สำหรับเจ้าของฟาร์มเลี้ยงสัตว์ หากมีแผนการจะสร้างหรือขยับขยายโรงเรือน รวมไปถึงมองหาอุปกรณ์เลี้ยงสัตว์ที่ได้มาตรฐาน ซึ่งปัจจุบันมีผู้ให้บริการจำนวนไม่น้อย แต่ในเรื่องมาตรฐานเรื่องการออกแบบ หรือการจัดหาอุปกรณ์ให้เพื่อใช้เลี้ยงสัตว์ในโรงเรือนที่ได้คุณภาพ ตลอดจนบริการหลังการขาย ที่ให้โดนใจและตรงกับสเปกนั้น
สำหรับเจ้าของฟาร์ม คงต้องศึกษาประวัติของผู้ให้บริการให้ดีเสียก่อน ถ้าไม่อยากเสียใจภายหลัง แต่ถ้าให้ชัวร์! แค่เลือกใช้บริการของ “บริษัท แทนไทย เฟิร์สเทค จำกัด” คุณจะได้โรงเรือนที่ได้มาตรฐาน และอุปกรณ์ในเรือนสัตว์ คุณภาพสูง พร้อมบริการหลังการขายที่ประทับใจ จริงแท้แน่นอนที่สุด!
การผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์การเลี้ยงสัตว์
บริษัท แทนไทย เฟิร์สเทค จำกัด คือ ผู้นำด้านบริการและจำหน่ายอุปกรณ์การเลี้ยงสัตว์ครบวงจร ตลอดจนการขายส่งเครื่องจักรและอุปกรณ์อื่นๆ ที่เจ้าของโรงเรือนเลี้ยงสัตว์หลายรายทั่วประเทศเลือกใช้บริการ โดยกว่า 15 ปี ที่ดำเนินธุรกิจ ด้วยความมุ่งมั่น ชื่อสัตย์ และจริงใจ ทำให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้าฟาร์มทั้งในและต่างประเทศ “แทนไทย เฟิร์สเทค” บริหารโดย คุณแดงน้อย พหลทัพ ในปัจจุบันได้มีบริการด้านการก่อสร้างฟาร์ม ผลิต จัดหา และติดตั้ง อุปกรณ์การเลี้ยงสัตว์แบบครบวงจร เช่น อุกรณ์ฟาร์มไก่ไข่ ไก่พันธุ์ ไก่เนื้อ สุกร รวมไปถึงระบบควบคุมอุณหภูมิในเล้า เป็นต้น
คุณแดงน้อย กล่าวถึงบริการจำหน่ายผลิตภัณฑ์อุปกรณ์การเลี้ยงสัตว์ พร้อมทั้งบริการออกแบบ และติดตั้ง ภายใต้บริการของ “แทนไทย เฟิร์สเทค” จำแนกหลัก ๆ ได้แก่
- อุปกรณ์ไก่ไข่ ไก่รุ่น เช่น กรง รางอาหาร ระบบน้ำ ไซโล
- อุปกรณ์ไก่เนื้อ เช่น จานอาหาร ท่อส่งอาหาร ระบบให้น้ำ ไซโลอาหาร
- อุปกรณ์เลี้ยงสุกร เช่น คลอกคลอด ช่องยืน แสลทพื้น ถังอาหาร
- อุปกรณ์ระบบอีแวป เช่น พัดลม เยื่อกระดาษ ชุดควบคุมอากาศในเล้า
* โดยนำเข้าและส่งออก ทั้งในและนอก ทั่วราชอาณาจักร
