ในโอกาสที่นิตยสารสัตว์น้ำได้เข้ามาเยี่ยมชมน้ำใสฟาร์ม วันนี้ได้พบกับผู้บริหาร คุณวอร์เรน แอนดริว เทอร์เนอร์ และลูกสาว คุณเจสสิก้า เคย์ เทอร์เนอร์ คุณวอร์เรนแอบพูดติดตลก แนะนำตัวว่า “ผมเป็นคนหัวหมอ แต่ลูกสาวผมเป็นหมอจริงๆ” เพราะคุณเจสมีดีกรีเป็นสัตวแพทย์ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผู้ซึ่งมาพร้อมกับความคิดใหม่ๆ เกี่ยวกับโรค และแนวทางที่จะดำเนินธุรกิจภายใต้แรงกดดันจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
จุดเริ่มต้นการผลิตลูกพันธุ์ ปลานิล ปลาทับทิม เพศผู้ล้วน
คุณเจสจึงได้ให้เกียรติเขียนบทความลงในนิตยสารฉบับนี้ เพื่อเป็นการแนะนำตัวและกล่าวทักทายกับเกษตรกรทุกท่าน
ขอกล่าวสวัสดีพี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์น้ำทุกท่าน หลังจากที่น้ำใสฟาร์มไม่ได้ออกสื่อมาเป็นเวลานาน น่าจะเพราะมัวแต่ก้มหน้าก้มตาเลี้ยงปลากันอยู่ วันนี้เจสขออนุญาตมาเป็นตัวแทนชาวน้ำใส เล่าเรื่องราวความสำคัญและสถานการณ์ของปลานิล-ทับทิม และจุดเริ่มต้นของฟาร์มผลิตลูกพันธุ์ปลานิล-ทับทิมเพศผู้ล้วนที่มีประวัติยาวนานถึง 30 ปี เราไปฟังกันเลยค่ะ
สภาพพื้นที่เลี้ยงปลานิล
ปัจจุบันปลานิลเป็นปลาน้ำจืดที่ผลิตมากเป็นอันดับ 3 ของโลก โดยประเทศไทยผลิตปลานิลได้มากถึง 269,394 ตัน ในปี พ.ศ.2565 คิดเป็นสัดส่วนประมาณเกือบ 60% ของผลผลิตสัตว์เศรษฐกิจน้ำจืดในประเทศไทย (ข้อมูลจากสถิติผลผลิตการเลี้ยงสัตว์น้ำจืด ประจำปี 2565 โดยกลุ่มสถิติการประมง กองนโยบายและแผนพัฒนาการประมง) ปลานิลจึงนับได้ว่าเป็นสัตว์น้ำจืดที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจอย่างมาก
ย้อนเวลาไปเมื่อ 30 ปีที่แล้ว คุณวอร์เรนได้เห็นความสำคัญของปลานิลอันเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพดีที่เกษตรกรสามารถเลี้ยงได้ไม่ยาก และเล็งเห็นถึงโอกาสที่เกษตรกรจะสามารถประกอบอาชีพและสร้างกำไรได้อย่างยั่งยืนด้วยการเลี้ยงปลานิลเพศผู้ล้วนที่มีอัตราการเจริญเติบโตดี และมีขนาดสม่ำเสมอเมื่อจับขาย แต่จำกัดด้วยไม่มีเงินลงทุน คุณวอร์เรนจึงได้จัดทำแผนธุรกิจฟาร์มเพาะเลี้ยงปลานิล ภายใต้ความคิดเพียงแค่ว่าต้องการจะหารายได้ให้ตนเองและครอบครัว นำเสนอนักลงทุนที่มองเห็นโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน และได้รับความช่วยเหลือ
คุณวอร์เรน และ คุณธัญรัตน์ ภรรยาของเขา จึงได้เริ่มต้นเช่าบ้านหลังคาสังกะสีริมแม่น้ำ เช่าที่ดินเพื่อทำฟาร์มเพาะพันธุ์ปลานิลเล็กๆ ใน อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี ดำเนินธุรกิจมาจนถึงปัจจุบัน กว่า 30 ปีที่ผ่านมา นักลงทุนท่านนั้นได้กลายมาเป็นทั้งหุ้นส่วนและเพื่อนที่ดีที่คอยสนับสนุนการดำเนินงานของน้ำใสฟาร์ม และต้องขอบคุณความตั้งใจของทีมงานน้ำใสฟาร์มทุกคนที่ร่วมมือร่วมแรง จนทำให้เราสามารถคงคุณภาพลูกพันธุ์ปลาได้เป็นอย่างดีตลอดมา
แนวโน้มในอนาคต
