เมื่อพูดถึงกาแฟ “จันทบูร” หรืออีกชื่อหนึ่งที่ตั้งขึ้นมาใหม่หมาดๆ ที่ชื่อว่า กาแฟ “บุญย์บรรจบ” ซึ่งเป็นชื่อที่ตั้งขึ้นโดยเอาชื่อมารวมกันของสองท่าน คือ “อ.บุญย์ บางเขน” เจ้าของกิจการร้านค้า “คลังเกษตรบางเขน” ที่มีแฟนคลับให้ความนิยมทางด้านผลิตภัณฑ์การเกษตรที่มีคุณภาพทุกพื้นที่ในจังหวัดจันทบุรี กาแฟจันทบูร
อีกท่านหนึ่ง คือ “คุณบรรจบ กวางติ๊ด” ผู้ริเริ่มปลูกกาแฟ “จันทบูร” เป็นคนแรกของจังหวัดจันทบุรีเมื่อ 4 ปีที่แล้ว พร้อมกันนั้นก็ได้รับความเห็นชอบจาก “คุณนพัทธ์ ฐิติโชติพงษ์” หรือ “คุณต้น” เจ้าของ “บริษัท ต้นกล้าคอร์เปอร์เรชั่น จำกัด” ซึ่งถือว่าเป็นบริษัทฯ แม่ที่คุณต้นริเริ่มดำเนินกิจการกาแฟมาตั้งแต่ยังหนุ่มแน่น การก้าวเข้ามาในวงการกาแฟโดยความชอบที่มีอยู่แล้ว ซึ่งเกิดขึ้นจากผู้เป็นพ่อที่ปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก
การสร้างแฟรนไชส์ Zeroco Coffee
ปัจจุบันเขาได้บริหารจัดการจนผลผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดในประเทศ จนถึงได้รวมตัวกันเป็นพันธมิตรทำธุรกิจเปิดสาขา “แฟรนไชส์ Zeroco Coffee” ที่ขณะนี้กำลังได้รับความสนใจขยายสาขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งพลังเกษตรจะนำเสนอให้รับทราบต่อไปในช่วงท้าย ส่วนทางด้านการตลาดต่างประเทศก็จัดอยู่ในลำดับคิวที่รอกันอย่างยาวเหยียดของประเทศในแถบอาหรับ ที่ลูกค้านำไปดื่มเพื่อช่วยแก้ความหิวกระหายจนสามารถสร้างความประทับใจได้อย่างลงตัว
จากความเห็นที่ตรงกันของทั้งสามท่านว่าควรเปลี่ยนชื่อจากกาแฟ “จันทบูร” มาเป็นชื่อกาแฟ “บุญย์บรรจบ” ซึ่งเป็นกาแฟที่ทราบกันดีว่ามีความหอมละมุน มีรสชาติมันนุ่มลึกในลำคอที่แตกต่างไม่เหมือนใคร แรกเริ่มเดิมที กาแฟสายพันธุ์นี้คนในวงการกาแฟเข้าใจว่าเหมาะต่อการปลูกและเจริญเติบโตได้ดีที่ภาคเหนือเท่านั้น
แต่ปัจจุบันกาแฟ “บุญย์บรรจบ (จันทบูร)” คือ กาแฟที่ฉีกกฎทุกความประทับใจของกาแฟโดยทั่วไปอย่างแท้จริง เอาหละ…พลังเกษตรจะพาท่านไปลงลึกทางด้านสายพันธุ์ว่าเป็นกาแฟสายพันธุ์อะไร และมาจากไหน กาแฟบุญย์บรรจบหรือ กาแฟจันทบูร เป็นกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้า “เบอร์บอน” (C.arabica Var.bourbon) ที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์มาจากกาแฟ “ทริปิก้า” ซึ่งมีลักษณะโครงสร้างลำต้นไม่สูงมากนัก ลักษณะกิ่งมีข้อถี่ ให้ผลผลิตสูงถึง 6-7 กิโลกรัม/ต้น ใบกว้าง ปลายยอดสีเขียวอ่อน รสชาติและกลิ่นหอม
ดังนั้นต้องถือว่า “เบอร์บอน” มีความเหนือชั้นกว่า “ทริปิก้า” สายพันธุ์แม่อย่างเห็นได้ชัด จากลักษณะพิเศษดังกล่าวต้องกดไลท์ให้ “คุณต้น” ที่คิดค้นและบุกเบิกพัฒนาสายพันธุ์นี้ขึ้นมาเป็นทางเลือกที่ดีของคอกาแฟทั่วประเทศอย่างไร้ข้อกังขา
