การเลี้ยงกุ้งก้ามกราม
ประเทศไทยมีการเลี้ยงกุ้งเพื่อการส่งออกมาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 20 ปี โดยเริ่มจากการเลี้ยงกุ้งกุลาดำ
จากประสบการณ์เลี้ยงกุ้งของประเทศไทยทำให้มีองค์ความรู้ในการจัดการเลี้ยงกุ้งมากมาย แต่อย่างไรก็ตาม
เมื่อกุ้งกุลาดำเริ่มดับไป พระเอกตัวใหม่อย่างกุ้งก้ามกรามขึ้นมาแทน ปัจจุบันประเทศไทยมีการเลี้ยงกุ้งก้ามกรามอยู่ไม่น้อย ลูกกุ้งแม่น้ำ
โดยเฉพาะจังหวัดฉะเชิงเทรามีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรรม เต็มไปด้วยนาข้าวควบคู่กับการเลี้ยงสัตว์ ในด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยเฉพาะการเลี้ยงกุ้งถือว่าจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นแหล่งใหญ่แหล่งหนึ่งด้านการเพาะกุ้งก้ามกรามและกุ้งขาวแวนนาไมในแถบอำเภอบ้านโพธิ์ อำเภอบางปะกง อำเภอเทพราช ฯลฯ ด้วยประสบการณ์พร้อมกับความชำนาญในการผลิตลูกพันธุ์ที่มีคุณภาพ จนเกิดความเชื่อมั่นจากกลุ่มเพาะเลี้ยงกุ้งทั่วประเทศ เกิดการสั่งซื้อลูกกุ้งจากจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นอันดับต้นๆ ของเมืองไทยเลยทีเดียว
“กุ้งก้ามกราม” สัตว์น้ำเศรษฐกิจสำคัญของไทยอีกชนิดหนึ่ง เป็นที่นิยมของผู้บริโภคในทุกภูมิภาค ซึ่งผลผลิตส่วนมากจะได้มาจากเกษตรกรผู้เลี้ยงในประเทศ ดังนั้นในการที่จะผลิตกุ้งที่สามารถตอบโจทย์ของผู้บริโภคได้นั้นต้องเป็นผลผลิตที่มีคุณภาพ
ถ้าต้องการผลผลิตที่มีคุณภาพนั้น ต้องเริ่มต้นมาจากปัจจัยสำคัญ คือ “สายพันธุ์ลูกกุ้ง” ลูกกุ้ง ที่นำมาใช้ในการเลี้ยงต้องเป็นสายพันธุ์ที่ดี มีการพัฒนาให้มีคุณภาพ โตเร็ว แข็งแรง ต้านทานโรคได้ดี เมื่อเลี้ยงต่อเป็นกุ้งเนื้อแล้วสามารถเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่
การผลิตลูกกุ้งก้ามกราม
ฉบับนี้ทีมงานนิตยสารสัตว์น้ำเดินทางพาท่านผู้อ่านเดินทางมากันที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อมาติดตามความเคลื่อนไหวของวงการกุ้งก้ามกรามที่กำลังมาแรงในกลุ่มผู้เลี้ยงกุ้งเนื้อ ซึ่งได้รับเกียรติจาก คุณสุภาพร ปราศจากทุกข์ หรือเจ๊จั่น ผู้บริหาร สุภาพรรณ ฟาร์ม พร้อมด้วย คุณอารีรัตน์ ฟุ้งเฟื่อง หรือคุณจุ๊บ ลูกสาวคนเก่ง นักพัฒนาด้านการตลาด เข้ามาช่วยบริหารงานและขยายฐานตลาดให้มีความก้าวไกลมากกว่าเดิม และยังหาทางเลือกใหม่ๆ เข้ามาพัฒนาฟาร์มให้ก้าวสู่ระดับสากลอีกด้วย ทั้งนี้ยังเริ่มนำเข้าสายพันธุ์ลูกกุ้งก้ามกรามจากต่างประเทศเข้ามาพัฒนา และผลิตเพื่อกระจายสู่ตลาดกุ้งก้ามกรามเมืองไทย
