เมื่อเมืองไทยก้าวเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจ 4.0 ที่ผู้บริโภคเลือกใส่ใจด้านสุขภาพ และรู้จักเลือกใช้สอยสินค้ามากขึ้น ทำให้ผู้คนมากมายเลือกบริโภคแบบออแกนิค เน้นรูปแบบอินทรีย์ ความสดใหม่ สะอาด และมีคุณภาพ ตามมาตรฐานสากล “ไร่รัศมีฟาร์มสเตย์” อาจจะตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุค 4.0 เช่นนี้ การจัดการฟาร์มไก่เนื้อ
โดยมีหัวเรือใหญ่ อย่าง คุณรัศมี ทับทิมทอง ผู้ซึ่งเคยเลี้ยงไก่ไข่มาแต่กลับเปลี่ยนจากไก่ไข่เป็นการเลี้ยงไก่เนื้อแทน พร้อมทั้งปลูกพืชแบบผสมผสานร่วมกับการทำฟาร์มสเตย์ เช็คอิน ณ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี
การเลี้ยงไก่เนื้อ
แต่ก่อนคุณรัศมีมีอาชีพเดิม คือ เลี้ยงไก่ไข่ในระบบปิด ได้เปิดใจถึงสาเหตุที่เปลี่ยนจากการเลี้ยงไก่ไข่เป็นไก่เนื้ออย่างตรงไปตรงมาว่า “ขาดทุน” ซึ่งการเลี้ยงไก่ไข่ในตอนนี้ แม้ราคาขายไข่ไก่ถึงแม้จะขยับขึ้นแล้ว แต่ผู้เลี้ยงทุกคนก็ยังประสบปัญหาในเรื่องราคาขายที่ต่ำเกินไปอยู่ดี คุณรัศมียอมรับว่าตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เลี้ยงไก่ไข่ขาดทุนมาตลอดจนต้องหยุดเลี้ยง และได้รู้จักคนเลี้ยงที่เลี้ยงไก่เนื้ออยู่ก่อนคนหนึ่ง จึงคิดได้ว่า
“ในเมื่อเรามีโรงเรือนอยู่แล้ว และการเลี้ยงไก่ก็คืองานถนัดของเราอยู่แล้ว พอได้ลองศึกษาเรื่องไก่เนื้อก็ทำให้ได้รู้ว่าได้ค่าตอบแทนดีกว่า ใช้คนเลี้ยงน้อยกว่า และการจัดการที่ง่ายกว่าการเลี้ยงไก่ไข่มาก จึงตัดสินใจเปลี่ยนมาเลี้ยงไก่เนื้อแทน” คุณรัศมีให้ความเห็น
เริ่มเลี้ยงไก่เนื้อได้ประมาณ 1 ปี โดยเลี้ยงแบบประกันราคากับทาง บริษัท บิ๊กฟู้ดส์ จำกัด เพราะการรับซื้อไก่ของทางบิ๊กฟู้ดส์ตัดราคาขายน้อยกว่าทางไทยฟู้ดส์ คุณรัศมีเปิดใจว่าการเลี้ยงไก่ให้ได้ราคานั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับอาหาร หรืออากาศ แต่อยู่ที่ความใส่ใจมากกว่า เพราะตั้งแต่เลี้ยงมาลูกน้องมีความใส่ใจดีมาก เมื่อจับขายก็ได้กำไร 15-16 บาท/ตัว และทางบิ๊กฟู้ดส์ส่งทีมสัตวแพทย์เข้ามาดู ถึงแม้จะล่าช้าไปบ้างแต่ก็ยังถือว่าประทับใจอยู่
ในด้านองค์ความรู้ในเรื่องการเลี้ยงไก่เนื้อ ต้องขอบคุณทาง เฉลียงฟาร์ม และ วินัยฟาร์ม เป็นอาสาในการสอนให้ คุณรัศมียังเปิดเผยอีกว่า “ในตอนแรกที่เริ่มเลี้ยงรู้สึกกังวลอยู่บ้าง แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับความใส่ใจของเราเอง คุณต้องกล้าที่จะเสี่ยงกับมันก่อน” เรื่องที่น่ากังวลใจในการเลี้ยงไก่เนื้ออีกเรื่อง คือ ไฟฟ้า เพราะพื้นที่ฟาร์มนั้นมีเหตุไฟฟ้าดับบ่อยครั้ง จึงต้องมีเครื่องปั่นไฟขนาด 200 โวลต์ ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งาน 4-5 โรงเรือน ตัวเครื่องมือสองมาจากทางช่างใหญ่เพชรบุรี ในราคา 250,000 บาท
การบริหาร การจัดการฟาร์มไก่เนื้อ
