นุชนาจ แก้วใส ผลิตทุเรียนนอกฤดูป้อนตลาดส่งออก ใช้พีค รูทเตอร์+เชื้อไตรโคเดอร์มา ป้องกันโรคไฟท็อปธอร่าในทุเรียนได้ผลจริง

โฆษณา

การปลูกทุเรียน

ถ้าพูดถึงผลไม้ที่เป็นราชาไม้ผลในประเทศไทย ทุกท่านต้องนึกถึง “ทุเรียน” เป็นอย่างแรกแน่นอน เพราะทุเรียนเป็นผลไม้ที่ติดลมบน เป็นผลไม้เพื่อการส่งออกอย่างเต็มตัว ด้วยลักษณะเฉพาะที่เป็นเอกลักษณ์ ทั้งกลิ่น สี และรสชาติ ทำให้วันนี้ “ทุเรียน” กลายเป็นผลไม้อันดับต้นๆ ที่มีผู้บริโภคชื่นชอบเป็นอย่างมาก ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะทุเรียน “ในวง” ที่บ้านใน ต.ในวงเหนือ อ.ละอุ่น จ.ระนอง แห่งนี้ เป็นแหล่งผลิตทุเรียนที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากอีกแห่งหนึ่งของภาคใต้ ทั้งด้านปริมาณและคุณภาพผลผลิต จะเห็นได้จากความต้องการผลผลิตที่มากขึ้น ทำให้ราคาผลผลิตทุเรียนที่นี่พุ่งสูงไปถึง 175 บาท/กก. กันเลยทีเดียว

แต่เมื่อย้อนกลับมามองที่ภาคเกษตรกรชาวสวนทุเรียนไทย จะเห็นว่าการทำสวนทุเรียนนั้นเป็นงานหินพอสมควร เพราะต้องมีการจัดการและการดูแลค่อนข้างดีถึงดีที่สุด ที่สำคัญต้องมีใจรักในทุเรียนก่อนเป็นอันดับแรก ที่จะนำมาซึ่งการดูแลรักษาและการพัฒนาสวนทุเรียนให้สมบูรณ์อย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสร้างผลผลิตที่ดีสำหรับผู้บริโภค ประกอบกับราคาผลผลิตที่เป็นแรงจูงใจให้หลายๆ คนหันมาสนใจในอาชีพนี้มากขึ้น นอกเหนือจากผลผลิตส่งป้อนให้ผู้บริโภคทั่วโลกแล้ว การทำสวนทุเรียนยังสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับชาวสวนทุเรียน และยังมีอิสระในอาชีพด้วย

