ผลไม้ไทย เพื่อการส่งออกขั้นตอนการผลิต “ มะม่วงนอกฤดู ” คุณภาพ สร้างรายได้ดี กำไรงาม
การผลิตสินค้าให้ได้ผลผลิตที่ดี-มีคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ
หากพูดถึง “ชาวสวน ผลไม้ไทย ” ต้องยอมรับว่าวันนี้ชาวสวน ผลไม้ไทย ไม่เป็นสองรองใคร จะเห็นได้จากผลไม้หลายอย่างของไทยในวันนี้มีการส่งออกอย่างเป็นล่ำเป็นสัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการผลิตสินค้าให้ได้ผลผลิตที่ดี มีคุณภาพ อย่างสม่ำเสมอ ต้องมาจากปัจจัยการผลิต และการจัดการสวนที่ดี ด้วยปุ๋ย ยา การผลิตที่ดี มีคุณภาพ พิสูจน์ได้จากชาวสวนผลไม้มืออาชีพจากทุกภูมิภาคของไทย ที่ยึดการทำสวนผลไม้ในเชิงการค้ามาช้านาน
ฟรี! ปุ๋ยเคมี ขนาดทดลอง (เมื่อแจ้งว่า จาก พลังเกษตร) ด่วน! จำนวนจำกัด
โทร 086 914 1111 , 089 555 5558
มุ่งผลิตมะม่วงส่งออก 3 สายพันธุ์
คุณกำจร ปานสูงเนิน หรือ “น้าจร” ชาวสวน มะม่วงนอกฤดู ที่บ้านโหล่น ต.นาแดด อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ (โทร.080-766-3219) ได้เผยถึงเส้นทางชีวิตก่อนหันมาทำ “สวน มะม่วงนอกฤดู ” ที่บ้านโหล่นว่าในอดีตยึดอาชีพรับจ้างอยู่ที่ กทม.นานถึง 10 กว่าปี จากนั้นได้แต่งงานและย้ายมาอยู่ที่บ้านโหล่น ทำไร่ ทำนา เรื่อยมา
จนกระทั่งเล็งเห็นว่า “มะม่วงน้ำดอกไม้เบอร์4 ” ขายปลีกได้ราคาสูง จึงได้หันมาปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้แบบมะม่วงไร่ บนพื้นที่เนินเขาสลับที่บ้านโหล่น บนเนื้อที่ทั้งหมด 14 ไร่ โดยไม่มีระบบน้ำรองรับ แต่มีสภาพดินดี มีสภาพภูมิอากาศที่เย็นสบาย และเหมาะสมกับการปลูกมะม่วงอีกแห่งหนึ่งของไทย
เน้นการปลูกมะม่วงแบบผสมผสานทั้งหมด 3 สายพันธุ์ คือ
มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองสลับร่องกับน้ำดอกไม้เบอร์4 และมะม่วงฟ้าลั่นที่เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน สร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองเบอร์ 4 ได้เพียง 2 ปี ลำต้นจะมีขนาดเท่ากับขวดเอ็มร้อย
แล้วจะตัดยอดออกเพื่อทำการ “เสียบยอดใหม่ ” กับต้นมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง จะทำให้ได้ลักษณะเด่นของมะม่วงทั้ง 2 สายพันธุ์ ภายในต้นเดียวกัน ผลผลิตที่ได้จะมีสีสวย รสชาติหวาน มัน กรอบ มีกลิ่นหอม มีคุณภาพมากขึ้น
ขั้นตอนการ ผลิต “มะม่วงนอกฤดู”
เริ่มต้นจากการราดสารเพื่อผลิต “มะม่วงนอกฤดู” ควบคุมการให้น้ำเพื่อชะลอการแตกใบอ่อน ให้มะม่วงแทงช่อดอก อีก 20 วันต่อมาจะใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 8-46-0 ตราพลอยเกษตร เพียง 300 กรัม/ต้น เนื่องจากเป็นแม่ปุ๋ย หากใส่ในปริมาณมากจะทำให้ต้นติดลูกยาก หรือ “บ้าใบ”
อีกทั้งการทำมะม่วงนอกฤดูต้องระวังแมลงกัดใบ และเพลี้ยไฟ ไรแดง เข้ามาทำลาย น้าจรจึงต้องฉีดพ่นสารที่มีกลิ่นแรงเพื่อไล่แมลงแทนการฉีดพ่นยาฆ่าแมลง เมื่อดอกบานและพัฒนาเป็นผลเท่าหัวไม้ขีดไฟ ต้องดูแลรักษาป้องกันเพลี้ยไฟ ไรแดง และเชื้อรา ให้ดี ด้วยการฉีดพ่นสารไดฟีโนโคนาโซล+โพรพิโคนาโซนให้ทั่วทั้งต้น
เก็บเกี่ยวผลผลิต และราคาขาย
เมื่อมะม่วงขึ้นลูกจะฉีดพ่นฮอร์โมนและน้ำตาลทางด่วน+แคลเซียมโบรอน เพื่อบำรุงลูก เพิ่มการสร้างแป้งและน้ำตาล ก่อนจะเริ่มห่อผลด้วยถุงคาร์บอนเพื่อเพิ่มคุณภาพผลผลิต หลังจากนั้น 45-50 วัน จะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิต และจำหน่ายผลผลิตให้กับพ่อค้าที่มารับซื้อแบบคละไซส์ได้
