพราะจะทำให้หน่ออ้อยที่กำลังแทงเดือยขึ้นมาเน่าเสียหายได้
การใส่ ปุ๋ยอ้อย
- ใส่ ปุ๋ยอ้อย รอบแรก เมื่อต้นอ้อยมีอายุประมาณ 1 เดือนครึ่ง จะเริ่มด้วยปุ๋ยเคมีสูตร 46-0-0 เพื่อการเจริญเติบโตที่ดี
- ก่อนจะใส่ ปุ๋ยอ้อย รอบที่ 2 ให้ห่างจากรอบแรกประมาณ 2 เดือน ด้วยการใช้ปุ๋ยเคมี “ตราพลอยเกษตร” ของ กลุ่มบริษัทปุ๋ยศักดิ์สยาม (ศักดิ์สยามกรุ๊ป) สูตร 16-8-8 ขนาด 50 กก./กระสอบ และ 46-0-0 ขนาด 50 กก./กระสอบ ในอัตรา 2:3 ส่วน โดยมีอัตราการหว่านเฉลี่ย 50 กก./ไร่
- ใส่ ปุ๋ยอ้อย รอบที่ 3 เมื่ออายุ 7-8 เดือน เพื่อให้อ้อยเจริญเติบโตดี สมบูรณ์เต็มที่ และเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดี มีคุณภาพ ได้ความหวานที่ดี เน้นใส่ ปุ๋ยอ้อย เคมีสูตร 0-0-60 ที่สำคัญการทำไร่อ้อยต้องมีการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอทุก 15-20 วัน/รอบตลอดอายุการเก็บเกี่ยว
“จุดเด่นของปุ๋ยศักดิ์สยาม” ที่สำคัญคือมี “แมกนีเซียม” ทุกกระสอบ ประมาณ 3.5-4 กก.กระสอบในขณะที่ปุ๋ยอื่นไม่มี เป็นปุ๋ยที่ครบสูตรทุกกระสอบ เนื้อปุ๋ยเต็มประสิทธิภาพทุกล็อต จึงลดปริมาณการใส่ปุ๋ยของเกษตรกรลงได้ ราคายุติธรรม ใช้แล้วเห็นผลจริง
ต้นทุนการผลิตเฉลี่ยที่ 3,000-3,500 บาท/ไร่
เพราะการให้น้ำกับไร่อ้อยนี้จะทำให้อ้อยเจริญเติบโตดี แข็งแรง สมบูรณ์ ไม่เป็นโรคหนอนกอ ให้ผลผลิตที่ดี น้ำหนักดี ดูแลง่าย ไม่ต้องใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืช ลดต้นทุนการผลิตลงได้เป็นอย่างดี ทำให้คุณพรมีต้นทุนการผลิตเฉลี่ยที่ 3,000-3,500 บาท/ไร่
ภายใต้การจัดการไร่อ้อยด้วยตนเอง บางส่วนที่ทำได้ และบางส่วนที่ทำไม่ได้ หรือทำไม่ทันก็จะจ้างแรงงาน ทั้งการใส่ปุ๋ย การฉีดยา ที่ต้องจัดการให้เหมาะสมกับเวลาและอายุของอ้อยในแต่ละช่วง เมื่ออ้อยมีอายุ 9.5-10 เดือนขึ้นไป ก็จะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตเข้าสู่โรงงานได้ ภายใต้การใช้แรงงานตัดอ้อยที่ต้องจัดการผลผลิตให้สอดคล้องกับโรงงาน ในขณะที่พื้นที่ 1 ไร่ จะให้ผลผลิตเฉลี่ยที่ 20 ตัน มีราคาผลผลิตอยู่ที่ 1,100 กว่าบาท/ตัน
รายได้ประมาณ 22,000 บาท/ไร่
มีรายได้ประมาณ 22,000 บาท/ไร่ เมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้วคุณพรจะมีกำไรอยู่ที่ 750-800 กว่าบาท/ตัน หรือมีกำไรไม่ต่ำกว่า 15,000 บาท/ไร่ ส่งผลให้คุณพรกลายเป็น “เกษตรกรรุ่นใหม่ไฟแรง” และเป็นเกษตรกรตัวอย่างในพื้นที่ด้านการจัดการไร่อ้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำไร่อ้อยในพื้นที่นาน้ำตมแบบไม่ยกร่อง
นอกจากนี้คุณพรยังได้ทดลอง “ทำไร่อ้อยในพื้นที่นาน้ำตมแบบไม่ยกร่อง” ที่มีขั้นตอนเหมือนกับการทำนาทุกอย่าง ซึ่งจะเห็นว่าอ้อยรุ่นที่ปลูกในน้ำตมทั้งหมด 2 แปลง จะโตช้ากว่าการยกร่อง แต่สามารถลดต้นทุนได้ค่อนข้างมาก เพราะไม่ต้องไถพลิกหน้าดิน ไม่ต้องไถแปร ไม่ต้องยกร่อง
ทำให้มีต้นทุนการผลิตเพียง 30,000 บาท/พื้นที่ 10 ไร่ อ้อยมีอัตราการแตกกอดีกว่าการยกร่อง เพราะรากหากินได้ดีกว่า แตกหน่อได้ดี ได้หน่อมากกว่า ลำต้นใหญ่กว่า และสายพันธุ์ขอนแก่นจะโตดีกว่า ให้ผลผลิตดีกว่าสายพันธุ์อื่นๆ
การขอคำแนะนำด้านการใช้ปุ๋ย-ยาในไร่อ้อย จากร้านหอมกรุ่นการเกษตร
