ปลูกอะไรดี สับสนมากขึ้นเกษตรกรเมืองไทย
จะทำเกษตรตัวไหนได้ “กำไร” อย่างยั่งยืน??
ไม่มีใครกล้าฟันธง คำตอบมันขึ้นอยู่กับภูมิปัญญาและทักษะของแต่ละคน
เมืองไทย 80% เป็นเกษตรกรรายย่อย แต่ละรายแบกหนี้หลังแอ่น จะไม่มีเวลามาหาความรู้ใหม่ๆ ในการทำเกษตรให้มีกำไรเป็นกอบเป็นกำ
ปลูกอะไรดี การปลูกข้าวและอ้อย
บางคนเข้าสังกัด “สหกรณ์” หวังว่าจะได้หลังพิงยามเหนื่อย และได้ความรู้ใหม่ๆ อย่าง บานเย็น โสพันธ์ กรรมการสหกรณ์
วันนี้ทำนาข้าว 40 ไร่ ทำไร่อ้อย 15 ไร่ ยืนยันว่าจะลดทำนาและเพิ่มไร่อ้อยให้มากขึ้น เพราะสภาพพื้นที่สม่ำเสมอ ไม่ลุ่ม ไม่ดอน ง่ายต่อการเตรียมดินในการเพาะปลูก
การทำนาปลูกข้าว 105 วัน ตระกูล กข31 และกข41 ปรากฏว่าต้นทุนเพิ่มขึ้นตลอด ต้องเสียค่าน้ำมันดีเซลเพื่อสูบน้ำเข้ามาไม่กี่ชั่วโมงใช้ไป 40 ลิตรๆ ละ 31 บาท เป็นเงิน 1,240 บาท ต้องเสียค่าไถ พันธุ์ข้าว ปุ๋ย ยา สารพัด ต้นทุนเกินกว่าไร่ละ 6,000 บาท อยู่ไม่ได้แน่นอน
สภาพพื้นที่ปลูกอ้อย
จึงตัดสินใจไปใช้พื้นที่นา 15 ไร่ เป็นไร่อ้อย โดยมี “หัวหน้าโควต้า” เป็นที่ปรึกษา ตนเองเป็นลูกไร่ และจ้างให้คนปรับพื้นที่เตรียมดินในการปลูกอ้อยพันธุ์ขอนแก่น 3 ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ชาวไร่นิยมปลูกในย่านนี้ ใช้ปุ๋ยสูตร 21-0-0 ผสมปุ๋ยขี้ค้างคาวรองพื้น ปลูกได้ 1 อาทิตย์ ฉีดยาคุมหญ้า ใส่ปุ๋ยหน้าฝน
ปรากฏว่าเจอ “ด้วง” และ “หนู” กัดกินอ้อยเป็นปัญหาอย่างยิ่ง แม้ลงทุนทำอ้อยแสนกว่าบาทได้ผลผลิตระดับหนึ่ง เพราะยังดูแลไม่เป็น
รายได้จากอ้อยและพืชผักชนิดอื่น
แต่เที่ยวนี้คุณบานเย็นมั่นใจจะต้องได้ไร่ละ 15 ตัน 15 ไร่ ถ้าราคาอ้อยตันละ 1,000 บาท ก็จะได้เงิน 225,000 บาท หักต้นทุนแล้วก็จะเหลือเงินพอสมควร
“อ้อยตอแรกอาจจะได้เงินน้อย แต่ตอ 2 ลงทุนน้อยก็อยู่ได้นะ อ้อยมันมั่นคงกว่า มีเงินสำรองให้” คุณบานเย็นให้ความเห็น และเปิดเผยถึงรายได้จากการปลูกพืชชนิดอื่นมาเสริมว่า ถ้าเป็น “สะเดา” ที่ปลูกไว้รายได้เป็นหมื่น แม้แต่มะเขือและพริกล้วนทำรายได้ให้ทั้งนั้น หรือมะยงชิดให้ผลผลิตปีละครั้งก็ยังทำรายได้ที่ดี
แต่ถ้าเปรียบเทียบระหว่างข้าวและอ้อย คุณบานเย็นว่าอ้อยดีกว่า แม้จะได้ปีละครั้ง แต่ “ราคา” แน่นอน เป็นเงินก้อนใหญ่ และเมื่อนำรายได้จากพืชตัวอื่นเข้ามา ครอบครัวนี้อยู่ได้สบาย ลูกๆ ทุกคน มีงานทำทั้งหมด
คุณบานเย็นจึงมีเวลามาช่วยงานสหกรณ์ในตำแหน่งกรรมการ ซึ่งเป็นงานส่วนรวมที่สมาชิกหลายคนทำไม่ได้อย่างเขา
เรื่องอ้อย..พืชเศรษฐกิจเชิงระบบ วันนี้แม้ไม่ใช่พืชเทวดาที่จะชุบชีวิตคนให้หลุดพ้นจากความยากจนแบบฉับพลัน แต่อย่างน้อยมันก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามันนำมาซึ่งความมั่นคงดีกว่าข้าว ซึ่งคุณบานเย็นสัมผัสได้ด้วยตัวเอง
