ทีมงานสัตว์น้ำจะพามารู้จักกับ คุณธีรภัทร์ เถาตะกู เกษตรกรผู้เลี้ยงกบแห่ง ส.สุรีรัตน์ฟาร์ม จังหวัดนครปฐม กับประสบการณ์เลี้ยงกบมานานกว่า 15 ปี ที่เริ่มมาจากการเลี้ยงกบเพื่อขายเนื้อ ปัจจุบันได้ผันมาเป็นผู้เพาะ ลูกกบ และ ลูกอ๊อด จำหน่ายแก่เกษตรกรผู้เลี้ยง
การเพาะเลี้ยงกบ
คุณธีรภัทร์ได้เล่าถึงที่มาให้ทางทีมงานฟังว่า “ตอนนั้นเริ่มเลี้ยงกบมาได้ประมาณ 2 ปี จึงเริ่มมาเพาะลูกกบ ลูกอ๊อด ขาย เพราะอยากหาประสบการณ์เพิ่ม และตอนนั้นเริ่มมีคนหันมาเลี้ยงกบเนื้อเยอะขึ้น เลยผันตัวเองมาเป็นคนเพาะลูกกบ และการทำธุรกิจขายลูกกบจะดีกว่า ใช้เวลาเลี้ยงไม่นานก็ขายได้แล้ว”
สำหรับลูกกบที่ฟาร์มจะมี 2ไซซ์ ลูกอ๊อดอายุ 10 วัน จำหน่ายตัวละ 0.10 บาท และลูกกบไซซ์ 40 วัน ขนาดจะเท่านิ้วโป้ง จำหน่ายตัวละ 8.50 บาท นอกจากนี้ทางฟาร์มมีบริการจับกบเนื้อส่งแม่ค้า “แต่ตอนนี้ด้วยสถานการณ์โควิดทำให้หลายฟาร์มหยุดไป ทำให้เหลือไม่กี่เจ้า ตอนนี้ผมก็ต้องหยุดจับไปก่อน” คุณธีรภัทร์เผยถึงผลกระทบจากโควิด
เทคนิคการเพาะเลี้ยงกบ
จากเกษตรกรผู้เลี้ยงกบเนื้อที่ผันตัวมาเป็นเกษตรกรเพาะลูกกบ การดูแลจัดการที่ต่างกัน องค์ความรู้ที่ต่างกัน ต้องมีการศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติม ลองผิดลองถูกมานาน กว่าจะประสบความสำเร็จในปัจจุบัน
“องค์ความรู้การเพาะลูกกบก็ได้มาจากพี่ชายที่รู้จักเขาสอนผมมา ผมก็ได้มาลองเพาะดู ตอนนั้นเริ่มเพาะประมาณ 10 กว่าคู่ ไข่มันก็ออกมาพอสมควร ผมก็ได้ลองผิดลองถูกมาเกือบ 1 ปีกว่า ถึงจะเข้าที่เข้าทาง จึงเริ่มเพาะจำหน่าย”
หากพูดถึงความยากของการเพาะลูกกบ คุณธีรภัทร์ได้ให้ความเห็นว่า หากไม่เป็นไม่เคยศึกษามาก่อนแล้วมาเพาะจะเสียเวลา เพราะไม่รู้ถึงเทคนิคว่าควรทำอย่างไร ควรเติมน้ำเท่าไหร่ ต้องใส่ออกซิเจนหรือไม่ต้องใส่ แต่ละฟาร์มก็จะมีเทคนิคที่แตกต่างกันออกไป
การเพาะพันธุ์กบ
สำหรับการเปลี่ยนพ่อแม่พันธุ์ของ ส.สุรีรัตน์ฟาร์ม จะเปลี่ยนทุก 3 เดือน เพราะหากใช้พ่อแม่พันธุ์นานไปจะเสื่อมคุณภาพ โดยทางฟาร์มจะมีสำรองที่บ่อไว้ไม่เกิน 1,000 คู่ เมื่อปลดพ่อแม่พันธุ์ก็จะนำที่สำรองไว้เข้ามาทดแทน ส่วนพ่อแม่พันธุ์ที่ปลดจะนำไปปล่อยตามแหล่งธรรมชาติ
“ที่ฟาร์มเราจะใช้พ่อแม่พันธุ์ถึงแค่ 3 เดือน เพื่อคุณภาพที่ดีของลูกกบ เราคำนึงถึงลูกค้า ต้องการให้ลูกค้าได้ลูกกบที่มีคุณภาพ เราจะไม่เลี้ยงแล้วปล่อยขายอย่างเดียว ลูกค้าต้องได้ของที่มีคุณภาพ และเราต้องมีความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า”คุณธีรภัทรใส่ใจถึงคุณภาพลูกกบที่ลูกค้าควรได้รับ
กบที่จะนำมาเป็นพ่อแม่พันธุ์ที่ฟาร์มนั้น ทางฟาร์มก็จะขุนขึ้นมาเอง ใช้ระยะเวลาประมาณ 7 เดือน เป็นสายพันธุ์ที่พัฒนาขึ้นมาเองในฟาร์ม มีการคัดเลือกที่ดี ป้องกันการเกิดเลือดชิด และคุณธีรภัทร์ได้ให้เหตุผลที่ไม่นำเข้าพ่อแม่พันธุ์จากของนอกว่า
