“อินทผลัม” ผลไม้ทองคำแห่งยุค ที่ขณะนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก ด้วยคุณประโยชน์มากมายหลายอย่างต่อสุขภาพของผู้บริโภค อีกทั้งเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานสูง มักนิยมบริโภคในกลุ่มชาวมุสลิมในช่วงเดือนถือศีลอด (รอมฎอน) แต่ในปัจจุบันอินทผลัมเป็นที่รู้จักของเกษตรกรและผู้บริโภคมากขึ้น น้ำอินทผลัม
โดยเฉพาะอินทผลัมผลสดที่สามารถปลูกได้ในบ้านเรา จากการปลูกโดยการเพาะเมล็ดสู่การปลูก โดยใช้ต้นเนื้อเยื่อนำเข้าจากต่างประเทศ ที่ได้คุณภาพของผลผลิตที่ดีกว่าต้นจากการเพาะเมล็ด ส่งผลให้ผลผลิตอินทผลัมผลสดจากต้นเนื้อเยื่อเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นจำนวนมาก ด้วยรสชาติกรอบ หวาน ผลสุกเต็มที่ จะไม่ติดรสฝาด ให้พลังงานสูง ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ทันที ลดความเหนื่อยล้าจากการทำงาน หรือความเครียด
การปลูกอินทผลัม
แน่นอนว่าเมื่อตลาดมีความต้องการสินค้า ดังนั้นเกษตรกรบางส่วนที่ทำเกษตรกรในพืชชนิดนั้นๆแล้วไม่ประสบผลสำเร็จ จึงหันมาปลูกอินทผลัมมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลางที่เปลี่ยนจากพื้นที่พืชไร่ อย่าง นาข้าว, นาอ้อย มาเป็นสวนอินทผลัมเป็นจำนวนมาก นอกจากความต้องการของตลาดแล้ว อินทผลัมยังเป็นพืชที่ให้ผลตอบแทนเร็ว ใช้เวลาเพียง 3 ปีเท่านั้น ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเกษตรกรจึงนิยมหันมาปลูกอินทผลัมกันมากขึ้นนั่นเอง
“กลุ่มผู้ปลูกอินทผลัมภาคตะวันตก หรือ WDP ” คือ กลุ่มเกษตรกรที่มีใจรัก, สนใจ และมีเป้าหมายเดียวกันที่ต้องการปลูกอินทผลัมให้ได้คุณภาพในเมืองไทย จึงได้รวมตัวกันขึ้นเพื่อต้องการปลูกอินทผลัมให้ได้ผลผลิต พร้อมทั้งจำหน่ายในเมืองไทย ซึ่งทางกลุ่มได้ร่วมกันศึกษาค้นคว้า เดินทางดูงานทั้งในและต่างประเทศ เพื่อนำความรู้มาพัฒนาการปลูกอินทผลัมในเมืองไทยให้ประสบความสำเร็จ
จนกระทั่งปัจจุบัน กลุ่มผู้ปลูกอินทผลัมภาคตะวันตกได้ตกผลึกในเรื่องการปลูกอินทผลัมจนประสบความสำเร็จดังเช่นในปัจจุบัน ที่ผลผลิตเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นจำนวนมาก ในปี 2560 อินทผลัมผลสดจากทางกลุ่มได้ออกจำหน่ายสู่ท้องตลาดมากถึง 25 ตัน ภายใต้ชื่อ “กลุ่มอินทผลัมภาคตะวันตก WDP” ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี
การปลูกและผลิตอินทผลัม
