มะขาม เปรี้ยวยักษ์พืชเศรษฐกิจที่ไม่ควรมองข้าม
การปลูกมะขามเปรี้ยวยักษ์
จังหวัดสระแก้วนั้นเป็นจังหวัดหนึ่งของประเทศไทยที่ติดกับประเทศกัมพูชา เป็นเมืองหน้าด่านทางการค้าที่สำคัญ มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นตลาดโรงเกลือ ปราสาทสด๊กก๊อกธม หรือเขาฉกรรจ์ มีพืชพันธุ์นานาชนิด อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้ ขุนเขา และจังหวัดสระแก้วยังมีการปลูกพืชเศรษฐกิจหลายๆ อย่าง เช่น ข้าว พืชไร่ ไม้ผล ไม้ยืนต้น ที่ทำรายได้ให้กับชาวบ้าน ชาวเกษตรกร ได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ เช่น ข้าวโพด มันสำปะหลัง มะม่วง และยังมีไม้ผลอื่นๆ ที่ถึงแม้ผู้คนจะไม่ค่อยได้ให้ความสนใจ แต่ก็สามารถทำรายได้ให้แก่ชาวเกษตรกรได้ดีทีเดียว ซึ่งก็คือ “มะขาม เปรี้ยวยักษ์” นั่นเอง
มะขามเปรี้ยวยักษ์ เป็นผลไม้ที่เพาะปลูกได้ง่าย การดูแลไม่ยุ่งยาก สามารถเข้ากับดินได้แทบทุกชนิด โดยสามารถปลูกได้ในดินเหนียว ดินลูกรัง ดินทราย แต่ดินที่เหมาะสมที่สุดในการปลูกควรจะเป็นดินร่วนปนทราย เพราะจะสามารถระบายน้ำได้ดี คุณสมบัติของมะขามเปรี้ยวยักษ์นั้นเป็นพืชทนแล้ง ให้ผลดก ติดฝักง่าย มีฝักขนาดใหญ่ ให้เนื้อปริมาณที่มากกว่ามะขามเปรี้ยวทั่วๆ ไป ต้นนั้นจะมีอายุยืนยาว เมื่อปลูกไปได้ 3 ปี ก็จะติดผลแล้ว สามารถเก็บฝักกินได้เป็นร้อยๆ ปี โดยดอกจะออกประมาณเดือนมีนาคม ฝักแก่เก็บได้ในช่วงเดือนตุลาคม และสามารถเก็บได้จนปีใหม่ หรือประมาณ 3 เดือน
คุณบังเอิญ กันแพงศรี ปลูกมะขามเปรี้ยวยักษ์ จ.สระแก้ว
เนื่องในโอกาสที่ทางทีมงานเมืองไม้ผลได้ลงพื้นที่ไปยังอำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว ที่สวน “เขากระดาษ” ของคุณบังเอิญ กันแพงศรี อดีตหัวหน้าพนักงานการไฟฟ้าส่วนท้องถิ่น ที่ผันตัวเองมาเป็นเกษตรกร ได้ผ่านการลองผิดลองถูกในการปลูกพืชต่างๆ จนได้มาพบกับมะขามเปรี้ยวยักษ์ที่ไม่ได้ยักษ์แต่ฝัก แต่ยักษ์เรื่องรายได้ด้วย ซึ่งทางทีมงานเป็นเกียรติอย่างยิ่งในการนำเสนอครับ
