มารีอาฟาร์ม ตั้งอยู่ที่อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี บนพื้นที่กว่า 167 ไร่ มีการจัดสรรพื้นที่ทำการเกษตรแบบผสมผสานที่เกื้อกูลกัน สร้างโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่ในระบบ EVAP บนบ่อปลา บ่อกุ้ง เพื่อให้ปลาได้กินขี้ไก่ ส่วนปลาในบ่อก็ช่วยบำบัดน้ำจากบ่อกุ้ง ทำให้พวกแพลงก์ตอนต่างๆ และค่าอัลคาไลน์ลดลง และเสริมด้วยการ เลี้ยงจระเข้ขุน เพื่อช่วยกำจัดซากไก่ตาย ซึ่งเป็นการอยู่ร่วมกันแบบได้ประโยชน์ร่วมกัน
การเลี้ยงไก่ไข่ระบบปิด บนบ่อปลา
คุณเอกสิษฐ์ ปฐพีสินหิรัญ หรือรู้จักกันในชื่อ “กำนันเก๋” ที่สานต่อธุรกิจฟาร์มไก่ไข่ของคุณพ่อ ร่วมกันบริหารกับพี่ชาย คุณณัฐพัชร์ สุวิกรานต์วรกุล หรือ “คุณหน่อย” มานานกว่า 30 ปี เริ่มตั้งแต่เป็นโรงเรือนไก่ไข่แบบธรรมดาตั้งบนพื้นปูน จนปัจจุบันได้พัฒนามาเป็นโรงเรือนในระบบ EVAP บนบ่อปลามาประมาณ 6 ปี เลี้ยงทั้งหมด 4 โรงเรือนๆ ละหมื่นกว่าตัว โดยส่งขายที่หน้าร้านของตัวเอง
เพราะสมัยก่อนที่ฟาร์มเจอปัญหาของโรคไข้หวัดนก (Avian Influenza) พอเปลี่ยนมาเป็นโรงเรือนระบบEVAP ทำให้การจัดการง่ายขึ้น สามารถควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนได้ ซึ่งอุณหภูมิที่ตั้งไว้จะอยู่ประมาณ 27 องศา ไม่ร้อนและไม่เย็นจนเกินไป ทำให้แม่ไก่ได้อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม ในช่วงที่อุณหภูมิสูง ความเสียหายก็น้อยกว่าแบบโรงเรือนธรรมดา ได้ผลผลิตดีกว่า เยอะกว่า และช่วยป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่โรงเรือน ทำให้ไก่สุขภาพแข็งแรง ออกไข่ได้สม่ำเสมอ
ทางฟาร์มจะซื้อแม่ไก่สาวที่พร้อมให้ไข่มาเลี้ยง รับมาตัวละ 180-185 บาท จาก “บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน)” และ “บริษัท ร่วมมิตรกรุ๊ป จำกัด” ซึ่งก่อนซื้อจะมีการไปดูและตรวจสอบลูกไก่ก่อน แล้วจึงมีการวางมัดจำตั้งแต่ยังเป็นลูกเจี๊ยบ สายพันธุ์ที่เลี้ยงจะเป็นโบวานส์บราวน์, ไฮไลน์ บราวน์ เป็นพันธุ์ไก่ไข่ที่เลี้ยงง่าย ไข่ทน และไข่ดก ให้ไข่เปลือกสีน้ำตาลเงา จะมีอัตราการให้ไข่อยู่ที่ 87-93 % จะให้ไข่เฉลี่ยอยู่ที่เบอร์ 1 – 2
ส่วนอุปกรณ์ต่างๆ โดยเฉพาะกรงไก่ ของฟาร์มจะเลือกใช้ของ “บริษัท ท็อปโปรดักส์ ซัพพลาย จำกัด” ซึ่งเป็นบริษัทผู้นำด้านธุรกิจอุปกรณ์การเกษตร และ ให้บริการอุปกรณ์ฟาร์มแบบครบวงจร อุปกรณ์มีความแข็งแรง ทนทาน ในราคาที่สามารถจับต้องได้ รวมถึงมีเซอร์วิสที่ดี และบางส่วนมีการใช้อุปกรณ์ของบริษัทเอกชนทั่วๆ ไป
การให้อาหารไก่ไข่
