นิตยสารสัตว์บกฉบับนี้จะพามารู้จักกับคนหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงที่ชื่นชอบ ไก่สวยงาม ที่ได้เริ่มต้นจากการนำ“ลูกไก่ตะเภาทอง” เกษตรศาสตร์จากมหาวิทยาลัยกลับมาเลี้ยงที่บ้าน และในปัจจุบันได้กลายมาเป็นอาชีพเสริมที่สามารถสร้างรายได้ให้ครอบครัว
ในปัจจุบันประเทศไทยมีการเลี้ยงไก่เป็นสัตว์เลี้ยงเพื่อความสวยงามมากขึ้น และเริ่มมีการเลี้ยงขายในเชิงพานิชย์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสายพันธุ์จากต่างประเทศ
จุดเริ่มต้นการเลี้ยงไก่ไข่สวยงาม
คุณจิรกิตติ์ จันทวี หรือคุณสงกรานต์ เจ้าของ “จันทร์ทวีฟาร์ม” ราชา ไก่สวยงาม แห่งเมืองชุมพร คุณสงกรานต์ได้เล่าให้ฟังว่า ตนมีความชื่นชอบในเรื่องของไก่สวยงามมาตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว ซึ่งตัวคุณสงกรานต์เองเรียนที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน คณะเกษตรกำแพงแสน ภาควิชาสัตวบาล และได้ศึกษาติดตามเกี่ยวกับไก่สวยงามมาตลอด
ตอนเรียนอยู่ปี 2 ก็ได้ซื้อไข่เชื้อไก่ตะเภาทองเกษตรศาสตร์จากมหาวิทยาลัย 10 ใบ อุ้มใส่กล่องขึ้นรถไฟเพื่อนำกลับมาฟักที่บ้าน เพราะเดิมที่บ้านเลี้ยงไก่บ้านอยู่แล้ว พอมีคอก มีอุปกรณ์ สำหรับการเลี้ยงไก่อยู่บ้าง
“ตอนนั้นที่นำไก่ตะเภาทองมาเลี้ยงเพราะความชอบส่วนตัว ตั้งใจเลี้ยงไว้เพื่อความสวยงาม และเพื่อนำมากินเองในครอบครัว ไม่ได้ตั้งใจเลี้ยงในเชิงพานิชย์ แล้วก็เลี้ยงมาเรื่อยๆ จนเรียนจบ จนได้เข้าทำงานที่บริษัทเอกชน พอมีเงินทุนจากการทำงานก็ได้ซื้อไก่ไข่เข้ามา แล้วให้คุณแม่เป็นคนดูแล
เพราะตอนนั้นคุณแม่ออกจากงานที่เก่าพอดี แล้วผมเองก็ติดตามกลุ่ม ไก่สวยงาม มาตลอด พอเริ่มมีเงินทุนก็ได้เริ่มซื้อไก่สวยงามเข้ามาเลี้ยงสายพันธุ์ Australorp” คุณสงกรานต์เผยถึงที่มาของการเลี้ยงไก่สวยงาม
สายพันธุ์ไก่
คุณสงกรานต์ซื้อลูกไก่อายุ 2 เดือน แบบคละเพศ มาจากฟาร์มที่เชื่อถือได้ แล้วเลี้ยงต่อประมาณ 3-4 เดือน จึงให้ไข่ และต่อมาก็ได้ซื้อไก่สายพันธุ์อื่นเข้ามา และเริ่มมีคนสนใจเข้ามาติดต่อซื้อ จึงได้เริ่มเลี้ยงขายบ้าง และได้ลงทุนซื้อตู้ฟักเข้ามาเพื่อประหยัดเวลา และสามารถฟักได้เยอะกว่า
พอเริ่มมีรายได้จากการขายลูกไก่ และขายไข่ ก็ได้นำกำไรที่ได้มาขยายฟาร์ม ซื้อไก่สายพันธุ์อื่นๆ เข้ามา ปัจจุบันทางฟาร์มมีไก่ทั้งหมด 7 สายพันธุ์ ได้แก่ ตะเภาทอง, Australorp, Sussex, Leghorn, Wyandotte, Brahmaและ Sebright มีประมาณ 100 ตัว
