มารีน ลีดเดอร์ ผู้นำด้าน Test Kit และจุลินทรีย์ เพื่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
ปัจจุบันจะเห็นว่าการเลี้ยงกุ้ง หรือ ปลา ให้ประสบผลสำเร็จ และได้กำไร ไม่ง่ายเหมือนแต่ก่อน เกษตรกรต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ นาๆ สาเหตุหลักๆ คงหนีไม่พ้นเรื่อง “โรค” ที่รักษาและจัดการได้ยากมากขึ้น โดยเฉพาะโรคขี้ขาว ตัวแดงดวงขาว และ EMS เมื่อถามถึงปัจจัยในการก่อให้เกิดโรค คงหาคำตอบได้ยาก เพราะสาเหตุของโรคมาจากหลากหลายปัจจัย
ดังนั้นเกษตรกรในปัจจุบันจำเป็นจะต้องขวนขวายหาความรู้ใส่ตัว เพื่อนำความรู้นั้นๆ มาปรับใช้ในฟาร์มของตน ป้องกันการเกิดโรคในฟาร์ม รวมถึงการคัดเลือกผลิตภัณฑ์คุณภาพต่างๆ มาใช้ในการตรวจสอบ ควบคุม หรือแก้ปัญหาของโรคนั้นๆ
การจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำหรับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
นิตยสารฉบับนี้เราได้มีโอกาสเข้าพูดคุยกับ คุณสาธิต พานิชย์ ผู้บริหาร บริษัท มารีน ลีดเดอร์ จำกัด ถึงวิสัยทัศน์ของการดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้า ปัจจัยในอุตสาหกรรมสัตว์น้ำ
บริษัท มารีน ลีดเดอร์ จำกัด ปัจจุบันเปิดทำการมานานกว่า 21 ปี โดยสินค้าที่จำหน่ายส่วนใหญ่จะเป็นจำพวก ปัจจัย อาหารเสริมสุขภาพสัตว์น้ำ รวมถึงอุปกรณ์เทคโนโลยี และผลิตภัณฑ์ชุดทดสอบคุณภาพน้ำ ที่ถือว่าเป็นสินค้าเด่นของที่นี่ บริษัททำงานวิจัยจากห้างสู่หิ้ง เพื่อให้เกษตรกรได้ประโยชน์ ช่วยลดการสูญเสียแล้วก่อให้เกิดผลกำไร รวมถึงการนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการเพาะเลี้ยงเพื่อให้เกิดความยั่งยืน
จุดเด่นของชุดตรวจสอบโรค
ซึ่งสินค้าเด่นของ บริษัท มารีน ลีดเดอร์ จำกัด ที่เกษตรกรรู้จักเป็นอย่างดี นั่นคือ “ชุดตรวจสอบโรค” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่บริษัทได้วิจัยร่วมกับ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ภาควิชาวิทยาศาสตร์ โดยมีจุดประสงค์เพื่อลดขั้นตอนการตรวจสอบโรค โดยไม่ต้องส่งไป PCR ชุดตรวจสอบโรคตัวนี้จะช่วยให้เกษตรกรสามารถตรวจโรคในกุ้งได้เองภายในฟาร์ม
ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบโรคไวรัส WSSV (ตัวแดงดวงขาว), โรค EMS และโรค YHV (หัวเหลือง) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานง่าย ไม่จำเป็นต้องมีทักษะ อ่านและเข้าใจผลง่าย คล้ายที่ตรวจครรภ์ ที่สำคัญมีราคาถูกกว่าการไปตรวจ PCR สามารถทราบผลภายใน 15-30 นาที จึงสามารถช่วยให้จัดการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคในบ่อเลี้ยงได้อย่างทันท่วงที
ปัญหาและอุปสรรคการเลี้ยงกุ้ง
คุณสาธิต พานิชย์ หรือ คุณอุ้ม ได้พูดคุยกับทีมงานว่า ปี 2564 นี้ อุตสาหกรรมกุ้งไทยถือว่าเป็นปีที่ค่อนข้างหนักหนาสาหัสทีเดียว ทั้งในเชิงโครงสร้างการเลี้ยงที่มีปัญหาจากการระบาดของโรค ส่งผลให้ผลผลิตขาดแคลน อีกทั้งราคาซื้อขายที่ค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับต้นทุนการเลี้ยงที่สูงมากขึ้น ซึ่งเป็นปัญหาที่ยังวนเวียนอยู่ในเชิงของโครงสร้างซึ่งมีมานานแล้ว เช่น ลงกุ้งผิดช่วงเวลา สาเหตุเกิดจากการแพร่ระบาดของโรค ทำให้เกษตรกรชลอการลงกุ้งเพื่อลดความเสี่ยงจากการเกิดโรค แต่กลับไปเสี่ยงหวังผลจากการลงในรอบที่ 3-4 ซึ่งเป็นช่วงที่ทำกำไรได้ยากมากขึ้น เพราะเจอทั้งฝน และอากาศที่หนาวเย็น