แต่ด้วยความที่คุณพรมีอาชีพเดิม คือ การทำนา เมื่อหันมาทำไร่อ้อยความรู้ที่มีอยู่จึงเท่ากับศูนย์ ส่งผลให้คุณพรต้องศึกษาค้นคว้า แสวงหาองค์ความรู้ทุกอย่าง เพื่อให้การทำไร่อ้อยมีประสิทธิภาพ เริ่มตั้งแต่การเข้าไปดูไร่อ้อย และขอความรู้จากคนที่เคยทำไร่อ้อยมาก่อน ทั้งในและนอกพื้นที่
ทำให้การทำไร่อ้อยตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ต้องเรียนรู้เอง ควบคู่ไปกับการขอคำแนะนำด้านการใช้ปุ๋ย-ยาในไร่อ้อย จาก “ร้านหอมกรุ่นการเกษตร” ที่มี คุณอุดมพร ปานกรณ์ หรือ เฮียฮื๊อ เป็นเจ้าของ ที่มุ่งมั่นพัฒนาเกษตรกรให้มีองค์ความรู้ในการใช้ปุ๋ย-ยาให้ถูกต้องกับพืชแต่ละชนิดตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ตั้งอยู่เลขที่ 16 หมู่ 4 ต.โคกช้าง อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี และยังเป็นร้านค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายปุ๋ยเคมีคุณภาพ ของกลุ่มบริษัทปุ๋ยศักดิ์สยาม (ศักดิ์สยามกรุ๊ป)
ได้แนะนำให้ใช้ “ปุ๋ยตราพลอยเกษตร” ในไร่อ้อย จะเห็นว่า อ้อยมีการเจริญเติบโตที่ดี แตกกอได้ดี แตกกอจำนวนมาก หน่ออวบใหญ่ เขียวนาน เขียวทน ลำต้นอวบใหญ่ สูงประมาณ 2 เมตรกว่า ใบสมบูรณ์ น้ำหนักดี ความหวานดี หรือได้ค่าความหวานตั้งแต่ 11 ccs.ขึ้นไป ที่สำคัญราคายุติธรรม ใช้แล้วเห็นผลจริง คุ้มค่ากับการลงทุน
แม้ว่าการทำไร่อ้อยจะลงทุนมากในปีแรก แต่ในปีถัดไปจะมีเพียงค่าการจัดการเท่านั้น
แม้ว่าการทำไร่อ้อยจะลงทุนมากในปีแรก แต่ในปีถัดไปจะมีเพียงค่าการจัดการเท่านั้น อ้อยใหม่จะโตช้ากว่าอ้อยตอ เพราะไม่ต้องเลี้ยงหน่อใหม่ การทำไร่อ้อยหากมีการจัดการที่ดีจะสามารถไว้ตอได้มากถึง 10-15 ตอ เลยทีเดียว เมื่อเปรียบเทียบกันระหว่างการทำนากับการทำไร่อ้อย
จะเห็นว่าการ “ทำไร่อ้อย” สามารถลดต้นทุนได้มากกว่า ใช้น้ำน้อยกว่า ยิ่งถ้าขายพันธุ์ได้ยิ่งดี แต่ถ้าเป็นข้าว ราคาข้าวเอาแน่เอานอนไม่ได้ แต่ราคาอ้อยเต็มที่ก็ไม่เคยต่ำกว่า 800 บาท/ตัน หรือราคาต่ำสุดก็ไม่ต่ำกว่า 500 บาท/ตัน
นอกจากนี้คุณพรยังใช้ ปุ๋ยอ้อย เคมีคุณภาพ “ตราพลอยเกษตร” สูตร 10-55-20 ใน “แปลงต้นหอม” ที่ปลูกไว้เพื่อสร้างรายได้รายวันให้กับครอบครัว ที่จะเห็นว่าต้นหอมมีการเจริญเติบโตที่ดี ให้ผลผลิตที่ดี น้ำหนักดี ต้นอวบใหญ่ และยังเป็นที่ต้องการตลาด ขายได้ทุกวัน โดยมีรายได้รายเดือน คือ ทำนาข้าวไรซ์เบอรี่ และยังมีไร่อ้อยเป็นรายได้รายปี
ซึ่งคุณพรเป็นหนึ่งในเกษตรกรผู้ผลิตพันธุ์อ้อย ที่สามารถตัดพันธุ์อ้อยจำหน่ายได้เมื่ออายุ 4-5 เดือนขึ้นไป ที่ให้ผลผลิตเฉลี่ยที่ 10 ตัน/ไร่ หรือมีรายได้ประมาณ 10,000 บาท/ไร่ นำมาซึ่งรายได้ที่ดี ภายใต้การทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ ที่ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคและปัญหาต่างๆ
สอบถามเพิ่มเติม คุณสุรีพร เพิ่มมงคล 52/2 ม.9 ต.โคกช้าง อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี 72120 โทร.090-742-7488
ร้านหอมกรุ่นการเกษตร หรือ คุณอุดมพร ปานกรณ์ 16 ม.4 ต.โคกช้าง อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี 72120 โทร.081-780-6028