ปลากะพงขาว ครบวงจร บริษัท 88 ฟู๊ดส์ จำกัด เซียนธุรกิจ ขยาย “ผลิตภัณฑ์” สู่ผู้บริโภคโดยตรง
ปลากะพงขาว หนึ่งในปลาเศรษฐกิจของเมืองไทย ที่มีการเพาะเลี้ยงกระจายไปแทบทุกภูมิภาค โดยเฉพาะภาคใต้ และ ภาคกลาง ด้วยเป็นปลาที่สามารถเลี้ยงได้ทั้งน้ำเค็ม น้ำกร่อย เลี้ยงง่าย และมีราคาขายค่อนข้างสูง
จนเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ปลากะพงกลับเจอวิกฤติหนักในเรื่องราคา ส่งผลให้เกษตรกรหลายรายต้องหยุดเลี้ยง เพราะแบกรับต้นทุนในการเลี้ยงไม่ไหว แต่สำหรับเกษตรกรบางส่วนได้ปรับตัวลดพื้นที่การเลี้ยงและความหนาแน่นลง เพื่อลดต้นทุน ประคองอาชีพให้พออยู่ได้ และบางส่วนได้นำผลผลิตออกมาแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า
การผลิตและแปรรูป ปลากะพงขาว
คุณวราวุธ โสภโณวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท 88 ฟู๊ดส์ จำกัด อีกหนึ่งต้นแบบในด้านการพัฒนาธุรกิจแปรรูปปลากะพงแบบครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ เพื่อสร้างผลผลิตปลากะพงคุณภาพ นำมาแปรรูป จนสามารถวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในตลาดโมเดิร์นเทรดชั้นนำได้อย่างมากมาย “ห้องเย็น 88 ฟู๊ดส์” นั่นคือ ปลายทางของความสำเร็จ
แต่ถ้ามองย้อนกลับถึงต้นทางของธุรกิจ คุณวราวุธเริ่มต้นจากการเป็นผู้นำเข้าไข่ไรน้ำเค็ม หรืออาร์ทีเมีย จากต่างประเทศ และผลิตอาหารสัตว์น้ำวัยอ่อน จนได้สูตรที่คงที่ จึงเริ่มผลิตเพื่อวางจำหน่าย รวมถึงผลิตอาหารกุ้งกุลาดำใช้เองภายในฟาร์ม
เมื่อธุรกิจอาหารสัตว์น้ำวัยอ่อนไปได้ดี สร้างมูลค่าเข้าบริษัทปีละหลายล้านบาท คุณวราวุธจึงเริ่มมีแนวคิดในการขยายตลาดเพิ่ม และได้มองหาสัตว์น้ำตัวอื่นที่น่าสนใจในการลงทุน จนได้เข้าสู่วงการ “ปลากะพง” ในปี 2551 ในฐานะบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารเม็ดปลากะพง แบรนด์ “สำเภาทอง”
จุดเริ่มต้นผลิตอาหารปลากะพง
ซึ่งคุณวราวุธได้คิดค้น ทดลอง ปรับสูตร รวมถึงเลี้ยงปลากะพงในฟาร์มของตนเอง เพื่อใช้ทดลองอาหารมานานนับปี จนสามารถผลิตอาหารเม็ดลอยน้ำสำหรับปลากะพงได้สำเร็จ “การฝึกปลากะพงกินอาหารเม็ดไม่ใช่เรื่องง่าย สูตรอาหารต้องดี มีโภชนศาสตร์ตามที่ปลาต้องการ เพื่อให้ปลามีการเจริญเติบโตที่ดี สุขภาพแข็งแรง อัตรารอดสูง” คุณวราวุธ เปิดเผย
เมื่อธุรกิจอาหารปลาไปได้ดี เกษตรกรตอบรับเป็นจำนวนมาก คุณวราวุธได้ลงทุนสร้างโรงงาน และลงเครื่องจักรชุดใหม่ เพื่อผลิตอาหารปลากะพง โดยเฉพาะที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ได้เดินหน้าทำมาตรฐานอย่างเต็มตัว ด้วยการจดทะเบียนกับทางกรมประมงอย่างถูกต้อง และเปิดเอเย่นต์ในแต่ละพื้นที่เพื่อขยายฐานธุรกิจ
