ปลูกสายพันธุ์ ปาล์ม น้ำมันชนิดใดถึงจะดี

โฆษณา
AP Chemical Thailand

 “องครักษ์โมเดล” กับการหาคำตอบให้ชาวสวน ปาล์ม

คำถามที่ว่า “ปลูกสายพันธุ์ปาล์มน้ำมันชนิดใดถึงจะดี” เป็นคำถามแรกที่ชาวสวนปาล์มจะนึกถึงก่อนลงมือทำสวนปาล์ม ซึ่งคำว่า “ดี” ที่เราพูดถึงนั้น หมายถึง สายพันธุ์ปาล์มน้ำมันที่ให้ผลผลิตสูงและสามารถปรับตัวได้ดีกับสภาพแวดล้อมและภูมิอากาศในเขตพื้นที่นั้นๆ            และอีกหนึ่งคำถามที่เรามักจะได้ยินในแทบทุกเวทีเสวนาปาล์มน้ำมัน คือ “ปาล์มน้ำมันเป็นพืชที่มีอนาคตหรือไม่

คุณภัครจิราและต้นปาล์มพันธุ์ดีภายในแปลงปลูกทดสอบ
คุณภัครจิราและต้น ปาล์ม พันธุ์ดีภายในแปลงปลูกทดสอบ

คุณภัคจิรา รัชกิจประการ ผู้บริหาร บริษัท อาร์ดี เกษตรพัฒนา จำกัด (ชื่อเดิม บริษัท อาร์แอนด์ดี เกษตรพัฒนา จำกัด) ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายต้นกล้าปาล์มน้ำมันตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 ให้ข้อมูลว่าประเทศที่สามารถปลูกปาล์มน้ำมันเชิงพาณิชย์ได้มีเพียง 43 ประเทศทั่วโลก  ตั้งอยู่บริเวณละติจูด 10 องศาเหนือ และลองติจูด 10 องศาใต้ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมี แสงแดด อุณหภูมิ น้ำ และความชื้นสัมพัทธ์ ที่เหมาะสมกับปาล์มน้ำมัน โดยปาล์มน้ำมันเมื่อเปรียบเทียบกับพืชที่ให้น้ำมันชนิดอื่นจะให้ “น้ำมัน” มากกว่า  มีผลผลิตน้ำมันต่อไร่สูงกว่า   ทำให้ต้นทุนการผลิตน้ำมันต่อไร่ต่ำกว่าพืชชนิดอื่น   จึงเป็นพืชเศรษฐกิจที่ยังมีอนาคต ทั้งนี้น้ำมันปาล์มที่ผลิตได้ในประเทศเกือบร้อยละ 90 ใช้เป็นน้ำมันพืชเพื่อการบริโภคและเป็นน้ำมันไบโอดีเซลเพื่อการอุปโภค ทำให้ลดการพึ่งพาจากตลาดต่างประเทศ  ที่สำคัญยิ่งกว่าคือเกือบทุกส่วนของปาล์มมี “คุณค่า” และ “มูลค่า” ทางเศรษฐกิจ เกี่ยวข้องกับห่วงโซ่เศรษฐกิจ ที่มีมวลชนหลายล้านคนรองรับอีกหลาย “ผลิตภัณฑ์”

การย้ายต้นกล้าคุณภาพบางส่วน
การย้ายต้นกล้าคุณภาพบางส่วน

ในห้วงเวลา 11 ปี ของการดำเนินงาน บริษัทฯ มี “ศูนย์อนุบาลกล้าปาล์มน้ำมัน” กระจายในหลายพื้นที่ 8 สาขาเพื่อบริการลูกค้าได้อย่างทั่วถึง โดยอยู่ในเขตภาคกลางจำนวน 1 สาขา ที่ อ. องครักษ์ จ. นครนายก ในเขตภาคตะวันออกจำนวน 1 สาขา ที่ อ.เมือง จ. ปราจีนบุรี และเขตภาคใต้จำนวน 6 สาขา ได้แก่  1. ที่ อ. สวี จ. ชุมพร  2. ที่ อ. ละแม จ. ชุมพร 3. ที่ อ. เมือง จ. พัทลุง 4. ที่ อ. เชียรใหญ่ จ. นครศรีธรรมราช   5.  ที่ อ. รัตภูมิ จ. สงขลา และ 6. ที่ อ.ควนกาหลง จ. สตูล (อยู่ระหว่างดำเนินการ)  รวมเนื้อที่กว่า 600 ไร่

 