แต่ในปี 2561 นี้ กลุ่มผู้ปลูกอินทผลัมตะวันตกได้เปลี่ยนจุดมุ่งหมายของกลุ่ม จากเดิมทีที่ต้องการปลูกและผลิตอินทผลัมผลสดคุณภาพเพื่อป้อนตลาดในและต่างประเทศ (อาเซียน) ซึ่งทางกลุ่มสามารถทะลุเป้าหมายได้แล้วในปี 2560 แต่ในปี 2561 นี้ ทางกลุ่มได้ตั้งเป้าหมายใหม่ คือ ต้องการแปรรูปผลผลิตอินทผลัม เพื่อให้ราคาผลผลิตยังอยู่คงที่ อีกทั้งยังมีอายุการเก็บรักษาได้นานมากกว่าผลสด
“อินทผลัมผลสดข้อจำกัดมันมีค่อนข้างเยอะ อายุจำหน่ายบนชั้นวางขายแค่ 2 อาทิตย์ จะต้องขายให้หมด ไม่งั้นรสชาติมันก็จะไม่คุณภาพเหมือนเดิม เพราะมันคือของสด อีกทั้งผลผลิตของกลุ่มเรามีค่อนข้างเยอะ ถ้าหายนำมาขายผลสดหน้าเดียวมันก็ถือว่ามีความเสี่ยงอยู่ในระดับหนึ่ง ทั้งเรื่องราคา เรื่องคุณภาพผลผลิต
ด้วยเหตุนี้เราจึงคิดจะทำการแปรรูปขึ้นมา เพราะเราเป็นเจ้าของแหล่งวัตถุดิบอินทผลัมผลสดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และ อาเซียน เป็นเจ้าของสวนเอง ดังนั้นเรื่องวัตถุดิบเราก็ไม่มีปัญหา ด้วยเหตุนี้จึงเริ่มต้นแปรรูปอินทผลัมผลสด โดยการผลิตเป็นน้ำอินทผลัมผลสดบรรจุขวดแบบพาสเจอร์ไรส์ขึ้นมา” คุณอนุรักษ์ บุญลือ ได้อธิบายถึงที่มาของการแปรรูป
การแปรรูปผลผลิตอินทผลัม
หลังจากที่ทางกลุ่มตกผลึกร่วมกันแล้วว่าจะทำการแปรรูปอินทผลัมผลสด เป็น“น้ำอินทผลัม100%” ก็ได้มีการศึกษา เรียนรู้ วิธีการผลิต ควบคู่กับการสร้างโรงงานผลิตน้ำอินทผลัม โดยทุ่มงบประมาณในการซื้อที่ดิน ก่อสร้าง พร้อมเครื่องจักร มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ซึ่งการก่อสร้างนั้นแล้วเสร็จไปกว่า 80% คาดว่าจะเปิดใช้งานเต็ม 100% เพื่อรองรับผลผลิตในปีนี้
ซึ่งผลิตภัณฑ์แปรรูปที่ทางกลุ่มได้ผลิตขึ้นมามี 3 สินค้า คือ
- น้ำอินทผลัมผลสด
- น้ำอินทผลัมผลแห้ง
- น้ำอินทผลัมเข้มข้น
สำหรับ น้ำอินทผลัม ผลแห้งนั้น แน่นอนว่าประเทศไทยไม่สามารถผลิตอินทผลัมผลแห้งได้ ดังนั้นทางกลุ่มจึงต้องนำเข้าอินทผลัมผลแห้งจากต่างประเทศเข้ามาแปรรูป ซึ่งผลผลิตที่นำเข้ามานั้นก็จะต้องเป็นผลอินทผลัมที่มีคุณภาพ ทำให้ทางกลุ่มเลือกที่จะใช้อินทผลัมผลแห้งจากประเทศที่สามารถปลูกอินทผลัมผลแห้งได้ดีที่สุดในโลกนั่นคือ “ประเทศปาเลสไตน์”
สายพันธุ์อินทผลัม
โดยมีสวนของเกษตรกรที่ประเทศนั้นเป็นพันธมิตรให้กับทางกลุ่ม ซึ่งสายพันธุ์อินทผลัมผลแห้งนั้นก็มีส่วนสำคัญในการผลิต เพราะหากนำผลแห้งสายพันธุ์ที่เนื้อน้อย เมล็ดใหญ่ หรือรสชาติไม่หวาน เมื่อนำมาแปรรูปแล้วคุณภาพของสินค้าก็จะด้อยลงไป
