“การทำเกษตรแบบเดิมๆ มาเกือบทั้งชีวิตก็ยังไม่ดีขึ้น แต่ถ้าเราเปลี่ยนแปลงแนวคิด เปลี่ยนวิธีการทำเกษตร หันมาทำเกษตรแบบใหม่แล้วดีขึ้นมาได้ เราก็ควรจะทำ เพื่อความกินดี อยู่ดี หมดหนี้หมดสิน มีความสุขในการทำเกษตรอย่างแท้จริง” ปลูกข้าวโพด
นี่คือความฝันของเกษตรกรที่ชื่อ ทองธารา คันศร เกษตรกรในพื้นที่ ต.สักงาม อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ที่ยึดอาชีพการทำเกษตรมาตลอดชีวิต ซึ่งเดิมทีเป็นคนนครสวรรค์แล้วได้ย้ายมาอยู่ที่กำแพงเพชรตั้งแต่ปี 2516 ทำเกษตรในพื้นที่ตนเองประมาณ 20 ไร่ และพื้นที่เช่าร่วม 60 ไร่ ในอัตราค่าเช่า 1,500 บาท/ปี
ปลูกมันสำปะหลัง
“การทำเกษตรแบบเดิมๆ มาเกือบทั้งชีวิตก็ยังไม่ดีขึ้น แต่ถ้าเราเปลี่ยนแปลงแนวคิด เปลี่ยนวิธีการทำเกษตร หันมาทำเกษตรแบบใหม่แล้วดีขึ้นมาได้ เราก็ควรจะทำ เพื่อความกินดี อยู่ดี หมดหนี้หมดสิน มีความสุขในการทำเกษตรอย่างแท้จริง”
นี่คือความฝันของเกษตรกรที่ชื่อ ทองธารา คันศร เกษตรกรในพื้นที่ ต.สักงาม อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ที่ยึดอาชีพการทำเกษตรมาตลอดชีวิต ซึ่งเดิมทีเป็นคนนครสวรรค์แล้วได้ย้ายมาอยู่ที่กำแพงเพชรตั้งแต่ปี 2516 ทำเกษตรในพื้นที่ตนเองประมาณ 20 ไร่ และพื้นที่เช่าร่วม 60 ไร่ ในอัตราค่าเช่า 1,500 บาท/ปี
เริ่มต้นอาชีพการทำเกษตรในพื้นที่ด้วยการทำไร่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่เรียกว่า “เมล็ดแม่พันธุ์” ให้กับบริษัทเมล็ดพันธุ์ชื่อดังแห่งหนึ่งบนเนื้อที่ประมาณ 20 กว่าไร่ เป็นเกษตรกรรุ่นแรกที่ทำเมล็ดแม่พันธุ์ให้กับบริษัทนี้ และทำมานานกว่า 10 ปีแล้ว มีกลุ่มเกษตรกรที่ทำอยู่มากมายกระจายอยู่ในพื้นที่ด้วย แต่เนื่องจากร่างกายเริ่มอ่อนแรงตามวัย ทำให้คุณทองธาราลดพื้นที่การทำไร่ข้าวโพดเมล็ดแม่พันธุ์นี้ให้เหลือเพียง 3 ไร่ ในปีนี้
สภาพพื้นที่ ปลูกข้าวโพด
ขั้นตอนการผลิตตั้งแต่การเตรียมพื้นที่ ยกร่อง หยอดเมล็ดข้าวโพดตัวเมีย 4 แถว แล้วก็หยอดเมล็ดตัวผู้ 1 แถว สลับกันไปอย่างนี้จนเต็มพื้นที่ เมื่อมีอายุครบ 50 วัน ข้าวโพดจะเริ่มออกดอก ต้องดึงตัวเมียออกให้หมด ให้เหลือเพียงตัวผู้ใน 1 แถวนั้น เมื่อมีการผสมเกสรระหว่างต้นตัวผู้และตัวเมียเสร็จแล้วก็จะโค่นต้นตัวผู้ทิ้ง ให้เหลือแต่ต้นตัวเมียที่สมบูรณ์เป็นเมล็ดพันธุ์ มีการดูแลทั้งทำรุ่น ใส่ปุ๋ย ฉีดพ่นยาป้องกันเชื้อรา ยาไล่แมลง ยาป้องกันเพลี้ยไฟ ไรแดง ใส่ปุ๋ยเร่งแป้ง ฉีดพ่นปุ๋ยเกล็ดทั่วไป