เดิมนั้นคุณบังเอิญเป็นคนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งในขณะนั้นคุณบังเอิญได้ทำงานเป็นหัวหน้าพนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แต่คนมีใจรักในด้านการทำเกษตร ได้เดินทางไปในที่ต่างๆ เพื่อหาที่ดินมาทำการเกษตร เพราะอยากทำในสิ่งที่ตนเองมีความสุข โดยคุณบังเอิญไปได้ที่ดินอำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว ซึ่งได้ทำการปลูก ทั้งต้นปาล์มน้ำมัน มะขามป้อม และไม้ผลอื่นๆ รวมถึงมะขามเปรี้ยวยักษ์ด้วย โดยการเริ่มปลูกมะขามเปรี้ยวยักษ์เดิมทีนั้นคุณบังเอิญคิดจะปลูกเป็นมะม่วงกับมะขามหวาน แต่เนื่องด้วยภรรยาของคุณบังเอิญอยากปลูกมะขามเปรี้ยวยักษ์ โดยเห็นว่ามะขามเปรี้ยวยักษ์นั้นยังเป็นพืชที่ผู้คนยังไม่ได้ให้ความสนใจที่จะปลูกกันอย่างจริงจัง เห็นเป็นเพียงไม้ยืนต้นตามข้างถนนเท่านั้น ประกอบกับตนนั้นเป็นคนที่มีความสามารถในการแช่อิ่ม แปรรูปผลไม้ เลยเล็งเห็นการต่อยอดในการที่จะขายเป็นมะขามแปรรูป นอกเหนือจากการขายผลสด หรือผลสุก อย่างเดียว
การเตรียมพื้นที่ปลูกมะขามเปรี้ยวยักษ์
มะขามเปรี้ยวยักษ์ของคุณบังเอิญนั้นได้มาจากหลายแห่งที่ไปสืบเสาะหามา และมีเพื่อนได้กิ่งพันธุ์ที่มีฝักสวย ฝักค่อนข้างตรง ซึ่งการเริ่มปลูกมะขามเปรี้ยวยักษ์นั้นมีต้นแม่เพียงแค่ 4 ต้น จากนั้น 3 ปี ก็ออกผล ทางสวนก็เลยเริ่มขยายการปลูกมะขามเปรี้ยวยักษ์ โดยปลูกมะขามเปรี้ยวยักษ์ไว้ทั้งหมด 1,000 ต้น ภายในเนื้อที่ประมาณ 45 ไร่ ผลผลิตของมะขามเปรี้ยวยักษ์อยู่ที่ประมาณ 200-300 กิโล/ต้น หรือประมาณ 200-300 ต้น ซึ่งผลผลิตที่เคยได้สูงสุดอยู่ที่ประมาณ 450 ต้น เลยทีเดียว
สำหรับสวนของคุณบังเอิญปลูกมะขามเปรี้ยวยักษ์โดยเว้นระยะห่างจากต้นในระยะพุ่มชนพุ่ม หรือถ้ามีเนื้อที่มากก็สามารถปลูกในระยะ 12×12 เมตร ซึ่งภายใน 1 ไร่ จะสามารถปลูกได้ประมาณ 11 ต้น หรือสวนไหนเนื้อที่น้อยก็สามารถลดขนาดลงได้ โดยเริ่มแรกซื้อเมล็ดพันธุ์มะขามมาจากชาวบ้านที่แกะทำมะขามเปียก โดยทำการขุดหลุม หยอดเมล็ดพันธุ์มะขามเปรี้ยวลงไปในหลุมประมาณ 4-5 เมล็ด และฝังกลบ โดยไม่ได้เข้าไปดูแลอะไรเลย หรือเรียกว่า “ปล่อยให้เป็นไปตามฝนฟ้า เทวดาดู” (โดยลักษณะสภาพภูมิอากาศของพื้นที่เขากระดาษนี้มักมีฝนตกชุก) พอปลูกได้ประมาณ 1-2 เดือน ลำต้นก็จะงอกออก ถอนต้นที่ไม่สมบูรณ์ หรือที่ไม่ต้องการทิ้งไป เหลือไว้ประมาณ 2 หรือ 3 ต้น พอลำต้นใหญ่กว่าเท่าประมาณนิ้วก้อย แล้วจึงเริ่มทำการติดตา หรือทาบกิ่ง มะขามเปรี้ยวยักษ์พันธุ์ดี โดยมะขามเปรี้ยวยักษ์ส่วนใหญ่ของคุณบังเอิญจะใช้วิธีทาบกิ่งเป็นส่วนใหญ่
วิธีการติดตา และทาบกิ่ง
การติดตา
