การปลูกพริกไทย
คุณประโยชน์ ทองสร้อย ชาวสวนพริกไทย ตำบลแก่งหางแมว อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี ซึ่งเดิมทีเป็นคนจังหวัดชลบุรี ได้ย้ายมาอยู่ที่จันท์ตั้งแต่ตนอายุประมาณ 11-12 ปี ปัจจุบันอายุ 55 ปี เดิมประกอบอาชีพทำไร่มันสำปะหลัง แล้วหันมาปลูกสวนทุเรียน เงาะ ทำสวนแบบผสมผสาน เนื้อที่ส่วนหนึ่งได้แบ่งปลูกพริกไทยเพื่อจำหน่ายจำนวน 3 ไร่ เป็นสวนดั้งเดิม อายุต้นพริกไทยประมาณ 10 กว่าปี
โดยเน้นใช้ค้างเสาปูนซีเมนต์จำนวน 1,000 ค้าง ปลูกต้นพันธุ์พริกไทยจำนวน 2 ต้น/หลักปูน ใช้ต้นพันธุ์พริกไทย 2,000 ต้น เพราะการใช้หลักปูนนั้นสามารถหาซื้อได้ง่าย และลดต้นทุนได้มากกว่าการใช้หลักไม้ เม็ดเงินใช้ในการลงทุนครั้งแรกเฉลี่ยประมาณหลักละ 500 บาท แม้เป็นการลงทุนที่สูง แต่มีแนวโน้มของตลาดที่ดีมาก สามารถคืนทุนได้ไม่นาน เพราะต้นพริกไทยเจริญเติบโตตั้งตัวได้เร็ว ประหยัดการให้น้ำ การดูแลรักษาง่ายกว่าพืชอื่น
พริกไทยดำ และ พริกไทยขาว
“พริกไทย” ราชาแห่งเครื่องเทศ ที่มีรสชาติเป็นเลิศในการใช้ปรุงอาหารให้มีความเผ็ดร้อน มีกลิ่นหอม ที่ใครรับประทานแล้วต้องติดใจ จนถูกขนานนามให้เป็น “King of spices” จัดได้ว่ามีความสำคัญทางเศรษฐกิจ และจำเป็นสำหรับชีวิตประจำวันของคนไทยมาช้านานในการประกอบอาหาร และใช้เป็นเครื่องเทศปรุงรสชาติอาหาร ช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ ส่วนประกอบของเครื่องแกงต่างๆ ถนอมอาหารทำให้มีความความอบอวล น่ารับประทานยิ่งขึ้น และยังเป็นยาสมุนไพร
พริกไทยดำจะมีสรรพคุณทางยาที่มากกว่าพริกไทยล่อน หรือพริกไทยขาว ทุกส่วนของพริกไทยนั้นสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายรูปแบบ ซึ่งถ้าทำแห้งทั้งเปลือกจะได้พริกไทยดำ เนื่องจากเปลือกเมื่อทำให้แห้งจะมีสีดำ
ส่วนพริกไทยขาวได้จากการลอกเปลือกออกก่อนการใช้ประกอบอาหาร ผลแห้งป่นเป็นผง เรียกว่า พริกไทยป่น เจริญเติบโตได้ดีในประเทศเขตร้อน เช่น ประเทศบราซิล หมู่เกาะอินเดียตะวันตก ประเทศไต้หวัน มาเลเซีย และนิยมปลูกมากในจังหวัดจันทบุรีของประเทศไทย
เป็นพืชตระกูลเดียวกับ ดีปลี ชะพลู และพลู ชอบอากาศร้อนชื้น ระบายน้ำได้ดี ไม่ชอบที่ลุ่มน้ำขัง ลำต้นมีลักษณะเป็นเถาเลื้อยยืนต้น ต้องอาศัยค้างในการพยุงและยึดเกาะลำต้น โดยใช้รากขนาดเล็กที่เกิดตามข้อปล้องที่เรียกว่า“มือตุ๊กแก”นั่นเอง
สายพันธุ์พริกไทย
ทีมงาน นิตยสารเมืองไม้ผลและพืชสุขภาพ ได้ลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับเกษตรกร จนทราบว่าพันธุ์ที่ชาวสวนพริกไทยจังหวัดจันทบุรีนิยมกันปลูกมาก คือ “พันธุ์ซาราวัค” หรือ“พันธุ์คุชซิ่ง” หรือเรียกว่า “พันธุ์มาเลเซีย” นั่นเอง ซึ่งเป็นพันธุ์ที่นำมาจากรัฐซาราวัค ประเทศมาเลเซีย สามารถต้านทานโรครากเน่าได้ดีกว่าพันธุ์จันทบุรีที่ปลูกอยู่แต่เดิม เป็นพันธุ์ที่เหมาะสำหรับนำไปทำพริกไทยดำ และพริกไทยขาว เจริญเติบโตได้เร็ว และให้ผลผลิตสูง 2 ปี ก็สามารถคืนทุนได้