การให้อาหารที่ฟาร์มยังไม่ถึงขั้นใช้ระบบออโต้ฟีด ยังให้ระบบแมนนวลอยู่ คือ ให้คนงานเป็นคนเทอาหารบนรางให้ไก่กิน โดยเลือกใช้อาหารสำเร็จรูปของ “บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)” กำนันเก๋ได้ให้เหตุผลที่เลือกใช้อาหารของบริษัท ไทยฟู๊ดส์ฯ ว่า “เป็นบริษัทผู้ผลิตอาหารแบบครบวงจรที่มีความเชี่ยวชาญ มีการควบคุมความปลอดภัยของอาหารที่ได้การรับรองมาตรฐาน ทางบริษัทมีการตรวจสอบคุณภาพอาหารให้ และเปอร์เซ็นต์การให้ไข่อยู่ในเกณฑ์ดี”
โดยจะให้แม่ไก่กินอาหาร 100-110 กรัมต่อตัวต่อวัน และอาจมีการเสริมหญ้าเนเปียร์ให้แม่ไก่กิน จะเปิดเพลงให้ แม่ไก่ฟังเพื่อให้แม่ไก่อารมณ์ดี และมีการขูดทำความสะอาดรางอาหารให้สะอาด และกวาดหยากไย่ในโรงเรือน เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรค
ที่ฟาร์มจะมีทั้งหมด 4 โรงเรือน จะเลี้ยงไก่โรงเรือนละ 1 หมื่นตัว โรงเรือนไก่ 1 โรงเรือน ต่อบ่อปลา 10 ไร่ มูลไก่จะปล่อยลงบ่อเพื่อเป็นอาหารของปลา ในบ่อที่เลี้ยงจะเป็นปลาเบญจพรรณ จะมีปลานิล 5 แสนตัว ปลาสวาย 3 หมื่นตัว ปลาดุก 3 หมื่นตัว และปลาตะเพียน กับปลายี่สก อย่างละ 2 หมื่นตัว ปีหนึ่งจะจับครั้งหนึ่ง ไม่ได้กำหนดว่าต้องได้เท่าไหร่ เพราะปลาพวกนี้ไม่ได้ให้อาหาร เลี้ยงไว้กินขี้ไก่ กินอาหารตามธรรมชาติ
การบริหารจัดการฟาร์มไก่ไข่
ส่วนวัคซีนจะใช้ของ “บริษัท เบ็ทเทอร์ฟาร์ม่า จำกัด” ในเครือเบทาโกร จะให้ตามโปรแกรมวัคซีนสำหรับไก่ไข่ และจะมีการคุมเรื่องหวัด ท้องเสีย จะเดินตรวจดูแม่ไก่อยู่สม่ำเสมอ เมื่อพบแม่ไก่ป่วย ไม่สบาย จะมีการให้ยา ถ้าเจอไก่ที่ตายผิดปกติจะมีการผ่าซากดูรอยโรคก่อนว่าเป็นอะไร ผ่าดูลำไส้ ดูภายในเพื่อวินิจฉัยโรค
“เนื่องจากแต่ก่อนเคยเลี้ยงของ บริษัท เบทาโกรฯ จึงค่อนข้างคลุกคลีกับหมอเรื่องผ่าซากไก่ จนชำนาญ นอกจากเป็นโรคอะไรที่เราไม่เคยเจอก็จะแจ้งสัตวบาลมาตรวจดู” คุณหน่อยให้ความเห็น
จะมีการเก็บไข่วันละ 3 รอบ ได้แก่ ช่วงเช้า ช่วงบ่าย และช่วงเย็น ไข่ที่เก็บได้จะถูกส่งไปที่หน้าร้านเพื่อทำการคัดแยกไซส์ โดยใช้เครื่องคัดไข่ นอกจากขายไข่สดของทางฟาร์มแล้ว ที่ฟาร์มยังรับซื้อไข่สดจากฟาร์มอื่น และยังมีไข่เค็ม กับไข่เป็ด ขายอีกด้วย ส่วนราคาที่ขายนั้นจะขายตามราคากลางของตลาด หากผู้อ่านท่านใดสนใจไข่สดจากฟาร์มสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ 88/8 ม.9 ต.ลำไทร อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โทร.02-563-1315