1.การเลือกมะขามเปรี้ยวยักษ์ต้องเป็นกิ่งพันธุ์ดี มีความโดดเด่นในการให้ผลผลิต โดยได้ทำการบ่มตาไว้แล้ว
2.ต้องเลือกต้นตอที่มีความสมบูรณ์ ขนาดประมาณเท่านิ้วก้อย หรือเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้ว โดยต้นตอเหล่านี้มาจากการเพาะเมล็ด
3.กรีดต้นตอเป็นแนวยาวให้เป็นรูปตัว A ความยาวประมาณ 15-20 ซม.โดยเซาะเปลือกลงมาเล็กน้อย
4.นำตาพันธุ์ดีใส่เข้าไป โดยการปาดตาให้เป็นรูปโล่ ให้ใบมีดอยู่ในลักษณะเฉียงนิดๆ เพื่อทำให้เนื้อตาไม่เป็นขุย
5.ใช้พลาสติกใสพันรอบต้น พันจากล่างขึ้นบน เพื่อป้องกันน้ำไหลเข้า ดึงพอให้แน่น ไม่จำเป็นต้องแน่นมาก พันให้หมด โดยเฉพาะตรงตาที่เราติดเอาไว้ให้พันแบบเบาๆ ไม่ให้แน่นเกินไป
6.พอประมาณ 20 วัน ก็สามารถนำพลาสติกใสยกได้ หากตายังเขียวสดอยู่ก็แสดงว่าการติดตานั้นสมบูรณ์
การทาบกิ่ง
1.ทำการเลือกกิ่งพันธุ์ดีกับต้นตอที่สมบูรณ์ที่มีขนาดใกล้เคียง เฉือนกิ่งพันธุ์ดีให้เป็นรูปโล่ แผลประมาณ 2 นิ้ว
2.เฉือนต้นตอในลักษณะเดียวกันในบริเวณใกล้กับส่วนของโคนกิ่ง
3.ทาบกิ่งพันธุ์ดีกับต้นตอ โดยให้แผลประกบกันสนิท แล้วจึงพันด้วยพลาสติกใสให้แน่น
4.เมื่อทาบกิ่งไว้ประมาณ 30 วัน หรือแผลสนิทกันแล้ว ให้ควั่นกิ่งต้นตอออก โดยเหลือกิ่งพันธุ์ให้เจริญเติบโตต่อไป
การป้องกันกำจัดโรคและแมลง
มะขาม เปรี้ยวยักษ์นั้นเป็นพืชที่ดูแลง่าย การจัดการไม่ยุ่งยาก โดยการดูแล มะขาม เปรี้ยวยักษ์ของคุณบังเอิญนั้น ในช่วงแรกๆ คุณบังเอิญปล่อยให้ต้นมะขามเปรี้ยวยักษ์เจริญเติบโตไปตามธรรมชาติ แทบไม่เคยรดน้ำ หรือดูแลอะไรเลย จนกระทั่งระยะหลังซึ่งลำต้นของมะขามเปรี้ยวยักษ์มีขนาดใหญ่ขึ้น ประกอบกับได้ให้ผลผลิตแล้ว คุณบังเอิญจึงได้ให้ปุ๋ยในสูตร 8-24-24 ในช่วงก่อนที่ต้นมะขามเปรี้ยวยักษ์จะออกตาดอก โดยให้ปุ๋ยในระยะช่วงก่อนเดือนมีนาคม เพราะปุ๋ยสูตรนี้จะช่วยในเรื่องให้ดอกอ้วน ให้ผลผลิตของมะขามเปรี้ยวยักษ์ติดดี การใส่ปุ๋ยนี้จะขึ้นอยู่กับขนาดของต้น หรืออายุปีของต้นมะขามเปรี้ยวยักษ์นั้นๆ ซึ่งต้นมะขามเปรี้ยวยักษ์ของคุณบังเอิญอายุราวๆ ประมาณ 30 ปี ใส่ปุ๋ยในอัตราส่วนประมาณ 1-2 กิโลกรัม/ต้น ส่วนปุ๋ยทางใบจะให้ในช่วงที่ต้นมะขามเปรี้ยวยักษ์เริ่มติดฝัก หรือฝักประมาณเท่านิ้วก้อย โดยการฉีดปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพ ซึ่งทางสวนของคุณบังเอิญได้หมักปุ๋ยเอง ทำให้ฝักของ มะขาม จะสวย ไม่เป็นโรคหรือเป็นขี้กลาก โดยการให้ปุ๋ยทั้ง 2 อย่างนี้ ปีละครั้งเท่านั้นเอง