1.คุณนุชนาจ-แก้วใส-พี่นวล-ชาวสวนทุเรียนที่-ต.ในวงเหนือ-อ.ละอุ่น-จ.ระนอง

คุณนุชนาจ แก้วใส ปลูกทุเรียนนอกฤดู จ.ระนอง

คุณนุชนาจ แก้วใส หรือที่รู้จักกันดีว่า “พี่นวล” หลานสาวเจ้าของร้านเคมีเกษตรชื่อดังในพื้นที่ ต.ในวงเหนือ อ.ละอุ่น จ.ระนอง ที่มีชื่อว่า “เจ๊นุการเกษตร” ที่รักในการทำทุเรียนเป็นอย่างมาก ด้วยราคาผลผลิตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันพี่นวลมีต้นทุเรียนอายุ 8-9 ปี อยู่ประมาณ 16 ไร่ มีต้นทุเรียนทั้งหมด 190 ต้น โดยพี่นวลจะเลือกทำทุเรียนนอกฤดู เฉพาะต้นทุเรียนที่สมบูรณ์เต็มที่ และมีความพร้อมเต็มที่เท่านั้น เพื่อให้ได้ผลผลิตทุเรียนที่ได้คุณภาพ และไม่เป็นการบังคับต้นมากเกินไป ต้นทุเรียนในสวนพี่นวลส่วนใหญ่จะเป็นทุเรียนสายพันธุ์หมอนทอง ส่วนสายพันธุ์ชะนีและก้านยาวจะมีเพียงไม่กี่ต้น ต้นทุเรียนส่วนใหญ่ที่จะทำทุเรียนนอกฤดูจะมีช่วงอายุประมาณ 8-13 ปี ทุเรียน 1 ต้น สามารถไว้ผลผลิตได้ประมาณ 60-70 ลูก/ต้น แต่หากเป็นต้นโตก็จะเลือกไว้ลูกได้ประมาณ 100-200 ลูก/ต้น ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของต้นเป็นหลัก น้ำหนักผลผลิตโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 4-5 กิโลกรัม/ลูก สวนทุเรียนแห่งนี้มีการวางระบบน้ำแบบสปริงเกลอร์ที่มีการให้น้ำอย่างพอเพียงตลอดทั้งปี เพราะท้ายสวนทุเรียนจะอยู่ติดกับคลองน้ำธรรมชาติ จึงสามารถดึงน้ำขึ้นมาใช้ได้ทั้งปี โดยไม่ต้องขุดสระเพื่อสร้างแหล่งกักเก็บน้ำเหมือนกับสวนอื่นๆ

3.ผลผลิตทุเรียนนอกฤดูที่ต้องบำรุงและรอการเก็บเกี่ยว

ทุเรียนนอกฤดูที่รอเก็บผลผลิตได้ในช่วงเดือนก.พ.-มี.ค.นี้

การบริหารจัดการต้นทุเรียน

โฆษณา

การทำทุเรียนนอกฤดูของพี่นวลนั้นจะเริ่มต้นหลังจากที่เก็บเกี่ยวผลผลิตเสร็จแล้ว จะทำการพักต้น และเน้นการฟื้นฟูต้นให้สมบูรณ์เร็วที่สุด ด้วยการให้ธาตุอาหารให้เพียงพอกับความต้องการของต้นก่อนตัดแต่งกิ่งให้โปร่ง จากนั้นใส่ปุ๋ยบำรุงต้นเพื่อให้ต้นทุเรียนแตกใบอ่อน ที่สำคัญต้องทำใบทุเรียนให้ได้ประมาณ 3 ชุดใบ จึงจะสมบูรณ์ที่สุด เมื่อต้นทุเรียนสมบูรณ์ก็จะเริ่มแทง “ช่อดอก” เมื่อสภาพอากาศเหมาะสมทุเรียนจะออกดอกได้อย่างสมบูรณ์ ในช่วงนี้พี่นวลจะเน้นดูแลรักษาช่อดอกด้วยการฉีดพ่นสารเคมีทุก 7-10 วัน เพื่อป้องกันโรคและแมลงเข้าทำลายช่อดอกและผลอ่อนของทุเรียน หากมีฝนตกลงมาในช่วงนี้จะต้องฉีดพ่นสารเคมีป้องกันเชื้อราทุก 3 วัน เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น

