ธุรกิจ ขายปลา ส่งลูกปลา พัฒนาพันธุ์ปลา ขายส่ง พันธุ์ปลา 1 แสนตัว/วัน
โดยในบทความที่ทางนิตยสารสัตว์น้ำกำลังจะนำเสนอนี้ คือ หนึ่งในฟาร์มขายลูกพันธุ์สัตว์น้ำรายใหญ่อีกหนึ่งแห่งในเขตภาคอีสาน ที่มีประวัติการดำเนินธุรกิจดังกล่าวมายาวนานกว่า 2 ช่วงอายุคน และถือเป็นฟาร์มที่ได้รับความนิยมจากเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาจากทั่วทุกสารทิศ นั้นคือ พัฒนาพันธุ์ปลา แห่ง อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม ที่ปัจจุบัน ขายปลา ส่งลูกปลาได้สูงสุดถึง 1 แสนตัว/วัน
ปรึกษาฟรี (หากบอกว่ามาจาก พลังเกษตร.com) สอบถามข้อมูลเพื่อเริ่มธุรกิจ หรือสนใจถามราคาลูกปลา
โทรศัพท์ 087-904- 5276
การจัดการลูกปลาก่อนนำส่ง หัวใจของธุรกิจ ขายปลา ส่ง พันธุ์ปลา
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการบริหารฟาร์มให้ได้ประสิทธิภาพ นั่นคือ การจัดหาน้ำสำหรับนำมาพักปลา โดยในฟาร์มที่ก่อตั้งนั้นจะใช้น้ำจากคลองส่งน้ำชลประทาน ซึ่งในช่วงฤดูแล้งจะไม่มีน้ำให้ใช้ นั่นจึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ต้องขยายฟาร์มเพิ่มออกมา
เพื่อหาแหล่งน้ำที่จะสามารถใช้ได้ตลอด นั่นคือ น้ำบาดาล คุณอิ๊ดกล่าวว่า นั่นคือสาเหตุหลักที่มาตั้งฟาร์มแห่งใหม่ตรงจุดปัจจุบัน โดยน้ำบาดาลในบริเวณนี้จะมีค่า pH อยู่ที่ 7-7.5 เสมอ นอกจากนี้การใช้น้ำบาดาลจะช่วยลดความเสี่ยงจากเชื้อที่จะติดมาจากแหล่งน้ำอื่นไม่เหมือนกับการใช้น้ำจากธรรมชาติ เมื่อได้น้ำแล้ว
สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ การจัดการบ่อ สำหรับพักปลา ซึ่งทางฟาร์มจะใช้ฟอร์มาลีนในการฆ่าเชื้อภายในบ่อสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ครั้งละ 150 มิลลิลิตรต่อ 1 บ่อ แล้วปล่อยเอาไว้ 1 วัน หลังจากนั้นจะปล่อยน้ำออก แล้วใช้น้ำล้างให้สะอาด แล้วจึงเติมน้ำใหม่เข้าไป
โดยข้อดีของฟอร์มาลีน คือ จะสามารถฆ่าเชื้อได้มีประสิทธิภาพ เหมือนการใช้แอลกอฮอล์ แต่สามารถระเหยได้ไว และไม่มีสารตกค้าง เหมือนการใช้ด่างทับทิม เมื่อลูกปลามาถึงจะนำมาพักไว้เพื่อรอส่ง ซึ่งหากลูกปลาค้างอยู่ที่บ่อนาน ก็จะให้อาหารเพียงวันละครั้ง และเปลี่ยนถ่ายน้ำใหม่ทุก 3-4 วัน เพื่อให้ปลาสดชื่นอยู่เสมอ จากนั้นจึงปล่อยลูกปลาขายปลา ออกไปได้
จากหนุ่ม ปวส. ช่างกล สู่นักธุรกิจขายส่งลูกพันธุ์ปลา