การแต่งกิ่งนั้นจะเริ่มตัดกันในช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ช่วงที่มะขามเปรี้ยวยักษ์หมดฝัก หรือก่อนจะออกตาดอก โดยการตัดกิ่งจะตัดกิ่งที่ไม่ใหญ่มาก ซักประมาณกิ่ง หรือ 2 กิ่ง เพื่อทำให้ลำต้นโปร่ง สามารถเข้าใต้ต้นได้สะดวก หรือก็คือถ้าไม่แต่งกิ่งก่อน เมื่อถึงช่วงระยะติดฝัก น้ำหนักฝักจะกดลำต้นลงมา ทำให้ไม่สามารถทำงานได้ และส่งผลเกี่ยวกับผลผลิตด้วย และต้นมะขามเปรี้ยวยักษ์นั้นไม่สามารถทำสาวได้ เนื่องจากถ้าทำสาวมะขามเปรี้ยวไปแล้วต้นมะขามเปรี้ยวยักษ์จะหยุดการให้ผลผลิตไปหลายปี ส่วนการดูแลเรื่องหญ้านั้นจะทำในช่วงปลายปี หรือในช่วงของการเก็บเกี่ยวผลผลิต โดยการเอารถแทรกเตอร์ผสานหน้าดินไปเลย เนื่องจากเนื้อที่มีบริเวณกว้าง จำเป็นต้องรีบทำเนื่องจากป้องกันไฟ โดยทำการกำจัดหญ้าปีละครั้งเหมือนกัน
ประโยชน์และสรรพคุณของมะขามเปรี้ยว
มะขามเปรี้ยวจัดเป็นพืชที่สรรพคุณมากมาย สามารถใช้ประโยชน์ได้เกือบทั้งต้น ไม่ว่าจะทำเป็นอาหาร ยารักษาโรค แถมเนื้อไม้ยังสามารถทำเขียง ครก สาก ฯลฯ ได้อีกด้วย โดยส่วนต่างๆ ของมะขามเปรี้ยวไม่ว่าจะเป็นเปลือก ลำต้น เนื้อฝักแก่ (มะขามเปียก) และเนื้อในเมล็ด สามารถช่วยรักษาได้หลายโรค เช่น เป็นยาขับเสมหะ แก้อาการท้องเสีย ท้องผูก ยาถ่ายพยาธิ เป็นต้น
มะขาม ยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย เช่น วิตามินซี วิตามินบี 2 วิตามินเอ แคลเซียม ฟอสฟอรัส เป็นต้น มะขาม เปรี้ยว (มะขาม เปียก) เหมาะกับการนำไปปรุงอาหารได้หลายชนิด เช่น แกงส้ม น้ำปลาหวาน ต้มส้ม ฯลฯ และ มะขาม เปรี้ยวยังสามารถนำไปแปรรูปเป็นมะขาม แช่อิ่ม มะขาม แก้ว มะขามกวน เป็นต้น ซึ่งนี่เป็นส่วนหนึ่งของคุณประโยชน์ และสรรพคุณต่างๆ ของมะขาม เปรี้ยว ที่เรียกได้ว่าครบเครื่องจริงๆ
ด้านตลาดมะขามเปรี้ยวยักษ์
ความต้องการมะขามเปรี้ยวในปัจจุบันนั้นถือว่ายังไปได้สวย ไม่ว่าจะเป็นตลาดในประเทศ หรือตลาดต่างประเทศ ขายในรูปแบบฝักสด-สุก หรือจะแปรรูปกันเองในภาคครัวเรือน หรือในระบบอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งถือว่ามะขามเปรี้ยวยักษ์ยังมีตลาดที่กว้างมากๆ เป็นที่ต้องการสูง และยังสามารถทำรายได้ให้กับเกษตรกรได้ดีในระดับหนึ่ง เพราะฝักมีขนาดที่ใหญ่ น้ำหนักเยอะ