เจ๊จั่นเข้าสู่วงการกุ้งมาอย่างยาวนาน เมื่อก่อนเป็นผู้ผลิตลูกกุ้งกุลาดำรายใหญ่ของจังหวัด สามารถทำผลิตและจำหน่ายลูกกุ้งกุลาดำเข้าสู่ท้องตลาดได้อย่างมากมาย หลังจากกระแสกุ้งกุลาดำหยุดชะงักลง จึงได้หันเหมาทำอย่างอื่นแทน แต่ก็ยังอยู่ในวงการกุ้งมาโดยตลอด และในที่สุดจึงมาเริ่มต้นจับกระแสการผลิตกุ้งก้ามกรามอีกครั้ง
โดยเริ่มทำจากลูกกุ้งสายพันธุ์ในไทยก่อนเป็นอันดับแรก สามารถผลิตลูกกุ้งพีที่มีคุณภาพส่งสู่ท้องตลาดได้สำเร็จ หลังจากประสบความสำเร็จทางด้านกุ้งก้ามกรามสายพันธุ์ในไทย เจ๊จั่นเริ่มนำเข้าแม่กุ้งก้ามกราม SM1 จากประเทศพม่า เข้ามาทดลองเพาะขยายพันธุ์ และผลผลิตเป็นที่พึงพอใจ เพราะลูกกุ้งมีคุณภาพ โดเร็ว แข็งแรง ต้านทานโรคสูง และมีอัตราการรอดสูง สามารถส่งผลผลิตกลับสู่ประเทศพม่าอย่างมีคุณภาพ
โดยมีคุณจุ๊บลูกสาวเป็นนักการตลาดคอยช่วยบริหารฐานตลาดอย่างต่อเนื่อง และในปัจจุบันทางฟาร์มได้นำเข้าแม่กุ้ง SV1 จากประเทศเวียดนาม ที่มีจุดเด่นที่พิเศษมาก โดยผลผลิตจะเป็นเพศผู้ถึง 90% ขึ้นไป และกำลังขยายฐานตลาดในไทยอย่างเต็มกำลัง
สายพันธุ์กุ้งก้ามกราม
สุภาพรรณ ฟาร์ม เป็นแหล่งผลิตลูกกุ้งก้ามกรามที่มีคุณภาพอันดับต้นๆ ของจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งถือได้ว่าลูกค้าที่รับลูกกุ้งจากฟาร์มต่างยอมรับกันเป็นวงกว้าง ด้วยการคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ของฟาร์ม โดยคำนึงถึงจุดเด่นของแต่ละสายพันธุ์ แล้วจึงนำมาพัฒนาและขยายพันธุ์สู่ท้องตลาดกุ้งก้ามกราม โดยแต่ละสายพันธุ์จะมีจุดเด่นที่ต่างกันออกไป ดังนี้
ลูกกุ้งก้ามกราม สายพันธุ์ไทย
-ง่ายต่อการหาสายพันธุ์มาใช้ผสมภายในฟาร์ม
-ราคาพ่อแม่พันธุ์ต่ำ สามารถนำเข้าได้ในปริมาณมาก
-ผลผลิตเท่าๆกัน ทั้งตัวผู้ ตัวเมีย
-มีแหล่งรับซื้อลูกกุ้งที่หลากหลาย ฐานตลาดกว้าง
ลูกกุ้งก้ามกราม สายพันธุ์ SM1 นำเข้าจากประเทศพม่า
-สายพันธุ์ดี มีคุณภาพ แม่กุ้งนำเข้าจากต่างประเทศ
-โตเร็ว แข็งแรง ได้น้ำหนัก
-ปลอดโรค ต้านทานโรคสูง
-อัตราการรอดสูง
-ราคาถูก คุ้มค่าแก่การลงทุน
ลูกกุ้งก้ามกราม สายพันธุ์ SV1 นำเข้าจากประเทศเวียดนาม
-สายพันธุ์ดี มีคุณภาพ แม่กุ้งนำเข้าจากต่างประเทศ
-โตเร็ว แข็งแรง เลี้ยงง่าย
-ปลอดโรค ต้านทานโรค
-อัตราการรอดสูง
-ลักษณะหัวและตัวใหญ่เท่ากัน
-เปอร์เซ็นต์ผลผลิตเป็นเพศผู้ 90% ขึ้นไป ตั้งแต่กุ้งพี
-คุ้มค่าแก่การลงทุนเป็นอย่างยิ่ง
กุ้งก้ามกราม สามารถผลิตลูกกุ้งเป็นเพศผู้ได้สูงถึง 90%
ลูกกุ้งก้ามกราม สายพันธุ์ SV1 หรือ MONO SEX โดยจะนำเข้าแม่พันธุ์จากประเทศเวียดนาม เพื่อนำเข้ามาผสมกับพ่อพันธุ์สายพันธุ์ไทยที่มีอยู่แล้ว โดยทั้งสองตัวมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน เมื่อนำเข้าผสมกันจะได้ลูกกุ้งก้ามกรามที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