สำหรับอนาคตอันใกล้นี้ น้ำใสฟาร์มมองเห็นความท้าทายใหญ่ในการเลี้ยงสัตว์ ทั้งสัตว์บกและสัตว์น้ำ นั่นก็คือ “สภาวะโลกเดือด” ด้วยอุณหภูมิของโลกที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สภาพอากาศที่แปรปรวน ส่งผลให้สัตว์ชนิดต่าง ๆ โดยเฉพาะสัตว์น้ำที่เป็นสัตว์เลือดเย็น ซึ่งอุณหภูมิร่างกายแปรผันตามสภาพแวดล้อม ต้องเผชิญกับความยากลำบากในการมีชีวิตรอดและเติบโต รวมไปถึงเชื้อโรคชนิดต่างๆ ที่ฉกฉวยโอกาสพัฒนาตนเองขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดโรคที่รุนแรงขึ้นในสัตว์น้ำ
น้ำใสฟาร์มทราบดีว่า ระบบป้องกันภัยทางชีวภาพ (Biosecurity) ไม่ใช่ทางออกที่ยั่งยืนอย่างแน่นอน อย่างที่ทุกคนคงเห็นแล้วว่าโรคโควิด-19 แพร่ระบาดไปทั่วโลกได้รวดเร็วเพียงใด แม้มนุษย์เราจะพยายามอย่างเต็มที่ในการป้องกันไม่ให้โรคแพร่ระบาดก็ตาม แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นผล แล้วนับประสาอะไรกับโรคปลาที่อยู่ในน้ำ การแพร่ระบาดยิ่งเกิดได้ง่ายกว่าเสียอีก ดังนั้นทางเดียวที่จะอยู่รอดได้ คือ การพัฒนาสายพันธุ์ปลานิลให้ไม่ใช่เพียงแต่รูปร่างดี โตเร็ว แต่ที่สำคัญ คือ ต้อง “ทนโรค”
การพัฒนาสายพันธุ์ ปลานิล ปลาทับทิม
น้ำใสฟาร์มพัฒนาสายพันธุ์ปลานิลและปลาทับทิมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าได้ลูกพันธุ์ที่มีคุณภาพ ทั้งในแง่ของอัตราการเจริญเติบโต รูปทรง และที่สำคัญ คือ “ความทนโรค” ทั้งยังมีการพัฒนาสายพันธุ์ให้ตอบโจทย์กับรูปแบบการเลี้ยงของลูกค้า หากลูกค้าเลี้ยงแบบปล่อยบางในบ่อน้ำเขียว (extensive culture) ทั้งแบบที่ให้และไม่ให้อาหารเสริม ระยะเวลาการเลี้ยง 8-12 เดือน ทางเราขอแนะนำเป็นสายพันธุ์กิฟท์ (GIFT) ที่โดดเด่นในเรื่องของ ความทนโรค มีอัตรารอดสูง และเติบโตได้ดีด้วยระบบการเลี้ยงแบบธรรมชาติ
แต่สำหรับลูกค้าที่เลี้ยงแบบหนาแน่นด้วยอาหารเม็ดสำเร็จรูป (intensive culture) ระยะเวลาการเลี้ยง 5-8 เดือน ทางเราขอแนะนำเป็นสายพันธุ์แม็กนิล (MAG NIN) ที่โดดเด่นในเรื่องของ รูปทรง สันหนา และ โตเร็ว อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเลี้ยงรูปแบบใด ลูกค้าก็สามารถเลือกสรรลูกพันธุ์ได้ตามลักษณะเด่นของสายพันธุ์ตามที่ชอบและเหมาะสมกับการเลี้ยง
การบริหารจัดการบ่อปลานิล
ทั้งนี้การเลี้ยงปลานิลให้ประสบความสำเร็จและได้กำไร ไม่ได้ขึ้นอยู่เพียงเฉพาะกับลูกพันธุ์ แต่ยังขึ้นกับปัจจัยการเลี้ยงอื่นๆ ด้วย เช่น การเตรียมบ่อ คุณภาพน้ำ สภาพอากาศ และ ความหนาแน่นในการปล่อย หลายๆ ครั้งที่ลูกค้าเจอปัญหาเลี้ยงปลาไม่โต ซึ่งอาจเกิดจากการปล่อยปลาเยอะ เมื่อปลามีอัตรารอดสูงก็ทำให้ปลาแน่นบ่อ และไม่โตต่อในช่วงท้ายของการเลี้ยง
ซึ่งทางเราก็แนะนำให้จับปลาออกบางส่วน เพื่อให้ปลาที่เหลือโตต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม การวางแผนจำนวนปลาที่จะปล่อยให้ดีตั้งแต่ต้น ก็เป็นสิ่งที่จะช่วยลดโอกาสปลาแน่นบ่อและไม่โต โดยต้องคำนึงถึง ขนาดบ่อ ขีดจำกัดในการรองรับผลผลิตของบ่อ อัตรารอด และขนาดปลาที่ต้องการจับขาย ซึ่งน้ำใสฟาร์มยินดีให้คำปรึกษาในการเลี้ยง เพื่อให้เกษตรกรประสบความสำเร็จ
