พิสูจน์ชัด…
ไคโตซาน และ สมุนไพร
ทดแทน…สารเร่งเนื้อแดง
เมื่อ “มะเร็ง” กลายเป็นภัยเงียบที่เข่นฆ่าชีวิตมนุษย์ปีละหลายล้านคน
องค์การอนามัยโลกจึงใส่ใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ
ต้นเหตุแห่งการเป็นโรคมะเร็งมีหลายอย่าง หนึ่งในนั้น คือ “อาหาร” ที่มนุษย์ต้องบริโภค
ในประเทศไทยมีคนไทยเชื้อสายจีนชอบบริโภคเนื้อหมูและเครื่องในหมู ปรากฎว่าพออายุมากขึ้นมะเร็งถามหา บางคนเป็นโรคหลอดเลือด
ที่เป็นเช่นนี้เพราะการเลี้ยงหมูในไทย ผู้เลี้ยงได้ใส่สารเร่งเนื้อแดงหรือสารเบต้า-อะโกนิสต์ ซึ่งเป็นยาที่ช่วยขยายหลอดลม ช่วยกระตุ้นการเต้นของหัวใจ ช่วยให้กล้ามเนื้อมดลูกคลายตัว และเพิ่มการสลายตัวไขมันที่สะสมในร่างกาย เป็นต้น
เมื่อคนกินเนื้อหมู/เครื่องในหมู จึงเกิดโรคหลายอย่าง เช่น มะเร็ง โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และไฮเปอร์ไทรอยด์ เป็นต้น
เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ร้อนถึงรัฐบาล วันที่ 21 เมษายน 2546 นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รมต.สาธารณสุข ออกประกาศ ฉบับที่ 269 ห้ามใช้สารเร่งเนื้อแดง
ประกาศฉบับนี้ได้ผลในระดับหนึ่ง หลายฟาร์มเลิกใช้สารเร่งเนื้อแดง ขณะที่หลายๆ ฟาร์มก็ยังใช้ตามปกติ
แต่น่าสนใจ คือ เกิดนักพัฒนาสายพันธุ์สุกรที่ให้เนื้อแดงเยอะ ไขมันน้อย เกิดการใช้สารชีวภัณฑ์ เช่น สารไคโตซาน และ สมุนไพร มาใช้ร่วมกับอาหารสัตว์ ทำให้หมูมีเนื้อแดงมากขึ้น
นอกจากนี้ หมออยุทธ์ หรินทรานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ ได้เอาจริงกับการหยุดสารเลนดอลด้วยการเอาชุดตรวจหาสารเร่ง TEST KIT พิสูจน์ในจีนปลายปี 57 ปรากฏว่าผลการตรวจแม่นและไว จึงได้นำมาตรวจสอบการใช้สารเลนดอลหรือเบต้าอะโกนิสต์ หรือสารเร่งเนื้อแดงในตะวันออก หรือเขต 2 อย่างได้ผล จากนั้นก็นำมาขยายผลในเขต 7 (นครปฐม-ราชบุรี) ภายใต้ความร่วมมือของสมาคมและสหกรณ์ผู้เลี้ยงสุกรทั้ง 2 จังหวัด นอกจากนี้ “สมาคมสัตวแพทย์ควบคุมฟาร์มสุกรไทย” ยังได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการตรวจสอบฟาร์มต่างๆ ว่าใช้สารเร่งเนื้อแดงหรือไม่ เช่นเดียวกับ “สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ” ที่เดินหน้าหยุดสารเร่งเนื้อแดงอย่างจริงจังและต่อเนื่อง แต่องค์กรผู้เลี้ยงสุกรที่ปลุกสมาชิกให้เลี้ยงหมูอนามัยปลอดสารเร่งเนื้อแดง คือ “สหกรณ์การเกษตรกรปศุสัตว์ ราชบุรี” อันมี น.สพ.วิวัฒน์ พงศ์วิวัฒนชัย เป็นประธาน มีผลงานเป็นรูปธรรมทางธุรกิจอย่างชัดเจน
การเลี้ยงหมูโดยไม่ต้องใช้สารเร่งเนื้อแดงมีหลากหลายวิธี หลายรายประสบความสำเร็จอย่างงดงาม
เช่น คุณสุรสี สืบหล้า โทร.089-705-0687 เจ้าของสุรสีห์ฟาร์ม ผู้เลี้ยงหมูอิสระรายใหญ่ (ขึ้นหน้าปกสัตว์บก ฉบับที่ 251 เดือนมีนาคม 57) ได้ใช้ “ไคโตซานกุ้งทอง โทร 089-792-9719 ” ของเยอรมัน ผสมอาหารและน้ำให้หมูกิน ปรากฎว่าผิวและซากสวย ขายได้ราคา
เช่นเดียวกับ คุณประกิจ ยี่หวาวงศ์ เจ้าของประกิจฟาร์ม (โทร.08-5419-3992) เลี้ยงหมูด้วยสูตรอาหารสมุนไพร ENCAP ของ ดร.มานิจ วิบูลย์พันธุ์ ทำให้หมูมีสุขภาพดีมาก เช่นเดียวกับ SC ฟาร์ม ของ คุณเฉลียว สาขามณี ใช้สมุนไพร ENCAP เลี้ยงแล้วได้ผลดีเยี่ยม (ขึ้นปกสัตว์บก เดือนเมษายน 58) โทร.08-1378-3124
จากตัวอย่างทั้งหมดเห็นได้ว่าประเทศไทยโดยคนในวงการสุกรไทยไม่จำเป็นต้องใช้สารเร่งเนื้อแดงในการเลี้ยงสุกรหรือปศุสัตว์ต่างๆ เพราะมีสารชีวภัณฑ์ เช่น ไคโตซาน สมุนไพร และอาหารอีกหลายอย่างที่ใช้เลี้ยงสุกรแล้วให้เนื้อแดงเยอะ หมูมีภูมิคุ้มกัน มีสุขอนามัยที่ดี ซึ่งเรื่องนี้นิตยสารสัตว์บกจะนำเสนออย่างต่อเนื่อง
tags: ไคโตซาน สมุนไพร ENCAP เลี้ยงหมู การเลี้ยงหมูขุน วิธีการเลี้ยงหมู สารเร่งเนื้อแดง ไคโตซาน สมุนไพร ENCAP เลี้ยงหมู การเลี้ยงหมูขุน วิธีการเลี้ยงหมู ไคโตซาน
[wpdevart_like_box profile_id=”1414452475453135″ connections=”show” width=”300″ height=”220″ header=”big” cover_photo=”show” locale=”th_TH”]