ในเรื่องของการลงทุนเพิ่มเติมจากการเลี้ยงไก่ไข่เป็นไก่เนื้อ คือ อุปกรณ์ภายในโรงเรือนทั้งหมดเปลี่ยนใหม่ ใช้เงินลงทุนกว่า 2 ล้านบาท คุณรัศมีเลือกใช้ของ บริษัท เดลต้า เวต จำกัด เพราะรู้จักกับผู้จัดการของบริษัท ถึงแม้ว่าราคาจะสูงกว่าบริษัทอื่น แต่ก็มั่นใจในเรื่องคุณภาพสินค้าที่ดีจริง ทนทาน มีการรับประกันตลอดอายุการใช้ ปัจจุบันรัศมีฟาร์มมีโรงเรือนกว่า 3 โรงเรือน และทุกโรงเรือนใช้อุปกรณ์จากบริษัทเดลต้าทั้งหมด ดังนี้
1.โรงเรือนขนาด 100×20.5 เมตร เลี้ยงไก่ได้ 23,000 ตัว
2.โรงเรือนขนาด 84×24 เมตร เลี้ยงไก่ได้ 23,000 ตัว
3.โรงเรือนขนาด 115×32 เมตร เลี้ยงไก่ได้ 40,000 ตัว
ทั้งนี้โรงเรือนอีก 2 หลัง ที่เพิ่งสร้างใหม่ มีมูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งคุณรัศมีได้กู้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส) อัตราดอกเบี้ย 6 บาท/ปี เงินต้นที่กู้มาประมาณ 8 ล้านบาท ตั้งใจว่าจะกู้เงินก้อนนี้มาเพื่อหมุนเวียน และจะใช้คืนภายในระยะเวลา 5 ปี
ในเรื่องการจัดการฟาร์มถึงแม้จะมีประสบการณ์ในการเลี้ยงเพียงแค่ 5 รุ่น แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับรัศมีฟาร์ม เพราะมีเทคนิคการเลี้ยงง่ายๆ เพียงแค่ เอาใจใส่เท่านั้น ทุกเช้าและก่อนเข้านอนลูกน้องทุกคนจะเดินดูความเรียบร้อยภายในและภายนอกโรงเรือนก่อนว่าอุณหภูมิเป็นอย่างไร อากาศเย็นไปไหม อุปกรณ์ส่วนไหนชำรุดเสียหาย จะรีบแจ้งผู้จัดการทันที
การบำรุงดูแลลูกไก่เนื้อ
คุณรัศมีเปิดเผยอีกว่าก่อนทำการรับลูกไก่เข้ามาต้องมีการเตรียมโรงเรือนก่อนโดยปูวัสดุรองพื้น(แกลบ)ใช้ประมาณ 11 ตัน/โรงเรือน ราคาประมาณ 2,400-2,600 บาท/ตัน ลูกไก่ที่รับมาอายุประมาณ 1 วัน โดยทางบิ๊กฟู้ดส์จะเป็นผู้จัดหามาให้ มีการกกไฟที่อุณหภูมิ 32-34ºC เป็นเวลา 7-9 วัน (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) ความเข้มแสงและการกระจายของแสงอย่างสม่ำเสมอ ช่วงการกกลูกไก่มีความสำคัญ เพราะจะช่วยกระตุ้นการกินอาหาร พัฒนาระบบทางเดินอาหาร และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของลูกไก่เองด้วย
ซึ่งลูกไก่มีอัตราการสูญเสียประมาณ 1-2 ตัว/โรงเรือน นับว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก เนื่องจากลูกไก่มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงดี ไม่อมโรค หลังจากการกกไฟก็จะทำโปรแกรมวัคซีนและวิตามินเสริมตามที่สัตวแพทย์กำหนดทุกประการ
การให้อาหารลูกไก่เนื้อ
ในเรื่องการให้อาหารใช้ของ บริษัท อาร์ทีอะกริเทค และบริษัท ไทยฟู้ดส์ ซึ่งขึ้นอยู่กับการจัดสรรของทางบิ๊กฟู้ดส์ว่ารอบนี้ใช้ของบริษัทใด ส่วนตัวของคุณรัศมีเองใช้ของไทยฟู้ดส์มา ก็รู้สึกว่าน้ำหนักตัวดี โตเร็ว ในส่วนของอาร์ทีอะกริเทคเพิ่งลองใช้รอบนี้ หลังจากเลี้ยงไปได้ 23 วัน ผลของการสุ่มชั่งน้ำหนักตัวผู้เฉลี่ย 1.2 กก. ตัวเมีย 1 กก. การให้อาหารแบ่งตามช่วงอายุไก่ดังนี้
- เบอร์ 1 อายุ 19-21 วัน
- เบอร์ 2 อายุ 22-30 วัน และ
- เบอร์ 3 อายุมากกว่า 30 วัน
โปรแกรมแสง
