ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีผู้นิยมบริโภคทั้งในและต่างประเทศ ข่าวการส่งออกทุเรียนของไทยยังมีแนวโน้มที่จะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นพืชเศรษฐกิจที่อยู่ระดับต้นๆ แต่มีกระแสข่าวการปลูกทุเรียนเกิดความล้มเหลวออกมาเป็นระยะๆ เนื่องจากเกิดโรคเชื้อรา แมลง และวิกฤติอุทกภัยทางธรรมชาติ ที่สำคัญทุเรียนสามารถปลูกได้ในบางภาค บางพื้นที่ เท่านั้น ปลูกทุเรียนหมอนทอง
สภาพพื้นที่ปลูกทุเรียน
ทีมงาน นิตยสารพลังเกษตร ได้ลงพื้นที่ทำข่าวการทำสวนทุเรียนจำนวน 5 ไร่ ของ คุณสวง ปาลพันธ์ ได้ทราบว่าเป็นเจ้าของสวนเจ้าเดียว โดยที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะปลูกทุเรียนได้ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี และยังเป็นที่น่าพอใจ ผลผลิตที่ได้รับในรอบปีรายได้แสนกว่าบาท
คุณสวงเล่าว่า เดิมมีอาชีพเกษตรกรรม ทำไร่สับปะรดเป็นหลัก มีพื้นที่ 50 ไร่ ปลูกเงาะ มะม่วง มะยงชิด ไม่มาก ผสมผสานกันไปกับสับปะรด จากนั้นได้นำทุเรียนมาปลูกผสมกับสับปะรดจำนวน 100 ต้น ในพื้นที่ 5 ไร่ ปลูกปล่อยไปตามธรรมชาติ “ช่วงแรกที่ปลูกก็มีคำปรามาสว่าจะปลูกได้ไหม มันจะโตยังไง ปลูกแล้วจะทำให้เสียแรงหรือเปล่า ตอนที่นำมาปลูกไม่ได้คิดจะปลูกขาย เพียงแต่จะปลูกไว้กินกันเอง และเป็นคนชอบปลูก”
ปลูกทุเรียนหมอนทอง
ครั้งแรกที่นำมาปลูกได้ทุเรียน “พันธุ์หมอนทอง” ที่จังหวัดปราจีนบุรี มาปลูกแบบปักกิ่งหรือเสียบกิ่ง ราคาต้นละ 16 บาท ซื้อมา 120 ต้น นำไปปลูก 100 ต้น เห็นผล 70 ต้น ตอนนั้นปลูกไม่ได้หวังอะไร ความรู้ทางด้านวิชาการเกษตรก็ไม่มี อาศัยศึกษาดูโทรทัศน์ และถามคนที่เขาเคยปลูก เคยอยู่กับสวน เขาบอกมาก็ทำตาม แต่ผลผลิตออกมาเป็นที่น่าภูมิใจมาก ปัจจุบันต้นทุเรียนอายุได้ 13-14 ปี ทุเรียนหมอนทองจะออกผลผลิตต้นหนึ่งจะให้ลูก 50-60 ลูก จะเริ่มออกดอกประมาณเดือนธันวาคม-มกราคม ระยะการเก็บเกี่ยวจะใกล้เคียงกับทุเรียนจังหวัดระยองประมาณเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม
ก่อนปลูกขุดหลุมพอประมาณหน้ากว้าง 40 ซม. ยาว 40 ซม. ความลึก 50 ซม. ระยะห่างของต้นประมาณ 70 เมตร ต่อต้น เสร็จแล้วได้นำต้นพันธุ์หรือกิ่งพันธุ์ลงปลูกดิน กลบโดยไม่ต้องใส่ปุ๋ย จากนั้นก็ให้น้ำตามปกติ ปล่อยไปตามธรรมชาติเหมือนปลูกพืชทั่วไป ปลูกครั้งแรกจะออกดอก ติดผลง่าย ไม่ได้ฉีดยาแคลเซียมบำรุงดอก แล้วติดลูก 70 กว่าต้น
การให้ปุ๋ยและน้ำต้นทุเรียน
ปกติทุเรียนจะกินน้ำมาก เนื่องจากระบบของรากจะแผ่เร็วและแห้งเร็ว ถ้าช่วงระยะที่กำลังผลิตออกดอกติดผลจะขาดน้ำไม่ได้เลย ให้น้ำมากเกินไปก็ไม่ได้ จะทำให้รากเน่า ผลจะร่วง เวลาให้น้ำควรให้ดินชุ่มน้ำไว้เสมอ และการให้น้ำจะให้แบบใช้ระบบสปริงเกลอร์ เลี้ยงบริเวณรอบๆ ต้น และโคนต้น 3 วัน ต่อครั้ง