สำหรับหลักเกณฑ์การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์และสายพันธุ์เพื่อมาผลิตเป็นต้นกล้าปาล์มน้ำมันจำหน่ายให้กับลูกค้านั้น บริษัทฯ ได้ศึกษาและหาข้อมูลจากผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ทั้งในและต่างประเทศ โดยพิจารณาจากจำนวนต้นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ กระบวนการการผสมเกสรเพื่อให้ได้เมล็ดพันธุ์ กระบวนการผลิตเมล็ดพันธุ์  ผลการปลูกทดสอบสายพันธุ์  ความรับผิดชอบต่อคุณภาพเมล็ดพันธุ์ ความสม่ำเสมอของสายพันธุ์ และที่สำคัญคือผลผลิตของแต่ละสายพันธุ์ทั้งในเรื่องน้ำหนักและเปอร์เซ็นต์น้ำมัน จากแปลงเกษตรตัวอย่างจริงที่ปลูกปาล์มสายพันธุ์นั้นๆ ดังนั้นการที่จะตัดสินใจจำหน่ายสายพันธุ์ปาล์มน้ำมันใดสายพันธุ์หนึ่งให้แก่เกษตรกรนั้น บริษัทฯ จะหาข้อมูลและสอบถามผู้ผลิตพร้อมทั้งสำรวจแปลงเกษตรกรที่ปลูกแล้วจริงๆให้มากที่สุดเพื่อเฟ้นหาสายพันธุ์ที่ดีและมีคุณภาพเพื่อผลิตและส่งมอบให้แก่เกษตรกร

 

นอกจากคัดสรรสายพันธุ์ที่ได้คุณภาพและมาตรฐานแล้ว บริษัทฯ ใส่ใจในกระบวนการเพาะต้นกล้า เพื่อให้ได้ต้นกล้าที่มีคุณภาพและไม่มีลักษณะผิดปกติทางพันธุกรรม โดยทั่วไปการเพาะต้นกล้าปาล์มน้ำมันมี 2 ระยะ คือ ระยะอนุบาลแรก (pre-nursey)  และระยะอนุบาลหลัก (main nursery) ทั้ง 2 ระยะ ใช้เวลาการผลิตต้นกล้าประมาณ 10-12 เดือน ในระหว่างการผลิตจะมีการคัดทิ้งต้นกล้าที่มีลักษณะผิดปกติทางพันธุกรรมออกประมาณ 20-25% นั่นหมายความว่า ทุกการผลิตต้นกล้า 100 ต้น จะถูกคัดทิ้งและทำลาย 20-25 ต้น หากแปลงเพาะที่ไม่มีการจัดการเรื่องคัดทิ้งที่ได้มาตรฐาน หรือไม่มีการคัดทิ้งเกษตรกรจะได้ต้นกล้าส่วนที่ผิดปกติทางพันธุกรรมไปปลูกในสวน  จะทำให้รายได้และผลผลิตลดลงถึง 40%

โฆษณา
AP Chemical Thailand
ต้นกล้าปาล์มน้ำมันคุณภาพของบริษัทฯ
ต้นกล้า ปาล์ม น้ำมันคุณภาพของบริษัทฯ

 

ด้วยเล็งเห็นในศักยภาพของปาล์มน้ำมันและฐานะเป็นผู้จำหน่ายต้นกล้าปาล์มน้ำมันหลากหลายสายพันธุ์ บริษัท อาร์ดี เกษตรพัฒนา จำกัด จึงได้ลงทุนในสวนปาล์มน้ำมันในหลายพื้นที่ เพื่อทดสอบสายพันธุ์ปาล์มน้ำมัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลผลผลิตและอัตราการเจริญเติบโตของสายพันธุ์ปาล์มน้ำมันทั้งในและต่างประเทศว่ามีการตอบสนองในแต่ละเขตพื้นที่อย่างไร ทั้งนี้บริษัทฯ มีสวนปาล์มทดสอบสายพันธุ์รวมพื้นที่เกือบ 7,500 ไร่ จำนวน 4 แปลง ได้แก่ ที่ อ.ปะทิว จ.ชุมพร ที่ อ. องครักษ์ จ. นครนายก ที่ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี และหลายอำเภอ จ. สตูล

 