ตั้งแต่เด็กนั้นบิดาของตนได้ประกอบธุรกิจเพาะพันธุ์ และ ขายปลา ลูกพันธุ์ ปลาน้ำจืดมาอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งตนเองก็ได้เรียนรู้วิธีการเพาะพันธุ์ และการทำธุรกิจประเภทนี้มาตั้งแต่ยังเด็ก โดยมีคุณพ่อเป็นผู้สั่งสอน แต่เมื่อได้เริ่มเรียนหนังสือ กลับได้เลือกเรียนในสาขาวิศวกรรมเครื่องกล ซึ่งเมื่อจบออกมาก็ได้ทำงานในสายงานที่ตนเองต้องการ แต่พบว่าการทำงานโดยต้องเป็นลูกจ้างในบริษัทเพื่อแลกกับเงินเดือนเพียง 3-4 หมื่นบาท/เดือน และไม่มีอิสระในการใช้ความคิด ไม่ใช่สิ่งที่เข้ากันกับความต้องการของตนเอง จึงได้คิดกลับมาทำในสิ่งที่ถนัด นั่นคือ การเพาะพันธุ์ลูกปลา
ซึ่งเมื่อคิดได้เช่นนั้นคุณอิ๊ดจึงได้กลับมาที่บ้านเกิด และมาช่วยกิจการของที่บ้าน จนมีความคิดที่จะก่อตั้งฟาร์มของตนเองขึ้นมา โดยได้มาก่อตั้งฟาร์มใหม่ในชื่อ พัฒนาพันธุ์ปลา เนื่องจากมีประสบการณ์จากที่ครอบครัวทำธุรกิจประเภทนี้มาก่อน จึงทำให้คุณอิ๊ดเริ่มต้นกิจการได้ไม่ยากนัก โดยได้มาเริ่มต้นตั้งฟาร์มแห่งแรกที่บ้านมะโม ตำบลหนองซอน อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม
โดยเป็นทั้งฟาร์มเพาะพันธุ์ และจุดพักลูกปลา แต่ต่อมาไม่นานในพื้นที่บ้านมะโม มีจำนวนเกษตรกรที่เพาะ พันธุ์ปลา น้ำจืดเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้ฟาร์มของคุณอิ๊ดต้องเปลี่ยนบทบาทจากฟาร์มเพาะพันธุ์ และจำหน่ายลูกปลา เป็นฟาร์มที่รับซื้อและ ขายปลา ส่งลูกปลาเพียงอย่างเดียว
โดยจะรับเอาลูกปลาจากฟาร์มเพาะพันธุ์ที่มีคุณภาพ และมีความน่าเชื่อถือ จากทั่วประเทศ มารวมเอาไว้ที่ฟาร์ม และทำการจำหน่ายออกไปในหลากหลายรูปแบบ ทั้งการ ขายปลา ส่งผ่านรถเร่ที่จะมารับเอาลูกปลาไป ขายปลา ตามจังหวัดต่างๆ ในเขตพื้นที่ภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคเหนือ รวมไปถึงลูกค้าบางรายที่จะวิ่งรถมารับลูกปลาเองถึงหน้าฟาร์ม
จนในที่สุดพัฒนา พันธุ์ปลา ได้เริ่มเป็นศูนย์กลางของแหล่ง พันธุ์ปลา น้ำจืดรายใหญ่ของเขตภาคอีสาน และต้องขยายกิจการเพิ่มเติม โดยมาซื้อที่เพื่อขยายโรงอนุบาล และพักลูกปลา เพิ่มเติม เพื่อรองรับกับปริมาณการสั่งซื้อลูกปลาที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
จุดแข็งสำคัญของพัฒนาพันธุ์ปลา
ในจุดที่พัฒนา พันธุ์ปลา ตั้งอยู่นี้ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่มีรถเร่ อยู่เป็นจำนวนมาก กว่า 2,000 คัน รวมถึงเป็นจุดที่ฟาร์มปลาต่างๆที่อยู่ตามต่างจังหวัดสามารถมารับปลาได้โดยง่าย ซึ่งจุดเด่นสำคัญที่สุดที่ทำให้ฟาร์มแห่งนี้มีชื่อเสียง ก็คือ การที่มีลูกปลาของที่นี้ มีราคาถูกที่สุดในเขตภาคอีสาน และลูกปลามีคุณภาพได้มาตรฐาน สม่ำเสมอ