ปัจจัยที่ทำให้แทนไทยเฟิร์สเทคก้าวขึ้นสู่ผู้นำด้านบริการและจำหน่ายอุปกรณ์การเลี้ยงสัตว์แบบครบวงจร มาจากหลายองค์ประกอบรวมกัน หนึ่งในนั้นคือ ประสบการณ์ที่สะสมมายาวนาน โดยส่วนตัวคุณแดงน้อยที่เปิดเผยให้ฟังว่า ตอนหนุ่มๆ เคยทำงานอยู่กลุ่มบริษัทในเครือ CP สายผลิตอุปกรณ์การเลี้ยงสัตว์โดยตรง คือ บริษัทเกษตรภัณฑ์ หรือ เคเอสพี ในปัจจุบัน ช่วงที่ทำงานอยู่เกือบ 20 ปี กับบริษัท เคยผ่านงานมาหลายหน่วยงาน เช่น งานติดตั้ง งานสายผลิตดูแล เครื่องจักรผลิตอุปกรณ์ในหน่วยงาน และขยับขึ้นมาดูแลงาน วางแผนการผลิต เพื่อให้ได้สินค้าทำตามต้องการของลูกค้า
จนผู้ใหญ่ในบริษัทให้โอกาส และความเชื่อใจ ให้มาเป็นเซลล์ หรือฝ่ายขาย ทำให้ได้เรียนรู้ตลาด ได้พบปะลูกค้า ได้รับคำแนะนำการเลี้ยง หรือความต้องการของลูกค้า จนเกิดเป็นความรู้ ความชำนาญ และตัดสินใจมาตั้งบริษัทของตัวเอง เริ่มจากนำเข้าสินค้าไม่กี่ชิ้น และได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนๆ จากพี่ๆ ในวงการที่ทำมาก่อนแล้ว ประกอบกับมีเพื่อนสมัยเรียนที่มีโรงงาน มีเครื่องจักรผลิตในสายธุรกิจอุตสาหกรรมอื่น คอยช่วยเหลือ จนสามารถตั้งตัว และซื้อเครื่องจักรเป็นของตัวเองได้ จนถึงปัจจุบัน ต้องขอขอบคุณผ่านทางสื่อ สำหรับองค์ความรู้จากบริษัท และความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ พี่ๆ จนเรามีได้ทุกวันนี้
แทนไทยเฟิร์สเทค ถึงแม้ว่าเราจะวางโครงสร้างการบริหารไว้ หน่วยงานให้เหมือนบริษัทใหญ่ แต่ทางเราก็ไม่ได้ซับซ้อน หรือล่าช้าในการสั่งการ เราจะเน้นการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าเป็นอย่างดี ไม่เคยทอดทิ้งลูกค้า และสามารถแนะนำ หรือซ่อมแซมสินค้าให้ทางฟาร์มได้ทุกอย่าง จึงทำให้เราครองใจลูกค้าของเราได้ตลอดมา จนถึงวันนี้นอกจากเราจะมีบริการด้านก่อสร้างฟาร์ม ผลิตจัดหาอุปกรณ์การเลี้ยงสัตว์แบบครบวงจรแล้ว
ทางกลุ่มบริษัทแทนไทยเฟิร์สเทคเรายังมีฟาร์มเลี้ยงสัตว์ของเราเองในชื่อฟาร์มว่า “ห้างหุ้นส่วนแทนไทยฟาร์ม” เพื่อจะได้ศึกษาอบรม ฝึกฝนทีมงาน และทดลองการใช้อุปกรณ์ของบริษัท ทั้งระบบการให้อาหาร ระบบควบคุมการระบายอากาศ ระบบการประหยัดพลังงาน เพื่อนำไปสู่การ Development สินค้าและบริการให้ดียิ่งๆ ขึ้น ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าของเรา
จุดเด่น แทนไทยเฟิร์สเทค
1.เรามีโรงงานผลิตอุปกรณ์และสินค้าของเราเอง ที่มีมาตรฐาน ราคาเป็นธรรม เป็นสมาชิก สภาอุตสาหกรรม และสภาหอการค้า และสมาคมผู้ค้าอุปกรณ์การเลี้ยงสัตว์ไทย