อย่างไรก็ดีจากการไล่ดูต้นตระกูลสายพันธุ์ก็ทำให้ “คุณต้น” และนักวิจัยได้ทราบในช่วงนั้นว่า “ทริปิก้า” มีแหล่งที่มาทางด้านสายพันธุ์เดียวกันกับกาแฟอาราบิก้า “จันทบูร” ของจังหวัดจันทบุรี และเป็นกาแฟที่สร้างอาชีพให้เกษตรกรเขตชายแดนอำเภอโป่งน้ำร้อนเมื่อ 170 ปีที่ผ่านมา หรือเป็นกาแฟที่เริ่มต้นปลูกในสมัยรัชกาลที่ 3
นิตยสาร “พลังเกษตร” เคยนำเสนอให้ท่านผู้อ่านได้ติดตามมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งก็ได้รับความสนใจและสร้างความฮือฮากันอย่างแพร่หลายมาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะเกษตรกรผู้มีความประสงค์นำกาแฟไปปลูกแซมผสมผสานกับไม้ผลที่ปลูกไว้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น ทุเรียน ลำไย ลองกอง ปาล์มน้ำมัน ตลอดจน ไม้ยางพารา ที่เกษตรกรเมืองจันท์สามารถนำไปปลูกเพิ่มรายได้ถึงกิโลกรัมละไม่ต่ำกว่า 40 บาท เลยทีเดียว
การส่งเสริมการปลูกกาแฟ
ล่าสุดเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมานิตยสาร “พลังเกษตร” ได้รับคำเชิญจาก “อ.บุญย์ บางเขน” ให้เข้าไปทำข่าวการพบปะกับเกษตรกรกว่า 40 ชีวิต ณ อาณาจักรครบทุกขบวนการ ไม่ว่าจะเป็น “ร้านคลังเกษตรบางเขน” “ร้านกาแฟบุญย์บางเขน” “ตลาดซื้อขายทุเรียน” และ “ร้านอาหารและเครื่องดื่ม” ที่อยู่ในโครงการก่อสร้างไว้รองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวชมภาคตะวันออกตลอดทั้งปี การจัดงานเสวนาในครั้งนี้จัดขึ้นช่วงเย็น
ซึ่ง “อ.บุญย์ บางเขน” ได้ให้รายละเอียดว่า การพบปะพูดคุยถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของชาวสวน ทั้งนี้เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันของเกษตรกร นอกจากนี้ก็ประกอบไปด้วยผู้ที่มีความสามารถและรู้ลึกทางด้านการดูแลกาแฟ ไม่ว่าจะเป็น คุณต้น, คุณเก่ง, คุณตุ่ย, ลุงบรรจบ และตนเองผู้ที่คลุกคลีอยู่กับวงการไม้ผลและกาแฟมานาน ทั้งนี้เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน พร้อมกันนี้ตนก็มีความยินดีในการจัดเลี้ยงอาหารเย็นทานร่วมกัน ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างพันธมิตรที่ดีต่อกันทางด้านความผูกพันอย่างยั่งยืนนั่นเอง
การขยายงานการปลูกและการดูแลรักษากาแฟในปีนี้ ตนในฐานะดูแลโครงการสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่ารับซื้อผลผลิตกาแฟที่เกษตรกรปลูกร่วมโครงการแบบไม่อั้นอย่างแน่นอน พร้อมกันนี้เรามีโรงงานรองรับการขับเคลื่อนขบวนการผลิตกาแฟได้ทั้งหมด 6 เฟส ตามแผนงานที่วางเอาไว้ เพื่อความมั่นใจในวงการกาแฟ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะโดนผลกระทบทางธรรมชาติอะไรบ้าง