นอกจากขายไข่สดจากฟาร์มแล้ว ยังมีร้านอาหาร และร้านกาแฟ ชื่อว่า “ร้านสวนเกษตร&กาแฟสด กำนันเก๋ปางขอน” ไม่ว่าจะเป็นกาแฟสด อาหารสี่ภาค ต้มยำ ยำรสเด็ด ส้มตำ สเต็ก เบเกอรี่ ไอศกรีม เมนูหวานเย็น และเครื่องดื่มต่างๆ ราคาไม่แพง รสชาติดี ตั้งอยู่ที่ 88/8 ม.9 ต.ลำไทร อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โทร.094-829-1963
ปัญหาและอุปสรรคของการเลี้ยงไก่ไข่
ที่ฟาร์มจะเลี้ยงแม่ไก่จนถึงอายุ 18 เดือน หรือประมาณ 1 ปีครึ่ง จึงจะทำการปลดแม่ไก่ โดยจะปลดพร้อมกันทั้งโรงเรือน และนำไก่สาวเข้าพร้อมกันทั้งโรงเรือน เป็นการเลี้ยงแบบระบบเข้าพร้อมกัน-ออกพร้อมกัน (all in-all out system)
เพื่อให้การเลี้ยงถูกต้องตามหลักสุขาภิบาล และการควบคุมโรคได้เป็นอย่างดี นอกจากช่วยควบคุมโรคต่างๆ ได้ง่าย ยังสามารถทำความสะอาดโรงเรือน และอุปกรณ์ พร้อมกับการพักเล้าประมาณ 45 วัน เพื่อเป็นการตัดวงจรชีวิตของเชื้อโรคต่างๆ ที่สะสมอยู่ในระหว่างการเลี้ยง ก่อนนำไก่ไข่สาวชุดใหม่เข้ามาเลี้ยง
ที่ฟาร์มจะมีฟาร์มประจำที่รับไข่มา แต่ช่วงนี้ก็รับลดลงมา เนื่องจากตลาดที่เคยส่งเป็นประจำ ปกติจะส่งให้เขาทุกวัน แต่ช่วงนี้ต้องให้วันเว้นวันเพราะเขาขายไม่ค่อยได้ ลูกค้าน้อย ส่วนไก่ที่ฟาร์มก็เริ่มปลด เลี้ยงให้น้อยลง ตอนนี้เหลือหลังเดียว
“ถามว่ากระทบเราไหม ก็กระทบ แต่เป็นช่วงจังหวะดีที่เราปลดไก่เราออก ทำให้เรามีไข่น้อยลง จึงไม่มีไข่เหลือในช่วงนี้ แต่เราก็ช่วยเกษตรกรรายอื่นเท่าที่ทำได้ อาจจะมีให้นำไข่มาฝากไว้ เพราะที่ฟาร์มจะมีห้องเย็นที่ควบคุมอุณหภูมิอยู่ที่ 4 องศา จะสามารถเก็บไข่ไก่ได้นานถึง 3 เดือน นำไข่สดเข้าไปเก็บ นำออกมาไข่ก็ยังสดเหมือนเดิม” กำนันเก๋กล่าวเพิ่มเติม
คุณประโยชน์ของไข่ไก่
- บำรุงสมอง เสริมสร้างการทำงานของความจำและการเรียนรู้
- ลดคลอเลสเตอรอลในเลือด
- เสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
- บรรเทาการอักเสบของข้อต่อ
สภาพพื้นที่ เลี้ยงจระเข้ขุน
และนอกจากฟาร์มไก่ไข่ที่เลี้ยงบนบ่อปลาและบ่อกุ้งแล้ว ที่มารีอาฟาร์มยังมีการเสริมด้วยการ เลี้ยงจระเข้ขุน ขายเชิงพาณิชย์ และยังเปิดฟาร์มเป็นศูนย์การเรียนรู้อีกด้วย
ที่ฟาร์มจะ เลี้ยงจระเข้ขุน ขายเชิงพาณิชย์ ตอนนี้มี 400 ตัว มีทั้งหมด 3 บ่อ ขนาดบ่อ กxยxส 40 mx25 mx2 m ความต้องการของตลาดจระเข้ ขนาดตัวที่ขายได้จะอยู่ประมาณ 1.8-2 เมตร ขายเซนติเมตรละ 50-60 บาท จระเข้ที่เลี้ยงจะเป็นพันธุ์น้ำจืด หรือจระเข้พันธุ์ไทย ขนาดปานกลาง ค่อนมาทางใหญ่ 3-4 เมตร มีเกล็ดท้ายทอย