2.เรามีทีมติดตั้งและบริการหลังการขายของเราเอง ที่มีความรู้ ความสามารถ ที่พร้อมจะให้บริการ เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับองค์กรอย่างเต็มที่ ในการให้บริการและมีความคล่องตัว และรวดเร็ว
3.องค์กรเรายึดถือความซื่อสัตย์ สุจริต และมีองค์ความรู้ในงานด้านปศุสัตว์ ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
4.เราเป็นบริษัทของคนไทยที่อยู่ในกลุ่มผู้เลี้ยง ผู้ค้า พร้อมที่จะสนับสนุนซึ่งกันและกันตลอดไป
Develop สินค้าและบริการไม่หยุดเพื่อตอบสนองความพึงพอใจของลูกค้าทุกคนทุกกลุ่ม
แทนไทยเฟิร์สเทค เชี่ยวชาญการพัฒนา การสร้างโรงเรือน และติดตั้งอุปกรณ์ให้ได้มาตรฐานสากล ตามยุค ตามสมัย
นับจากสมัยก่อน การเลี้ยงไก่เนื้อก็จะมีการเลี้ยงแบบเล้าเปิด ให้อาหารแบบถังแขวน ต้องคอยเติมอาหารใส่ถัง ทำความสะอาดกระปุกน้ำ ซึ่งมีความยากลำบากของผู้เลี้ยงพอสมควร ขนาดเล้าก็ไม่ได้กว้างมาก กว้าง 10 ถึง 12 เมตร ยาว 100 เมตรบ้าง ซึ่งจุไก่ได้น้อยตัว เลี้ยงกัน 1-2 คน
ในการเลี้ยงปัจจุบันก็จะมีการพัฒนาในเรื่องต้นทุน เป็นการเลี้ยงในระบบปิด หรือระบบอีแวป กว้าง 21 ถึง 26 เมตร ยาว 100 เมตร ถึง 120 เมตร เป็นต้น จุไก่ได้ 35,000 ตัวต่อหลัง ระบบการให้อาหาร และน้ำ ระบบควบคุมอากาศ จะเป็นระบบแบบอัตโนมัติทั้งหมด มีคนเลี้ยงแค่ 1 คน ทำให้ผู้เลี้ยงมีต้นทุนที่ต่ำลง เจ้าของสามารถเช็คข้อมูลต่างๆ ในฟาร์มแบบเรียลไทม์ทางโทรศัพท์มือถือ เป็นการเลี้ยงแบบใหม่
สิ่งสำคัญ คือ ต้องหมั่นตรวจสอบ ความเร็วลม และปริมาณอากาศให้เพียงพอ กับสัตว์เลี้ยงอย่างสม่ำเสมอ และมีการพัฒนาเรื่องการลดพลังงาน พวกค่าไฟ ซึ่งเป็นต้นทุนหลักอีกตัว โดยใช้ระบบโซล่าเซลล์-ไบโอแก๊สจากมูลสัตว์ในฟาร์ม และอินเวอร์เตอร์ปรับรอบ เพื่อให้ต้นทุนการเลี้ยงลดลงมากที่สุด
ทางบริษัท แทนไทยเฟิร์สเทค มีอุปกรณ์ พร้อมทุกระบบที่กล่าวมา เพื่อซัพพอร์ตทางฟาร์มทุกอย่าง ตั้งแต่ไซโล ระบบอาหารออโต้ฟีด ระบบน้ำนิปเปิ้ล ระบบควบคุมอุณหภูมิ ที่เป็นมาตรฐาน ที่ส่งขายให้บริษัทผู้ผลิตไก่รายใหญ่ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ติดต่อ และสอบถามราคา จากทางบริษัทได้ตลอด
แนวคิดการสร้าง โรงเรือนเลี้ยงสัตว์มาตรฐาน ของตัวเอง เน้นทฤษฎี-ปฏิบัติจริง เพื่อเซอร์วิสลูกค้า