ดังนั้นกาแฟที่เราส่งเสริมการปลูกมีสิ่งที่สร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรได้ ก็คือ คนที่ร่วมโครงการเราทำ “การประกันภัย AIA” ให้ทุกคน แต่เพื่อให้เข้าสู่ขบวนการที่ถูกต้อง เกษตรกรต้องไปยื่นขอทำ “บัตรเกษตรกร” เสียก่อน จากนั้นผู้รับผิดชอบโครงการจะส่งหลักประกันคุ้มครองภัยไปให้ถึงที่บ้าน
สำหรับสมาชิกที่ได้รับผลกระทบหรือการสูญเสียจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ประกันภัยสามารถคุ้มครองจ่ายชำระให้ท่านได้ในวงเงิน 25 % ตามหลักประกันที่ทำไว้ ในกรณีที่บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ หรือเสียชีวิต ทางโครงการฯ จะจ่ายค่าจดเชยให้ในทันที ดังนั้นเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟที่ยังไม่ได้ไปขึ้นทะเบียน ตนขอความกรุณาให้ไปทำเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวท่านเอง โดยการนำเอกสารไปยื่นที่สำนักงานเกษตรอำเภอ หรือเกษตรจังหวัด ในแต่ละพื้นที่ นำสำเนาทะเบียนบ้านเพื่อเป็นการยืนยันที่ทำกิน หรือใบรับรองในการจัดจำหน่ายกาแฟอย่างไม่มีปัญหา
นอกจากนี้ให้นำบัตรประชาชนไปยืนยันความเป็นตัวตนเพื่อให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เมื่อดำเนินการเสร็จสิ้น สำนักงานเกษตรจะทำการแจกบัตรให้เกษตรกรผู้ร่วมโครงการอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้เพื่อเป็นหลักประกันในการดูแลเกษตรกรและครอบครัวของท่านเป็นอย่างดี การทำประกันในครั้งนี้ถือเป็นการทำประกันที่เกษตรกรไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น อย่างไรก็ดีในทุกๆ ด้านที่มีข้อสงสัย รวมถึงการดูแลรักษากาแฟอย่างถูกวิธี ทุกๆ ท่านสามารถขอคำปรึกษาได้ที่ “ศูนย์บริการคลังเกษตรบางเขน” ทุกสาขาใกล้บ้านท่าน
การเปิดตัว กาแฟจันทบูร กาแฟบุญย์บรรจบ (จันทบูร)
จากนั้น อ.บุญย์ บางเขน ได้ถือโอกาสแจ้งข่าวการจัดงานวันเปิดตัวกาแฟบุญย์บรรจบ (จันทบูร) ตั้งแต่เนิ่นๆ ว่า ถือเป็นกาแฟที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน ซึ่งจะครบรอบ 170 ปี กาแฟจันทบูร ในปี พ.ศ.2564 พร้อมกันนั้นก็จะมีการประกาศตัวเป็นกาแฟสยามประเทศ
โดย “WTO” และ “สมาคมกาแฟโลก” ซึ่งในเรื่องนี้ก็เราได้รับการสนับสนุนจาก “หอการค้าจังหวัดจันทบุรี” รวมไปถึง “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” ร่วมกันผลักดันกาแฟของจังหวัดจันทบุรีก้าวออกไปสู่กาแฟโลกที่ได้มาตรฐาน
ดังนั้นในวันที่ 23 ธันวาคม 2562 ปลายปีนี้ “บริษัท ต้นกล้าคอร์เปอร์เรชั่น จำกัด” ได้ร่วมกับ “ศูนย์บริการคลังเกษตรบางเขน” ได้กำหนดการจัดงาน 170 ปี กาแฟจันทบูร ขึ้น โดยคลังเกษตรบางเขนเป็นผู้รับผิดชอบทางด้านสถานที่ การจัดงานในครั้งนี้ก็เพื่อเป็นการโปรโมทกาแฟบุญย์บรรจบ (จันทบูร) ให้นักท่องเที่ยวได้รับทราบอย่างทั่วถึง
สำหรับกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การจัดนิทรรศการเกี่ยวกับกาแฟบุญย์บรรจบ(จันทบูร) มีการขายกาแฟ และสาธิตการคั่วกาแฟ ให้กับนักท่องเที่ยว ได้ซื้อและได้ชิมไปพร้อมกัน ดังนั้น อ.บุญย์ บางเขน จึงมีความประสงค์ต้องการให้เกษตรกรปลูกกาแฟเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าปลูกมากจนเกินไป ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ถึงภาวการณ์ล้นตลาดได้
อย่างไรก็ดีภาพโดยรวมของโครงการปลูกกาแฟของเกษตรกรชาวสวนจังหวัดจันทบุรี ถือว่าเป็นโครงการนำร่องที่ดีและสร้างความยั่งยืนให้กับพี่น้องเกษตรกรได้เป็นอย่างมั่นคง ไม่ว่าจะเป็นการรับซื้อในราคาขึ้น-ลงตามเพดานราคาตลาดโลกที่กำหนดไว้ ยื่นข้อเสนอการทำประกันให้โดยที่เกษตรกรไม่ต้องชำระค่าประกันแต่อย่างใด พร้อมกันนั้นทีมงานคลังเกษตรบางเขนได้ให้แนวคิดและองค์ความรู้ทุกๆ ด้านเป็นอย่างดี
สำหรับเกษตรกรทั่วประเทศที่มีความประสงค์เห็นกาแฟต้นสวยๆ สามารถมาดูที่งานนิทรรศการในวันนั้นได้ พร้อมกันนั้นท่านยังได้รับองค์ความรู้และเทคนิคการปลูกด้วยหินว่าสามารถทำให้ต้นกาแฟเจริญเติบโตสวยงามได้อย่างไร
ต่อข้อถามของเกษตรกรเกี่ยวกับปัญหากาแฟต้นเหลือง อ.บุญย์ บางเขน ได้ตอบว่า ลักษณะดังกล่าวน่าจะมาจากรากกาแฟไม่สมบูรณ์ สาเหตุน่าจะเกิดขึ้นจากการใส่ปุ๋ยเคมีมากเกินไป หรือไม่ก็อาจจะมีน้ำแฉะขังโคนต้นมากเกินไป ประกอบกับสภาพดินปลูกมีความเค็มมากเกินไปก็เป็นได้ ลักษณะการแก้ไขเกษตรกรควรล้างด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์เป็นด่าง นั่นก็คือ ผลิตภัณฑ์ “ยารา” ซึ่งมีคุณสมบัติเข้าไปช่วยฆ่าเชื้อโรคในดิน ขณะเดียวกันหากใส่มากเกินไปอาจทำให้เกิดโรครากเน่าได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นเกษตรกรต้องล้างทำความสะอาดดินอย่างสม่ำเสมอ ในแต่ละปีที่ทำการใส่ปุ๋ยลงในดินหลายๆ ครั้ง ควรมีการล้างดิน หรือล้างปุ๋ยเก่าออกเสียบ้าง ซึ่งถือว่าเป็นการแก้ดินเค็มออกไปนั่นเอง หลังจากที่ทำการล้างดินเสร็จให้ทำการใส่ปุ๋ยเสริมธาตุอาหารแร่ด่างลงไปได้เลย ซึ่งเป็นส่วนที่สามารถช่วยแก้ปัญหาต้นเหลืองอย่างได้ผล
นอกจากนี้ “หญ้า” ถือว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญ ซึ่ง อ.บุญย์ บางเขน ได้แนะนำว่า หลายๆ คนทำสวนโดยการถอนหญ้าจากโคนต้นทิ้งจนหมด ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นฆ่าจุลินทรีย์ที่มีอยู่บนหน้าดิน ดังนั้นวิธีการที่ถูกต้องควรปล่อยหญ้าไว้เพื่อรักษาความชื้นหน้าดินไว้ให้มากที่สุด ในกรณีที่ต้องทำการตัดหญ้าควรตัดให้สั้นมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ก่อนจบการเสวนาในวันนั้น อ.บุญย์ บางเขน ได้แนะนำเกษตรกรที่สนใจการปลูกกาแฟโดยการปลูกแซมกับพืชชนิดอื่นๆ ว่า เพื่อความมั่นใจให้เกษตรกรเข้ามาดูแปลงตัวอย่างที่ปลูกไว้ในพื้นที่ใกล้เคียงกับร้านคลังเกษตรบางเขนที่มีให้เลือกชมได้หลายรุ่น ตั้งแต่อายุการปลูก 1-2 ปี ในปริมาณการปลูกถึง 3 พันต้น ซึ่งมีระยะเวลาในการเก็บเกี่ยวผลผลิตได้นานถึง 20 ปี เลยทีเดียว