“เราไม่รู้ถึงคุณภาพว่าเมื่อกบวางไข่แล้ว โตขึ้นมาจะเป็นลักษณะแบบไหน หากเป็นพ่อแม่พันธุ์ของเราเอง เราคัดเลือกลักษณะเอง เราก็จะรู้ว่าลูกกบที่ได้จะมีลักษณะยังไง สำหรับลักษณะของทางฟาร์มจะเน้นตัวยาว ไม่อูม กล้ามเนื้อใหญ่ เป็นลักษณะที่ส่งตามภัตตาคาร”
การบำรุงดูแลกบ
การที่จะได้ลูกกบคุณภาพดี จุดเริ่มต้นอยู่ที่การดูแลเอาใจใส่พ่อแม่พันธุ์ให้ดี ต้องหมั่นสังเกตดูพฤติกรรม สุขภาพกบ และบ่อที่พ่อแม่พันธุ์อยู่ต้องปิดคลุมไว้เพื่อไม่ให้มีอะไรรบกวนที่จะทำให้กบตกใจ หากกบตกใจจะไม่ออกไข่
สำหรับสายพันธุ์กบที่ทางฟาร์มเลี้ยงจะมี กบบูลฟร็อกจาน สายพันธุ์เหลือง จะมีลักษณะตัวสีเหลือง ลำตัวใหญ่และยาว อัตราส่วนที่ใช้ ตัวผู้ต่อตัวเมีย 25:18 บนพื้นที่กว่า 3ไร่ ทางฟาร์มแบ่งเป็นบ่อดินประมาณ 3 ไร่ บ่อกระชังกับบ่อปูนเกือบ 1 ไร่ บ่อปูนจะมีทั้งหมด 40 บ่อ บ่อดินจะเลี้ยงเป็นบ่อใหญ่ ส่วนกระชังบนจะมีขนาด 3 x 6 เมตร ปล่อยลูกกบ 2,000 – 2,500 ตัว
การผสมพันธุ์กบคงจะเคยได้ยินกันมาตลอดว่ากบจะผสมพันธุ์หน้าฝน แต่ถ้าไม่ใช่หน้าฝนจะต้องทำอย่างไรจึงจะได้ผลผลิต ทางฟาร์มจึงมีการทำฝนเทียม โดยใช้สปริงเกลอร์เปิดตลอดทั้งคืน กบก็จะผสมในตอนกลางคืน และให้ไข่ พอเช้ามาจะทำการเก็บพ่อแม่พันธุ์
เมื่อเก็บพ่อแม่พันธุ์ออก ในบ่อจะเหลือแต่ลูกกบ หลังจากนั้น 3 วัน รอให้ลูกอ๊อดกินไข่อ่อนหมด จึงเริ่มให้อาหารเม็ดไฮเกรด เป็นอาหารเม็ดที่มีโปรตีนครบถ้วน ลูกกบกินแล้วโตดี ปริมาณที่ให้จะพอประมาณ โดยจะให้ 4 มื้อ เมื่อผ่านไปประมาณ 3 อาทิตย์ ลูกกบจะเริ่มออกขา กบก็จะกระโดดขึ้นมาบนแพ ก็จะเอาแผ่นยางเข้าบ่อ
การบริหารจัดการฟาร์มกบ
ส่วนเรื่องสุขภาพต้องขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม การดูแลจัดการของแต่ละฟาร์ม การถ่ายน้ำ การให้อาหาร หากให้อาหารมากไปกบจะท้องอืด เกิดลำไส้อักเสบ กระเพาะรั่ว ปัญหาต่างๆ มันเกิดการดูแลของฟาร์ม
คุณภาพน้ำก็สำคัญ หากน้ำสกปรกจะนำมาสู่ปัญหาของ โรคตาขาว ตาแดง หากเลี้ยงในกระชังทางฟาร์มจะเปลี่ยนน้ำทุกวัน ส่วนบ่อดินก็เปลี่ยนทุกวัน แต่จะถ่ายน้ำออกครึ่งหนึ่ง เติมเข้าใหม่ครึ่งหนึ่ง โดยใช้น้ำจากธรรมชาติ
กว่าจะประสบความสำเร็จมาถึงทุกวันนี้ คุณธีรภัทร์ต้องผ่านการลองผิดลองถูก การศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ประสบการณ์ที่สะสมมา เทคนิคต่างๆ ที่ได้เรียนรู้และปรับใช้ จนมีลูกกบคุณภาพจำหน่าย จากความซื่อสัตย์ ความเอาใจใส่ลูกค้า ทำให้มีลูกค้าสั่งจองเข้ามามากมาย จากการบอกปากต่อปาก การโฆษณา ทำให้ ส.สุรีรัตน์ สามารถดำเนินธุรกิจมาได้ถึง 15 ปี
สนใจสั่งซื้อลูกกบ ลูกอ๊อด หรือ ขายกบเนื้อ ติดต่อได้ที่ ส.สุรีรัตน์ฟาร์ม โทร.081-857-5332, 085-517-6597 คุณต้อง
อ้างอิง : นิตยสารสัตว์น้ำ ฉบับที่ 385
