ปลาทับทิม และ ปลานิล เป็นปลาเนื้อเศรษฐกิจชนิดหนึ่งที่มีคุณภาพสูง และปลานิลก็เป็นปลาน้ำจืดที่มีผลผลิตเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย ตลาดยังมีโอกาสขยายตัวเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันตลาดการดูแลสุขภาพของผู้บริโภคก็กำลังมาแรง เมนูที่เกี่ยวกับปลานับเป็นเมนูสุขภาพที่คนมักจะนึกถึงเป็นอันดับแรก เพราะมี โปรตีน และ โอเมก้า สูง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพมากๆ
ทั้ง ปลานิล และ ปลาทับทิม ก็เป็นปลาที่คนไทยนิยมรับประทาน เมื่อตลาดต้องการ เกษตรกรไทยจึงนิยมเลี้ยงอย่างแพร่หลาย สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ แก่เกษตรกรไทยได้อย่างยั่งยืน จนทำให้ปลาทั้งสองกลายเป็นปลาเศรษฐกิจของประเทศไทย
การเพาะเลี้ยง ปลาทับทิม ปลานิล
ทีมงานนิตยสารสัตว์น้ำ เดินทางมาพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนกับฟาร์มปลาทับทิมและปลานิลครบวงจรแห่งใหญ่ของภาคเหนือ เดินทางมาที่ ต.วังแขม อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ร่วมพูดคุยกับ คุณกรเกียรติ พรมจวง หรือ คุณต้อย เจ้าของธุรกิจ กรเกียรติฟาร์ม ที่มีทั้งธุรกิจฟาร์มเพาะเลี้ยงและพันธุ์ปลา ทั้งปลาทับทิม และ ปลานิล
กรเกียรติฟาร์มก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2540 กว่า 24 ปี ที่มุ่งเน้นผลิตลูกปลาคุณภาพเพื่อเกษตรกร และปลาสะอาด ไร้กลิ่นโคลน กลิ่นคาว เพื่อผู้บริโภค ด้วยระบบฟาร์มตามมาตรฐานกรมประมง มีพื้นที่ฟาร์มกว่า 200 ไร่ บ่อ 100 บ่อ มีการพัฒนาปรับปรุงสายพันธุ์จนได้ปลาคุณภาพ เป็นที่ต้องการของตลาด อย่าง ปลาทับทิมเพชร และ ปลาศรีนิล เป็นต้น
จากนั้นก็ต่อยอดธุรกิจฟาร์มมาสู่ฟาร์มปลามาร์เก็ต ร้านขายของครบวงจรสำหรับชุมชน ที่ปัจจุบันขยายไปถึง 4 สาขา ในพื้นที่ภาคเหนือ เป็นสินค้าจากกรเกียรติฟาร์ม ปลาสดใหม่ ไม่มีกลิ่นโคลน กลิ่นคาว ในราคาที่เป็นธรรมกับชุมชน และล่าสุดอีกหนึ่งธุรกิจ คือ ฟาร์มปลา คาเฟ่ เป็นร้านกาแฟ เบเกอรี่ และร้านอาหารที่ได้วัตถุดิบคุณภาพจากกรเกียรติฟาร์ม ซึ่งฟาร์มปลา คาเฟ่ ได้ผลตอบรับจากนักท่องเที่ยวที่มากำแพงเพชรได้เป็นอย่างดี ถือเป็นอีกหนึ่งจุดแลนด์มาร์คของจังหวัดกำแพงเพชรอีกด้วย
การพัฒนาสายพันธุ์ ปลาทับทิม ปลานิล
กรเกียรติฟาร์มมีพื้นที่เพาะเลี้ยงกว่า 200 ไร่ ที่จังหวัดกำแพงเพชร ภายฟาร์มมีทั้ง บ่อเลี้ยง โรงเพาะฟัก ศูนย์ปรับปรุงพันธุกรรม กระชังเลี้ยง รวมถึงพื้นที่สำนักงาน เป็นฟาร์มที่ได้มาตรฐาน และรางวัลการันตีระดับประเทศมากมาย และอีกหนึ่งจุดแข็งของกรเกียรติฟาร์ม คือ ทับทิมเพชร และ ศรีนิล เป็นสายพันธุ์ที่ฟาร์มพัฒนาขึ้นมา