โดยผลการทดลองจากผู้เชี่ยวชาญประเทศเวียดนาม สามารถผลิตลูกกุ้งเป็นเพศผู้ได้สูงถึง 90% ซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดของกุ้งก้ามกรามเป็นอย่างมาก เพราะในทุกวันนี้ทางตลาดต้องการกุ้งเพศผู้มากกว่ากุ้งเพศเมีย เพราะจะมีเนื้อที่แน่นกว่า สามารถทำน้ำหนักได้ดีกว่า เนื้อแน่น อร่อยกว่า กุ้งก้ามกรามเพศเมีย
การเพาะพันธุ์กุ้งก้ามกราม
ทางสุภาพรรณ ฟาร์ม มองเห็นจุดเด่นตรงนี้ จึงจับมือกับทางผู้เชี่ยวชาญจากทางประเทศเวียดนามนำเข้าแม่กุ้งก้ามกราม SV1 เข้ามาผลิตในไทยและเจ้าแรกและเจ้าเดียวในปัจจุบันที่มีการนำเข้ามาและผลิตลูกกุ้ง ซึ่งผลผลิตที่ออกมามีคุณภาพ โตเร็ว แข็งแรง เลี้ยงง่าย ต้านทานโรค เป็นอย่างมาก มีอัตราการรอดสูง ลักษณะหัวและตัวใหญ่เท่ากัน ทำให้ได้น้ำหนักดี เนื้อแน่น คุ้มค่าแก่การลงทุนเป็นอย่างยิ่ง ในช่วงแรกจะผลิตลูกกุ้งส่งกลับคืนให้กับทางประเทศเวียดนาม เพราะมีความต้องการผลผลิตกุ้งก้ามกรามตัวผู้สูง
เมื่อนำแม่พันธุ์ที่นำเข้ามาพัก จากนั้นขุนจนแม่พันธุ์สมบูรณ์แข็งแรงพร้อมที่จะผสม ประมาณ 2 เดือน จึงนำเข้าผสมพันธุ์กับพ่อพันธุ์สายพันธุ์ไทย ในอัตรา แม่พันธุ์ 8 ตัว : พ่อพันธุ์ 1 ตัว ในกระชังบ่อดิน เก็บไข่ทุกๆ 10 วัน ขึ้นมาอนุบาลในระยะ Larvae จากนั้นจัดส่งกลับไปขายยังประเทศเวียดนามได้อย่างสม่ำเสมอ โดยทางฟาร์มจะมีการนำเข้าแม่พันธุ์อยู่ตลอด เพื่อผลิตให้ได้ลูกกุ้งเพียงพอต่อความต้องการ
ด้านตลาดและช่องทางจำหน่าย ลูกกุ้งแม่น้ำ
เมื่อดำเนินการส่งลูกกุ้งก้ามกรามกลับไปขายยังประเทศเวียดนามได้คงที่อย่างสม่ำเสมอแล้ว ทางสุภาพรรณฟาร์ม ได้ปรึกษาหารือกับทางตัวแทนประเทศเวียดนาม เลือกที่จะเข้ามาขยายฐานตลาดเข้าในประเทศไทย โดยทางฟาร์มจะได้รับสิทธิ์เป็นผู้นำเข้าแม่พันธุ์จากประเทศเวียดนามเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในปัจจุบัน
จากการมีฐานลูกค้าที่แน่นอยู่แล้ว ทำให้เพียงกระจายข่าวไปไม่นานมีผู้ประกอบการที่เป็นลูกค้าประจำสนใจและจองคิวกันเข้ามาเยอะมาก ทำให้ทางฟาร์มต้องเปิดฐานการผลิตในไทยอย่างเต็มตัว พร้อมเดินหน้าเต็มกำลัง
ทางฟาร์มจึงอยากเชิญชวนเกษตรกรที่สนใจในลูกกุ้งที่มีคุณภาพ ต้องการผลิตกุ้งก้ามกรามที่ได้ขนาด และน้ำหนักดี เจริญเติบโตได้ดี คุ้มค่าแก่การลงทุน ทั้งลูกกุ้งก้ามกราม พี สายพันธุ์ไทย, สายพันธุ์SM1, สายพันธุ์SV1 สามารถสั่งซื้อ หรืออยากปรึกษาการพูดคุยทำธุรกิจร่วมกันได้ที่ บริษัท สุภาพรรณ ฟาร์ม จำกัด โทร.092-697-8448 เจ๊จั่น หรือ 081-986-4732 คุณจุ๊บ ทางฟาร์มยินดีต้อนรับทุกท่านด้วยความยินดี