นอกจากการบริการออกแบบสร้างโรงเรือน ผลิตและติดตั้งอุปกรณ์การเลี้ยงสัตว์ให้กับลูกค้า และฟาร์มหมูขุน แทนไทยฟาร์มแล้ว บริษัท แทนไทยเฟิร์สเทค ยังกำลังได้มีการออกแบบโรงเรือนอุปกรณ์เพื่อเลี้ยงไก่ไข่แบบ เคจฟรี ซึ่งคุณแดงน้อยเผยว่า เพื่อให้เป็นโรงเรียนต้นแบบหรือโรงเรียนสาธิต มีการ R&D ระบบและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของบริษัท เพื่อจะนำมาทดลอง และเก็บข้อมูลที่นี่ และพัฒนาเพื่อนำเป็นสินค้าต่อไป
เรี่องไก่ไข่ ทุกวันนี้มีการควบคุมปริมาณการยืนกรงของไก่ไข่เพื่อให้เหมาะสมกับการบริโภค และรักษาราคาให้อยู่ได้ ทั้งผู้เลี้ยง และผู้บริโภค แต่ก็ยังเกิดภาวะไข่ล้นตลาดและไข่ขาดตลาด ตามโอกาส พอไข่ขาดตลาด ราคาไข่จะแพงผู้เลี้ยงมีกำไร เกษตรกรรายเล็กก็จะหาไก่สาวมายืนกรงค่อนข้างจะยาก เพราะราคาดี ก็มีรายใหญ่ๆ ต้องการ
“ผมมองว่าถ้าไข่ล้นตลาดจะเกิดปัญหามากกว่า เพราะว่าจะทำให้ราคาไข่ถูกลง เกษตรกรรายเล็กๆ จะขายไข่ขาดทุนได้ไม่นานก็จะเลิกเลี้ยงไป ส่วนรายใหญ่ๆ สายป่านยาวหน่อยก็อยู่ได้ ต่อมาก็จะได้แชร์ตลาดไก่ยืนกรงมากขึ้น เพราะรายเล็กๆ เลิกเลี้ยงไป ปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาที่ไม่หมดสิ้นไป ก็คงต้องหวังพึ่งภาครัฐบาลช่วยเหลือ เวลาเกิดภาวะอย่างนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรรายเล็กๆ อยู่ในอาชีพนี้ต่อไป เช่นไข่ถูก ล้นตลาด ให้ช่วยรับซื้อไข่จากผู้เลี้ยงแบบราคาไม่ขาดทุน พร้อมทั้งหาวิธีส่งออกและแปรรูปในส่วนนั้นๆ ให้มีมูลค่ามากขึ้น ให้เกิดประโยชน์กับวงการไก่ไข่ มีความยั่งยืนต่อไป” คุณแดงน้อย เสนอแนะ
การจัดการต้นทุนการเลี้ยง
ด้วยปัจจัยวัตถุดิบอาหารสัตว์ ที่นำเข้ามีราคาแพง หลังเกิดการสู้รบระหว่าง รัสเซียกับยูเครน มีผลพวงทำให้อาหารสัตว์แพง รวมถึงเรื่องเศรษฐกิจที่ไม่สมดุล ของแพง ค่าแรงน้อย ของบ้านเราส่วนหนึ่ง ถ้าจะแก้ก็คงต้องภาครัฐเหมือนเดิม ตัวไหนที่ผลิตในประเทศไทยได้ก็ต้องส่งเสริมกัน จัดระเบียบกำไร ที่ควรจะเป็นทุกห่วงโซ่ การผลิตให้เหมาะสม สุดท้ายก็อยู่กันได้ ถึงผู้บริโภคเท่าไหร่ก็เท่านั้น ถือว่าเป็นธรรม
เรื่องหมูกล่องตีตลาด ทุกคนต้องช่วยกัน