สำหรับปลาทับทิมเพชร มีที่มาชื่อจากแหล่งกำเนิดสายพันธุ์ที่จังหวัดกำแพงเพชร ทางฟาร์มต้องการให้ทับทิมเพชรเป็นความภูมิใจของชาวกำแพงเพชร ดั่งมีค่าดุจเพชร และ ปลาศรีนิล คำว่า นิล เป็นชื่อพระราชทานจากในหลวงรัชกาลที่ 9 จึงคงไว้เพื่อเทิดพระเกียรติ และสร้างความเป็นเกียรติเป็นศรีให้เกษตรกรไทย จึงได้ชื่อ ศรีนิล และ ทับทิมเพชร จุดเด่นของปลาทับทิมเพชร และ ปลาศรีนิล อยู่ที่ “แข็งแรง โตดี สีสวย อัตรารอดสูง” เป็นที่ต้องการของตลาด และเกษตรกรผู้เลี้ยง เป็นอย่างมาก
การคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ปลา
การคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญ สำหรับกรเกียรติฟาร์ม เริ่มจากการปรับปรุงสายพันธุ์ โดยมีศูนย์ปรับปรุงพันธุกรรมตั้งอยู่ในพื้นที่ฟาร์ม จุดประสงค์หลักในการคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ คือ จะเลือกพ่อแม่พันธุ์ที่ดีที่สุด ตรงกับลักษณะและความต้องการตลาด
อย่าง การเพาะเลี้ยงรุ่นหนึ่ง 1 แสนตัว ฟาร์มจะคัดหลายขั้นตอน เพื่อให้ได้ลักษณะที่ดี นำมาใช้ในระบบพ่อแม่พันธุ์ และเลี้ยงต่อในบ่อปูน ที่มีขนาดกว้าง 6 เมตร ยาว 12 เมตร อัตราการเลี้ยง ตัวผู้ต่อตัวเมีย คือ 1 : 3 พ่อแม่พันธุ์ของฟาร์มจะเลี้ยงให้เน้นรูปร่างสมส่วน ไม่อ้วนหรือเล็กจนเกินไป และจะไม่ใช้พ่อแม่พันธุ์ที่อายุยังไม่ถึง เพราะจะมีผลต่ออัตราการรอด และความแข็งแรงของลูกพันธุ์
สำหรับการเก็บไข่จะต้องเก็บอาทิตย์ละ 1 ครั้ง เพราะหากไม่เก็บทุกอาทิตย์ ลูกปลาจะมีขนาดโตเกินไปสำหรับการแปลงเพศได้ การเก็บไข่ใน 1 รอบ จะได้ทั้งหมด 5 ระยะ สามารถนำไปฟักต่อได้ทุกระยะ และพ่อแม่พันธุ์จะมีรอบการปลดระวางไม่เกิน 15-16 เดือน ทางฟาร์มมีการวางแผนนำเข้า และผลัดเปลี่ยนพ่อแม่พันธุ์ในทุกปี เพื่อคุณภาพผลผลิตที่ดีที่สุดให้เกษตรกร
คุณกรเกียรติ กล่าวว่า “สิ่งสำคัญในการเพาะพันธุ์ลูกปลา คือ การปรับปรุงสายพันธุ์ ประกอบกับช่วงอายุวัยเจริญพันธุ์ที่พอดี ทำให้ได้ลูกปลาที่มีคุณภาพ ตรงตามที่ตลาดต้องการ” สำหรับกระบวนการผลิต การเก็บไข่ รวมถึงวิธีการฟัก ปลาทับทิมเพชรและปลาศรีนิล เหมือนกันทุกขั้นตอน ต่างกันที่สายพันธุ์เท่านั้น
การอนุบาลลูกปลา