ถ้าจะเลี้ยงเป็นพ่อ-แม่พันธุ์ต้องอายุ 10-12 ปี ถึงให้ไข่ได้ แต่ที่ฟาร์มจะเน้นเลี้ยงขุนขาย จะใช้ระยะเวลาเลี้ยงประมาณ 4 ปี ตั้งแต่ตัวขนาดเท่าตุ๊กแก ซึ่งแต่ก่อนจะขายได้ประมาณตัวละประมาณ 1.2 หมื่นบาท แต่ปัจจุบันนี้จระเข้ไม่ค่อยมีราคา จึงขายไม่ได้ราคาเท่าแต่ก่อน
การเลี้ยงจระเข้ไม่ยุ่งยาก การดูแลจัดการไม่เยอะ จะมีให้อาหาร กวาดทำความสะอาดบ่อทุกอาทิตย์ เวลาเข้าไปทำความสะอาดจะใช้คนงานแค่ 2 คน และมีการถ่ายน้ำตลอด ส่วนเรื่องอาหารที่ฟาร์มจะให้กินโครงไก่ อาทิตย์หนึ่งจะให้ 2 ครั้ง ให้ครั้งละประมาณ 300-400 กิโลกรัม และมีซากไก่ตายบ้าง
“ถามว่ามันกินเยอะมั๊ย ก็กินไม่เยอะนะ เราก็ให้กินตามปกติ แต่ถ้ากินเหลือเราก็จะลดอาหารลง สมมุติว่ารอบนี้เราให้โครงไก่ไป 15 ถุง แล้วเห็นว่ามีอาหารเหลือ รอบหน้าเราก็ลดลงมาเหลือซัก 12 ถุง” คุณหน่อยให้ความเห็น
การเลี้ยงจระเข้ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการจัดการซักเท่าไหร่ แต่จะมีปัญหาในเรื่องของการตลาด เพราะจระเข้ยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมสำหรับคนไทยในเรื่องการบริโภค และปัญหาของโควิด-19 ทำให้การส่งออกเนื้อจระเข้ไปต่างประเทศลำบาก ทุกวันนี้จึงยังทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องเลี้ยงไปตามระบบ
นอกจากนี้ที่ฟาร์มยังเปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้ เพื่อเป็นการส่งเสริมเกษตรกรหรือประชาชนทั่วไปที่สนใจสามารถเข้ามาศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับการดูแลจัดการฟาร์ม แล้วนำความรู้ที่ได้กลับไปต่อยอดหรือพัฒนาต่อไป ซึ่งที่ฟาร์มได้การรับรองมาตรฐาน GAP ทั้งฟาร์ม
ฝากถึงเกษตรกร และผู้อ่านทุกท่าน
สุดท้ายกำนันเก๋และคุณหน่อยได้ฝากทิ้งท้ายถึงเกษตรกรและผู้อ่านทุกท่าน“สินค้าเกษตรมีลงก็ต้องมีขึ้น หลังจากที่ลงมาตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงขึ้นแล้ว ในอนาคตผมมองว่าความต้องการของคนยังไงก็ต้องบริโภค อยากให้เกษตรกรอดทนรออีกนิด ช่วงนี้ก็ดูแลผลผลิตออกมาให้ดี”
และนอกจากข้อมูลดีๆ ของการดูแลจัดการฟาร์มไก่ไข่และจระเข้แล้ว ยังมีข้อมูลดีๆ ของการดูแลจัดการบ่อปลา และบ่อกุ้ง อีกด้วย ท่านสามารถอ่านเรื่องราวของบ่อปลาและบ่อกุ้งเพิ่มเติมได้ที่ นิตยสารสัตว์น้ำ ฉบับที่ 369
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก คุณเอกสิษฐ์ ปฐพีสินหิรัญ (กำนันเก๋), คุณณัฐพัชร์ สุวิกรานต์วรกุล (คุณหน่อย)
หากท่านใดสนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม มารีอาฟาร์ม ที่อยู่ 38/3 ม.8 ต.ลำไทร อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี 12150 โทร.094-829-1963
