ปลูกหญ้าเนเปียร์ 90 วันตัดขาย รายได้ดีกว่ามันฯ คุณบอยฟันธง
เกษตรกรหนุ่มชาวจังหวัดบุรีรัมย์ดีกรีปริญญาตรี คณะครุศาสตร์ เอกพละศึกษา จากรั้วมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ผู้พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสจากเกษตรกรทำไร่มันสำปะหลังสู่เส้นทางอาชีพใหม่โดยการปลูก หญ้าเนเปียร์ ปากช่อง ๑ จำนวนกว่า 10 ไร่ป้อนตลาดอาหารสัตว์ สำหรับเลี้ยงโคเนื้อ โคนม กระบือและไก่งวง สร้างรายได้ให้กับครอบครัว
คุณบำเหน็จ เบกไธสงหรือคุณบอย อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 13 บ้านโคกอุดม ตำบลดอนอะราง อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ เล่าถึงที่มาก่อนจะยึดอาชีพปลูก หญ้าเนเปียร์ ฯ ว่า ก่อนหน้านั้นตนทำอาชีพปลูกมันสำปะหลังมาโดยตลอด จนกระทั่งประสบปัญหาเรื่องโรคระบาดในมันสำปะหลัง ทำให้ขาดทุน 3 – 4 ปี
จึงมองหาพืชตัวอื่นเพื่อนำมาปลูกทดแทนการปลูกมันสำปะหลังที่เสียหายอย่างหนักโดยการนำ หญ้าเนเปียร์ ฯมาปลูก ซึ่งได้รับคำแนะนำจากคนรู้จักในอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ถึงรูปแบบการทำอาชีพนี้และการทำตลาด จึงตัดสินใจปลูก หญ้าเนเปียร์ ฯตั้งแต่ต้นปี 59 ปัจจุบันสามารถจำหน่ายให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยง โคเนื้อ โคนม และ ไก่งวง ได้บางส่วนแล้ว
“ตั้งแต่มาปลูก หญ้าเนเปียร์ ฯถือว่าเป็นอาชีพที่ดี ผลผลิตที่ได้ก็อยู่ในเกณฑ์ดี รวมถึงรายได้ด้วย ซึ่งแตกต่างจากการปลูกมันสำปะหลัง ซึ่งในขณะนี้นับวันต้นทุนการผลิตยิ่งสูงและราคาผลผลิตตกต่ำ จึงเป็นเหตุผลที่ตัดสินใจปลูกหญ้าจำหน่าย”
ขั้นตอนการปลูก หญ้าเนเปียร์
พันธุ์ หญ้าเนเปียร์ ฯที่ได้นำมาปลูกนั้น ซื้อต้นพันธุ์จากสมาชิกสหกรณ์โคนมแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี ในราคาตันละ 2,800 บาท
นำมาตัดเป็นท่อนยาวประมาณ 2 ข้อ ( ปล้อง ) เสร็จแล้วเข้าสู่กระบวนการเพาะตา โดยการใส่กระสอบปุ๋ย มัดปากถุงทิ้งไว้ 1 สัปดาห์ เพื่อให้ตาของท่อนพันธุ์งอก และเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของท่อนพันธุ์ในการปลูก
หากตัดเป็นท่อนแล้วไม่มีการเพาะพันธุ์จะทำให้ตาแห้ง การปลูกหญ้าจึงได้ผลที่ไม่ดี จากนั้นปลูกลงดินจมประมาณ 1 ข้อ เอียงพอประมาณ ระยะห่าง 1 x 1.20 เมตร ซึ่งเป็นระยะที่พอเหมาะ เดินระบบน้ำให้ทั่วแปลงหญ้า ติดสปริงเกลอร์และเสริมด้วยการใส่ปุ๋ย
