วิธีเพาะพันธุ์กบ ลูกพันธุ์คุณภาพเขตอีสาน ฉบับวาสนาฟาร์มกบ

โฆษณา
AP Chemical Thailand

การเลี้ยงกบเนื้อ

“กบเนื้อ” ซึ่งเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำที่มีความนิยมและความต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ ในการบริโภค และทีมงานจึงขอแบ่งปันข้อมูลการเลี้ยงกบและแนวทางการเลี้ยงให้ประสบผลสำเร็จ มาให้แฟนพันธุ์แท้ทุกท่านได้นำไปเป็นแนวทางในการนำไปเลี้ยงสำหรับบริโภคในครัวเรือน หรือทำเป็นอาชีพเสริม และสามารถทำจนสร้างรายได้เป็นอาชีพหลักเลยก็เป็นได้

เพราะกบเป็นสัตว์เลี้ยงง่าย ใช้เวลาไม่มาก ลงทุนน้อย และคุ้มค่า มีการทำฟาร์มเลี้ยงกบหลากหลายรูปแบบ ทั้งการเลี้ยงกบแบบธรรมชาติ การเลี้ยงกบในขวด การเลี้ยงกบคอนโด แบบบ่อซีเมนต์ ฯลฯ และก็มีบางส่วนที่ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากยังขาดข้อมูลสำคัญอยู่ เช่น นิสัยใจคอของกบ พื้นที่ที่เหมาะกับการเลี้ยงกบ เป็นต้น

1.คุณวาสนา-เกษตรกรเลี้ยงกบ
1.คุณวาสนา-เกษตรกรเลี้ยงกบ

คุณวาสนา ดอนเมือง  (เจ๊วาส)  เกษตรกรในจังหวัดกาฬสินธุ์  ผู้มีแนวคิดริเริ่มในการประกอบอาชีพเลี้ยงกบแบบครบวงจร ส่งเสริมลูกบ่อ และรับซื้อกลับตามราคาตลาด ภายใต้ชื่อ “วาสนาฟาร์มกบ” ซึ่งเป็นฟาร์มที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากกรมประมง และได้รับการตรวจสอบคุณภาพอย่างต่อเนื่อง

ทำให้ได้รับความเชื่อถือ และมีลูกค้าให้ความสนใจเป็นจำนวนมากจากทั่วประเทศ แต่กว่าจะประสบความสำเร็จ คุณวาสนาต้องผ่านบททดสอบและอุปสรรคต่างๆ มากมาย เหมือนกับผู้ประกอบการหลายๆ ราย

โดยต้องกล่าวย้อนกลับไปเมื่อหลายปีที่แล้ว เธอได้เริ่มต้นประกอบอาชีพการเลี้ยงปลาดุก แต่ต้องพบกับปัญหาในเรื่องของระบบโครงการที่มีการเอาเปรียบเกษตรกรจากผู้ประกอบการรายใหญ่ จึงทำให้ขาดทุนไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท หลังจากล้มได้ไม่นานคุณวาสนาก็ลุกขึ้นใหม่ด้วยการประกอบธุรกิจฟาร์มกบ เพราะในระหว่างที่เคยเลี้ยงปลาดุก ได้เคยเลี้ยงกบควบคู่กันไปด้วย จึงเป็นสาเหตุให้ประกอบอาชีพเลี้ยงกบมาจนถึงปัจจุบัน

ด้วยความที่มีตลาดซื้อขายสัตว์น้ำอยู่แล้ว ตั้งแต่เลี้ยงปลาดุก  ทำให้เกษตรกรในบริเวณนี้จึงมีความเชื่อมั่น  และเข้ามาเป็นลูกบ่อกับวาสนาฟาร์มกบเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนมีผลผลิตเข้าสู่ตลาดวันละ 2 ตัน อีกทั้งยังมีพ่อค้าและแม่ค้าจากกรุงเทพฯ หลายๆ ราย  เข้ามารับซื้อกบที่ฟาร์มอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งถือได้ว่าฟาร์มแห่งนี้เป็นผู้ค้ารายใหญ่ในเขต   ภาคอีสานเลยทีเดียว

โฆษณา
AP Chemical Thailand
2.สายพันธุ์กบ
2.สายพันธุ์กบ

สายพันธุ์กบ

พ่อแม่พันธุ์ของทางฟาร์มจะนำมาจาก  บริษัท ป.เจริญพาณิช จำกัด จังหวัดชลบุรี  เป็นสายพันธุ์บลูฟล๊อค เพราะกบสายพันธุ์นี้มีตัวใหญ่ เนื้อเยอะ แต่ไม่ทนต่อโรคและสภาพแวดล้อม จึงต้องนำกบนาของบ้านเรามาผสม เพราะจะทำให้สามารถทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดีกว่าเดิม  ซึ่งกบตัวผู้จะรับมาจากฟาร์มลูกค้าที่อุบลราชธานี