ได้มีการขยายและปรับปรุงคอก สร้างเป็นโรงเรือน มีหลังคากันลม กันฝน มีตาข่ายป้องกันแมลง และแบ่งแยกแต่ละสายพันธุ์แต่ละโรงเรือน เพื่อป้องกันการผสมข้ามสายพันธุ์ ในไก่แต่ละสายพันธุ์จะใช้อัตราส่วนพ่อพันธุ์:แม่พันธุ์ คือ 1:4
การบำรุงดูแลไก่ไข่
ในการดูแลจัดการฟาร์มส่วนใหญ่จะเป็นคุณแม่ดูแลเองทั้งหมด เพราะคุณสงกรานต์เองต้องทำงานที่ต่างจังหวัด เพื่อเก็บเงินมาต่อยอดและพัฒนาฟาร์ม ส่วนการดูแลในแต่ละวันนั้นจะให้อาหารสำเร็จรูปสูตรไก่ไข่ ในมื้อเช้าและเย็น ตอนกลางจะให้กินอาหารผสมเองเพื่อเป็นอาหารเสริม และมีปล่อยเดินข้างนอกในช่วงกลางวัน เพื่อไม่ให้ไก่เครียด และเก็บไข่ทุกวันในตอนเย็น
ไข่ที่เก็บมาจะนำมาคัดแยกก่อนที่จะนำไปเข้าตู้ฟัก โดยจะไม่เลือกไข่จากแม่ไก่สาว เพราะไข่ที่ได้ฟองเล็ก ยังไม่สมบูรณ์ เมื่อได้ไข่ที่สมบูรณ์ ฟองโต จะนำเข้าตู้ฟัก 21 วัน ควบคุมความชื้นที่ 70-80 และอุณหภูมิประมาณ 37.5 องศา
เมื่อลูกไก่ฟักออกมาจะทำการกกประมาณ 1 เดือน อุณหภูมิจะปรับให้เหมาะสมตามสภาพอากาศปัจจุบันและควรปรับหลอดไฟกก หรือปรับเปลี่ยนที่ตั้งจุดกันลมจะช่วยให้อุ่นขึ้น ลูกไก่จะได้นอนกระจายตัวอย่างสบาย ไม่หลบหนีแสงไฟกกตามมุมกรง แบบนี้แสดงว่าความอบอุ่นพอดีแล้ว
ด้านตลาดและช่องทางจำหน่าย ลูกไก่ และไข่ไก่
และเริ่มขายลูกไก่ที่อายุ 1 เดือน ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ตัวละ 400-500 บาท ส่วนไข่ฟองเล็กที่ไม่ได้นำเข้าตู้ฟักจะนำมาขายเพื่อบริโภค หรือนำมาทำอาหารบริโภคเอง
“ที่ฟาร์มจะไม่นำไข่จากแม่ไก่สาวเข้าฟัก เพราะฟองเล็ก เชื้อยังไม่สมบูรณ์ และไก่แต่ละสายพันธุ์จะมีอายุให้ไข่ที่ต่างกัน จะเลือกเก็บไข่เข้าฟักตามช่วงอายุที่เหมาะสมแต่ละสายพันธุ์ และดูความสมบูรณ์ของไข่ เช่นไก่ไข่ Australorp จะเริ่มให้ไข่เมื่ออายุ 8 เดือน แต่จะเริ่มเก็บไข่เข้าฟักเมื่อแม่ไก่อายุ 10 เดือน ส่วนไก่ไข่ Leghorn จะให้ไข่อายุ 4-5 เดือน ก็จะเริ่มเก็บไข่เข้าฟักตอนอายุ 5-6 เดือน” คุณสงกรานต์เปิดเผยถึงการให้ไข่ของไก่แต่ละสายพันธุ์
การให้อาหารไก่ไข่
ส่วนวัตถุดิบอาหารผสมเองจะใช้ หยวกกล้วยสับ รำ กากน้ำตาล และข้าวเปลือกงอก ซึ่งคุณสงกรานต์บอกว่าข้าวเปลือกงอกเป็นวัตถุดิบที่มีประโยชน์มาก เพราะในข้าวงอกจะมีสารที่ชื่อว่า “กาบา” สารกาบาจะมีมาก เมื่อข้าวงอกอายุได้ 1-3 วัน
สารกาบาเป็นกรดอะมิโน ทำหน้าที่รักษาสมดุลในสมองและร่างกาย ทำให้ผ่อนคลายและกระตุ้นต่อมไร้ท่อ ซึ่งผลิตฮอร์โมนที่ช่วยในการกระตุ้นการเจริญเติบโต และมีสารป้องกันไขมัน ที่ชื่อ “Lipotropic” และช่วยกระตุ้นการขับน้ำดีสู่ลำใส้