ในการวิจัยและพัฒนาการผลิตต้นกล้าปาล์มน้ำมันนั้น บริษัทฯ ได้ร่วมกับสถาบันการศึกษา 2 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ วิทยาเขตชุมพร และวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพัทลุง เป็นโครงการความร่วมมือสหกิจศึกษาทางวิชาการเกษตรอย่างเป็นทางการ โดยปรับสภาพพื้นที่ภายในสถาบันการศึกษาให้เหมาะสมและเกิดประโยชน์ด้านการผลิต การเกษตร อันเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ ให้นักศึกษาและประชาชนบริเวณใกล้เคียง อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนการเรียน การสอน การฝึกภาคปฏิบัติจริง ของนักศึกษา และเป็นแหล่งศึกษา อบรม ดูงาน และเรียนรู้เทคโนโลยีการผลิตกล้าปาล์มน้ำมันแก่ผู้ที่สนใจทั่วไปอีกด้วย

 

นอกจากนี้บริษัทฯ ร่วมกับสถาบันการศึกษาและหน่วยงานราชการ จัดอบรมเกษตรกรในเรื่องการปลูกปาล์มน้ำมันและวิธีการคัดเลือกกล้าปาล์มน้ำมันคุณภาพ ให้แก่เกษตรกรและผู้ที่สนใจ ทางคุณภัคจิรา รัชกิจประการ ได้ฝากไว้กับทางนิตยสารพืชพลังงานว่า หากท่านผู้ใดต้องการให้บริษัทฯ ไปจัดอบรม ให้ความรู้ ในเรื่องดังกล่าว ทางบริษัทฯ ยินดีที่ไปดำเนินการให้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

 

สำหรับแปลงทดสอบสายพันธุ์ปาล์มน้ำมันที่ ต. โพธิ์แทน อ. องครักษ์ จ. นครนายก หรือ “องค์รักษ์โมเดล” นั้น ทางบริษัทฯ ได้ให้คำนิยาม “องครักษ์โมเดล” ว่า เป็นสวนที่มีการนำปาล์มสายพันธุ์คุณภาพหลากหลายสายพันธุ์มาปลูกระบบยกร่องปลูก 3 แถวปลูก ในพื้นที่ที่ปริมาณน้ำฝนไม่เหมาะสม (1,200 – 1,500 มม./ปี)  บนพื้นที่ดินเป็นดินเปรี้ยว pH ดิน ประมาณ 3.5 – 4 ซึ่งต้องมีการจัดการสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของปาล์มน้ำมัน โดยตั้งเป้าให้ได้ผลผลิตเฉลี่ยสูงสุด 6 ตัน/ไร่/ปี เพื่อจะได้เป็นแหล่งเรียนรู้ของคนในวงการปาล์มน้ำมันต่อไป

องครักษ์โมเดล ประกอบด้วย พื้นที่ปลูกปาล์ม 1,300 ไร่  พื้นที่แปลงทดสอบกว่า 30 ไร่  แปลงอนุบาลกล้า 18 ไร่ สระเก็บน้ำสำรอง 75 ไร่ และอื่นๆ เช่น บ้านพัก ถนน สำนักงาน 233 ไร่

สวนปาล์มที่ปลูกในระบบร่องคู่
สวน ปาล์ม ที่ปลูกในระบบร่องคู่

โดย “พันธุ์ปาล์ม” ที่ใช้วิจัยและพัฒนามาจากเมล็ดพันธุ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ บริษัท ASD ประเทศคอสตาริก้า และจากเมล็ดพันธุ์ที่ผลิตในประเทศไทยหลายแหล่ง เช่น ศูนย์วิจัยปาล์มน้ำมันสุราษฎร์ธานี กรมวิชาการเกษตร และบริษัทเอกชนไทยหลายบริษัท  ซึ่งสายพันธุ์ที่ทดสอบที่แปลงนครนายก มีทั้งหมด 16 สายพันธุ์ ได้แก่ พันธุ์สุราษฎร์ธานี 1, 2, 7  พันธุ์ทรัพย์ มอ.  พันธุ์ยูวี  พันธุ์ดามี่  พันธุ์โกลเด้นเทเนอร่า พันธุ์ซีหราด พันธุ์ซีพีไอ ไฮบริด พันธุ์เดลิกาน่า พันธุ์เดลิไนจีเรียแบล็ค พันธุ์คอมแพ็คกาน่า  พันธุ์เดลิคอมแพ็ค และพันธุ์อเมซอน โดยเป็นสายพันธุ์ที่ทดสอบมาจากการเพาะเมล็ดและการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อบางส่วน ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้รับคำแนะนำวิธีการจัดเก็บข้อมูลแปลงทดสอบจากนักวิชาการ  กรมวิชาการเกษตรและคณาจารย์และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ซึ่งจะทำให้การเก็บข้อมูลเที่ยงตรง และเป็นไปตามหลักวิชาการมากขึ้น