ตั้งแต่เกิดโรคระบาด ASF มา ผู้เลี้ยงหมูในประเทศ ขาดทุน ล้มละลาย ไปหลายฟาร์ม จากนั้นราคาสุกรก็ผันผวนตลอด แม้ว่าช่วงแรกๆ ราคาจะดีมาก เพราะหมูขาดตลาด ผู้เลี้ยงในประเทศก็ยังเลี้ยงไม่ได้ แต่กลับมีเนื้อหมูจากต่างประเทศราคาถูกเข้ามาตีตลาด ทำให้ราคาตกต่ำ ซัดซ้ำผู้เลี้ยงหมูในประเทศอีกรอบ ที่สำคัญเนื้อหมูที่นำเข้า ขาดการตรวจสอบการปนเปื้อนที่ควรจะเป็น เสี่ยงต่อสุขภาพ และโรคสุกร
จะเห็นได้จากข่าวการเข้าตรวจค้นของทางกรมปศุสัตว์ มีจำนวนมากในแต่ละวัน ถ้าแก้ปัญหาใหญ่นี้ไม่ได้ วงการหมูก็คงจะเป็นปัญหาใหญ่ ที่ต้องช่วยกันทุกภาคส่วนต่อไป เพื่อให้ผู้เลี้ยงอยู่รอด
ติดตั้งอุปกรณ์ผลิตหมูให้ซีพี 2 ฟาร์ม
เนื่องจากซีพีต้องขยายฟาร์มสุกรเพิ่ม ทางแทนไทยฯ ได้เข้าไปเซ็ตค่าดูแลระบบอุปกรณ์ทั้งหมด “เราเลี้ยงเอง แล้วก็พัฒนาเอง กำลังทดลองการลดพลังงานด้วยวิธีต่างๆ ตอนนี้เรามีระบบโซล่าเซลล์ผสมกับไฟฟ้า และจะมีปรับปรุงระบบไบโอแก๊สที่มีอยู่ มาใช้ให้เต็มระบบมากขึ้น เอากากหรือมูลออกมาทำปุ๋ย ที่มีคุณภาพกับพืชแต่ละชนิด เป็นโครงการปี 2567 ในเนื้อที่ 30-40ไร่ 2 ฟาร์มรวมกัน” คุณแดงน้อย เปิดเผย
เพราะ “บริการ” และ ให้คำปรึกษา จึงมีวันนี้
คุณแดงน้อยกล่าวว่า เวลาเราจะไปก่อสร้างโรงเรือนให้กับลูกค้า ก็เหมือนเป็นที่ปรึกษาให้ในทุกๆ เรื่อง ยกตัวอย่าง ลูกค้าอยากเลี้ยงไก่ เราก็จะช่วยออกแบบ แนะนำการก่อสร้างโรงเรือนไก่ไข่ให้ลูกค้า ช่วยหาลูกไก่ ไก่สาว แหล่งอาหารสำเร็จ แนะนำวิธีเลี้ยง การดูแลและการป้องกันโรคต่างๆ การทำการตลาด คำนวณต้นทุนให้ ตั้งแต่ต้นจนจบ ทั้งไก่เนื้อ ไก่ไข่ ตั้งแต่การเลี้ยงจำนวน 200 ตัว 500 ตัว 1,000 ตัว เราก็ติดตั้งให้ทั้งหมด ใช้เวลา 7-15 วัน ก็เสร็จ จบในที่เดียว
ด้วยการที่เราไม่ปฏิเสธงานเล็กๆ ทำให้เรามีงานอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่น งานทอกรงตับ แผงลวด รางอาหารเหล็กกรงนอก แบรนด์ต่างๆ เราก็ทำ เพื่อตอบสนองด้วยความรวดเร็ว ในช่วงก่อนโควิด เราจะมีงานไก่ไข่ โครงการหลวง อาหารกลางวัน ของกลุ่มบริษัทใหญ่ เราก็ได้ไปร่วมทำอุปกรณ์ให้ทางโครงการ ร่วม 100 โปรเจค ตามพื้นที่ห่างไกลทั่วทุกภูมิภาคของไทย ทำให้เราเป็นที่รู้จักของ ฟาร์มเล็ก ฟาร์มน้อย มาจนถึงทุกวันนี้
การทำธุรกิจสำคัญ อยู่ที่การร่วมมือ