4.ต้นทุเรียนที่มีปัญหาโรครากเน่า-โคนเน่า-ประมาณ-30-ต้น-ทุกปี

การแพร่ระบาดของโรคไฟท็อปธอร่าในต้นทุเรียน

พี่นวลยอมรับว่าปีนี้ฝนชุก ทำให้ต้องดูแลสวนทุเรียนมากเป็นพิเศษ เนื่องจากสภาพอากาศของทางภาคใต้ที่ว่ากันว่า “ฝนแปดแดดสี่” นั้น ได้กลายมาเป็น “ฝนสิบแดดสอง” ทำให้มีฝนตกมากกว่าหน้าแล้ง ส่งผลให้ต้นทุเรียนสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดโรคได้ง่ายขึ้น จะเห็นได้จากทุกปีเมื่อเข้าช่วงหน้าฝน สวนทุเรียนพี่นวล และสวนอื่นๆ จะมีปัญหาเรื่อง “โรคไฟท็อปธอร่าในต้นทุเรียน” หรือที่รู้จักกัน คือ “โรครากเน่า โคนเน่า” ที่ยังไม่มีวิธีการรักษาให้หายขาดได้ ยืนยันได้ จากอดีตของพี่นวลที่เคยมีต้นทุเรียนที่เป็น โรคไฟท็อปธอร่า จนต้องโค่นต้นทุเรียนทิ้งไปมากกว่า 30 ต้น และต้องปลูกต้นทุเรียนขึ้นใหม่ แต่กว่าจะเก็บผลผลิตได้ก็ต้องรออายุ 6-7 ปี จึงนับว่าเป็นความเสียหายที่สูงมาก ที่สำคัญโรคนี้จะไม่หมดไปจากสวนทุเรียน และยังคงมีต้นทุเรียนเป็นโรคนี้ให้เห็นตลอดมา ทั้งในต้นทุเรียนต้นเก่า และต้นใหม่ๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งในปีนี้ที่สวนทุเรียนพี่นวลมีต้นทุเรียนที่เป็นโรคไฟท็อปธอร่ามากกว่า 30 ต้น จะเห็นได้จากใบจะเริ่มโทรมจนใบเหลือง และใบเริ่มร่วงในที่สุด ที่ผ่านมาพี่นวลเน้นรักษาด้วยการใช้สารเคมีทุกอย่าง รวมทั้งการขูดลำต้น แล้วใช้สารเคมีทาฆ่าเชื้อโรคที่แผล แต่ผลที่ได้ คือ ต้นทุเรียนไม่ตอบสนองต่อการรักษา ต้นทุเรียนยังคงโทรม และไม่แตกใบอ่อนนานเป็นเดือน จนพี่นวลหมดหนทางในการรักษา และคิดว่าต้องโค่นต้นทุเรียนทิ้งเหมือนในอดีตอีกแน่นอน เพราะสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดโรคไฟท็อปธอร่านั้นเกิดจากความชื้นที่มีมากเกินไปในบริเวณสวน ประกอบกับทุเรียนเป็นไม้เนื้ออ่อนที่ค่อนข้างอ่อนแออยู่แล้ว จึงทำให้เกิดโรคได้ง่าย

“ที่สวนพี่จะดูแลต้นทุเรียนอย่างดี เดินดูสวนทุกวัน คอยดูแลอย่างสม่ำเสมอ แต่ต้นทุเรียนก็ยังเสี่ยงเป็น โรคไฟท็อปธอร่าทุกปี การใช้สารเคมีรักษาก็ได้ผลในระยะหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ทำให้โรคนี้หมดไปจากสวนทุเรียนได้” พี่นวลยืนยันและหมดหนทางในการรักษาต้นทุเรียน