“ผมมองว่าปัจจุบันนี้เกษตรกรแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 70% กับ 30% ในส่วน 70% คือ เกษตรกรที่เลี้ยงกุ้งรายย่อย ที่เน้นการเลี้ยงแบบธรรมชาติ ไม่มีการใช้เทคโนโลยี หรือใช้องค์ความรู้สมัยใหม่ในการเลี้ยง ซึ่งเกษตรกรกลุ่มนี้จะสามารถผลิตกุ้งเข้าตลาดได้เพียง 30% ของผลผลิตทั้งหมด เพราะเลี้ยงแล้วไปไม่รอด ส่วนอีก 30% อาจจะเลี้ยงแล้วป้อนผลผลิตให้ตลาดได้มากถึง 70% เพราะส่วนใหญ่เป็นฟาร์มเลี้ยงที่มีระบบการเลี้ยงแบบพัฒนาแล้ว
ดังนั้นโจทย์ของมารีน ลีดเดอร์ คือ ทำอย่างไรให้คนที่เลี้ยงไม่รอดใน 70% กลับมาเลี้ยงจนรอด และรายที่ยังก้ำกึ่งจะรอด หรือไม่รอด เขาติดปัญหาตรงไหน เราก็จะเดินเข้าไปดูแล ช่วยเหลือ ให้คำปรึกษา เพื่อให้สามารถเลี้ยงจนรอด และได้ผลกำไรที่เหมาะสม เกษตรกรบ้านเราจะต้องเริ่มปรับตัวได้แล้ว ต้องทำให้ได้เหมือนประเทศเอกวาดอร์ เวียดนาม ที่อดีตเขาเคยเลี้ยงไม่ได้ ผลผลิตรวมทั้งประเทศอยู่อันดับท้ายๆ แต่วันนี้ทำไมเอกวาดอร์ถึงกลับมาเป็นผู้นำได้ เพราะเกษตรกรบ้านเขามีการปรับตัว เรียนรู้ และแก้ไขจุดผิดพลาด เขาถึงกลับมาแซงเราได้ในวันนี้” คุณอุ้มให้ความเห็นเรื่องสถานการณ์การเลี้ยงในปัจจุบัน
การบริหารจัดการบ่อเลี้ยงกุ้ง
เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับเปลี่ยน ทางบริษัท มารีน ลีดเดอร์ ปี 2564 นี้ มุ่งเป้าไปที่ 3 ประเด็นหลักในการขับเคลื่อนบริษัท บุกตลาดสัตว์น้ำและเข้าถึงเกษตรกรมากขึ้น
- ประเด็นที่ 1 การให้ความรู้ ความเข้าใจ เรื่องของการใช้โปรไบโอติก
บริษัท มารีน ลีดเดอร์ จำกัด เรามีผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ขั้นตอนอนุบาล (แฮชเชอรี่) อาหารพ่อแม่พันธุ์ที่มีคุณภาพเพื่อความสมบูรณ์ของสุขภาพกุ้ง เพศผู้ เพศเมีย ส่งผลให้มีอัตราการผสม การให้ลูกที่ดี นอกจากนี้ยังมีในส่วนของ “โปรไบโอติก” สารเสริมในระบบแฮชเชอรี่ ที่ทำให้อัตราการรอดของลูกกุ้งดีขึ้น เช่น “โนโวไบโอติก-พลัส” โปรไบโอติกชนิดน้ำ
-เป็นจุลินทรีย์ผสมพิเศษชนิดน้ำ สำหรับบ่อเพาะฟัก มีความเข้มข้นและหลากหลายของสายพันธุ์จุลินทรีย์ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ชนิดน้ำ เพื่อการบลูมและการเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังกระจายตัวได้บ่อได้ดีทั่วทั้งบ่อ
-ให้คุณสมบัติแข่งและข่มเชื้อก่อโรค (Competitive exclusion)
-ลดการติดเชื้อวิบริโอ และลดการเรืองแสง ในระบบบ่อเพาะฟัก
-ย่อยสลายตะกอน ทั้งขี้กุ้ง เศษอาหารที่เหลือ เยื่อเมือก คราบที่ติดตามบ่อ
-ส่งเสริมสภาวะการควบแน่นของจุลินทรีย์กับตะกอนอินทรีย์สารในบ่อ (Biofloc) ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับลูกกุ้งในแง่ของโปรไบโอติก เสริมสร้างการเจริญเติบโต สุขภาพ และความแข็งแรง