คอนเน็คชั่น ต่างคนต่างช่วยเหลือกัน ไม่ทำธุรกิจจนเกินไป และหวังรวยเกินไป คุยอะไรกับใครก็เป็นพี่ เป็นน้อง เราพื้นเพไม่ใช่เป็นนักธุรกิจ ไปคุยอะไรกับใคร ก็ให้เกียรติกันในช่วงระยะเวลาที่ทำงานอยู่ก็ดูแลกัน เกษียณงานไป ก็ดูแลกันต่อได้ แม้แต่ด้านการตลาด ในประเทศ และต่างประเทศ คุณแดงน้อยกล่าวว่า เริ่มแรกเราไม่ได้เน้นการส่งออก เน้นขายในประเทศ
แต่พอเราเข้าร่วมกับ สภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้า และสมาคมผู้ค้าอุปกรณ์ เราก็มีไปออกงานแสดงสินค้าต่างประเทศและไปดูงาน ทำให้เรามีช่องทางการขายต่างประเทศเข้ามาเรื่อยๆ ประเทศที่เราส่งสินค้าไปขาย ก็จะมีย่านอาเซียนหลายประเทศ และมีประเทศลาว ที่เราได้รับความไว้วางใจให้ไปติดตั้งอุปกรณ์ ไก่ไข่ และสุกร จนทำให้เราและลูกค้าประสบความสำเร็จ ต้องขอบคุณท่านลูกค้าในที่นี้ด้วย
เมื่อช่วงวันที่ 19-25/9/66 ทีมขายเราก็ได้ไปร่วมแสดงสินค้า ที่รัฐซาบาห์ เกาะบอร์เนียว ประเทศมาเลยเซีย โดย กรมส่งเสริม กระทรวงพาณิชย์ ร่วมจัด มีลูกค้ากลุ่ม ไก่เนื้อ ไก่ไข่ ให้ความสนใจอุปกรณ์จากไทยเป็นอย่างมาก การไปดูงาน และการไปออกงานแสดงสินค้าต่างประเทศ ทำให้บริษัทเราได้เป็นที่รู้จักซัพพลายเออร์แบนเนอร์ดีๆ จากต่างประเทศ
ซึ่งเวลานี้ทางบริษัท แทนไทยเฟิร์สเทค เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าให้กับบริษัทจาก อเมริกา เดนมาร์ก เกาหลี และจีน เป็นต้น ซึ่งซัพพลายเออร์ที่ดีเยี่ยมของเราเหล่านี้ได้มีข้อ ตกลงร่วมกัน ให้ทีมงานจากบริษัทเราไปฝึกอบรมในตัวสินค้าเหล่านั้น ให้มีความรู้ ความชำนาญ ในการนำมาบริการ หรือเซอร์วิสหลังการขาย ให้กับลูกค้า ให้ได้ประสิทธิภาพ และประสิทธิผล มากที่สุด เมื่อวันที่ 11/10/66 ที่ผ่านมา บริษัทเราได้ส่งวิศวกร และทีมช่าง ทีมขาย ไปฝึกอบรม ที่บริษัท Egg tec ประเทศเกาหลีใต้ เป็นรุ่นที่ 2 เป็นเวลา 1 เดือน เพื่อให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจมากขึ้นในการใช้บริการ
* ในช่วงที่มีปัญหาเรื่องราคาปศุสัตว์ตกต่ำ
ทางบริษัท แทนไทยเฟิร์สเทค จำกัด ได้หาสินค้าตัวใหม่ ที่มีคุณภาพ และราคาเหมาะสม มาให้ฟาร์มขนาดใหญ่ของไทย เช่น
-เครื่องคัดไข่ ขนาด 60,000 ฟอง/ชั่วโมง
-กรงไก่ไข่ H เฟรม ขนาดจุ 35,000-70,000 ตัว 4ชั้น-6ชั้น ลวดเป็นชุบกัลวาไนซ์