5.พี่นวลมั่นใจใช้พีค-รูทเตอร์-แก้ปัญหาไฟท็อปธอร่าในทุเรียนได้ผลจริง

การใช้พีค รูทเตอร์+ไตรโคเดอร์มา ฉีดพ่นต้นทุเรียน

จนกระทั่งมีโอกาสได้รู้จักกับ “พีค รูทเตอร์” ผลิตภัณฑ์ ของ บริษัท พีค อโกรเคมี 2 จำกัด ใช้ร่วมกับ เชื้อไตรโครเดอร์มา สามารถแก้โรคไฟท็อปธอร่าได้ พี่นวลจึงได้เข้าสอบถามถึงคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ และบอกเล่าถึงปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นกับต้นทุเรียนของตนเอง เมื่อพี่นวลได้ทราบถึงวิธีใช้ และผลของการใช้ผลิตภัณฑ์แล้ว พี่นวลจึงได้เปิดใจทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ “พีค รูทเตอร์+ไตรโคเดอร์มา” กับต้นทุเรียนที่เป็นโรคไฟท็อปธอร่า ที่ต้นค่อนข้างโทรม ยอดไม่เดิน ลำต้นมีน้ำไหลออกมา พี่นวลใช้ “พีค รูทเตอร์ผสมกับเชื้อไตรโคเดอร์มา” 1-2 ครั้งภายในระยะเวลาเพียง 7-10 วัน ด้วยการผสมน้ำ 200 ลิตร/พีค รูทเตอร์ 1 กระปุก+เชื้อไตรโคเดอร์มา นำมาฉีดพ่นทางใบ และทางบริเวณแผลตามลำต้น หลังจากที่ใช้ผลิตภัณฑ์ไป 1-2 รอบ จะเริ่มเห็นว่าต้นทุเรียนที่มีอาการใบเหลือง และระบบรากไม่เดิน ก็ค่อยๆ ฟื้นตัว และเริ่มแตกใบอ่อนมากขึ้น ระบบรากดีขึ้น เดินออกหาอาหารมากขึ้น ทำให้สามารถใส่ปุ๋ยสูตรเสมอบำรุงต้นทุเรียนได้ โดยที่ต้นพืชตอบสนองต่อการใส่ปุ๋ยได้ดีขึ้น พี่นวลจึงเปิดใจยอมรับ “พีค รูทเตอร์” โดยไม่มีข้อสงสัย เพราะได้ทดสอบด้วยตนเอง และเห็นผลแล้วจริงๆ และจะเดินหน้าใช้ “พีค รูทเตอร์” ในสวนทุเรียนทั้งหมดในฤดูกาลถัดไป

โฆษณา

6.สภาพต้นทุเรียนที่ฟื้นจากโรครากเน่า-โคนเน่า

ต้นทุเรียนที่ฟื้นตัวและแตกใบใหม่หลังจากใช้พีค-รูทเตอร์

การบำรุงดูแลรักษาต้นทุเรียน

พี่นวลยอมรับว่า “พีค รูทเตอร์+ไตรโคเดอร์มา” เข้ามาช่วยแก้ปัญหาให้กับสวนทุเรียนได้อย่างตรงจุด เพราะทุกสวนจะมีต้นทุเรียนที่เป็นโรคไฟท็อปธอร่าทุกปี พร้อมกันนี้พี่นวลยังได้เปิดใจทดลองใช้ปุ๋ยคุณภาพ “ตรารถลุย” ในสวนทุเรียนอีกด้วย โดยจะเริ่มใช้กับสวนทุเรียนที่มีอายุ 5 ปีก่อน บนเนื้อที่ 12 ไร่ ที่กำลังลงอยู่ในช่วงของการเตรียมต้นเพื่อไว้ลูก เพื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตในเชิงการค้าได้นับจากนี้เป็นต้นไป

7.สวนทุเรียนอายุ-5-ปี-ใช้ปุ๋ยตามสั่ง-ตรารถลุย-และพีค-รูทเตอร์ไตรโคเดอร์มา

คุณสมบัติของพีค รูทเตอร์

“พีค รูทเตอร์” เป็นผลิตภัณฑ์ที่ดี มีคุณภาพ ที่สามารถแก้โรคไฟท็อปธอร่าได้จริง ราคาถูก ปลอดภัยต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม ต่างจากสารเคมีบางตัวที่อันตราย แถมราคายังสูง ต้นทุนการฉีดพ่นแต่ละครั้งก็สูง และยังต้องใช้สารเคมีหลายตัวผสมกัน เพื่อฉีดพ่นป้องกันโรคและแมลง แต่ พีครูทเตอร์+ไตรโคเดอร์มานั้น นอกจากจะใช้ง่ายแล้ว ยังใช้เพียงแค่ตัวเดียวก็เอาอยู่แล้ว เห็นผลเร็วอีกด้วย

ขอขอบคุณ

คุณนุชนาจ แก้วใส (พี่นวล) ต.ในวงเหนือ อ.ละอุ่น จ.ระนอง

โฆษณา

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือขอรับคำปรึกษาได้ที่

บริษัท พีค อโกรเคมี 2 จำกัด

โทร.087-977-1590, 02-598-9207, 081-533-8499

Line : @peakagrokemee2

Facebook : พีค อโกรเคมี 2

Youtube : ค้นหาคำว่า Peak Agro Channel

โฆษณา

ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายพื้นที่ต่างๆ

จังหวัดจันทบุรี