30จากการสั่งสมประสบการณ์ด้านอาชีพสวนยางพารามาตั้งแต่วัยเยาว์ จึงเป็นแรงบันดาลใจให้เขา 2 พี่น้อง คุณกระวี และ คุณเชิงโชติ หวานแก้ว ได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัท ภายใต้ชื่อ “ ซี.พี. เกษตรตะวันแดง อินเตอร์เทรด จำกัด ” โดยเริ่มต้นเจาะกลุ่มธุรกิจด้านยางพาราครบวงจร ซึ่งขณะนั้นยางพาราถือว่าเป็นพืชที่กำลังมาแรง โดยทั้ง 2ผู้บริหาร มีวิสัยทัศน์การบริหารงานธุรกิจภาคการเกษตรที่แตกต่าง คำนึงด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องสำคัญ
การปลูกปาล์มน้ำมัน
คุณกระวีให้ข้อมูลว่า บริษัท ซี.พี. เกษตรตะวันแดง อินเตอร์เทรด จำกัด ก่อตั้งขึ้นปี 2539 ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับยางพาราเป็นหลัก และมีการร่วมมือทำสัญญาซื้อขายเมล็ดพันธุ์ปาล์มน้ำมันกับ บริษัท ยูนิวานิช น้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) เพื่อนำมาผลิตต้นกล้าปาล์มน้ำมันตีตลาดควบคู่ไปกับทำออแกนิคฟาร์ม ที่มีสินค้าหลัก คือ มังคุด คัดเกรด และ เมล่อน เกรดพรีเมี่ยม เพื่อรองรับลูกค้าทางออนไลน์
แต่สินค้าหลักๆ ของบริษัทมีอยู่ทั้งหมด 4 กลุ่ม เช่น อุปกรณ์ในสวนยางพาราครบวงจร ปุ๋ย ต้นกล้าพันธุ์ปาล์มน้ำมัน และ สารปรับสภาพดิน เป็นต้น ต่อมาปี 2547 ได้ปรับระบบการบริหารงานด้านบุคลากรภายในองค์กรเพื่อให้เหมาะสมกับงานและความถนัดมากขึ้น โดยมี คุณปฎิมา ก่อเจริญ อดีตนักวิชาการมากฝีมือ และมีความเชี่ยวชาญ เข้ามาดูแลรับผิดชอบในเรื่องดิน วิเคราะห์ธาตุอาหารในดิน เพื่อนำไปคิดค้นสูตรปุ๋ยให้เกิดประสิทธิผลกับพืชแต่ละชนิด โดยเฉพาะสูตร ยางพารา และ ปาล์มน้ำมัน เป็นต้น
รูปแบบการบริหารได้ใช้สำนักงานใหญ่กรุงเทพฯ ทำหน้าที่คอยเชื่อมต่อด้านการสื่อสารกับลูกค้า และ ตัวแทนจำหน่ายของบริษัท ที่กระจายอยู่เกือบทุกจังหวัด ซึ่งคุณเชิงโชติเป็นผู้บริหารหลักภายในสำนักงานใหญ่ “ผมเป็นผู้ให้ข้อมูลหรือรายละเอียดของสินค้า และคอยประสานงานในด้านเอกสารต่างๆ การพิจารณารับตัวแทนจำหน่าย การวางแผนงานทั้งระยะสั้นไปจนถึงระยะยาว ว่าต้องทำการตลาดสินค้า 4 กลุ่มนี้อย่างไร โดยเราใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ด้านไอทีเข้ามาบริหารจัดการ เพื่อตอบสนองความสะดวกและรวดเร็วของลุกค้า” คุณเชิงโชติอธิบายถึงระบบการบริหารงานขององค์กร
สภาพพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน
เมื่อพูดถึงการจำหน่ายกล้าปาล์มน้ำมัน คุณกระวีให้ข้อมูลว่าจะเลือกสายพันธุ์ของ บริษัท ยูนิวานิชฯ ได้ทำแปลงเพาะกล้าเฉพาะปาล์มน้ำมันซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช เนื้อที่ประมาณ 300 ไร่ ซึ่งแบ่งเป็นโซนปลูกปาล์มน้ำมันลูกผสมเทเนอรา ยังกัมบิ ที่ให้ผลผลิตแล้วส่วนหนึ่ง และเน้นผลิตกล้าปาล์มอายุ 6-7 เดือน ซึ่งกล้าปาล์มน้ำมันเป็นปาล์มลูกผสมเทเนอรา (DXP) ยังกัมบิ เป็นสายพันธุ์ปาล์มคุณภาพของประเทศมาเลเซีย ลูกผสมที่ได้จากการผสมระหว่าง แม่ดูรา กับ พ่อฟิสิเฟอรา มาปลูก ทำให้ปริมาณผลผลิตทะลายสด และเปอร์เซ็นต์น้ำมันสูง
ซึ่งจุดเด่นๆ ของพันธุ์ปาล์มลูกผสมเทเนอร่า (DXP) ยังกัมบิ คือ ลักษณะต้นเตี้ย ทางใบสั้น ทนแล้ง มีจำนวนทะลายต่อต้นสูงมาก ผลผลิตสม่ำเสมอ มีขนาดทะลายสดปานกลาง (20-40 กก./ทะลาย ) ค่าเฉลี่ยของน้ำมันต่อทะลายเท่ากับ 28-30% ทะลายปาล์มมีหนามน้อย ระยะเวลาในการปลูก 2 ปี 6 เดือน เริ่มออกทะลาย อายุต้นปาล์มในการเก็บเกี่ยว เฉลี่ย 30 ปี พื้นที่ในการปลูก 20-22 ต้น/ไร่ และระยะปลูกเป็นสามเหลี่ยมด้านเท่า 9 x 9 x 9 เมตร
ด้วยจุดเด่นของสายพันธุ์ และมีแปลงตัวอย่างที่นำสายพันธุ์ปาล์มไปปลูกในพื้นที่ และเมื่อปาล์มเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้วผลออกมาเป็นที่น่าพอใจ ทำให้ลูกค้าเก่าบอกต่อ และแนะนำมาสั่งซื้อกล้าปาล์มน้ำมันอย่างต่อเนื่อง “ผมมั่นใจในสายพันธุ์เทเนอรา หรือสายพันธุ์ตระกูลของเทเนอรา เป็นสายพันธุ์ที่ดีและน่าเชื่อถือ ผลผลิตสูง และน่าพอใจ เกษตรกรไม่ผิดหวัง” คุณกระวียืนยัน
การบำรุงดูแลต้นปาล์มน้ำมัน
ในการปลูกปาล์มน้ำมันให้ได้ผลผลิตปาล์มคุณภาพสูงนั้น เรื่อง ปุ๋ย เป็นสิ่งสำคัญ ที่ทางบริษัทให้ความสำคัญด้านปุ๋ย เมื่อลูกค้านำกล้าปาล์มน้ำมันไปปลูกแล้ว เกษตรกรควรศึกษาเรื่องดินเป็นหลัก เพราะปาล์มน้ำมันเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีอายุยืน จึงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับชาวสวนมือใหม่
แต่การรักษาต้นปาล์มให้ออกผลผลิตสม่ำเสมอ และสามารถสร้างรายได้ตลอดระยะเวลานานนั้น ต้องคำนึงเรื่องการเลือกใช้ปุ๋ยด้วย ตั้งแต่ปุ๋ยรองก้นหลุม บริษัทได้คำนึงการให้ปุ๋ยกับต้นปาล์มน้ำมัน ตั้งแต่ระยะการปลูก จึงทำการผลิตปุ๋ยรองก้นหลุม หรือ สารปรับสภาพดินคุณภาพสูง กระสอบละ 25 กิโลกรัม มีส่วนผสมหลายชนิด อาทิ หัวเชื้ออีเอ็ม และ อินทรียวัตถุ ฯลฯ ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่าสารปรับสภาพดินทั่วๆ ไป ที่มีส่วนผสมของหินฟอสเฟต และ โดโลไมท์ มีหน้าที่ช่วยปรับให้ดินร่วนซุยเพียงอย่างเดียว แต่พืชไม่ได้รับสารอาหารรองไปด้วย
ทางบริษัทจึงผลิตสารปรับสภาพดิน ตราตะวันแดง ขึ้นมา เพื่อตอบโจทย์ของสารปรับสภาพดินให้มีประสิทธิภาพมากกว่า “ปุ๋ยรองก้นหลุมของเรามีอินทรียวัตถุเพิ่มเข้าไปด้วย เพื่อรองรับเมื่อ ต้นปาล์มน้ำมัน หรือ ต้นพืชอื่นๆ โต จะได้เน้นธาตุอาหารรอง และปรับค่า pH ดิน ก็เหมือนปรับสภาพดิน และเป็นธาตุอาหารของต้นปาล์มน้ำมันได้ด้วย” คุณกระวีอธิบายถึงจุดเด่นของสารปรับสภาพดิน แบรนด์ตะวันแดง
การผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยเคมี
นอกจากสารปรับสภาพดินแล้ว ทางบริษัทยังมี ปุ๋ยอินทรีย์ และ ปุ๋ยเคมี ที่ใช้กับยางพารา ตั้งแต่ยางเล็กไปจนถึงยางก่อนเปิดกรีด และ ปุ๋ย “สูตรเพิ่มผลผลิต” บำรุงต้นยางที่เปิดกรีดให้สามารถผลิตน้ำยางได้สม่ำเสมอ สาเหตุที่บริษัทมีนโยบายผลิตปุ๋ยอินทรีย์เพราะคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ เพราะปุ๋ยอินทรีย์เป็นปุ๋ยไม่ทำให้ระบบดินเสีย และยังช่วยปรับสภาพ
นอกจากบริษัทมีผลิตภัณฑ์ปุ๋ยอินทรีย์ทั้ง 3 สูตรแล้ว ยังมีการผลิตปุ๋ย “สั่งตัด” เป็นแม่ปุ๋ยนำไปผสมใช้กับปุ๋ยสูตรอื่น หรือ ปุ๋ยอินทรีย์ โดยมี คุณปฎิมา ก่อเจริญ ซึ่งเป็นนักวิชาการมือหนึ่งของบริษัท ที่ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการ และวิเคราะห์ทดลองสูตรปุ๋ยแต่ละสูตรให้เพื่อนำไปใช้กับปาล์มน้ำมันในแต่ละช่วงอายุ โดยให้คำแนะนำเกษตรกรที่ซื้อต้นกล้าปาล์มน้ำมันไปปลูกจนกระทั่งเก็บผลผลิต ซึ่งราคาขายปุ๋ยสั่งตัดของบริษัทมีราคาถูกกว่าแม่ปุ๋ยเคมีในท้องตลาด และให้เกษตรกรได้รับแม่ปุ๋ยคุณภาพสูง มีสิ่งปลอมปนน้อย เช่น แม่ปุ๋ยสูตร 46-0-0 ,0-0-60 เป็นต้น
“ปุ๋ยของเราใน 1 กระสอบ 50 กิโลกรัม มีแม่ปุ๋ย 8 ตัว มีธาตุอาหารหลักและอาหารรองครบถ้วน แต่ก่อนใช้ปุ๋ยจะให้คำแนะนำด้านปริมาณที่เหมาะสมกับดิน เพื่อไม่ให้ไปตกค้างในดินมากนัก เราจะเน้นดูแลสภาพดินตลอดเวลา ให้พืชกินหมด ไม่ตกค้างในดิน” คุณกระวีอธิบายการผลิตปุ๋ย พร้อมกับกล่าวทิ้งท้ายถึงการลงทุนปลุกปาล์มน้ำมันว่า หากนโยบายรัฐมีผลต่อทิศทางปาล์ม หรือ พืชทางการเกษตร เป็นอย่างมาก
การบริการหลังการขาย
การทำธุรกิจภาคเกษตรต้องเข้าใจลูกค้า ไว้วางใจ เชื่อถือ รู้จักคุ้นเคย ใช้ระบบการบริหาร การพึ่งพาอาศัยกัน และการทำธุรกิจต้องมีความน่าเชื่อถือเป็นอันดับแรก เป็นการแสดงศักยภาพของบริษัท ที่สำคัญผู้บริหารต้องลงพื้นที่ไปพบเกษตรกรด้วยตนเองบ้าง เพื่อจะได้นำปัญหามาแก้ไขปรับปรุงการบริการให้ดียิ่งขึ้น และปรับตัวไปตามสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา
สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ บริษัท ซี.พี. เกษตรตะวันแดง อินเตอร์เทรด จำกัด เลขที่ 217 ม.5 ริมถนนสาย 4015 บ้านส้อง-นครศรีธรรมราช ต.กะเปียด อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช 80260 โทรศัพท์ : 081-848-2994, 075-520-442, แฟนเพจ : ตะวันแดงออร์แกนิกฟาร์ม, www.siamagro.asia