จึงทำให้เป็นที่ถูกใจจากลูกค้า และรถเร่ ที่ได้เข้ามาซื้อขายกับที่ฟาร์ม ซึ่งนอกจากนั้นในพื้นที่บ้านมะโมยังเป็นแหล่งลูก พันธุ์ปลา คุณภาพที่สามารถผลิตลูกปลาได้เป็นจำนวนมาก จึงให้ทางฟาร์มสามารถมีลูกปลาขายได้ตลอดทั้งปี โดยปลาที่ขายอยู่หลักๆ ตอนนี้ คือ ปลาดุก ปลานิล ปลาตะเพียน ปลาสวาย ปลากราย ปลาบึก ปลาไน และปลาหมอ
ปัญหาอย่างเดียว คือ ไม่มีปลาพอขาย
ซึ่งนอกจากจะขายส่งลูกปลาแล้ว ตอนนี้ทางฟาร์มยังได้เพิ่มในส่วนของร้านขายอุปกรณ์สำหรับรถเร่ ซึ่งจะมีทั้งอุปกรณ์สำหรับแพ็คลูกปลา แก๊สออกซิเจน รวมถึงอาหารเม็ด ซึ่งผู้ประกอบการรถเร่สามารถจะซื้อได้จากที่ฟาร์มก่อนนำลูกปลาไปขาย ทำให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
นอกจากนั้นปัจจุบันทางฟาร์มได้เริ่มทำการตลาดออกไปเพิ่มเติม คือ การขายส่งลูกพันธุ์ปลาไปยังประเทศลาว ซึ่งได้การตอบรับเป็นอย่างดีจากช่องทางนี้ โดยคุณอิ๊ดได้กล่าวติดตลกไว้อีกว่า “ที่ฟาร์มมีปัญหาอย่างเดียว คือ ปลาไม่พอขายครับ (หัวเราะ)” โดยช่วงที่ปลาขายได้ดีที่สุด คือ ช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูฝนพอดี โดยปริมาณสูงสุดที่เคยขายได้จะอยู่ที่ 200,000 ตัว/วัน โดยปลาที่ขายดีที่สุด คือ ปลาดุก ที่จะรับมาจากทางภาคกลางบ้างบางส่วน
ขยายฟาร์มเพื่อรองรับปริมาณการสั่งซื้อที่มากขึ้น
พัฒนาพันธุ์ปลาใช้เวลาเพียง 2 ปี ก็เริ่มติดตลาด และเป็นที่รู้จักของผู้คนในวงการเพาะเลี้ยงปลาน้ำจืด จนต้องขยายฟาร์มเพิ่มออกมา เพื่อรองรับกับปริมาณการสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยได้ออกมาตั้งบนพื้นที่ขนาด 1 ไร่ และก่อสร้างบ่อพักลูกปลาขนาด 4X6 เมตร จำนวน กว่า 10 บ่อ และปัจจุบันกำลังขยายบ่อเพิ่มออกไปอีก เนื่องจากพื้นที่สำหรับพักลูกปลายังไม่เพียงพอ
การคัดเลือกฟาร์มเพาะสำหรับเป็นคู่ค้าร่วมธุรกิจ
หลายๆ ฟาร์มที่ทำร่วมกับคุณอิ๊ดส่วนใหญ่จะเป็นฟาร์มที่ทำธุรกิจกันมานาน ที่ปัจจุบันมีทั้งหมดกว่า 20 ฟาร์ม ทั่วประเทศ โดยฟาร์มทั้งหมดนี้จะคอยปรึกษาหารือกันตลอด ไม่ว่าจะในเรื่องของการจัดการออร์เดอร์ การแนะแนวทางการเลี้ยงและการขนส่ง
เพราะตนมีประสบการณ์ด้านนี้มาตั้งแต่เด็ก จึงทำให้รู้วิธีแก้ปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในการเพาะพันธุ์และขนส่ง จึงทำให้คุณอิ๊ดสามารถควบคุมคุณภาพ และปริมาณลูกปลาได้ แต่หากพบว่าลูกปลาที่ส่งไปให้ลูกค้าป่วย เมื่อไปถึงทางฟาร์มก็ยินดีที่จะ ส่งปลาให้ใหม่ หากเกิดจากต้นทางและการขนส่ง