“เอาข้าวเปลือกธรรมดาที่คนส่วนใหญ่ใช้เลี้ยงไก่ เอามาแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน เอาออกมาตากไว้ในที่ร่ม แล้วรดน้ำ 3 วัน รากข้าวจะเริ่มงอก ก็นำไปผสมอาหารให้ไก่กิน แต่จะทำไว้สำหรับให้ไก่กินให้หมดภายใน 1-2 วัน เพราะสารกาบามีอายุได้ 1-3 วัน หลังจากนั้นสารอาหารจะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ” คุณสงกรานต์เปิดเผยวิธีทำข้าวเปลือกงอก
การบริหารจัดการฟาร์มไก่หลากหลายสายพันธุ์ ในฉบับจันทร์ทวีฟาร์ม
สิ่งสำคัญที่คุณสงกรานต์ย้ำ คือ เรื่องการจัดการที่ดี เช่น คอกไก่ต้องสะอาด มีอากาศถ่ายเท และในช่วงหน้าฝน คอกก็ต้องกันลม กันฝนได้ เพื่อป้องกันไก่ไม่สบาย ให้ไก่อยู่ในพื้นที่ๆ อบอุ่น ไม่แฉะ และมีการผสมฟ้าทะลายโจรผง และขมิ้นชันผงล่วงหน้าในอาหารผสมเองให้ไก่กิน เพื่อป้องกันหวัดในช่วงหน้าฝน
“กรงต้องสะอาด โดยหมั่นทำความสะอาด เปลี่ยนน้ำ-อาหารอยู่เสมอ หลังเปลี่ยนรุ่น กรงต้องทำความสะอาด ตากแดดไว้เว้นระยะสัก 2-3วัน ก่อนนำไก่รุ่นใหม่เข้าเลี้ยง และสภาพแวดล้อมโดยรอบปลอดโปร่ง แต่มิดชิด เป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบที่ช่วยให้ลูกไก่สุขภาพดี”
ลักษณะเด่นของไก่หลากหลายสายพันธุ์
นอกจากนี้คุณสงกรานต์ยังได้แนะนำว่าให้ศึกษาดูลักษณะของไก่แต่ละสายพันธุ์ และหาฟาร์มที่เชื่อถือได้ ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ เพราะไก่แต่ละสายพันธุ์จะมีลักษณะเด่นที่แตกต่างกันออกไป เช่น สีของแข้ง ลักษณะหงอน สีขน และลักษณะรูปร่าง
ฝากถึงผู้ที่สนใจเลี้ยงไก่ไข่สวยงาม
สุดท้ายคุณสงกรานต์ได้ฝากทิ้งท้ายถึงคนที่สนใจอยากหันมาเลี้ยงไก่ไข่สวยงามว่า“ถ้าคิดจะเลี้ยงอยากให้ลองศึกษาดูก่อน เรื่องวิธีการเลี้ยง การจัดการโรงเรือน การดูแลจัดการไก่แต่ละสายพันธุ์ อยากให้เตรียมความพร้อมไว้ก่อน
เพียงแค่เรามีความรู้เรื่องการจัดการ เรื่องวัสดุอุปกรณ์ไม่จำเป็นต้องใช้ของแพงก็ได้ แค่ต้องรู้หลักว่าทำคอกแบบนี้สามารถกันลม กันฝนได้ อากาศถ่ายเท ไก่อยู่แล้วสบาย แล้วค่อยๆ เก็บเกี่ยวประสบการณ์และเงินไปเรื่อยๆ เมื่อพร้อมเราค่อยต่อยอด และอยากให้เลี้ยงเพราะใจรักในสิ่งที่ทำอยู่ เพราะการที่เราเลี้ยงสิ่งมีชีวิตต้องดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ และการที่เราได้ทำในสิ่งที่รักมันจะไม่มีอะไรยากเกินไป”
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก คุณจิรกิตติ์ จันทวี หรือคุณสงกรานต์ (จันทร์ทวีฟาร์ม) 111/2 ม.4 ต.นาทุ่ง อ.เมือง จ.ชุมพร 86000
หากผู้อ่านท่านใดสนใจไก่ไข่สวยงาม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ Facebook : Songkran Artit หรือ จันทร์ทวีฟาร์ม ราชาไก่สวยงาม เมืองชุมพร โทร : 098-275-0684