ซึ่งมีขั้นตอนการดูแลที่ค่อนข้างละเอียด ใช้เวลาปลูกนาน 4 เดือน จึงจะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ประมาณ 500-1,000 กก./ไร่ ขายในราคา 15.50 บาท/กก. แต่ปีนี้ราคาสูงขึ้นเป็น 18.00 บาท/กก. “เราทำเมล็ดแม่พันธุ์มาตลอด ทำเป็นรุ่นแรก ที่เขาให้ทำเลย ทำ 20 กว่าไร่ มาทุกปี แต่ปีนี้ทำน้อย เพราะมันใช้ยาเยอะ เราก็จะสู้ไม่ไหว เพราะแก่ตัวลงแล้ว” คุณทองธารากล่าว
ก่อนเปลี่ยนพื้นที่ที่เหลือมา “ทำนาข้าว”ปลอดสารพิษ ทั้งข้าวหอมมะลิ จำนวน 7 ไร่ ทำไว้กินเอง และข้าวไรซ์เบอรี่จำนวน 7 ไร่ ทั้งทำขาย และเก็บไว้กินด้วย มีเพียงขั้นตอนการเตรียมดินให้ดีก่อนจะโยนกล้าลงไป หลังจากนั้นเพียง 15 วัน จะใช้น้ำหมักผลไม้ที่ทำขึ้นเองฉีดพ่นให้ทั่วแปลงนา ฉีดพ่นน้ำส้มควันไม้ป้องกันแมลงร่วมกับสารไตรโคเดอร์มาด้วย เป็นข้าวอินทรีย์ที่ไม่มีการใช้ปุ๋ยเคมี และสารเคมีเลย
เนื่องจากในระหว่างช่วงของการผลิตจะมีเจ้าหน้าที่จาก ม.เกษตรศาสตร์ (กำแพงแสน) เข้ามาสุ่มตรวจสารเคมีในนาข้าว หากพบสารเคมีก็จะไม่ผ่านมาตรฐานที่กำหนดเอาไว้ เนื่องจากเมล็ดพันธุ์ข้าวไรซ์เบอรี่นี้นำมาจากมหาวิทยาลัยฯ ภายใต้การผลิตแบบอินทรีย์
โดยที่ทางมหาวิทยาลัยฯ จะมีการรับซื้อผลผลิตคืนหลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วในราคา 20,000 บาท/ตัน หรือเมื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วคุณทองธาราจะได้ผลผลิตประมาณ 500 กก./ไร่ขึ้นไป นับว่าเป็นรายได้ที่ดีพอสมควร แล้วยังได้ข้าวอินทรีย์เป็นข้าวสุขภาพไว้กินเองได้
การปลูกมันสำปะหลัง
ในส่วนของการทำ “ไร่มันสำปะหลัง” เดิมทีคุณทองธาราและเกษตรกรทั่วไปในพื้นที่มีขั้นตอนการทำไร่มันแบบเดิมๆ ที่ใช้สายพันธุ์ทั่วไป ไม่เคยรองพื้นปรับสภาพดินเลย ไม่เคยแช่ท่อนพันธุ์ ปลูกถี่ 50 ซม. ฉีดยาคุมหญ้า ก็ปล่อยไปตามธรรมชาติ ไม่มีระบบน้ำ และใส่ปุ๋ยบ้างบางช่วงหน้าฝน
การขุดเก็บผลผลิตแต่ละครั้งต้องไว้นาน 2 ปี ตลอด ทุกครั้งที่ขุดมัน 2 ปีนี้ จะให้ผลผลิตเพียง 20 กว่าตัน/10 ไร่ เท่านั้น จึงมองว่าไม่คุ้มค่ากับการเสียเวลาไปเลย แม้จะมีต้นทุนที่ค่อนข้างถูกเพราะไม่ได้ดูแลอะไรมากมาย แต่ผลผลิตที่ได้ก็ได้แค่นิดเดียวจริงๆ จึงต้องมองหาวิธีการที่จะทำให้การปลูกมันให้ผลผลิตที่เพิ่มขึ้น คุ้มค่าแก่เวลาที่เสียไป