ถ้าทุเรียนอยู่ในระยะติดลูกจะให้ทุกวัน ส่วนการให้ปุ๋ยบำรุงต้นควรทำให้ดินโปร่ง ร่วนซุย เพื่อลดปัญหาความเป็นกรด-ด่าง ก่อนจะให้ปุ๋ย จะเป็นปุ๋ยเคมีชีวภาพ อินทรีย์ ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก ก็ได้ ส่วนปุ๋ยที่ให้ประจำจะใช้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 และสูตร 8-24-24 ยูเรีย
การป้องกันและกำจัดโรค แมลง และศัตรูพืช
สำหรับต้นทุเรียนอาการที่พบมาก ได้แก่ อาการใบร่วง ซึ่งเกิดยางไหลที่ต้น สาเหตุหลักเกิดจากเชื้อราไฟทอปทอร่าเข้าบริเวณรากแล้วเคลื่อนย้ายเข้าใบ ยอด เมื่อฝนตกหรือได้รับน้ำมากๆ มีน้ำท่วมขัง ใบจะร่วงกระจายเต็มพื้น เชื้อเข้ากินรากทำให้รากเน่าเปื่อย บริเวณท่อเลี้ยงจะมีเขม่าสีดำ ถ้าเข้าทำลายจำนวนมาก กินจนถึงท่อน้ำเลี้ยงทำให้ไม่สามารถลำเลียงอาหารไปเลี้ยงลำต้นและใบได้ อาการใบจะเหี่ยวแห้งและร่วง
จากนั้นจะค่อยๆ ยืนต้นตาย เมื่อเป็นแล้วจะค่อยๆ ขยายวงกว้างไปเรื่อยๆ ฉะนั้นถ้าเกิดอาการนี้แล้ว การรักษาให้ยาบำรุงต้นต้องทำทุกระบบ จะใช้ยาฉีดพ่นเชื้อราไฟทอปทอร่าด้วยตัวยาฟองกูหลาด ถ้าเกิดเชื้อราไฟทอปทอร่าในช่วงติดดอกก็จะปล่อยไปตามธรรมชาติ
สำหรับศัตรูพืชจะพบมากในต้นทุเรียน คือ หนอนด้วง จะเข้ามาเจาะกินลำต้นและเปลือกของลูกทุเรียน เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ลำต้นเกิดโรคเชื้อราไฟทอปทอร่า เชื้อจะแพร่กระจายไปทั่วลำต้น เกษตรกรสวนทุเรียนจะพบปัญหาของโรคชนิดนี้มาก และการกำจัดแมลงหนอนด้วงจะใช้ยาฉีด จะใช้ตัวยาเพียงไคโตซาน และฉีดยาฆ่าแมลงหนอนด้วงไป 3-4 ครั้ง ฉีดยาฆ่าเชื้อราไป 2 ครั้ง ส่วนสารฉีดบำรุงจะใช้แคลเซียมฮอร์โมนบำรุงดอกฉีดไปครั้งเดียว
การตัดแต่งกิ่งต้นทุเรียน
ต้นทุเรียนจะออกดอกผลิตผลตามกิ่งก้านเพื่อให้ความสมดุลและได้รับธาตุอาหารเพียงพอ ควรตัดแต่งกิ่งและเอาลูกที่ไม่สมบูรณ์ออก จะมีกิ่งแท้ กิ่งเทียม ที่แยกออกจากลำต้น กิ่งเทียมตาที่ออกตามลำกิ่งจะมีลักษณะเป็นปุ่มๆ จะไม่เรียบเสมอกัน จะไม่สามารถผลิตดอกออกผลได้ ให้ตัดออก ส่
วนกิ่งแท้ลำกิ่งจะสมบูรณ์และเกาะเสมอกัน ดอกและผลออกมาจะสมบูรณ์ ถ้าทุเรียนให้ลูกดก หรือให้ลูกมากเกิน ที่จะเลี้ยงลูกไม่ไหว ทุเรียนจะสลัดลูกออก ถ้ากิ่งก้านไหนมีลูกดก หรือมีลูกมาก จะคัดเอาลูกไม่สวยออก เพื่อที่จะให้ลูกที่ดีและสมบูรณ์ได้รับธาตุอาหารอย่างเต็มที่
ด้านตลาดและช่องทางจำหน่ายผลผลิตทุเรียนหมอนทอง
ตลาดผลไม้ทุเรียนของไทยมีหลายสายพันธุ์ จะถูกส่งไปยังประเทศจีน ทั้งกรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ ยูนนาน และเมืองสำคัญอื่นๆ อีกหลายเมือง และยังทะลักเข้ายุโรป เนื่องจากผลไม้ไทยยังคงความอร่อยเป็นเอกลักษณ์ของไทยแท้
สำหรับคุณสวงไม่ได้นำออกไปขายที่ตลาด จะมีผู้คนในหมู่บ้านมาซื้อหน้าสวนไปกินกันเอง ทุเรียนลูกหนึ่งตั้งแต่ 3-7 กก. ขายได้เป็นเงิน 200-300 บาท
สนใจข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณสวง ปาลพันธ์ ที่อยู่ 114 หมู่ 3 ต.หลุมรัง อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี 71160 โทร.08-0784-0019