แต่คุณอิ๊ดกล่าวว่ากรณีข้างต้นนั้นเกิดขึ้นค่อนข้างน้อย เพราะปลาทุกชุดที่ส่งมาที่ฟาร์มจะต้องผ่านการตรวจจากคุณอิ๊ดก่อน และหากเจอว่าปลาป่วยตนก็จะดำเนินการรักษา จนกว่าปลาจะมีสภาพพร้อมสำหรับนำไปเลี้ยง แต่ถ้าสภาพไม่พร้อมจริงๆ จะนำไปอนุบาลในบ่อดิน เพื่อให้ปลาได้ผ่อนคลาย และเพิ่มความแข็งแรงของลูกปลา
ซึ่งถือเป็นจุดสำคัญอีกจุดหนึ่งของผู้ที่จะประกอบธุรกิจขายส่งลูกปลา ที่จะต้องมีความรู้ และความสามารถ ในการรักษาและดูแลลูกปลาด้วย คุณอิ๊ดกล่าวต่ออีกว่า นอกจากฟาร์มของตนเองที่ทำอยู่ในปัจจุบันแล้วยังมีฟาร์มของคุณพ่อที่เป็นฟาร์มดั้งเดิมของครอบครัว
โดยปัจจุบันน้องสาวเป็นผู้ดูแลอยู่ก็คือ สำรวยฟาร์ม ส่วนอีกฟาร์มหนึ่งที่เป็นพี่น้องกัน คือ เจริญฟาร์ม ซึ่งเป็นฟาร์มของพี่สาว โดยฟาร์มเหล่านี้ล้วนเป็นญาติกันทั้งหมด และต่างมีประสบการณ์ในการเพาะพันธุ์ลูกปลามายาวนานเช่นกัน กับ พัฒนาพันธุ์ปลา
ฝากถึงเกษตรกรที่สนใจจะประกอบอาชีพเลี้ยงปลา
คุณอิ๊ดกล่าวว่า “สำหรับคนที่ต้องการจะหันมาเลี้ยงปลาเพื่อเสริมรายได้นั้น ถือเป็นความคิดที่ดี เพราะเลี้ยงง่าย และไม่ต้องดูแลมาก ต้นทุนไม่สูงมาก หากเลี้ยงเพียงเป็นอาชีพเสริม ไม่เหมือนกับหมู หรือสัตว์ตัวอื่นๆ ที่ต้องมีพื้นที่ และปัญหาจุกจิกเยอะ”
แต่ทั้งนี้ในธุรกิจการขายส่งลูกปลานั้น ถือเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง เพราะเป็นธุรกิจในระดับกลางน้ำ ที่ต้องรับซื้อลูกปลา และนำมาเก็บรักษาไว้เพื่อรอที่จะนำไปขายต่อ ซึ่งหากไม่มีการคัดเลือกลูกปลาจากฟาร์มเพาะพันธุ์ที่เชื่อถือได้ จะทำให้ธุรกิจอาจเกิดความเสียหาย
รวมถึงในวงการนี้ ต้องบอกเลยว่าหากไม่มีประสบการณ์ในการบริหารจัดการฟาร์มที่ดีด้วยแล้ว การทำให้ประสบความสำเร็จถือเป็นสิ่งที่ท้าทายพอสมควร เพราะสิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่การขายให้ได้ในปริมาณมาก แต่คือการรักษามาตรฐาน และคุณภาพ ของลูกพันธุ์สัตว์น้ำให้ดีอยู่เสมอ รวมถึงความเอาใจใส่ต่อลูกค้า และฟาร์มเพาะพันธุ์ ที่ดำเนินธุรกิจร่วมกัน นั้น จึงจะทำให้ธุรกิจสามารถเติบโต และมีความยั่งยืนได้
หากเกษตรกรท่านใดสนใจสอบถามข้อมูลเพื่อเริ่มธุรกิจของตนเอง หรือสนใจซื้อลูกปลาจากทางฟาร์มสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ 087-904- 5276 หรือเข้าไปดูข้อมูล รวมถึงราคาลูกปลาของทางฟาร์มได้ที่ เว็บไซต์ http://www.พัฒนาพันธุ์ปลา.com
ขายปลา ขายพันธุ์ปลา พันธุ์ปลาดุก ปลาดุก ราคาปลาดุก วิธีเลี้ยงปลาดุก การเพาะพันธุ์ปลาดุก วิธีการเลี้ยงปลาดุก