ต่อมาได้รู้จักการปลูกมันแบบใหม่ “ระบบผู้จัดการมัน” จึงเริ่มต้นเข้ามาศึกษาก่อน และมองเห็นความเป็นไปได้ในการปลูกมันแบบเพิ่มผลผลิต ที่เห็นได้จากการลงพื้นที่ศึกษาสมาชิกที่ทำอยู่แล้ว ปลูกมันในพื้นที่นิดเดียวแต่มีระบบการดูแลดี แล้วให้ผลผลิตค่อนข้างดีมาก
แต่ทว่ามันสำปะหลังที่ขุดไปขายและได้ปลูกใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว คุณทองธาราจึงได้นำระบบการดูแลผู้จัดการมันมาใช้ในไร่มันของตนที่มีการปลูกไว้แบบเดิมๆ ที่ปลูกระบบถี่ ระยะต้น 50 ซม. ระยะร่อง 1.20 เมตร สายพันธุ์ทั่วไปเพื่อดูผลผลิตไปก่อน ที่มีการทยอยปลูกไว้ในพื้นที่ ซึ่งมีหลายรุ่นในตอนนี้ที่สามารถขุดเก็บผลผลิตได้อย่างต่อเนื่อง หมุนเวียนขุดได้ตลอดทั้งปี
การใส่ปุ๋ยต้นมันสำปะหลัง
ต่อมาเมื่อขุดมันในแปลงบางส่วนไปขายแล้วจึงนำระบบผู้จัดการมันมาใช้อย่างเต็มสูตรในเนื้อที่ 7 ไร่โดยที่ไม่มีระบบน้ำเช่นเคย ใช้สายพันธุ์ PKM01 จำนวน 5 ไร่ และพันธุ์ทั่วไปอีก 2 ไร่ ที่มีการรองพื้นด้วยสารปรับปรุงดิน คัดท่อนพันธุ์ ชุบท่อนพันธุ์ หมกท่อนพันธุ์ ยกร่องปลูกใหญ่ จ้างคนงานเสียบปลูกเป็นรายวันในระยะต้น 80 ซม. ระหว่างร่อง 1.20 เมตร
หลังจากนั้นทุก 10 วัน จะฉีดพ่นฮอร์โมนเพื่อการเจริญเติบโตไปจนถึงมันอายุครบ 2 เดือน จะใส่ปุ๋ยเคมีบำรุงต้น หลังจากนั้นก็จะฉีดพ่นฮอร์โมนเร่งแป้งต่อไป ขณะนี้มันสำปะหลังมีอายุ 8 เดือน เมื่อลองขุดดูและนำมาโชว์ที่งานครบรอบ 5 ขวบปี สหกรณ์การเกษตรนาบ่อคำ จำกัด จะเห็นว่ามันหัวใหญ่ หัวยาว มีน้ำหนักดี
ซึ่งจะมีการเก็บเกี่ยวผลผลิตเมื่ออายุครบ 1 ปีเต็ม โดยต้องนำสายพันธุ์ขายคืนกลับให้สหกรณ์ฯ เพื่อส่งเสริมให้กับสมาชิกรายต่อไป และเหลือไว้เพียง 1 ไร่ จะทยอยขยายพันธุ์ต่อในพื้นที่ราว 15-20 ไร่ ที่จะต้องตัดท่อนพันธุ์ให้สั้นลงเพื่อเพิ่มปริมาณท่อนพันธุ์ให้มากขึ้น ปรับปรุงดินก่อนปลูกในระยะห่างขึ้นที่ระยะต้น 1.20 เมตร และระยะร่อง 1.20 เมตร
เนื่องจากการปลูกในระยะ 80 ซม. นั้น เมื่อมันเจริญเติบโตเต็มที่หัวมันจะชนกันค่อนข้างมากแล้ว นอกนั้นจะปลูกด้วยสายพันธุ์อื่นก่อน และรอปลูกด้วยสายพันธุ์ PKM01ในฤดูถัดไปจนเต็มพื้นที่เกือบ 40 ไร่ และเชื่อว่าจะได้ผลผลิตไม่ต่ำกว่า 10 ตัน/ไร่ แน่นอน
รายได้จากผลผลิตมันสำปะหลัง
ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นมันสำปะหลังที่ปลูกไว้ ที่มีการดูแลด้วยระบบผู้จัดการมันนั้นได้ขุดเก็บผลผลิตไปแล้ว 8 ไร่ และยังเหลือมันที่จะขุดเก็บผลผลิตอีกเกือบ 30 ไร่ โดยที่คุณทองธารามีเครื่องมือค่อนข้างพร้อมจะขุดมันเอง แต่จ้างคนงานตัดเหง้าแล้วแบกผลผลิตขึ้นรถเท่านั้นในราคา 300 บาท/ตัน
