แม้จะผ่านพ้นเดือนแห่งความรักไปแล้ว แต่ทางเรา “นิตยสารสัตว์บก” ก็มีเรื่องของความรักที่เกิดขึ้นจากความรักที่ผู้เลี้ยงมีต่อไก่ส่งต่อถึงไข่ และส่งต่อไปยังผู้บริโภค เป็นเรื่องราวของความรัก ความตั้งใจ ความอยากพัฒนา และความดูแลเอาใจใส่ในทุกๆ ขั้นตอนผสมอยู่ในไข่ไก่ทุกๆ ฟองโดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง และเดินทางตามศาสตร์พระราชา โดยนำความรู้ทางด้านอินทรีย์มาปรับใช้ในฟาร์ม จนกลายมาเป็น “ ไข่ไก่ปลอดสาร ”
การเลี้ยงไก่ไข่
คุณบี หรือ “ภานุวัฒน์ น้อยแก้ว” เจ้าของฟาร์มไก่ไข่ออแกนิค “บีอินดี้ คันทรีฟาร์ม” เกษตรกรรุ่นใหม่ไฟแรงที่อยากจะสานต่ออาชีพเกษตรกร คุณบีได้เล่าถึงที่มาที่ไปให้ฟังว่า ตอนยังเด็กมีคนมาเช่าที่ของคุณยายทำฟาร์มไก่ไข่ เลยได้เห็นอาชีพนี้ตั้งแต่เด็กจนโต ในวันที่เรียนจบจึงอยากกลับมาอยู่บ้านทำการเกษตร ประจวบกับตอนกำลังเรียนจบคนที่เช่าที่ใกล้จะหมดสัญญาพอดี จึงได้เซ้งกิจการนี้ต่อ และได้มาเลี้ยงไก่ไข่กับคุณพ่ออยู่สองปี พอแต่งงานคุณพ่อก็ยกกิจการให้ และได้เริ่มเลี้ยงกันเองกับแฟน 2 คน หลังแรกที่เลี้ยงมีแม่ไก่ 3,000 ตัว จนปัจจุบันตอนนี้มีแม่ไก่ 6,000 ตัว
“แต่ก็มาเจอยุคเศรษฐกิจที่ไข่ไก่กำลังแย่ ราคาไข่ขาดทุน ขายไข่ไม่ได้กำไร ต้นทุนสูง เคยคุยกับแฟนว่าอายุยังน้อยหรือเราจะเลิกอาชีพนี้ แล้วไปทำงานดี แต่ก็รักอาชีพนี้ไปแล้ว รักในสิ่งที่ทำ เลยเริ่มเดินหน้าต่ออย่างเต็มที่”
เนื่องจากคุณบีอยากผลิตไข่ไก่ที่มีคุณภาพปลอดสารให้คนในครอบครัวได้ทาน จึงได้ขอคำปรึกษากับทางสัตวแพทย์ และสัตวบาล แล้วทำการศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติม และทำการทดลองนำไข่ไก่ไปตรวจสอบหายาปฏิชีวนะ ผลที่ได้คือ ไข่ไก่ที่ได้นั้นปลอดภัย หลังจากนั้น 1 ปี ก็หยุดการใช้ยาทั้งฟาร์ม จึงได้มาเป็น ไข่ไก่ปลอดสาร แต่ทางฟาร์มก็ยังมีการทดลองและพัฒนามาเรื่อยๆ
สภาพพื้นที่เลี้ยงไก่ไข่
ต่อมา…จึงได้เริ่มขยายฟาร์มเพื่อหาจุดคุ้มทุน เริ่มสร้าง Fanpage สร้างตัวตนขึ้นมาทางอินเตอร์เน็ต เพื่อจะได้ออกไปเจอกับผู้ค้า ไปเจอกับผู้บริโภค ไปเรียนรู้ว่าผู้บริโภคต้องการอะไร จากการกินไข่ไก่ 1 ฟอง และได้พบว่าผู้บริโภคต้องการไข่ไก่ที่มีคุณภาพ ปราศจากยาปฏิชีวนะ