เป็นพันธมิตรกับ ซีร็อคโค่ คอฟฟี่ คอร์ปอเรชั่น เปิดแฟรนไชส์
ทางด้านการขยายสาขาร้านกาแฟแฟรนไชส์ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คุณต้นได้กล่าวในเรื่องนี้ว่า คนไทยมีพฤติกรรมการบริโภคกาแฟสูงถึงคนละ 200 แก้วต่อปี ส่งผลให้อัตราการเติบโตของมูลค่าตลาดร้านกาแฟในประเทศไทยทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นเหตุผลว่าทำไมหลายๆ คนจึงมีความใฝ่ฝันอยากเป็นเจ้าของธุรกิจร้านกาแฟ
แต่ด้วยงบประมาณการลงทุนที่สูง และเป็นธุรกิจที่ทำง่าย ได้กำไรดี จึงมีแค่คนบางกลุ่มในสังคมเท่านั้นที่สามารถผันตัวเองมาเป็นเถ้าแก่ได้ ด้วยการลงทุนซื้อแฟรนไชส์ธุรกิจกาแฟในดวงใจมาบริหารได้ทันที แฟรนไชส์กาแฟสุขภาพ “ซีร็อคโค่ คอฟฟี่” จึงถือกำเนิดขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้คนที่มีทุนน้อยสามารถมีธุรกิจร้านกาแฟเป็นของตนเองได้ “บริษัท ซีร็อคโค่ คอฟฟี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด” จึงสร้างพันธมิตรเพื่อสร้างธุรกิจให้แข็งแกร่ง
โดยมี “บริษัท ต้นกล้าคอร์ปอร์เรชั่น จำกัด” ซึ่งมีเกษตรทำพันธสัญญาร่วมกันปลูกกาแฟป้อนให้ในพื้นที่ถึง 20,000 ไร่ เพื่อเป็นการรับรองว่าวัตถุดิบที่นำมาผลิตนั้นได้รับการควบคุมว่าปลอดภัย และเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ “ซีร็อคโค่ คอฟฟี่” ยังเป็นแบรนด์ที่สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค และได้รับการรับรองว่าดำเนินการตามกรรมวิธีอย่างถูกต้องเพื่อให้เป็นไปตามหลักทางศาสนาอิสลาม โดยคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย รวมถึงมีโรงงานแปรรูปที่ได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในทางสากล
สำหรับผลผลิตกาแฟที่ใช้ในการชงกาแฟสดของร้าน “Zeroco Coffee” ได้จากหลายพื้นที่ ได้แก่ จังหวัดน่าน จังหวัดเชียงราย และจังหวัดจันทบุรี เป็นกาแฟสายพันธุ์ “อาราบิก้า” ซึ่งเพาะปลูกในพื้นที่ร่วมกับสวนผลไม้ ดังนั้นกาแฟจึงได้คุณค่าทางสารอาหารที่เกษตรกรให้ไม้ผลซึ่งเป็นพืชหลักที่ปลูกไว้อยู่แล้ว
โดยมุ่งเน้นส่งเสริมเกษตรกรในพื้นที่ให้มีรายได้ ทางด้านการคั่วนั้นมีหลายสเกล ไม่ว่าจะเป็นคั่วอ่อน คั่วกลาง คั่วเข้ม โดยคาแร็กเตอร์จะเป็นโทนช็อกโกแลตและคาราเมลที่พิเศษแตกต่างจากร้านกาแฟทั่วไป และเป็นสูตรเฉพาะของซีร็อคโค่ คอฟฟี่