- โดยเกรด A ในราคา 100-120 บาท/กิโลกรัม
- เกรด B ในราคา 50-60 บาท/กิโลกรัม
ที่สำคัญจะเห็นว่าต้นมะม่วงสมบูรณ์ขึ้น กินปุ๋ยได้ดี ออกดอกง่ายขึ้น ออกดอกเร็วกว่า ออกดอกเยอะกว่า ดอกสมบูรณ์กว่าและให้ผลผลิตมากกว่าทุกปี การขึ้นลูกง่ายโดยไม่ต้องใช้ยาตัวอื่นมาบำรุงเพิ่มเติม ช่วยลดต้นทุนการผลิตได้มากกว่าแต่ก่อน แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วย หากอากาศไม่เอื้ออำนวยก็ต้องเพิ่มปุ๋ย ยา ในการบำรุง
ผลผลิตที่ 7 ตัน/รอบ ที่สามารถเก็บผลผลิตได้ 3 รอบ/ปี
ส่งผลให้สวนมะม่วงน้าจรให้ผลผลิตที่ 7 ตัน/รอบ ที่สามารถเก็บผลผลิตได้ 3 รอบ/ปี อีกทั้งผลผลิตทุกส่วนของมะม่วงยังขายได้ทั้งหมด ตั้งแต่มะม่วงตะนอยที่ขายออกสู่ตลาดได้ รวมไปถึงผลผลิตที่ตกเกรด และผลผลิตที่ไม่ได้คุณภาพก็ยังขายสร้างรายได้ ดังนั้นการผลิตมะม่วงนอกฤดูที่นี่จึงเป็นอาชีพหลักที่มั่นคง สร้างรายได้ และความเป็นอยู่ที่ดี ให้กับชาวสวนมะม่วงได้เป็นอย่างดี
การดูแลและการให้ปุ๋ย-ให้ยา
เมื่อต้นมะม่วงมีอายุ 5 ปีขึ้นไป จะเน้นการจัดการอย่างเป็นระบบ ใช้ปุ๋ย ยา ให้เหมาะสมกับการดูแลแต่ละช่วงให้ดีที่สุด เนื่องจากการทำ “ มะม่วงนอกฤดู ” สามารถผลิตได้ 3 ครั้ง/ปี ผลผลิตแต่ละรุ่นจะสามารถเก็บเกี่ยวได้ทุก 4 เดือน โดยผลผลิตรุ่นสุดท้ายจะอยู่ในช่วงเดือนพฤษภาคม และยังเป็นรุ่นที่ขายผลผลิตได้ราคาดีที่สุด
โดยการทำ มะม่วงนอกฤดู จะเริ่มตัดแต่งกิ่งในช่วงเดือนพฤษภาคม ภายใต้การให้น้ำที่ดี เพราะอยู่ติดกับต้นน้ำที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี แต่ด้วยสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้ผลผลิตในบางรุ่นออกไม่ค่อยเต็มที่ ให้ผลผลิตหลายไซส์ที่ยากต่อการจัดการ และขายได้ในราคาที่แตกต่างกัน
จนกระทั่งน้าจรได้รู้จัก “ร้านวุฒิพืชผลการเกษตร” ซึ่งเป็นร้านค้าน้องใหม่ในพื้นที่ แต่มีความจริงใจในการให้ความรู้และข้อมูลที่ถูกต้องแก่ชาวสวนและเกษตรกรทั่วไป ได้แนะนำให้ใช้ “ปุ๋ยอินทรีย์ตราพลอยเกษตร” กับสวนมะม่วง เพื่อบำรุงต้นและบำรุงดินได้ภายในคราวเดียวกัน
การเลือกใช้ปุ๋ยเคมีคุณภาพ ตราพลอยเกษตร
นี่คือข้อดีของชาวสวน ผลไม้ไทย ที่เลือกใช้ปุ๋ยเคมีคุณภาพ “ตราพลอยเกษตร” และ ปุ๋ยเคมีคุณภาพ “ตราสามเอส” ของ กลุ่มบริษัทปุ๋ยศักดิ์สยามฯ ที่มุ่งมั่นคัดสรรวัตถุดิบชั้นดีจากทั่วโลกเข้าสู่กระบวนการผลิต ภายใต้เครื่องจักรและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ที่มีความแม่นยำสูง เพื่อให้เกษตรกรได้ใช้ปุ๋ยที่ดี มีคุณภาพ ได้ปุ๋ยเต็มสูตรทุกกระสอบ
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีปุ๋ยเคมีคุณภาพ เต็มสูตรทุกกระสอบ “ตราสิงโตสยาม” และ “ตราลิดเดอร์ชีพ” เพื่อเป็นทางเลือกให้กับเกษตรกรในทุกสาขาอาชีพ เพื่อเพิ่มคุณภาพผลผลิตได้อย่างสม่ำเสมอ เพราะ ปุ๋ยศักดิ์สยาม เข้าใจเกษตรกร เข้าใจพืช
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม “กลุ่มบริษัทปุ๋ยศักดิ์สยาม”
17/2 หมู่ 2 ถ.ลาดหลุมแก้ว-บางเลน ต.ขุนศรี อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี 11150
โทร/แฟกซ์:0-2921-9517,0-2921-9221,0-2921-9227 www.saksiaminter.co.th
ผลไม้ไทย มะม่วงนอกฤดู ผลไม้ ผักผลไม้ ปุ๋ยเร่งดอก การใส่ปุ๋ยมะม่วง ปุ๋ยมะม่วง ปุ๋ยใส่มะม่วง ปุ๋ยเร่งดอกมะม่วง การให้ปุ๋ยมะม่วง