ไก่ที่เลี้ยงจะเป็นพันธุ์โรมันบราวน์ ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ทนความร้อนได้ดี เหมาะกับสภาพอากาศบ้านเรา และให้สีเปลือกไข่น้ำตาลมันเงา โดยซื้อแม่ไก่สาวมาจากหลายๆ ที่ แล้วเลี้ยงต่อประมาณ 1 เดือน ก็จะให้ไข่
ทางฟาร์มเลี้ยงด้วยระบบความยั่งยืน คือ การยั่งยืนด้วยสิ่งแวดล้อม และระบบนิเวศ ซึ่งจะไม่ทำอะไรที่บิดเบือนสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศในท้องถิ่น โดยเลี้ยงไก่ข้างบน แล้วมีบ่อปลา บ่อกุ้ง และบ่อชำลูกปลา ข้างล่าง “เราอยู่ในพื้นที่ราบลุ่ม เรามีน้ำเป็นวัฎจักรใหญ่ เราเลี้ยงไก่ข้างบน เลี้ยงปลาข้างล่าง ตามศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” คุณบีเปิดเผย
ส่วนใหญ่จะเคยเห็นเกษตรกรเลี้ยงในกรงตับ 2-3 ตัว แต่คุณบีปรับมาเลี้ยงในกรงละตัวเพื่อให้เหมาะสมมากที่สุด ให้แม่ไก่อยู่สบายมากที่สุด แล้วดูอัตราการตาย และอัตราการให้ไข่ ผลที่ได้คือ อัตราการให้ไข่เฉลี่ยอยู่ที่ 90% และอัตราการตายน้อยมาก แสดงให้เห็นว่าแม่ไก่อยู่ในสภาวะที่เหมาะสม
“เราเลี้ยงไก่ไข่ เราก็ต้องการให้ไข่ไก่ที่ปลายทางได้รับนั้นสมบูรณ์ตามธรรมชาติที่ควรจะเป็น ถ้าทานไข่แล้วต้องการแค่โปรตีนอย่างเดียวก็ได้ แต่เราต้องการให้ผู้บริโภคได้รับวิตามิน และสิ่งที่ดีที่สุด เราจึงเลี้ยงแม่ไก่ให้มีสุขภาพดีจากภายในแล้วส่งผลที่ดีต่อไข่ และส่งต่อไปถึงผู้บริโภค”
การให้อาหารไก่ไข่
อาหารที่ใช้ทางฟาร์มมีสูตรอาหารโดยพื้นฐานอยู่แล้ว และเพิ่มวัตถุดิบบางอย่างเพื่อให้เกิดความสมดุล จึงได้ทำ OEM ร่วมกับบริษัทอุตสาหกรรมอาหาร “ไทยทำดี” และ “ร่วมมิตร” ที่เลือกทำกับอุตสาหกรรมอาหารเพราะว่าวัตถุดิบที่นำมาใช้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ มีที่มาที่ชัดเจน โดยสูตรอาหารที่ได้ต้องขอบคุณ “ทีมนิวทริชั่น” และ “อาจารย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์” ที่ช่วยดูแลแนะนำ
ในสูตรอาหารจะปลอดสารปฏิชีวนะ ปลอดสารเร่งสีในไข่แดง และปลอดสารเร่งฮอร์โมน แต่จะเสริมในส่วนของจุลินทรีย์ และสมุนไพรไทยกว่า 20 ชนิด เพื่อเป็นการกระตุ้นภูมิ และสร้างภูมิคุ้มกัน
การบริหารจัดการฟาร์มไก่ไข่