-เครื่องแยกกาก ขี้หมู ก่อนจะเอาน้ำลงบ่อไบโอแก๊ส
-เครื่องหมักขี้หมู ขี้ไก่ composter ขนาด 100 และ 200 ลูกบาศก์เมตร
-Dol เซ็นเซอร์วัดความชื้น แอมโมเนีย เซ็นเซอร์ตัดระบบอาหาร
ซึ่งสินค้าเหล่านี้ทางบริษัทเป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย และจากนี้ไปเราก็หวังอย่างยิ่งว่าธุรกิจในวงการปศุสัตว์ เราจะเดินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ แบ่งปัน และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทั้งรายเล็ก รายใหญ่
เตรียมส่งต่อภารกิจให้รุ่นลูก
แม้กิจการดำเนินต่อไปด้วยดี แต่เมื่อถึงเวลาย่อมต้องมีการผลัดเปลี่ยนรุ่นสู่รุ่น โดยคุณแดงน้อย วางแผนปูพื้นฐานการบริหารกิจการให้กับลูกชาย “ธีรโชติ พหลทัพ” ที่จบวิศวกรไฟฟ้า จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ คุณธีรโชติเผยว่า ส่วนตัวต้องการเข้ามาช่วยงานคุณพ่อ (คุณแดงน้อย) อยู่แล้ว โดยอยากเข้ามาพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีของบริษัทคุณพ่อ ก็อาจจะสร้างฟาร์ม เลี้ยงไก่ เลี้ยงหมูให้ อยากจะโฟกัสเรื่องนี้ จะช่วยลดต้นทุนให้ฟาร์ม และเกษตรกร ด้วยรูปแบบใหม่ๆ
โดยตัวเองมีผลงานส่วนตัวที่เคยทำไปแล้ว เช่นโปรเจคที่เคยทำตอนเรียนเกี่ยวกับสมาร์ทฟาร์ม เป็นระบบ IOT ก็คือ เป็นการรดน้ำต้นไม้ผ่านโทรศัพท์ และการพัฒนาระบบสมาร์ทฟาร์ม คือ จะมีเซ็นเซอร์วัดความชื้น เซ็นเซอร์วัดลม ควบคุมอุณหภูมิ อะไรพวกนี้ ถ้าสามารถมาประยุกต์ใช้ปรับใช้ภายในฟาร์มได้ ซึ่งทุกวันนี้ก็เริ่มทำกันเยอะแล้ว แต่ยังมีราคาแพง ซึ่งตนเองอยากจะพัฒนาให้มันดีขึ้น เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรใช้งานได้จริง เข้าใจง่ายๆ เข้าถึง ราคาไม่แพง การได้มาสานต่องานจากคุณพ่อก็รู้สึกหนักใจ กลัวว่างานด้านอุปกรณ์แบบที่เป็นอยู่อาจจะถึงจุดอิ่มตัว ก็อยากมองหาทางเลือกอื่นๆ
อย่างที่เคยบอกไป อยากจะทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์ หรือเป็นผู้ผลิต ผลิตเอง ตัดแต่งและส่งออกเอง ในอนาคตมันก็อาจจะเป็นทางเลือกมากกว่า ทุกวันนี้วงการปศุสัตว์เปลี่ยนไปเยอะ ผู้เลี้ยงก็มาขายอุปกรณ์เอง ผู้ขายอุปกรณ์ก็หันมาเป็นผู้เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็น ไก่ไข่ ไก่เนื้อ สุกร เพื่อหาทางอยู่รอด หรือช่องทางทำมาหากิน ในแง่ของการพัฒนา ก็ถือว่าดีครับ คนในวงการปศุสัตว์เก่งขึ้นหลายแบบ เลี้ยงเป็น ทำอุปกรณ์เป็น ต่อไปอนาคตข้างหน้า 10 ปี 20 ปี ก็ไม่รู้ว่าจะออกมาภาพไหน คุณธีรโชติให้ความเห็น