ในเรื่องโปรแกรมแสงเป็นการกำหนดช่วงมืด-สว่างในระหว่างการเลี้ยง ซึ่งแต่ละฤดูกาลจะมีช่วงกลางวัน-กลางคืนที่ยาวนานไม่เท่ากัน จุดนี้ทำให้ต้องมีการตรวจสอบอุณหภูมิทั้งภายในและภายนอกโรงเรือนอย่างสม่ำเสมอ การเปิด-ปิดไฟก็เป็นไปตามโปรแกรมที่วางไว้ มีการปรับเปลี่ยนบ้างขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละวันด้วย
อย่างไรก็ดีหากผู้เลี้ยงสามารถควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น การระบายอากาศ ความเร็วลม ภายในโรงเรือนให้เป็นไปตามที่กำหนดได้ ไก่ก็ย่อมมีการเจริญเติบโตเร็ว และมีสุขภาพที่ดีแน่นอน ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับความใส่ใจของผู้เลี้ยงเป็นสำคัญ
การจับไก่เนื้อ
ในเรื่องการจับไก่นั้น ทางคุณรัศมีเลี้ยงไก่เป็นเวลา 38-41 วัน ในอดีตจับไก่ที่ 38 วัน ปัจจุบันขยายเวลาเพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 3 วัน ซึ่งทางฟาร์มก็ยืนยันว่าไม่มีผลต่ออัตราการแลกเนื้อ (FCR) แต่จะมีปัญหาเรื่องขาแทน เพราะไก่เนื้อที่เลี้ยงเป็นพันธุ์อาร์เบอร์ ซึ่งมีเนื้ออกที่ใหญ่ แต่ขาเล็ก ส่งผลให้ไก่ล้มได้ง่าย เมื่อล้มแล้วช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ สุดท้ายไก่ก็จะตาย น้ำหนักล่าสุดที่จับไป คือ 2.3-2.5 กก./ตัว (ขึ้นอยู่กับวันที่จับไก่) ค่าไฟฟ้าต่อรอบการเลี้ยงช่วงที่มีไก่ประมาณ 30,000-40,000 บาท หากเป็นช่วงพักเล้าจะเหลือเพียงแค่ประมาณ 10,000 บาท เท่านั้น
การทำเกษตรผสมผสานควบคู่การทำฟาร์มสเตย์
นอกจากประกอบธุรกิจไก่เนื้อแล้วคุณรัศมียังประกอบธุรกิจฟาร์มสเตย์เพิ่มเติมด้วย มีเนื้อที่กว่า 180 ไร่ เป็นพื้นที่ประเภทสิทธิ์การทำกินของเกษตรกร (สกป.) ซึ่งทำการซื้อขายกันไม่ได้ ภายในพื้นที่มีการทำเกษตรผสมผสานร่วมกับการทำฟาร์มสเตย์ โดยแรกเริ่มคุณรัศมีมีแนวคิดเพียงแค่สร้างไว้เพื่อพักผ่อนสำหรับอนาคตวางมือจากการเลี้ยงไก่เท่านั้น แต่เมื่อทำไปแล้วมีคนสนใจเข้ามาดูมากขึ้น จนทางเกษตรจังหวัดเข้ามาส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ไร่รัศมีฟาร์มสเตย์ให้เป็นพื้นที่ตัวอย่างในเชิงอนุรักษ์
ข้อดีของการปลูกพืชแบบผสมผสาน
เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา ทางเกษตรจังหวัดเข้ามาส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ให้มีการจัดกิจกรรมเชิงเกษตรโดยเปิดให้เกษตรกรมาเปิดบูธขายสินค้าต่างๆ อาทิ กาแฟ มะม่วง เงาะ และสับปะรด เป็นต้น ซึ่งเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรและชาวบ้านในพื้นที่อีกทางหนึ่งด้วย
คุณรัศมีทำการเกษตรผสมผสาน โดยมีการปลูกเงาะ ทุเรียน ฝรั่ง ลองกอง มะไฟ มะละกอ เสาวรส รวมทั้งพืชผักสวนครัวอื่น เช่น พริก ชะอม โหระพา มะเขือต่างๆ สะตอ เป็นต้น “ข้อดีของการปลูกพืชแบบผสมผสาน คือ เราไม่ได้ปลูกไม้ใหญ่ แต่ปลูกพืชรายวัน ซึ่งการดูแลจัดการง่าย ให้ผลผลิตได้เร็ว ดูแลจัดการง่ายขึ้น เพราะต้นไม้ทุกต้นต้องการเหมือนกัน คือ น้ำ และปุ๋ย”
วิธีการทำน้ำหมักชีวภาพ