การทำ ไข่ไก่ปลอดสาร เรื่องความสะอาดต้องมาอันดับแรก น้ำ อาหาร ต้องสะอาด ปลอดภัย รางน้ำ รางอาหาร ต้องทำให้สะอาดไม่ให้เกิดเชื้อรา ฟาร์มจะแยกสัตว์ป่วยออกจากเล้าเพื่อนำไปดูแลรักษาแยกข้างนอก เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ และเปิดเพลงคันทรีให้แม่ไก่ฟัง เพื่อให้แม่ไก่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลาย ไม่ให้แม่ไก่เครียด
ส่วนการพักเล้าจะพัก 1 เดือน ตามที่กรมปศุสัตว์บอก เพื่อที่จะได้จัดการเรื่องสิ่งแวดล้อม สิ่งสกปรก ดูแลทำความสะอาด จัดการตรวจเช็คอุปกรณ์ภายเล้าให้เรียบร้อย
ด้านตลาดและช่องทางจำหน่ายไข่ไก่
ในส่วนของการตลาดจะส่งขายให้ Tops 48 สาขา ทั้งเดอะมอลล์ เซ็นทรัล และร้านอาหาร ในราคาแพ็คละ 85 บาท มี 10 ฟอง ในนามของแบรนด์ตัวเอง “บีอินดี้ คันทรีฟาร์ม”
การบำรุงดูแลไก่ไข่
หากพูดถึงสภาพอากาศ ส่วนมากจะมีผลในช่วงหน้าร้อน จะทำให้ไก่กินได้น้อยลง ก็ต้องมาปรับช่วงเวลาการให้อาหาร ปกติทางฟาร์มจะให้อาหารตอนเช้าช่วงตี 5 ช่วงบ่ายจะให้ตอนบ่ายสอง เป็นเวลาเดิมก็ไม่ได้ เพราะไก่จะกำลังคลายความร้อน จะไม่ค่อยกินอาหาร จะปรับมาให้ช่วง 6 โมงเย็น และติดสปริงเกลอร์ให้รดน้ำบนหลังคาโรงเรือนเพื่อช่วยลดอุณหภูมิ
เมื่อถามถึงแผนงาน คุณบีเผยว่า ทางฟาร์มได้วางแผนเรื่องการปรับปรุงคุณภาพแม่ไก่ตอนไก่แก่ให้มีมูลค่ามากขึ้น เมื่อแม่ไก่อายุเยอะ เราจะปรับสูตรอาหารโดยการเพิ่มสมุนไพรในอาหารไก่แก่ ให้ไก่แก่มีคุณภาพที่ดีก่อนปลด เพื่อขายไก่แก่ให้มีราคาดีกว่าไก่บ้านธรรมดา
ฝากถึงผู้บริโภค ไข่ไก่ปลอดสาร
“อยากให้ลองเปิดใจทานไข่ไก่จากเกษตรกรบ้านเรา เพราะทุกวันนี้เกษตรกรก็กำลังพัฒนาแนวทางเพื่อให้สิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค ฟาร์มไก่ไข่ในประเทศไทยก็มีดีไม่น้อยกว่าประเทศญี่ปุ่น สมุนไพรไทยแม่ไก่กินได้ดีกว่าของญี่ปุ่นแน่นอน อยากให้ผู้บริโภคลองอุดหนุนของเกษตรกรไทย ไข่ไก่เราสามารถทานสดได้ กินดิบได้ และทำเมนูอื่นได้อร่อยทุกเมนูแน่นอน” คุณบีได้ฝากทิ้งท้ายถึงผู้บริโภค
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณภานุวัฒน์ น้อยแก้ว (บี) 82/2 เขตเทศบาลเมืองสองพี่น้อง ถ.ราษฎร์อุทิศ ต.สองพี่น้อง อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี 72110 โทรศัพท์ 063-956-9478, 086-397-4594 Facebook Fanpage ไข่ไก่ปลอดสาร Beindy Country Farm
อ้างอิง : นิตยสารสัตว์บก ฉบับที่ 324