ในพื้นที่ฟาร์มกว่า 200 ไร่ นอกจากพื้นที่ของส่วนโรงเพาะเลี้ยง ยังมีพื้นที่บ่อเลี้ยงทั้ง ปลาทับทิมเพชร และ ศรีนิล การเลี้ยงของฟาร์มไม่ได้เลี้ยงในเชิงธุรกิจ หรือการค้าขาย เพียงเท่านั้น แต่เป็นการเลี้ยงเพื่อการทดลองเป็นศูนย์วิจัย ทั้งปลาทับทิม และ ปลานิล มีการเก็บข้อมูล การเลี้ยง อัตราการรอด ระยะเวลาเจริญเติบโต และอื่นๆ เพื่อไปใช้ในการปรับปรุงสายพันธุ์ พัฒนาพ่อแม่พันธุ์ให้ดีที่สุด และการมีบ่อเลี้ยงยังสามารถเป็นที่ปรึกษาด้านการเลี้ยง การดูแล ลูกปลา และหากเกษตรกรพบปัญหาก็สามารถช่วยกันแก้ไข เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพที่ดีที่สุดแก่เกษตรกร
หลังจากฟักไข่มาถึงระยะที่ 5 ลูกปลาเริ่มเป็นตัว ถุงไข่แดงยุบแล้ว ว่ายน้ำเริ่มคล่องแคล่ว จะนำมาพักต่ออีก 1 วัน แล้วจึงนำไปลงกระชัง ขนาดกว้าง 2 เมตร ยาว 5 เมตร และให้กินอาหารสำหรับแปลงให้เป็นเพศผู้ 100% สาเหตุที่เกษตรกรต้องการปลาเพศผู้ เพราะในเชิงธุรกิจการค้าขาย ปลาเพศผู้มีอัตราการเจริญเติบโตที่เร็วกว่าเพศเมีย และหากเลี้ยงเพศเมียเยอะๆ รวมกัน ปลาที่ได้จะแตกไซซ์ ตอนขายจะทำให้เสียราคา
หลังจากนำปลามาเลี้ยงในกระชัง ให้ฮอร์โมนจนครบตามแผน บางฟาร์มจะจับขายหลังให้ฮอร์โมนหมดทันที ข้อเสีย คือ ปลาไม่เคยได้รับการฝึกให้กินอาหารเม็ด เมื่อนำไปเลี้ยงปลาจะไม่ขึ้นกินอาหาร ส่งผลให้อัตรารอดต่ำ แต่ทาง กรเกียรติฟาร์มหลังจากให้ฮอร์โมนครบ จะฝึกให้ปลากินอาหารเม็ดต่ออีก 3-5 วัน อาหารเม็ดที่ใช้เป็นอาหารเกรด พรีเมี่ยม
และเมื่อไปถึงมือลูกค้า ไม่ว่าจะเลี้ยงใน บ่อดิน บ่อ PE กระชัง หรือ กระชังแม่น้ำ พอให้อาหารเม็ดปลาจะสามารถขึ้นกินอาหารได้ทันที สำหรับกระบวนการเพาะเลี้ยงของฟาร์ม เนื่องจากฟาร์มมีพื้นที่กว้าง รองรับการผลิตได้ดี จึงไม่ไปเร่งระยะเวลาเพาะฟักมากเกินไป เพื่อให้ไข่เจริญเติบโตได้เต็มที่ที่สุด เพื่อคุณภาพลูกปลาที่ทางฟาร์มให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง
การได้ใบรับรองมาตรฐานฟาร์มพ่อแม่พันธุ์ปลานิล
เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา กรเกียรติฟาร์ม ได้รับรางวัลชนะเลิศ การประกวดฟาร์มที่มีการจัดการพ่อแม่พันธุ์ตามหลักพันธุศาสตร์ ประเภท ฟาร์มเกษตรกร ประจำปี 2564 จากกรมประมง ซึ่งรางวัลนี้เป็นการคัดเลือกฟาร์มเกษตรกรที่เพาะพันธุ์ปลานิล และได้รับการรับรองมาตรฐานฟาร์มพ่อแม่พันธุ์ปลานิลตามหลักพันธุศาสตร์ สำหรับเกณฑ์การตัดสินรางวัล นอกจากจะต้องเป็นฟาร์มที่มีการจัดการที่ได้มาตรฐานแล้ว ยังต้องเป็นฟาร์มที่มีการใช้เทคโนโลยีเพาะเลี้ยงที่ทันสมัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