การเพาะพันธุ์จะเริ่ม  เพาะพันธุ์ในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนตุลาคม เพราะหากเพาะพันธุ์หลังจากนี้จะได้ไข่ไม่มาก และไม่สมบูรณ์ เมื่อถึงช่วงฤดูหนาวทางฟาร์มก็จะหยุดเพาะพันธุ์แล้วขายพ่อแม่พันธุ์ออกไป แต่ในขณะเดียวกันก็จะเลี้ยงกบเนื้อเพื่อรองรับกับความต้องการของตลาด

3.วิธีเพาะพันธุ์กบ
3.วิธีเพาะพันธุ์กบ

วิธีเพาะพันธุ์กบ

ในการเพาะพันธุ์จะต้องสังเกตดูว่ากบพร้อมที่จะผสมพันธุ์หรือไม่ โดยดูจากลักษณะภายนอก คือ ข้างลำตัวของตัวเมียจะมีลักษณะสาก ส่วนตัวผู้จะดูที่กล่องเสียงใต้คาง ถ้าจะมีลักษณะเป็นสีดำๆ แสดงว่ามีความพร้อมในการนำไปเพาะพันธุ์ได้แล้ว

ซึ่งพ่อแม่พันธุ์ในแต่ละรอบที่รับมาประมาณ 3,000 ตัว เป็นเพศผู้และเพศเมียอย่างละครึ่ง เริ่มต้นการเพาะพันธุ์จะใช้บ่อขนาดกว้าง 3 เมตร ยาว 4 เมตร ทั้งหมด 6 บ่อ โดยปล่อยตัวเมีย 30 ตัว ตัวผู้ 20 ตัว/บ่อ และใส่น้ำที่ระดับเพียง 5 เซนติเมตร เพราะจะทำให้อุณหภูมิของน้ำไม่ต่ำเกินไป และจะช่วยให้ไข่สามารถฟักได้ง่ายกว่า

เมื่อนำพ่อแม่พันธุ์ใส่ในบ่อ และปล่อยให้กบจับคู่กันเองในช่วงตอนเย็น แล้วจะปล่อยไว้เพียง 1 คืน กบก็จะเริ่มฟักไข่ออกมาในตอนเช้า ซึ่งไข่ที่ได้จะอยู่ที่ประมาณ 50,000 ตัว/บ่อ รวมทั้งหมด 6 บ่อ จะได้ไข่อยู่ที่ 3 แสนฟอง และเมื่อผ่านไปอีก 12 ชั่วโมง ไข่ก็จะเริ่มฟักออกมาเป็นตัว

หลังจากผ่านไปได้ 3 วันแล้ว จะเริ่มให้อาหารฝุ่นวันละ 2 เวลา เช้า-เย็น ทั้ง 6 บ่อ จะใช้อาหารประมาณครึ่งกิโลกรัม โดยจะให้เช่นนี้เป็นเวลา 10 วัน ระหว่างนั้นจะมีการเสริมไข่ตุ๋นเข้าไปด้วย เพื่อช่วยในเรื่องของความแข็งแรง ควบคู่กันไปกับอาหารเม็ด

โฆษณา
AP Chemical Thailand

เมื่อลูกอ๊อดอายุครบ 7 วัน นำลงบ่อดิน แล้วจึงจะเริ่มนำออกจำหน่ายให้เกษตรกร เป็นลูกอ๊อดที่ยังไม่มีแขน ขา มีแต่หาง ซึ่งขนาดจะอยู่ที่ 600 ตัว/กิโลกรัม ในราคากิโลกรัมละ 200 บาท

4.บ่อเลี้ยงกบ
4.บ่อเลี้ยงกบ

สภาพพื้นที่เลี้ยงกบ

บ่อที่ใช้โดยปกติจะอยู่ที่ขนาด 1 งาน เพราะสามารถดูแลได้ง่ายกว่าบ่อใหญ่ๆ โดยจะปล่อยลูกกบลงไป 15 กิโลกรัม หรือประมาณ 72,000 ตัว ในบ่อจะใส่น้ำประมาณ 30 เซนติเมตร ใส่ผักบุ้งลงไปเพื่อให้เป็นร่มเงา และเป็นที่ให้กบปีนขึ้น-ลง ซึ่งจะช่วยประหยัดต้นทุนแทนการใช้แผ่นยางรองเท้า

เมื่อเริ่มนำกบลงบ่อดินแล้วต้องให้อาหารเม็ดขนาดเล็กผสมกับอาหารผงประมาณ 3 วัน จากนั้นจึงจะให้อาหารเม็ดขนาดเล็กเพียงอย่างเดียว และจะเพิ่มเบอร์ของอาหารตามขนาดตัวของกบไปจนถึงเบอร์ 2 เพราะหากเป็นอาหารเบอร์ที่สูงลงไปจากนี้ เปอร์เซ็นต์โปรตีนที่กบได้รับจะน้อยลง