“โปรไบโอติกตัวนี้เราขายดีมากในต่างประเทศ น่าจะเป็นเบอร์ต้นๆ ในบังคลาเทศ/อินเดีย หรือฝั่งยุโรป อย่าง กรีซ/สวิตเซอร์แลนด์ เรามีลูกค้าอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เกษตรกรเค้าใฝ่เรียนรู้ หาข้อมูล เขาเจอเราที่เว็บไซต์ของเราแล้วสั่งซื้อเข้ามา เพราะเขาเห็นแล้วว่าผลิตภัณฑ์มีโครงสร้างแบบนี้ ราคาแบบนี้ ทำไมเขาจะไม่ซื้อ ในเมื่อมันสามารถนำใช้ได้ เมื่อเทียบกับราคากุ้งของบ้านเขา นอกจากนี้เรายังมี โปรไบโอติกอีกหลายตัวที่ดี มีคุณภาพ ทั้งใช้ในบ่อเพาะเลี้ยง และบ่อเลี้ยงกุ้งใหญ่ ซึ่งผ่านการพิสูจน์แล้วว่าใช้ได้ผลเป็นอย่างดี” คุณอุ้มกล่าว
- ประเด็นที่ 2 การอนุบาลลูกกุ้งในระบบบ่อลอย
สำหรับการอนุบาลลูกกุ้งในระบบบ่อลอย มารีน ลีดเดอร์ เดินทางผลักดันเรื่องนี้มา 5-6 ปี เนื่องจากคุณอุ้มมองว่าการที่จะทำให้กุ้งแข็งแรง มีอัตราการรอดที่สูงขึ้น จะมีวิธีเพียงไม่กี่วิธีเท่านั้น และหนึ่งในนั้น คือ “การอนุบาลลูกกุ้ง หรือชำกุ้ง”
“ที่ผ่านมาเรามักเน้นเรื่องการแต่งโปรแกรมอาหาร ประเทศเรามีอาหารสำหรับลูกกุ้งที่ดี ในต้นทุนที่สามารถแข่งขันได้ ซึ่งนี่ก็เป็นข้อดี แต่เรามองข้ามการชำลูกกุ้ง โดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อยที่ไม่ค่อยยอมรับการเปลี่ยนแปลงนี้ จริงๆ เรามีต่างประเทศเป็นตัวอย่าง ที่เขาเน้นการชำลูกกุ้งก่อนปล่อย เพื่อลดอัตราการสูญเสีย และการชำลูกกุ้งยังช่วยย่นระยะเวลาการเลี้ยงได้อีก
ในประเทศไทยจะเห็นการอนุบาลแทบทุกอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นพืช ที่มีโรงอนุบาล ต้นกล้า แม้กระทั่งสัตว์น้ำเองอย่างปลา เรายังมีการอนุบาลก่อนปล่อย ถามว่าต้นทุนแพงกว่ามั้ย คือ แพง แต่ประสิทธิภาพปลายทางมันดีกว่า เราทำใจกันไม่ได้เอง มันมีความยุ่งยาก เพราะเราอยู่สบายมานาน ก็ไม่ผิด แต่ตอนนี้ความสบายนั้นเราต้องปรับตัว
ซึ่งประเทศอื่นเค้าทำกันหมดแล้ว เช่น เอกวาดอร์ เขาอนุบาลกุ้งกันเองเป็นแล้ว เขาเรียนรู้ว่าข้อผิดพลาดคืออะไร สังเกต 3-4 ปีที่ผ่านมา ผลผลิตเพิ่มขึ้น แล้วทำไมบ้านเราจะปรับแต่งสู่พื้นฐานไม่ได้ ก็แค่ทำเรื่องการอนุบาลกุ้ง หรือการทำกุ้งซุปเปอร์ PL แค่นั้น”
- ประเด็นที่ 3 การเชื่อมโยงห่วงโซ่อาหารให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
“บริษัทเราทำเรื่องนี้อยู่ แต่อาจจะไม่ได้ใหญ่มาก โดยการนัดผู้ซื้อ อย่าง แพ หรือ ห้องเย็น เข้าพบเกษตรกรโดยตรง เพื่อให้เกษตรกรสามารถสร้างผลผลิตให้ตรงกับความต้องการของผู้ซื้อ โดยมารีน ลีดเดอร์ จะเข้าไปคอยช่วยเหลือเกษตรกรให้สามารถทำผลผลิตให้ตรงกับความต้องการของตลาดได้ เรามีของดี อย่าเก็บไว้กินคนเดียว ต้องให้คนทั่วโลกรู้จักด้วย ทำอย่างไรให้กุ้งสามารถส่งออกได้มากขึ้น เพราะถ้าผลิตอย่างเดียว แต่ส่งออกไม่ได้ ทุกอย่างก็จบ” คุณอุ้มกล่าว
สนใจสอบถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ บริษัท มารีน ลีดเดอร์ จำกัด 18/19 ซ.จันทน์ 43 แยก 26-5 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ 10120 โทรศัพท์ 02-2124672 โทรสาร 02-2124673, E-mail: [email protected], Facebook : MarineLeader-มารีนลีดเดอร์