นอกจากการทำเกษตรผสมผสานแล้วยังมี การทำน้ำหมักชีวภาพ ด้วย ซึ่งคุณรัศมีมีน้ำหมักที่หมักขึ้นมาเองคือ น้ำหมักสูตรหัวปลาทะเล ซึ่งเป็นสูตรที่คุณรัศมีทำขึ้นมาเอง ส่วนประกอบหลักมาจากหัวปลา/ก้างปลาทะเล มูลค้างคาว EM สับปะรด มะม่วง และน้ำ ใช้เวลาหมักนานกว่า 5 เดือน
ซึ่งใช้แล้วใบจะสวยงาม และผลผลิตที่ได้จะมีรสชาติดีเป็นพิเศษ และยังมีน้ำหมักจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงของ คุณรมญา ทับทิมทอง (คุณจุ๋ม) ซึ่งช่วยลดความเป็นกรดในดิน ทำให้รากแข็งแรง และสามารถหาอาหารได้ไกลขึ้น ดังนั้นภายในไร่ของคุณรัศมีจะเป็นการปลูกพืชแบบออแกนิค ปราศจากการใช้สารเคมี 100%
การบริหารจัดการโฮมสเตย์
ในส่วนของโฮมสเตย์มีทั้งหมด 9 ห้อง แบ่งเป็น
- ห้องแถว 3 ห้อง (900 บาท/คืน)
- บ้านเดี่ยว 1 หลัง (1,200 บาท/คืน)
- บ้านหลังใหญ่ 1 หลัง 4 ห้องนอน (3,000 บาท/หลัง/คืน) และ
- มีลานกว้างสำหรับกางเต็นท์ (นำเต็นท์มาเอง 100 บาท/คน และเช่าเต็นท์ด้วย 200 บาท/คน)
เรื่องการบริการ คือ มีอาหารเช้า (กาแฟ และข้าวต้ม) อาหารเย็นจะเป็นวัตถุดิบที่ได้จากในไร่ ซึ่งต้องมีสั่งไว้ล่วงหน้า “เราไม่ได้ตั้งใจทำให้เป็นธุรกิจ แต่เน้นให้เห็นถึงวิถีชีวิตในแบบราชบุรี เป็นศูนย์เรียนรู้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา และให้ผู้ที่เข้าพักรู้สึกว่าที่จังหวัดราชบุรีมีสถานที่สวยงามเป็นธรรมชาติแบบนี้อยู่ ผู้คนอยู่กันแบบนี้ไม่ได้หวังผลกำไรมากมาย แต่อยู่แบบมีความสุขมากกว่า ได้มากินอาหารปลอดสารพิษ ได้รับอากาศดีๆ ที่นี่มากกว่า มาเถอะค่ะที่นี่มีทุกอย่างจริงๆ” คุณรัศมีกล่าวด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข
แนวโน้มในอนาคต
ในอนาคตก็มีแนวคิดจะทำในเรื่องโซล่าเซลล์ (Solar Cell) ซึ่งหากทำได้จะทำให้ประหยัดพลังงานได้มาก แต่เนื่องจากต้นทุนสูง ทำให้ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมมากกว่านี้ก่อน แต่นั่นก็เป็นเรื่องของอนาคตที่อาจจะได้เห็นการทำธุรกิจด้านเกษตรเชิงท่องเที่ยวแบบครบวงจรในพื้นที่แห่งนี้ก็เป็นได้
“ด้วยสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้ การทำธุรกิจสักอย่างนั้นคงจะทำได้ยาก แต่คุณต้องกล้าที่จะเดิน ถึงแม้ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นเช่นไรก็ตาม ต้องอย่ากลัวที่จะก้าวต่อไป หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เลี้ยงไก่ไข่แล้วมันไปไม่ได้จริงๆ ก็อยากให้ลองเปลี่ยน ถึงแม้ว่ามันจะต้องเป็นหนี้ แต่ถ้าทำออกมาแล้วมันคุ้มค่าแก่การลงทุนก็ย่อมดีกว่า มันอาจจะเหนื่อยในตอนเริ่มต้น แต่ใช่ว่าจะเหนื่อยตลอดไป ไก่เนื้อเลี้ยงไม่ยาก แค่เปิดใจและใส่ใจมันเท่านั้น” คุณรัศมีฝากถึงคนในวงการปศุสัตว์ การจัดการฟาร์มไก่เนื้อ การจัดการฟาร์มไก่เนื้อ การจัดการฟาร์มไก่เนื้อ การจัดการฟาร์มไก่เนื้อ
ขอขอบคุณ
คุณรัศมี ทับทิมทอง (เจ้าของพรหมรัศมีฟาร์มและฟาร์มสเตย์) และ คุณรมญา ทับทิมทอง (ผู้จัดการพรหมรัศมีฟาร์ม)
33/3 ม.3 ต.ห้วยยางโทน อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี 70140
อ้างอิง : นิตยสารสัตว์บก ฉบับที่ 317/2562