ดังนั้นนอกจากแหล่งที่มาแล้ว เรื่องสายพันธุ์ก็เป็นเรื่องที่ทางกลุ่มคิด และตัดสินใจที่เลือกใช้อินทผลัมผลแห้งสายพันธุ์ “เมดจูล” เพราะสายพันธุ์นี้เป็นราชาของอินทผลัมผลแห้ง เนื้อเยอะ ผลใหญ่ เมล็ดเล็ก รสชาติหวาน เนื้อฉ่ำ เมื่อนำมาแปรรูปเป็นน้ำแล้วให้รสชาติที่หอม หวาน โดยไม่ใช้สารเพิ่มความหวาน สีสันสวยงาม
ซึ่งในปัจจุบันทางกลุ่มก็มีการนำเข้ามาจำหน่ายบ้างแล้วส่วนหนึ่งประมาณ 100 ตันต่อปี ผลิตภัณฑ์แปรรูปน้ำอินทผลัมของทางกลุ่มนั้น จะขายภายใต้แบรนด์สินค้า “IN ONE” หมายถึง “ความเป็นหนึ่ง” ซึ่งตรงกับเป้าหมายของทางกลุ่มต้องการ คือ ต้องการเป็นที่หนึ่งในอาเซียน ทั้งผลสด และแปรรูป
การจัดตั้งบริษัท อินทผลัมภาคตะวันตก จำกัด
นอกจากการสร้างโรงงานเพื่อเตรียมพร้อมรองรับผลผลิตในปี 2561 นี้ และการคัดสรรวัตถุดิบอินทผลัมผลแห้งที่ดีที่สุดแล้วนั้น ทางกลุ่มยังได้ยื่นจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทขึ้นมาในปี 2560 อีกด้วย ภายใต้ชื่อ “บริษัท อินทผลัมภาคตะวันตก จำกัด” เพื่อเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการแปรรูป น้ำอินทผลัม เชิงการค้าเป็นหลัก
โดยสมาชิกของกลุ่มสามารถเข้ามาซื้อหุ้นของบริษัทได้ เพื่อให้มีรายได้ที่ดี โดยโครงสร้างการบริหารงานของบริษัทประกอบไปด้วย คุณประวิทย์ เชาวานิชย์กุล เป็นประธานบริษัท, คุณอนุรักษ์ บุญลือ เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ โดยมีอดีตท่านผู้ว่า จ.กาญจนบุรี ท่านอำนาจ ผการัตน์ เป็นที่ปรึกษานอกจากนี้ยังมีผู้จัดการแต่ละฝ่ายอีก 8 ท่าน ซึ่งรับผิดชอบหน้าที่แตกต่างกันไป เพื่อพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพต่อไปในอนาคต
นอกจากการจัดตั้งบริษัท อินทผลัมภาคตะวันตก จำกัด แล้ว ทางกลุ่มยังได้จัดตั้ง “วิสาหกิจชุมชนอินทผลัมภาคตะวันตก” ขึ้นอีกด้วย เพื่อดูแลในส่วนของแปลงปลูกอินทผลัมเป็นหลัก เพื่อให้สมาชิกของกลุ่มผลิตอินทผลัมผลสดให้ได้คุณภาพตามมาตรฐาน Thai GAP โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายไร่จากบริษัท เข้าไปให้ความรู้ ควบคุมคุณภาพตั้งแต่เริ่มปลูก การคัดเลือกต้นพันธุ์ สายพันธุ์