ส่วนการดูแลไม่ได้ยุ่งยากเหมือนการปลูกมันสำปะหลัง ยกตัวอย่างเช่น การกำจัดวัชพืช เป็นต้น เนื่องจากการปลูกหญ้าเนเปียร์ฯจะโตเร็วกว่าวัชพืชจึงทำให้การดูแลง่ายขึ้น เพียงแค่ในช่วงหน้าแล้งควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอและหญ้าเนเปียร์ฯจะเจริญเติบโตได้ดีในช่วงหน้าฝน ปลูกครั้งเดียวสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ 6 – 7 ปี แต่ต้องขึ้นอยู่กับการบำรุงรักษาด้วย
สำหรับการเก็บเกี่ยวผลผลิตจะตัดหญ้าที่อายุ 90 วัน ซึ่งเป็นช่วงที่มีค่าโปรตีนสูง นำมาบดให้ได้ขนาดพอเหมาะบรรจุใส่ถุงขนาด 20 กิโลกรัม อัดสุญญากาศ เพื่อให้ลูกค้าจัดเก็บได้นานขึ้น อย่างเช่น หากมีการสั่งซื้อเข้ามาจำนวน 6 ตัน จะใช้ระยะเวลาในการจัดทำประมาณ 2 – 3 วัน จึงสามารถส่งให้กับลูกค้า และสามารถเก็บได้ 30 – 45 วัน หรืออาจได้มากกว่านั้นขึ้นอยู่กับการจัดเก็บ
ตลาดหญ้าเนเปียร์
เมื่อถามว่า ปลูกหญ้าเนเปียร์ ฯแล้วจะจำหน่ายให้กับใครหรือลูกค้ากลุ่มใดได้รับคำตอบว่า “ ขณะนี้ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงโคขุน โคนมและผู้เลี้ยงไก่งวง เป็นต้น ซึ่งจะมีในเขตอำเภอประโคนชัย อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดสุรินทร์และจังหวัดนครราชสีมา โดยจะจำหน่ายในราคาย่อมเยาและจัดส่งให้ถึงที่ อนาคตจะเพิ่มอัตราการผลิตเพื่อรองรับโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนที่จะเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้นี้ด้วย ”
หากอาชีพนี้มีแนวโน้มที่ดีและมีความมั่นคงคุณบอยจะส่งเสริมชาวบ้านในพื้นที่ให้หันมาปลูก หญ้าเนเปียร์ฯ เนื่องจากมีชาวบ้านในชุมชนบางส่วนสนใจกันอย่างมาก ทั้งการปลูกจำหน่ายเป็นพืชอาหารสัตว์และจำหน่ายให้กับโรงงานผลิตไฟฟ้าทดแทน
และจะขยายพื้นที่ปลูก หญ้าเนเปียร์ ฯ เพิ่มขึ้น เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าและเกษตรกรที่มีมากขึ้น เนื่องจากหญ้าเนเปียร์ฯสามารถลดต้นทุนการผลิตและง่ายต่อการจัดการฟาร์ม และกล่าวทิ้งท้ายว่า
“ในกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์มีความต้องการหญ้าเนเปียร์ฯ ค่อนข้างสูง จึงอยากแนะนำให้เกษตรกรที่ประสบปัญหาพืชผลทางการเกษตรชนิดอื่นหรือผู้ที่สนใจปลูกหญ้าชนิดนี้กัน
อีกทั้งภาครัฐเองก็สนับสนุนเงินทุนอีกด้วย แต่ควรมีตลาดรองรับผลผลิตที่แน่นอน จึงจะสามารถทำให้การประกอบอาชีพประสบความสำเร็จได้”
ขอขอบคุณ คุณบำเหน็จ เบกไธสง โทร. 088 – 366 – 5979 หรือ Facebook : หญ้าเนเปียร์บด อ . หนองกี่ จ . บุรีรัมย์
ปลูกหญ้าเนเปียร์
หญ้าเนเปียร์ ตลาดหญ้าเนเปียร์ ขั้นตอนการปลูกหญ้าเนเปียร์ วัตถุดิบอาหารสัตว์ หญ้าเนเปียร์ ปากช่อง ๑ หญ้าเนเปียร์ ปลูกหญ้าเนเปียร์ 90 วันตัดขาย รายได้ดีกว่ามันฯ คุณบอยฟันธง