กรเกียรติฟาร์มเติบโตเข้าสู่ปีที่ 24 เริ่มแรกจากฟาร์มปลาดุกเล็กๆ พัฒนามาเป็นฟาร์ม ปลาทับทิม และ ปลานิล ครบวงจรของภาคเหนือของประเทศไทย มีทั้ง โรงเพาะฟักลูกปลานิล และ ปลาทับทิม มีบ่ออนุบาลที่ทำไซซ์สำหรับลูกค้าที่ไม่มีบ่อลงลูกปลาเล็ก มีบริการปลาตัวใหญ่สำหรับลงกระชังแม่น้ำ
การทำ ฟาร์มมาร์เก็ต ฟาร์มปลาคาเฟ่ และ ร้านอาหาร
และปัจจุบันต่อยอดธุรกิจอีกมากมาย ทั้ง ฟาร์มมาร์เก็ต สร้างจากแนวคิด “ตู้เย็นของชุมชน” เนื่องจากพื้นที่นี้อยู่ห่างไกลจากตัวเมือง ชาวบ้านจะซื้อ ของกิน ของใช้ ต้องเข้าไปในตัวเมืองหลายสิบกิโลเมตร จึงอยากเปิดร้านค้าครบวงจร ให้คนในชุมชนเข้าถึงสินค้า รับประทานปลาได้ในราคาที่เป็นธรรม และยังต่อยอดไปถึงการเป็นแหล่งซื้อของฝากให้นักท่องเที่ยวที่มากำแพงเพชรอีกด้วย
ปัจจุบันฟาร์มมาร์เก็ตมีทั้งหมด 4 สาขา คือ สาขาวังแขม สาขาลานกระบือ สาขาเมืองกำแพงเพชร และ สาขาแม่สอด และอีกหนึ่งธุรกิจต่อยอด คือ ฟาร์มปลาคาเฟ่ (Farmpla Café and Garden) ที่เป็นทั้ง ร้านกาแฟ และ ร้านอาหาร ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่น ผ่อนคลาย มีจุดถ่ายรูป ไฮไลท์อยู่ที่น้ำตก ที่ย่อเอาน้ำตกคลองลานมาไว้ที่นี่ ให้ทุกคนได้มาทานกาแฟ เบอเกอรี่ ขนม และ อาหารคาว หวาน วัตถุดิบสดใหม่ ปลาทับทิมคุณภาพจากกรเกียรติฟาร์ม นั่งทานท่ามกลางธรรมชาติ
คุณกรเกียรติกล่าวว่า “ฟาร์มปลาคาเฟ่ ถือเป็นแลนด์มาร์คของ 10 จังหวัดภาคเหนือตอนบน และเป็นอีกหนึ่งความภูมิใจของชาวกำแพงเพชร เป็นการยกระดับเมืองรองให้น่าสนใจ เป็น จุดเช็คอิน จุดนัดพบ และที่พักผ่อนชาร์จแบตให้ตัวเอง ผมในนามตัวแทนของฟาร์มปลาคาเฟ่ ขอเชิญชวนทุกท่านมาแวะ มาชิมกาแฟ อาหารคาว หวาน จากเชฟฝีมือดี ดื่มด่ำกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ ที่ร้านของเราครับ”
ในอนาคตทางฟาร์มมีแนวคิดที่จะทำการท่องเที่ยวเชิงเกษตร เปิดให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมฟาร์ม เรียนรู้วิธีการเลี้ยงปลา พร้อมทำกิจกรรมต่างๆ ในฟาร์ม เพื่อเป็นการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจจังหวัดกำแพงเพชรอีกหนึ่งทาง
สำหรับเกษตรกรที่สนใจ ลูกปลาทับทิม ปลานิล สามารถติดต่อได้ที่ กรเกียรติฟาร์ม และสามารถแวะมาทาน กาแฟ เบเกอรี่ และ อาหาร ได้ที่ “ฟาร์มปลาคาเฟ่” 342 ม.2 ต.วังแขม อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร โทร.065-628-9391, 065-628-9454, 099-282-6393, 099-282-4149