ซึ่งทางบริษัทจะเน้นปลูกอินทผลัมผลสดสายพันธุ์เนื้อเยื่อ “บาฮี” เป็นหลัก รวมถึงเทคนิควิธีการบำรุงดูแล การให้ปุ๋ย-ยา-น้ำ คุณภาพผลผลิต จนถึงการเก็บเกี่ยว เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพจริงๆ จากนั้นวิสาหกิจจะเป็นผู้รวบรวมผลผลิตอินทผลัมทั้งหมด เพื่อส่งขายให้กับบริษัท อินทผลัมภาคตะวันตก จำกัด เพื่อนำวัตถุดิบมาแปรรูป และขายผลสด ซึ่ง อินทผลัมขายแบบผลสด ทางบริษัทจะแบ่งผลผลิตออกเป็น 2 เกรด คือ 1.เกรดพรีเมี่ยม และ 2.เกรดมาตรฐาน ส่วนผลผลิตตกเกรด หรือเกรด C ทางบริษัทจะนำผลผลิตนั้นๆ มาแปรรูปเป็นน้ำอินทผลัมผลสดนั่นเอง
ปัจจุบันบริษัท อินทผลัมภาคตะวันตก จำกัด ได้มีการแปรรูป น้ำอินทผลัม บ้างแล้วบางส่วน โดยใช้เครื่องจักรขนาดเล็กผลิตก่อนบางส่วน เพื่อส่งสินค้าให้กับท้องตลาด ซึ่งขั้นตอนการผลิตนั้นได้รับมาตรฐาน ทั้งมาตรฐานฮาลาล, อย., Thai GAP มาตรฐานฟาร์ม และการแปรรูปทั้งหมด เป็นต้น ซึ่งภายในเดือนกรกฎาคมนี้ทางบริษัทจะย้ายฐานการผลิตไปสู่โรงงานใหญ่ที่กำลังก่อสร้าง และจะแล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคมนี้
ขั้นตอนการแปรรูป น้ำอินทผลัม
เริ่มต้นจากการนำผลอินทผลัมผลสดทั้งหมดเก็บรักษาความสดในห้องเย็น จากนั้นเมื่อจะนำผลผลิตออกมาแปรรูปก็จะนำมาทำความสะอาด จากนั้นแกะเมล็ดออก เข้าเครื่องปั่นแยกกาก เมื่อได้ น้ำอินทผลัม เข้มข้นมาแล้ว จากนั้นเข้าสู่กระบวนการพาสเจอร์ไรส์เพื่อฆ่าเชื้อ จากนั้นบรรจุขวด ส่งขายตามท้องตลาดได้ ในส่วนของน้ำอินทผลัมแบบเข้มข้น แต่ในส่วนของน้ำอินทผลัมแบบมาตรฐาน เมื่อสกัดอินทผลัมเป็นน้ำมาแล้วจะต้องนำมาผสมน้ำเพื่อควบคุมความหวานให้ได้มาตรฐาน จากนั้นจึงบรรจุลงขวด และส่งขายตามท้องตลาดต่อไป
น้ำอินทผลัมผลสด 1 ขวด หากแช่ตู้เย็นจะมีอายุการเก็บรักษาได้ 30 วัน และหากอยู่นอกตู้เย็นจะเก็บได้เพียง 2 อาทิตย์ เท่านั้น เนื่องจากทางบริษัทต้องการผลิตน้ำอินทผลัมที่มีความสด ดีต่อสุขภาพ ดังนั้นจะไม่ใช้สารกันบูด เพื่อยืดอายุการเก็บรักษานั่นเอง ตามสโลแกนของบริษัท คือ “สดทุกที่ ดีทุกวัย ใส่ใจสุขภาพคุณ”
ด้านตลาดผลผลิตอินทผลัม และน้ำอินทผลัม
คุณอนุรักษ์ยอมรับว่าสำหรับการทำตลาด น้ำอินทผลัม ในเมืองไทยนั้นไม่ใช่ปัญหาเลย กลับมองว่าเป็นตลาดที่ค่อนข้างใหญ่ เนื่องจากว่าในเมืองไทยยังไม่เคยมีการผลิตน้ำอินทผลัมขายในเชิงการค้า ดังนั้นการทำตลาดจึงไม่ใช่เรื่องยาก ซึ่งคุณอนุรักษ์ได้มองตลาดออกเป็น 2 ชั้น คือ ตลาดพรีเมี่ยม สำหรับน้ำอินทผลัมเข้มข้น และตลาดกลาง สำหรับน้ำอินทผลัมพร้อมดื่ม ตรา IN ONE นอกจากนี้ยังมีอินทผลัมผลแห้งนำเข้า สายพันธุ์เมดจูล จำหน่ายอีกด้วย