แม้ว่าการปรับปรุงสายพันธุ์เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาให้ปลามีความทนทานต่อโรค แต่รูปแบบการเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์และอนุบาลลูกปลาก็มีผลต่อความทนโรคไม่น้อยทีเดียว น้ำใสฟาร์ม “ไม่มีการให้ยาปฏิชีวนะในพ่อแม่พันธุ์และลูกปลาอนุบาลเลย” เพราะมองว่าปลาจะไม่ได้พัฒนาความทนโรค ทั้งยังก่อให้เกิดปัญหาเชื้อดื้อยา ซึ่งส่งผลเสียในระยะยาวอีกด้วย
นอกจากนี้พ่อแม่พันธุ์และลูกปลาอนุบาลจะถูกเลี้ยงในบ่อดินทั้งหมด เพื่อให้ปลาได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงกับรูปแบบการเลี้ยงของเกษตรกรมากที่สุด ด้วยสภาพการเลี้ยงที่เป็นธรรมชาติ ปลาจะได้รับการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันและการแสดงออกของยีนที่เกี่ยวข้อง ทำให้ปลามีความทนทานต่อโรค
การให้อาหารปลา
สำหรับพ่อแม่พันธุ์ในฟาร์ม จะเลี้ยงด้วยอาหารเม็ดสำเร็จรูปลอยน้ำจากหลากหลายบริษัท โดยจะไม่เน้นใช้อาหารราคาถูก แต่จะต้องใส่ใจเรื่องคุณภาพอาหารด้วย เนื่องจากคุณภาพของอาหารมีผลกับสุขภาพปลาและผลผลิตไข่ นอกจากนี้การเลือกใช้อาหารจากหลายๆ บริษัท ยังช่วยลดความเสี่ยงจากการที่อาหารจากบางบริษัทอาจมีการลดคุณภาพเพื่อลดต้นทุนในสภาวะที่วัตถุดิบมีราคาแพง ซึ่งส่งผลเสียโดยตรงกับตัวปลา แม้ในการเลี้ยงปลาเนื้อเองก็ตาม
น้ำใสฟาร์มเคยทำการทดลองเปรียบเทียบเลี้ยงปลาเนื้อด้วยอาหารราคาถูกและแพงจากหลายบริษัท และพบว่ารูปทรง ความอ้วนผอม และอัตราการเจริญเติบโตของปลามีความแตกต่างกันพอสมควรจากการเลี้ยงด้วยอาหารที่มีคุณภาพแตกต่างกัน เราจึงอยากแนะนำเกษตรกรให้ลองใช้อาหารจากหลายๆ บริษัท และทำการเลี้ยงเปรียบเทียบในปลารุ่นเดียวกันที่เลี้ยงในช่วงเวลาเดียวกัน เกษตรกรอาจพบว่าการลงทุนใช้อาหารที่ราคาแพงกว่า อาจส่งผลให้สุดท้ายขายปลาได้กำไรมากกว่าก็เป็นไปได้ ส่วนอาหารสำหรับอนุบาลลูกปลา ทางเราผลิตและใช้เองในฟาร์ม โดยเลือกสูตรที่ดีที่สุดจากการทดลองเลี้ยงจริงภายในฟาร์ม
การบำรุงดูแลลูกพันธุ์
ในส่วนของการจำหน่ายลูกพันธุ์ น้ำใสฟาร์มได้เปิดให้บริการจุดขายใหม่เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2566 ที่ผ่านมานี้ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่เดิมนัก ลูกค้าที่มาใช้บริการจะได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ทั้งในเรื่องของ ที่จอดรถ ห้องรับรองลูกค้า และ ห้องน้ำ สำหรับลูกพันธุ์ที่นำขึ้นมาจำหน่าย ทางเราจะให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพมากๆ โดยเฉพาะเรื่องของสุขภาพ ยิ่งในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เหมือนมนุษย์เราที่เมื่อเข้าช่วงฤดูหนาว ร่างกายของหลายๆ คนปรับตัวไม่ทัน ภูมิคุ้มกันตก ก็มักจะเป็นหวัด ในปลายิ่งแล้วกันไปใหญ่ เพราะด้วยธรรมชาติของสัตว์เลือดเย็น ไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิร่างกายได้ ในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงรุนแรง ปลาก็มีโอกาสที่จะป่วย