เมื่อเลี้ยงไปได้ประมาณ 1 เดือน 10 วัน จะได้ขนาดอยู่ที่ 10-15 ตัวต่อกิโลกรัม เมื่อเลี้ยงไปได้ถึง 2 เดือน จะได้กบขนาด 3-7 ตัว/กิโลกรัม ขณะนี้ทางฟาร์มมีบ่ออยู่ทั้งหมด 8 บ่อ สำหรับชำลูกกบ และเลี้ยงกบเนื้อซึ่งโดยรวมแล้วจะได้ผลผลิตอยู่ที่ 3-5 ตัน/บ่อ

5.การจับกบ
5.การจับกบ
กบพร้อมจำหน่าย
กบพร้อมจำหน่าย วิธีเพาะพันธุ์กบ วิธีเพาะพันธุ์กบ

ด้านตลาดและช่องทางจำหน่ายกบ

ลูกกบที่ทางวาสนาฟาร์มกบขายอยู่ในปัจจุบันนี้จะมีทั้ง

  • ลูกกบที่เป็นลูกอ๊อด ขายตัวละ 25 สตางค์  หรือกิโลกรัมละ 200 บาท
  • แต่ถ้าลูกกบที่มีแขน ขา ครบสมบูรณ์แล้ว จะขายราคาตัวละ 2-8 บาท ไซส์ 12-15ตัว/กิโลกรัม
  • ในส่วนของการรับซื้อจะรับลูกบ่ออยู่ที่ 50 บาท/กิโลกรัม

ถ้าออกมาจากฟาร์ม คุณวาสนาอธิบายว่ากบที่ท้องตลาดต้องการในขณะนี้จะเป็นกบที่มีสีออกไปทางสีดำ เพราะหากเป็นกบที่มีตัวสีเหลืองเกินไปราคาจะตกทันที ส่วนของขนาดที่เป็นที่นิยมของผู้บริโภคจะเป็นกบขนาดเล็กมากกว่า แต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาตลาดจะต้องการกบขนาดใหญ่มากกว่า ซึ่งในส่วนของการรับซื้อทางฟาร์มจะมีรถออกไปรับซื้อกลับมา และมีบริการส่งลูกกบให้กับลูกค้าด้วย ถ้ามียอดสั่งตั้งแต่ 500 กิโลกรัมขึ้นไป โดยจะมีรถให้บริการอยู่ 2 คัน ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่แล้วจะมีอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศ

โฆษณา
AP Chemical Thailand
6.จำหน่ายฮวก-กบ-และปลาดุก
6.จำหน่ายฮวก-กบ-และปลาดุก

ฝากถึงเกษตรกรหรือผู้ที่สนใจเลี้ยงกบ

สำหรับผู้ที่สนใจจะมาประกอบอาชีพเลี้ยงกบ ต้นทุนที่ใช้สำหรับเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 70,000 บาท โดยจะต้องลงทุนเป็นลูกอ๊อด 100,000 ตัว  และที่เหลือจะเป็นค่าอาหาร  ซึ่งการเลี้ยงจะใช้ระยะเวลาเพียง 2 เดือน ถึง 3 เดือน 15 วัน หรือประมาณ 60-100 วัน จะสามารถทำกำไรได้ถึง 20,000 บาท หรือกำไรอาจได้มากกว่านี้ขึ้นอยู่กับไซส์และราคากบที่ขึ้น วิธีเพาะพันธุ์กบ วิธีเพาะพันธุ์กบ วิธีเพาะพันธุ์กบ วิธีเพาะพันธุ์กบ วิธีเพาะพันธุ์กบ

ตรงนี้ถือว่าการเลี้ยงกบยังคงน่าลงทุน สำหรับเกษตรกรที่มีความสนใจควรจะเตรียมบ่อ และกำจัดสัตว์รบกวน จำพวกปลาต่างๆ และล้อมตาข่ายรอบบ่อให้เรียบร้อย หลังจากนั้นจึงจะลงลูกกบได้ทันที วิธีเพาะพันธุ์กบ วิธีเพาะพันธุ์กบ วิธีเพาะพันธุ์กบ วิธีเพาะพันธุ์กบ 

เกษตรกรท่านใดที่สนใจ หรือต้องการความรู้ในเรื่องของการเลี้ยงและเทคนิควิธีการต่างๆ จากคุณวาสนา สามารถติดต่อได้โดยตรงที่ วาสนาฟาร์มกบ บ้านโปโล ม.13 ต.กมลาไส อ.กมลไสย จ.กาฬสินธุ์ 46130 หรือเบอร์โทรศัพท์ 08-0665-7669, 08-4533-1347