เอ่ยนาม “ MS FARM ” คนในวงการกุ้งขาวรู้จักกันดี เพราะฟาร์มแห่งนี้ผลิตลูกกุ้งที่มีคุณภาพ และมีเอกลักษณ์เฉพาะ ทำให้ลูกกุ้งที่ออกมาสมบูรณ์ แข็งแรง ตอบโจทย์เกษตรกรผู้ใช้
โดยเฉพาะการคัดเลือกนอเพลียส สายพันธุ์ SIS แม่นอก จะต้องผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มข้น และมีเอกสารกำกับการนำเข้าชัดเจน เพราะนอเพลียสคุณภาพ วันนี้ราคาพุ่งขึ้น เช่นเดียวกับอาหารลูกกุ้งวัยอ่อน อย่าง “อาร์ทีเมีย” มีราคาค่อนข้างสูง และมีท่าทีที่จะปรับขึ้นเรื่อยๆ
เทคนิคการอนุบาลลูกกุ้ง
ทางฟาร์มต้องใช้ มือเพาะ / มืออนุบาล ที่มีคุณภาพ ทักษะสูง พร้อมกับความรับผิดชอบ ทั้งผู้จัดการ และลูกน้อง รวม 6 ฟาร์ม ไม่ต่ำกว่า 12 คน รายจ่ายเดือนละเท่าไหร่?
ฝึกและฝนจนเก่ง ก็ถูกซื้อตัว แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด เพราะฟาร์มอื่นขาด “ระบบ” ในการทำงาน เช่น “ระบบ 2 น้ำ” เทคนิคการอนุบาลลูกกุ้งที่ไม่เหมือนใคร ปัจจุบัน MS Farm มีฟาร์มทั้งหมด 6 แห่ง รวม 190 อ่าง โดย 3 ฟาร์มแรก จะใช้ความเค็มจากน้ำนาเกลือ 30-32 แต้ม ในการเลี้ยงกุ้ง ลงนอเพลียส 5 แสนตัว/อ่าง
พอลูกกุ้งโตถึง P5-6 จะย้ายไปเลี้ยงใน 3 ฟาร์มที่เหลือ มี 90 อ่าง ความเค็ม 14-15 แต้ม ลูกกุ้งอ่างละ 4-5 แสนตัว โดยลง 10 วัน/ครั้ง ซึ่งการย้ายลูกกุ้งเลี้ยงระบบ 2 น้ำ จะช่วยย่นเวลาการเลี้ยง จาก 30 วัน มาเป็น 15 วัน คนเลี้ยงไม่เหนื่อย พอได้ P12-16 ก็ขายตามออเดอร์ ตรงเวลาที่ลูกค้าต้องการ เพราะตอนย้ายได้ตรวจนับจำนวนลูกกุ้งเรียบร้อยแล้ว
ด้านตลาดและช่องทางจำหน่ายลูกกุ้ง
แม้ในเรื่องจัดส่ง “ลูกกุ้ง” ทั้งในถุง และในถัง ก็ต้องพิถีพิถัน ใช้รถ 3 คัน ไม่พอ ต้องใช้รถนอกอีก 10 คันบรรทุก คันละ 8 ถังๆ ละ 5 หมื่นตัว แต่ถ้าไกลมากๆ จะมีค่าส่งตามระยะทาง
เห็นได้ชัดว่าการผลิตลูกกุ้งพรีเมียมจะต้องเก่งทุกด้าน แม้แต่เรื่องการคาดการณ์ คนเลี้ยงกุ้งจะขยายทรงตัว หรือหดตัว จะต้องแม่นยำ ไม่งั้นวางแผนผลิต ขาดทุนได้ง่ายๆ
ตรงกันข้าม ถ้าบริหารงาน บริหารคนเก่ง ปริมาณเงินสด/เดือน หมุนไวสัดส่วนที่มาก ก็เป็นเรื่องน่าลอง
สนใจเยี่ยม MS FARM ติดต่อ คุณสุรพงษ์ 089-746-1771 เฟสบุ๊ค : MS Farm Office