ด้านการลงทุนแฟรนไชส์กาแฟ Zeroco Coffee
การลงทุนแฟรนไชส์ของซีร็อคโค่ คอฟฟี่ เริ่มต้นที่ 59,000 บาท ซึ่งเป็นแฟรนไชส์สำหรับผู้ที่มีร้านของตนเองอยู่แล้ว ต้องการเพิ่มยอดขายด้วยการนำผลิตภัณฑ์กาแฟสดและกาแฟสำเร็จรูปของซีร็อคโค่ คอฟฟี่ เข้าไปเสริม ส่วนแฟรนไชส์แบบเปิดร้านใหม่ราคาเริ่มต้นที่ 169,000-290,000 บาท
ซึ่งสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับ คือ เคาน์เตอร์กาแฟ ตัวเครื่องและอุปกรณ์พร้อมชง ป้ายเมนู ชุดสินค้าสำเร็จรูป รวมถึงคอร์สเรียนการบริหารจัดการร้านอย่างมืออาชีพ ตั้งแต่การเปิดร้านจนปิดร้าน เพื่อให้แฟรนไชส์ทุกสาขาของซีร็อคโค่ คอฟฟี่ ได้มาตรฐานที่มีคุณภาพ และมียอดขายที่ตรงตามความต้องการของเจ้าของแฟรนไชส์จริงๆ
กาแฟในร้านราคาขายเริ่มต้นอยู่ที่แก้วละ 40 บาท ไปจนถึงราคา 120 บาท เพื่อให้สามารถเข้าถึงคนทุกกลุ่มในสังคมได้ เพราะเราเข้าใจดีว่า “ทุกคนต้องการมีสุขภาพที่ดีในราคาที่จับต้องได้” อีกทั้งยังมีรายการอาหารคลีน เค้ก ขนม ภายในร้าน สำหรับให้ลูกค้าทานคู่กับเครื่องดื่มได้อีกด้วย
นอกจากนี้การดูแลแฟรนไชส์แต่ละสาขา ทางซีร็อคโค่ คอฟฟี่ จะมีทีมงานประเมินผลเข้าไปสำรวจร้านทุกๆ 3 เดือน เพื่อควบคุมมาตรฐาน ทั้งด้านรสชาติกาแฟ ความพร้อมของอุปกรณ์ และการให้บริการลูกค้า รวมถึงมีทีมงานคอยซัพพอร์ตเมื่อเกิดปัญหาในเรื่องต่างๆ สำหรับคำถามเกี่ยวกับร้านกาแฟสด “Zeroco Coffee” ปัจจุบันมีทั้งหมดกี่สาขา คุณต้นได้ให้รายละเอียดทิ้งท้ายไว้ว่า สาขาร้านแฟรนไชส์กาแฟมีการขยายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามรายชื่อ ดังนี้
- งามวงศ์วาน ตรงข้ามซอยชินเขต1
- สยามดิสคัฟเวอรี่ ชั้น 4 บริเวณหน้ามาดามทุซโซ่
- ศิริราช วังหลังฟู้ดเซ็นเตอร์
- ตลาดนัดหลังการไฟฟ้าพระราม 7
- สงขลา ถนนนางงาม
- BEELOFT สุวรรณภูมิ ข้างข้าวต้มเจ้น้อย
- ตลาดเตาปูน ตรงข้าม MRT สถานีเตาปูน
- พระราม 9
- หมู่บ้านธนะสิน นวมินทร์ 68
- I’m Park จุฬาฯ
- ตลาดบุญเจริญ
สำหรับท่านที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามไปได้ที่ ร้านคลังเกษตรบางเขน บริหารโดย อ.บุญย์ บางเขน 159/1-9 ม.5 ต.วังโตนด อ.นายายอาม จ.จันทบุรี 22170 โทร.061-465-5574, 081-888-6330 หรือ บริษัท ต้นกล้าคอร์ปอร์เรชั่น จำกัด เลขที่ 11 ม. 7 ต.สันโป่ง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ 50180 โทร.053-869-691, 086-816-1569, 087-969-6965 หรือท่านที่สนใจเป็นเจ้าของร้านกาแฟแฟรนไชส์สามารถติดต่อไปได้ที่ บริษัท ซีร็อคโค่ คอฟฟี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด Facebook: Zeroco Coffee-Thailand/Line ID: @zerococoffee / E-mail: [email protected] โทร. 089-796-6677