ก่อนที่จะบรรทุกผลผลิตเข้าโรงงานเอง ขายผลผลิตในราคา 2.60 บาท/กก. จะได้ผลผลิตที่ 65 ตัน/8 ไร่/มันอายุ 13 เดือน หรือประมาณ 8 ตัน/ไร่ มีรายได้ 160,000 บาท หรือประมาณ 20,000 บาท/ไร่ หักค่าใช้จ่ายแล้วจะมีรายได้ 140,000 บาท หรือ 17,500 บาท/ไร่
นับว่าเป็นครั้งแรกที่มีการปลูกมันเพียงแค่ปีเดียวที่ได้ผลผลิตค่อนข้างมากอย่างนี้ ในส่วนของต้นทุนการผลิตที่ค่อนข้างน้อย เพราะการดูแลส่วนใหญ่คุณทองธาราจะทำเอง ทั้งการฉีดพ่นฮอร์โมน ใส่ปุ๋ย ทำรุ่น ขุดเก็บ จ้างคนงานช่วยบ้างเท่านั้น
“ปีแรกเราจะทำให้ได้ดีเลยไม่ได้ เพราะดินเราแย่ เราต้องปรับปรุงดินก่อน เพราะทำมานาน ไม่เคยบำรุงดินเลย เรามีหลายแปลง บางแปลงดินเหนียว บางแปลงดินร่วน และดินปนหินลูกรังบ้าง แต่พอเราใช้ระบบนี้มันดีขึ้น มันต่างกับคนที่ไม่ใช้มากเลย ต้นเราสวยกว่า เขาปลูกมัน 2 ปี 10 ไร่ เก็บผลผลิตได้ 62 ตัน แต่มันเรา 13 เดือน 8 ไร่ ไม่มีระบบน้ำ ได้ผลผลิต 65 ตัน มันไม่น่าเชื่อจริงๆ เราไม่เคยได้อย่างนี้ ทั้งที่ดินเราแน่น เราไม่ได้ปรุงดินตอนแรก เราเอามาฉีดเลย เพราะเราปลูกไปแล้วมันยังหัวดี หัวยาวเป็นแขน จากปกติหัวมันจะสั้น ยาวไม่ถึงศอกเลย ทั้งที่เขาดูแลดีกว่าเรา เมื่อเราใช้เองเห็นผลแล้ว เราต้องเปลี่ยนมาทำแบบนี้ดีกว่าเยอะ” คุณทองธาราเปรียบเทียบ
และมั่นใจว่าถ้าเกษตรกรปลูกมันแล้วได้ผลผลิตอย่างนี้ ต่อไปเกษตรกรไม่จน ความฝันของเกษตรกรที่อยากจะปลดหนี้ ปลดสิน จะเป็นจริงได้ พูดได้เต็มปาก สามารถดูแลและจัดการไร่มันเองได้ มีรายได้ที่ดี มีเงินออม อยากไปเที่ยว หรือทำบุญ ที่ไหนก็ไปได้ เกษตรกรมีความสุข กินดี อยู่ดี มีอิสระ และสบายใจ เพราะเกษตรกรทุกคนรักในอาชีพของตนเองทั้งนั้น
“มีรถแทรกเตอร์รุ่น 36 แรงม้า อยู่แล้ว พอนำมาขุดมัน หัวรถไถสั่นเลย เพราะมันสำปะหลังน้ำหนักดี หัวแน่น หลังขายหัวมันมีรายได้ก็เอารถไถไปเทิร์นเป็นแทรกเตอร์รุ่น 47 พร้อมผานบุกเบิกทันที การบุกเบิกเองจะดีกว่า เพราะมองว่าหากปลูกมันระบบนี้จะมีรายได้ผ่อนรถไถได้แน่นอน”
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม คุณทองธารา คันศร 114 หมู่ 1 ต.สักงาม อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร 62180 โทร.082-402-2619 ปลูกข้าวโพด ปลูกข้าวโพด ปลูกข้าวโพด ปลูกข้าวโพด ปลูกข้าวโพด ปลูกข้าวโพด