ซึ่งทางฟาร์มจะมีการตรวจเช็คคุณภาพลูกพันธุ์ 2 ครั้ง ก่อนจำหน่ายให้กับลูกค้า ครั้งแรกที่บ่อเลี้ยง และครั้งที่สองในอ่างพักปลา ส่วนปลาที่ป่วย เราจะพักปลาให้หายเสียก่อน แล้วจึงค่อยตรวจเช็คคุณภาพอีกครั้ง ก่อนจะนำขึ้นมาจำหน่าย ซึ่งลูกค้าก็มักจะชอบ เพราะเป็นปลาที่ผ่านโรคมาแล้ว เมื่อนำไปเลี้ยงต่อก็จะมีอัตราการตายที่ต่ำ
ข้อดีของเครื่องนับปลา แบรนด์ อัลจีบา
ตอนนี้ที่แผนกขายใหม่ของเราก็ได้มีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ และนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้การผลิตดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากขึ้น ทั้งยังช่วยลดความเหนื่อยล้าจากการทำงานของพนักงานได้อีกด้วย ปัจจุบันเราได้นำระบบสายพานเลื่อนเข้ามาช่วยในการทำงาน ทำให้เราสามารถเติมน้ำ เติมปลา แพ็คถุง และลำเลียงถุงขึ้นรถในรวดเดียว ด้วยความเร็ว 400 ถุง/ชั่วโมง
โดยมีเครื่องเติมน้ำอัตโนมัติที่ช่วยควบคุมให้ทุกถุงมีปริมาตรน้ำเท่ากัน มีเครื่องหมุนถุงที่ช่วยให้พนักงานแพ็คถุงได้ง่ายขึ้น และมีเซนเซอร์นับถุง 2 จุด เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าได้รับลูกปลาครบตามจำนวน ส่วนการสุ่มนับจำนวนลูกปลา เมื่อก่อนเราใช้วิธีนับมือ 1,000 ตัว พนักงานที่ต้องนับวันละหลายอ่างก็จะเกิดความเหนื่อยล้า ตอนนี้เราหันมาใช้เครื่องนับปลา พนักงานก็ทำงานได้สะดวก รวดเร็ว ปลาไม่เครียด และเพิ่มความแม่นยำในการนับด้วย ก็ขอแอบโฆษณาให้เขาสักหน่อยว่าเครื่องนับปลาของแบรนด์ Algaeba (อัลจีบา) คุ้มค่าต่อการลงทุนจริงๆ
ด้านตลาดและช่องทางจำหน่ายลูกพันธุ์ ทั้งในและต่างประเทศ
ปัจจุบันน้ำใสฟาร์มจำหน่ายลูกพันธุ์ทั้งในประเทศและส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยในประเทศไทยมี 3 สาขา ไม่รวมที่ปราจีนบุรี ได้แก่ นครปฐม สกลนคร และ สงขลา โดยที่สาขาสงขลาเป็นการเลี้ยงปลาในน้ำกร่อย และเน้นจำหน่ายลูกพันธุ์ปลากะพงขนาด 4 นิ้วขึ้นไป และมีอีก 2 สาขา ที่ประเทศบังกลาเทศ
สำหรับท่านใดที่สนใจลูกพันธุ์ปลานิล–ทับทิมเพศผู้ล้วน ปลากะพง และปลาสวาย สามารถติดต่อสั่งจองลูกพันธุ์ได้ที่เบอร์ 037-271317, 081-6503539 และ 095-3923545 หรือหากต้องการคำปรึกษาด้านการเลี้ยง หรือต้องการเสนอแนะให้คำแนะนำเพื่อปรับปรุงการบริการ ทางเรายินดีมากๆ สามารถติดต่อฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ได้ที่เบอร์ 061-3382002 และ 061-3380303 นอกจากนี้ท่านยังสามารถติดตามข่าวสารและติดต่อเราผ่านทางเฟซบุ๊กเพจ “Nam Sai Farms น้ำใสฟาร์ม” ได้ด้วย ฝ่ายขายเราเปิดให้บริการทุกวันจันทร์–อาทิตย์ เวลา 8.00 – 17.00 น.
สุดท้ายนี้ทางฟาร์มขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ไว้วางใจในลูกพันธุ์ปลานิล-ทับทิมเพศผู้ล้วน การันตีคุณภาพเพศผู้มากกว่า 99% ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จในการเลี้ยงปลา มีกำไร และมีรายได้อย่างยั่งยืน