โฆษณา
AP Chemical Thailand

 

ด้วยการปลูกทดสอบในพื้นที่ เปรียบเทียบการเจริญเติบโตช่วงก่อนการให้ผลผลิต และปริมาณผลผลิตในช่วงการเก็บเกี่ยวผลผลิต เพื่อเป็นองค์ความรู้สำหรับผู้ปลูกปาล์มน้ำมันในสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงกัน เนื่องด้วยการปลูกปาล์มมีปัจจัยสำคัญ 3 ประการ 1.สายพันธุ์คุณภาพ  2. สภาพแวดล้อมและพื้นที่เหมาะสม  3. การจัดการสวนปาล์มที่ดี โดย 3 ปัจจัยดังกล่าวต้องทำร่วมกันถึงจะได้ผลผลิตปาล์มที่มีคุณภาพและปริมาณคุ้มค่าต่อการลงทุน “นี่คืองานท้าทายฝีมือบริษัทฯ และผู้จัดการศูนย์นครนายกโดยตรง

 

ด้วยวิสัยทัศน์อันเฉียบคมของผู้บริหารที่เห็นว่านอกจาก “ภาคใต้” ของไทย จะเป็นแหล่งผลิตปาล์มน้ำมันเชิงพาณิชย์แล้ว พื้นที่ภาคกลางแถบทุ่งรังสิตได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเมื่อน้ำจากชลประทานและแสงแดดที่เหมาะสม ชาวสวนปาล์มระบบขุดร่องทุ่งรังสิตบางคนได้ผลผลิตเฉลี่ยกว่า 6 ตัน/ไร่/ปี จึงควรใช้พื้นที่ภาคกลางเป็นแหล่งปลูกปาล์มเชิงพาณิชย์ เพราะใกล้กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นแหล่งที่ตั้งของโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม ต้นทุนการขนส่งน้ำมันปาล์มเข้าโรงกลั่นถูกกว่าภาคใต้ ประกอบกับ บริษัทฯ ได้ทดลองปลูกปาล์มที่ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ได้รู้ทั้งจุดแข็ง-จุดอ่อน ได้องค์ความรู้มาใช้ที่ศูนย์นครนายกได้ โดยเฉพาะองค์ความรู้ด้านการปรับปรุงดินเปรี้ยว pH ต่ำกว่า 3.5 ของชุดดินองครักษ์  โดยใช้ปุ๋ยมูลไก่ และการตัดหญ้าเป็นปุ๋ยพืชสดนั้น ทำให้ pH ดิน เพิ่มขึ้นเป็น 4.5 ได้

การจัดการแปลงเพาะให้ได้มาตรฐานสูงสุด เพื่อคุณภาพที่ดีที่สุด
การจัดการแปลงเพาะให้ได้มาตรฐานสูงสุด เพื่อคุณภาพที่ดีที่สุด

 

ปัจจุบันต้น ปาล์ม มีอายุ เกือบ 2 ปี เติบโตจากดินเปรี้ยวที่ถูกปรับปรุงได้อย่างไร

คำตอบก็คือเป็นฝีมือล้วนๆ ของผู้บริหารและทีมงาน อาร์ดี เกษตรพัฒนา

การทำให้ pH ดินขยับสูงขึ้น จาก 3.5  ด้วยการใส่สารปรับสภาพดิน (โดโลโมท์) 1 กก./ต้น/ปี ใส่ปุ๋ยมูลไก่ 6-10 กก./ต้น/ปี ช่วงอายุ 1 ปี พร้อมใส่อินทรียวัตถุ เป็นการลงทุนในระยะยาว ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะเห็นผล

 

จึงไม่ต้องแปลกใจที่ธุรกิจกล้าพันธุ์ปาล์มน้ำมันของ บริษัท อาร์ดี เกษตรพัฒนา จำกัด ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

เพราะด้วยความใส่ใจในการคัดสรรสายพันธุ์ที่ดี ผ่านกระบวนการผลิตต้นกล้าที่มีมาตรฐาน ให้บริการเผยแพร่องค์ความรู้เรื่องการจัดการสวนปาล์มน้ำมัน  พร้อมกับทดสอบสายพันธุ์ปาล์มน้ำมันเพื่อหาคำตอบให้แก่พวกเราชาวสวนปาล์มน้ำมัน ด้วยความจริงใจตลอดมา

โฆษณา
AP Chemical Thailand