ในตอนท้าย คุณแดงน้อย ได้ฉายมุมมองของวงการปศุสัตว์ไทยในปัจจุบันไว้อย่างน่าสนใจ โดยบอกว่าชั่วโมงนี้วงการปศุสัตว์เรามันไม่ชัดเจนในเรื่องการส่งออก เพราะประสิทธิภาพของคนบ้านเราสามารถผลิตได้เยอะขึ้น เก่งขึ้น จนแข่งขันราคากันเอง ทำให้ราคาตกต่ำ ผมอยากขอวิงวอนให้ภาครัฐลงมาดูแล มาช่วยงานขาย ช่วยผลักดันในการส่งออก เพราะผมเชื่อว่าในโลกนี้ยังมีอีกหลายประเทศมาก ที่เขามีองค์ประกอบ พร้อมเรื่องอื่นๆ มีเงิน มีทอง แต่เค้าไม่มีอาหารโปรตีนแบบเราๆ ด้วยสภาพแวดล้อม เขาทำไม่ได้ ถ้าภาครัฐมองเรื่องนี้ และทำอย่างจริงจัง คงจะช่วยเกษตรกรไทยได้อีกเยอะ
ฝากถึงเกษตรกร และเพื่อนๆ ชาวปศุสัตว์
คนที่เลี้ยงสัตว์หรือทำการเกษตรทุกอย่าง ที่ในบ้านเราประสบปัญหาอยู่ทุกวันนี้หลายๆ เรื่อง ทั้งเรื่องราคาผลผลิตตกต่ำ อยากขอให้เกษตรกรอดทน เพราะว่าผมคิดว่าทุกอาชีพมันก็มีขึ้นๆ ลงๆ ขอให้ยังมีความหวังในเรื่องการค้า เพราะว่าผมก็ทำธุรกิจอยู่ในวงการค้าเช่นกัน พวกเราเป็นเพียงเกษตรกรตัวเล็กๆ เหมือนกัน ที่จะต้องพึ่งพาภาครัฐที่ใหญ่กว่าช่วยส่งเสริม ให้ราคาสินค้าภาคเกษตร ไม่ว่าจะเป็นพืชหรือสัตว์ ให้มีราคาดี ที่สำคัญเพราะเป็นอาชีพของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศเรา ถ้าคนส่วนใหญ่ของประเทศมีเงิน เศรษฐกิจประเทศก็ดีขึ้นแน่นอน
1.ให้อดทน และพึ่งพาตนเองให้ได้
2.คิดเรื่องหาช่องทางที่จะมา Support ในสิ่งที่เราทำอยู่ให้มันดีขึ้น พัฒนาให้มันมีประสิทธิภาพ ได้ปริมาณมากขึ้น แปรรูปสินค้าให้เป็น อยากให้ทุกครัวเรือน ทุกอาชีพ ต่อยอดสินค้าของตัวเองให้ได้ ทำโปรดักส์ สร้างแบนเนอร์ ภาครัฐจะได้เข้ามาส่งเสริมได้ง่ายขึ้น
นี่คือ “บทบาท” ของแทนไทย เฟิร์สเทคฯ ที่แหลมคม เรื่องโรงเรือน และอุปกรณ์อีแวป ในการเลี้ยงสัตว์เชิงอุตสาหกรรม ที่ได้รับความไว้วางใจจากคนในวงการ
บริษัท แทนไทย เฟิร์สเทค จำกัด 110/97 ม.6 ถ.สุขสวัสดิ์ ต.บางจาก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ 10130