คุณวราวุธกล่าวว่า “ผมเองเป็นเกษตรกรคนหนึ่งที่ชื่นชอบการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอยู่แล้ว เรามีโอกาสผลิตอาหารได้ เราควรที่จะตั้งราคาสมเหตุสมผล ในเมื่อผมรู้ราคาต้นทุนโรงงาน เครื่องจักรต่างๆ วัตถุดิบ ผมจึงเลือกใช้ความเหมาะสมในการตัดสินใจด้านการตั้งราคาที่ไม่สูงเกินไป แต่มากด้วยคุณภาพ โรงงานอยู่ได้ เกษตรกรที่ซื้อไปใช้ต้องสามารถเลี้ยงแล้วมีกำไร สามารถเลี้ยงชีพได้ กำหนดต้นทุนในการเลี้ยงของเขาได้
อีกทั้งอาหารชนิดเม็ดยังเป็นอะไรที่จัดการง่าย ทั้งเกษตรกรเอง หรือแม้แต่เอเย่นต์ร้านค้า ในการสต๊อกสินค้า เขาไม่ต้องไปยุ่งยากในการจัดหาเหยื่อสด พอเป็นอาหารเม็ดร้านค้าก็ยินดีที่จะนำไปเสนอเกษตรกร ตอบโจทย์ความสะดวกสบาย จนในที่สุดอาหารปลากะพง “สำเภาทอง” ได้ผ่านการยอมรับจากเกษตรกรผู้เลี้ยง และตัวแทนจำหน่าย อย่างมากมายตลอดระยะเวลาประมาณ 12 ปีที่ผ่านมา”
ห้องเย็น 88 ฟู๊ดส์ ตัวอย่างความสำเร็จด้านธุรกิจปลากะพงขาว
คุณวราวุธให้เหตุผลการลงทุน “ห้องเย็น 88 ฟู๊ดส์” ว่า ตนได้เริ่มต้นแนวคิดการทำห้องเย็นตั้งแต่ครั้งที่ตนเลี้ยงปลากะพงขาว และมีผลผลิตออกจำหน่ายในปริมาณมาก แต่มีตลาดรับซื้อยังไม่มากนัก ถ้านับระยะเวลาการเลี้ยงตั้งแต่ลูกปลาไซซ์ 4 นิ้ว จนถึงไซซ์ปลาจาน 8-9 ขีด อยู่ที่ประมาณ 5 เดือนกว่าๆ ถ้าไม่มีคนจับต้องเลี้ยงต่อไปจนได้ แต่ปลาใหญ่น้ำหนัก 1 กิโลกรัม ราคาจะหายไปกว่า 25-30% ซึ่งถ้าอยากได้ราคากลับมาต้องเลี้ยงได้ไซซ์ปลายักษ์ 3 กิโลกรัมขึ้นไป ราคาจึงจะกลับขึ้นมา
ในระยะเวลา 7 ปีก่อนหน้านี้ ได้เห็นวงจรแบบนี้ จึงนำปลาในฟาร์มไปให้ห้องเย็นที่มหาชัยแปรรูปตัดแต่งให้หลากหลายรูปแบบ และนำไปวางตลาดจำหน่ายที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ ได้สำเร็จ สินค้าที่นิยม คือ ชุดเตรียมปลากะพงทอดราดน้ำปลา มี 3 ขนาด ซึ่งได้น้ำปลาที่เป็นสินค้าโอทอปของจังหวัดระยองมาใช้ในการทำซอสราดปลาทอดจำหน่าย ร่วมกับปลากะพงตัดแต่งแบบพรีเมี่ยม ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ด้านตลาดและช่องทางจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ปลากะพง
จนปัจจุบันวางขายในซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ อาทิ ท็อปส์ วิลล่ามาร์เก็ต โกลเด้นเพลซ เครือเดอะมอลล์ แม็กแวลู ริมปิงเชียงใหม่ เอสแอนด์พี เป็นต้น หลังจากนั้นจึงได้เริ่มต้นสร้างห้องเย็นเป็นของตนเอง เพื่อการแปรรูปปลากะพงโดยเฉพาะ ในพื้นที่ กม.36 ถนนบางนา-ตราด จังหวัดสมุทรปราการ ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 100 ล้าน รองรับผลผลิตจากฟาร์ม 70% และเกษตรกรในเครืออีก 30% ได้เตรียมพร้อมเรื่องมาตรฐานเพื่อขยายฐานตลาดสู่การส่งออกต่อไปในอนาคต
ปัจจุบันได้ดำเนินการสร้างมูลค่าเพิ่มปลากะพงแช่แข็ง ด้วยการตัดแต่ง และการแปรรูป ซึ่งรูปแบบการตัดแต่งปลากะพงมีหลายอย่าง อาทิ ขอดเกล็ด ควักไส้ ขอดเกล็ด ผ่าหลัง แบ่งสัดส่วนเป็นชิ้นสเต็ก หรือสไลด์หั่นชิ้น เป็นต้น และในส่วนของผลิตภัณฑ์แปรรูปที่เริ่มทำขึ้นมาในช่วงสถานการณ์ Covid-19 ได้แก่ กะพงจ๊อ ไส้อั่วปลากะพงสมุนไพร ซาลาเปาไส้ปลากะพง เป็นต้น
จำหน่ายร่วมกับแพลตฟอร์มของกรมประมงในด้านเดลิเวอรี่ คือ FISHERIES SHOP โดยเน้นจำหน่ายทางออนไลน์ และได้รับความอนุเคราะห์จากกรมประมง จัดให้ไปจำหน่ายที่ลานโพธิ์ของกรมประมงเดือนละ 1 ครั้ง ในทุกต้นเดือน และต่อมาได้เพิ่มการจัดส่งเดลิเวอรี่โดยตรงด้วยรถห้องเย็นของบริษัท ในเขต กทม. และปริมณฑล ตั้งแต่เดือนเมษายน-ปัจจุบัน นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการขยายตลาดให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น
ข้อดีของอาหารปลากะพง “สำเภาทอง”
พูดได้ว่าการดำเนินธุรกิจแบบครบวงจรของคุณวราวุธ สามารถเป็นตัวอย่างความสำเร็จในการสร้างธุรกิจชนิดหนึ่งให้สอดคล้องหรือสอดรับอย่างลงตัว คุณวราวุธกล่าวถึงความสำเร็จว่า “ผมคิดว่าการทำธุรกิจให้ได้ครบวงจร เราต้องคำนึงถึงคุณภาพเป็นหลักมาโดยตลอด ให้สอดคล้องกับต้นทางในการผลิต เพราะถ้ามองเห็นจุดสำคัญ คือ การเลี้ยงสัตว์น้ำ ต้นทุนที่สำคัญที่สุด นั่นคือ อาหาร
เพราะฉะนั้นเราต้องมองว่าจุดที่เราทำไม่ใช่เพียงแต่จะราคาย่อมเยา แต่คุณภาพต้องดีด้วย FCR ต้องต่ำ ทำให้อาหารปลากะพงสำเภาทองผ่านการพิสูจน์จากเกษตรกรผู้เลี้ยงมาอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้เหลือกลุ่มเกษตรกรมีการความยั่งยืนในการเลี้ยงปลากะพงได้อย่างเข้มแข็ง ผมคิดว่าถ้าบ้านเรามีการรวมกลุ่มให้มีความเข้มแข็ง และสามารถผลิตปลากะพงให้มีคุณภาพ ได้มาตรฐานการส่งออก
ในอนาคตการส่งออกปลากะพงย่อมไม่ยาก ถึงในวันนี้ปลากะพงในบ้านเราจะมีอุปสรรคอยู่บ้าง แต่ถ้าเราคุมเรื่องต้นทุนการผลิตให้ดี คุมคุณภาพของสินค้าให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า หรือการแปรรูปสินค้าให้เพิ่มมูลค่า ก็ยังสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้”