สำหรับการสต๊อกวัตถุดิบนั้น ในส่วนของน้ำอินทผลัมผลสดได้มีการจัดเก็บผลผลิตไว้ในห้องเย็นกว่า 200 ตัน เพื่อให้เพียงพอต่อการแปรรูปตลอดทั้งปี เนื่องจากต้นอินทผลัมเป็นพืชที่ให้ผลผลิตเพียงปีละ 1 ครั้ง ดังนั้นการเก็บรักษาวัตถุดิบจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก สำหรับวัตถุดิบ 200 ตันนั้น แบ่งออก 150 ตัน เพื่อสำหรับนำมาแปรรูป และอีก 50 ตัน สำหรับขายเป็นผลสด และส่วนหนึ่งแบ่งเป็น “ผลสดแช่แข็ง” เพื่อนำไปเป็นวัตถุดิบในการทำอาหาร เช่น น้ำปั่น แยม เบเกอรี่ เป็นต้น
บริษัท อินทผลัมภาคตะวันตก จำกัด ได้วางแผนการตลาดที่ต้องการกระจายสินค้าให้ได้ทั่วประเทศ ต้องการให้เกษตรกรเป็นเจ้าของสินค้าเอง โดยทางบริษัทได้แบ่งหุ้นออก 20% เพื่อให้เกษตรกรผู้ปลูกในแต่ละภูมิภาคได้มีโอกาสถือหุ้นนี้ เกษตรกรเหล่านี้ก็จะได้เป็นเจ้าของแบรนด์สินค้า “IN ONE”
ฝากถึงเกษตรกรที่จะปลูกอินทผลัม
ท้ายนี้คุณอนุรักษ์ได้ให้แง่คิดสำหรับเกษตรกรที่ปลูกอินทผลัมว่า “ในปีนี้ สังเกตเห็นอินทผลัมให้ผลผลิตดีทั่วทั้งประเทศ เนื่องด้วยสภาพอากาศที่เอื้อต่อการติดดอก ออกผล ของอินทผลัม ผมทำอินทผลัมมา 10 กว่าปี ไม่มีอากาศปีไหนดีเท่าปีนี้เลย อินทผลัมถึงได้ออกง่ายมาก แต่เกษตรกรอย่าได้ชะล่าใจ คิดว่าต้นอินทผลัมให้ผลผลิตง่าย โดยเฉพาะเกษตรกรที่ออกในปีแรก เพราะจริงๆ แล้วอินทผลัมออกค่อนข้างยาก หากเกษตรกรไม่ใส่ใจดูแลให้อาหารอย่างเพียงพอล่ะก็ ต้นอินทผลัมจะให้ผลผลิตยากมาก”
“และกระแสเรื่องการหลอกลวงให้ปลูกอินทผลัม โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสาน คือ อยากให้เกษตรกรศึกษาแหล่งที่มาที่ไปดีๆ เพราะอย่างกลุ่มของเรา เราทำจริง เราศึกษาจริง ลงมือทำจริง เราถึงบอกได้ว่าอินทผลัมมันเป็นผลไม้เศรษฐกิจตัวใหม่ที่ดี ทำให้เกษตรกรที่เอาไปปลูกแล้วสามารถทำเงินได้แทนพืชเศรษฐกิจอื่นๆ ที่ราคาตกต่ำ ซึ่งข้อดีตรงนี้เกษตรกรต้องระวังมิจฉาชีพที่จะมาฉวยโอกาส ให้เงินมาสนับสนุนอะไร พวกนี้ต้องระวัง ต้องศึกษาอย่างดี”
สนใจต้นพันธุ์อินทผลัมคุณภาพ การปลูก การดูแล ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ
หรือเข้าเยี่ยมชมแปลงอินทผลัมของบริษัท สามารถติดต่อสอบถามได้ที่
บริษัท อินทผลัมภาคตะวันตก จำกัด
คุณอนุรักษ์ บุญลือโทร : 092-681-1919
197/26 หมู่ 1 ต.หนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี 71110
E-mail [email protected], www.westerndatepalm.com, www.in-one.co, www.facebook.com/WDPGROUP