การเก็บเกี่ยวผลผลิตพริกไทย
แต่สำหรับผลผลิตพริกไทยนั้นจะเก็บเรื่อยๆ จะไม่เน้นเก็บเป็นพริกไทยดำ หรือพริกไทยขาว จะเก็บขายไปเรื่อยๆ เป็นพริกไทยอ่อน พอพริกจะสุกก็จะเก็บทำพริกไทยดำ หรือเน้นที่ราคาตลาดเป็นหลักเช่นกันโดยจะมีพ่อค้าคนกลางเข้ามารับซื้อผลผลิตถึงสวน
“เรามีพื้นที่ก็ควรปลูกพืชที่สามารถดูแลจัดการได้ง่ายๆ ทนต่อโรค เพื่อเป็นการลดต้นทุนในการจัดการผลผลิต แบ่งปลูกหลายๆ พืช หลายๆ ชนิด เพื่อจะได้มีรายได้ที่ต่อเนื่อง สม่ำเสมอ ไม่ใช่มีรายได้มาจากพืชชนิดเดียวเท่านั้น” คุณประโยชน์ยืนยัน
ราคาขายผลผลิตพริกไทย
ถือเป็นพืชที่สร้างรายได้ที่ดีให้กับชาวสวน ทั้งเรื่องราคา และผลผลิตที่ออกมาในปริมาณที่สูงต่อการเก็บเกี่ยว“จะเน้นที่ราคาตลาดเป็นหลักว่าราคาพริกสด หรือแห้ง ราคาดีกว่ากัน
ถ้าเป็นพริกอ่อนผลผลิตที่ได้โดยประมาณจะอยู่ที่ 10 กว่าตัน ถ้าทำแห้งจะได้ประมาณ 3-4 ตัน อีกอย่างพริกไทยราคาแต่ก่อนสูงถึงกิโลกรัมละ 450-500 บาท แต่ปัจจุบันราคาเหลือแค่กิโลกรัมละ 150-180 บาท ทำให้หลายสวนหันไปปลูกพืชอื่นแทน” คุณประโยชน์ให้ความเห็นเรื่องการทำพริกไทย
การบริหารจัดการสวนพริกไทย
การปลูกพริกไทย โดยเริ่มแรกจะต้องเตรียมพรวนดินเพื่อให้พร้อมต่อการปลูก จากนั้นติดตั้งวางระบบน้ำแบบ “สปริงเกลอร์” ขุดหลุมทำค้างปูนซีเมนต์ ฝังลึกประมาณ 50-60 เซนติเมตร กลบดินฝังให้แน่น จากนั้นปลูกในระยะห่างประมาณ 2 เมตร 20 เซนติเมตร ค้างละ2 หลุม ความลึกประมาณคอถุงต้นพันธุ์พริกไทยเท่านั้น
ห่างจากโคนประมาณ 10-15 เซนติเมตรให้ปลายยอดเอนเข้าหาค้าง กลบดินให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม และพรางแสงด้วยสแลน ประมาณ 1-2 เดือน หรือจนกว่าต้นพริกไทยจะตั้งตัวได้ ในแต่ละค้างจะไว้ยอดที่สมบูรณ์แค่เพียง 4 ยอด และจะใช้เชือกฟางในการผูกรัดยอดให้ติดกับค้าง การให้น้ำจะให้ประมาณ 3-4 วันครั้ง หรืออาทิตย์ละครั้ง
เพื่อให้ตรงตามความเหมาะสมของดิน และตามสภาพดินฟ้าอากาศ การใส่ปุ๋ยนั้นจะใส่ปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ 15-15-15 หรือ 16-16-16 โดยจะใส่ประมาณปีละ 1-2 ครั้ง เริ่มเก็บผลผลิตได้หลังจากที่ปลูกประมาณ 1 ปี การปลูกพริกไทย นั้นในปีที่ 2 ก็สามารถคืนทุนที่ลงทุนไปในครั้งแรกได้
การป้องกันกำจัดโรค-แมลง และศัตรูพืช พริกไทย
แม้ศัตรูพืชที่สำคัญของพริกไทยจะเป็นโรครากเน่า และโคนเน่า ส่วนใหญ่มีปัจจัยมาจากเชื้อรา Phytophthora parasitica รวมทั้งสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม และความอ่อนแอของต้นพริกไทย การที่จะลดความเสียหายจากโรคก็ต้องเริ่มจากการเลือกพื้นที่ปลูก การเตรียมดิน แปลงปลูก และสภาพอากาศ ของแหล่งปลูกที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของพริกไทย
และการปรับสภาพพื้นที่ปลูกไม่ให้เหมาะสมกับการเจริญพัฒนาของเชื้อสาเหตุโรค เช่น แปลงปลูกพริกไทยจะต้องเป็นพื้นที่ที่มีการระบายน้ำได้ดี ไม่ชื้นแฉะ หรือเป็นแอ่งน้ำ หากพบดินเป็นกรดควรปรับด้วยปูนขาว หรือปูนโดโลไมท์ เพื่อให้ความเป็นกรดน้อยลง ปรับปรุงดินด้วยอินทรียวัตถุ โดยการใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อให้ดินและรากพืชสามารถดูดแร่ธาตุสารอาหารนำไปใช้ได้ดี ตัดแต่งกิ่ง หรือแขนง ตามบริเวณโคนต้นออกให้โปร่ง เพื่อลดความชื้น และให้มีอากาศถ่ายเทได้สะดวกดีขึ้น
ปัญหาและอุปสรรคใน การปลูกพริกไทย
นอกจากนี้คุณประโยชน์ยังได้เผยถึงปัญหาและอุปสรรคใน การปลูกพริกไทย ด้วยว่า ต้นทุนในการผลิตสูง โดยเฉพาะค่าแรงงานในการเก็บเกี่ยวพริกไทยในราคา 10 บาท/กิโลกรัม และค่าเสาค้าง ทำให้ไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตให้สูงขึ้นได้ ประกอบกับการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าเพิ่มมีจำกัด และปริมาณที่น้อย
เนื่องจากวัตถุดิบไม่เพียงพอ และต้นทุนสูง อีกทั้งราคาพริกไทยไม่มีเสถียรภาพ ขึ้นอยู่กับกลไกราคาตลาดเป็นหลัก ทำให้ชาวสวนหลายๆ สวนหันไปปลูกพืชอื่นเพื่อทดแทนพริกไทย ประกอบกับเมื่อประมาณ 5-6 ปี ที่ผ่านมาประสบกับปัญหาอากาศแปรปรวน ฝนตกสลับร้อน
ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกพริกไทยขาย หลังเกิดโรคเชื้อราดำที่ใบ และโรคเชื้อราขาวที่ก้านของพริกไทยระบาดหนัก ทำให้ต้นพริกไทยมีอาการใบเหลือง ใบร่วง เหลือแต่ก้าน ผลผลิตลดลง รักษาด้วยสารเคมีก็ไม่มียาตัวไหนที่สามารถหยุดอาการโรคได้ ต้องใช้ยาฉีดพ่น แต่หยุดยั้งได้แค่ชั่วคราว ทำให้พริกไทยค่อยๆ ตายลงไปเรื่อยๆ จนปัจจุบันเหลือเพียง 1,000 ค้าง เท่านั้น และต้องรีบเก็บพริกไทยขายก่อนกำหนด
การปลูกทุเรียนแซมระหว่างร่อง พริกไทย
ในพื้นที่ห่างระหว่างร่องสวนพริกไทยคุณประโยชน์ได้ปลูกทุเรียนพันธุ์ “หมอนทอง” ไว้ทดแทน พริกไทย “รอให้ต้นทุเรียนโตก็จะรื้อ พริกไทย ทิ้ง เนื่องจากราคาที่ตกต่ำ ค่าแรงในการเก็บเกี่ยวสูง และโรคระบาดรักษาไม่หาย จึงทำให้ปลูกทุเรียนเพื่อทดแทน พริกไทย
แต่ถ้ามียาที่ช่วยให้โรคระบาดที่เป็นหาย ก็จะปลูก พริกไทย ต่อไป เพราะ พริกไทย นั้นดูแลง่าย จ้างคนงานเก็บเกี่ยวให้น้อยลง เน้นทำเองเป็นหลัก ก็สามารถอยู่ได้แล้ว” คุณประโยชน์กล่าวถึงการปลูกพืชอื่นทดแทน พริกไทย
สอบถามเรื่อง การปลูกพริกไทย ติดต่อ คุณประโยชน์ ทองสร้อย 74/1หมู่ที่ 10 ต.แก่งหางแมว อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี 22160 โทร.086-084-3932