ปัญหาและอุปสรรคของ ห้องเย็น อาหาร ฟาร์มเลี้ยง สัตว์น้ำ
คุณวราวุธได้พูดถึงผลกระทบจากโควิด 19 ว่า สาหัสเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน เพราะทั้ง ห้องเย็น 88 ฟู๊ด/88 อาหารสัตว์น้ำ และฟาร์มเลี้ยง ได้รับผลกระทบทั้งหมด เพราะปกติของทุกปีจะมีการเติบโตทางธุรกิจเพิ่มขึ้นในเลขสองหลัก แต่ปีนี้เรียกได้ว่าคงสภาพไม่ให้ขาดทุนก็แย่แล้ว
แต่ทางบริษัทมีวิธีลดปัญหา และหาแนวทางรับมือได้ในช่วงที่ผ่านมา ด้วยการปรับการจำหน่ายผลผลิตในช่องทางออนไลน์มากขึ้น จัดทำสินค้าแปรรูป และสินค้าเพิ่มมูลค่าส่งตรงถึงผู้บริโภค ให้สอดคล้องกับการเก็บตัวอยู่บ้านของผู้บริโภค และมีการทดลองเปิดการจำหน่ายในฟู๊ดคอร์ทของพาราไดร์พาร์ค ปรุงเป็นอาหารพร้อมทาน ข้าวต้มปลากะพง ขนมจีนน้ำยาปลากะพง หรือปลากะพงลุยสวน เป็นต้น เพื่อทดลองตลาดในการสร้างธุรกิจในอนาคตต่อไป
แนวโน้มในอนาคต
สุดท้ายได้ถามถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2564 นี้ ว่าจะไปในทิศทางใด คุณวราวุธกล่าวว่า “ผมคิดว่าต้องขยายตลาดในประเทศทุกช่องทางเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น โมเดิร์นเทรด โรงแรม ร้านอาหาร ฯลฯ และคงต้องเน้นทำสินค้าแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มจากปลากะพง คิดเมนูใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ให้ตรงใจผู้บริโภคมากขึ้น
และที่สำคัญจะพยายามหาช่องทางการส่งออกผลผลิตให้ได้ เพื่อขยายฐานตลาดในอนาคต สร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ ในส่วนของอาหารปลากะพงสำเภาทอง คิดว่าจะต้องเพิ่มไลน์สินค้าในกลุ่มของลูกปลา ในกลุ่มผู้เพาะเลี้ยงปลากะพง และปลาอื่นๆ อีกด้วย”
การดำเนินธุรกิจครบวงจรด้านปลากะพงขาวของ ห้องเย็น 88 ฟู๊ดส์ นับได้ว่ามีความแข็งแกร่งทางด้านการสร้างรากฐานธุรกิจและการพัฒนาคุณภาพมาโดยตลอด ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างให้กับบริษัทที่กำลังจะหาช่องการเติบโตของธุรกิจ หรือผู้สนใจเริ่มต้นทำธุรกิจสัตว์น้ำ สามารถนำเอาแนวทางไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับธุรกิจของตนเอง เพื่อสร้างความสำเร็จและยั่งยืนในการประกอบธุรกิจสัตว์น้ำ
ติดต่อสอบถามได้ที่ ไลน์ : @88foodsdelivery, Facebook : ปลากะพงขาวแช่แข็ง Frozen Sea Bass 88 Foods Co.,Ltd. โทร : 098-626-9428, 02-7078820-1, E-mail : [email protected]
อ้างอิง : นิตยสารสัตว์น้ำ ฉบับที่ 377