การจำหน่ายมะขามเปรี้ยวยักษ์
โดยทางสวน “เขากระดาษ” ของคุณบังเอิญ มีผลผลิตมะขามเปรี้ยวยักษ์ประมาณ 300 ต้น/ปี ขายฝักสดในราคากิโลกรัมละ 12 บาท โดยมีผู้รับซื้อกันถึงหน้าสวน ควบคู่กับการทำแช่อิ่มมะขามเปรี้ยวยักษ์ และแปรรูปในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเป็นการสร้างรายได้เป็นหลายเท่าเลยทีเดียว โดยการขายมะขามเปรี้ยวยักษ์แปรรูปอยู่ในราคา 160 บาท/กิโลกรัม และเมื่อเก็บผลผลิตไม่หมดก็สามารถขนฝักแก่ หรือฝักไม่สวย นำมาทำเป็นมะขามเปียกได้อีกต่อหนึ่ง ในราคากิโลกรัมละ 25 บาท และยังมีการจำหน่ายกิ่งพันธุ์ของมะขามเปรี้ยวยักษ์ในราคา 100 บาท โดยในเรื่องของกิ่งพันธุ์สามารถผลิตได้ โดยการผลิตและทาบกิ่ง ทำให้พันธุ์ที่ได้เป็นพันธุ์แท้จากร้านแม่ 100% ซึ่งถือว่ามะขามเปรี้ยวยักษ์นั้นสามารถสร้างรายได้ในหลายรูปแบบ และเรื่องราคาก็ไม่ได้น้อยเลย
การวางแผนในอนาคต
เนื่องจากบางฤดูกาลผลผลิตมะขามเปรี้ยวยักษ์ก็จะล้นตลาด ทำให้ราคาผลผลิตตกต่ำ คุณบังเอิญจึงเกิดแนวคิดในการสร้างห้องเย็นขึ้น เพื่อที่จะสามารถเก็บผลผลิตไว้ขายในช่วงที่ผลผลิตขาดตลาดได้ นอกเหนือจากการขายผลผลิตในช่วงฤดูกาลอย่างเดียว ซึ่งเป็นการวางรากฐานให้กับลูก หลาน ในธุรกิจการเกษตรมะขามเปรี้ยวยักษ์ เพื่อนำมาแปรรูปในรูปแบบครบวงจรต่อไป ซึ่งคุณบังเอิญกล่าวว่า “อนาคตเรามันต้องเตรียมตัว ถ้าไม่เตรียมตัว คุณหยุดนิ่งเมื่อไหร่ก็จะตามคนอื่นไม่ทัน” เนื่องจากสภาวะทางการเมืองที่ผันผวน ทำให้เศรษฐกิจของประเทศชะลอตัว ผู้คนระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ส่งผลกระทบทั้งในภาคการเกษตร และอุตสาหกรรมต่างๆ ทางสวน “เขากระดาษ” ของคุณบังเอิญก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ทำให้ยอดขายตก เนื่องจากสภาวะทางการเมือง ซึ่งเมื่อปัจจัยทางการเมืองที่ผันผวนหมดลงแล้ว เชื่อว่าเศรษฐกิจ และยอดการจำหน่ายมะขามเปรี้ยวยักษ์สด และแปรรูป คงกลับมาดีเหมือนเดิม
และทั้งหมดนี้เป็นเรื่องราวที่ทางทีมงานได้ยกขึ้นมาเพื่อเป็นแนวทางในการศึกษา ที่ใครก็ตามกำลังจะปลูก หรือมีแนวคิดที่จะปลูกมะขามเปรี้ยวยักษ์ แล้วไม่รู้จะเริ่มอย่างไร ได้รู้ถึงกระบวนการเริ่มต้น จวบจนผลตอบแทน และผลกระทบ เพื่อให้ชาวเกษตรกรได้เตรียมตัว และเรียนรู้การปลูกมะขามเปรี้ยวยักษ์ในอีกมิติหนึ่ง
ขอขอบคุณ
คุณบังเอิญ กันแพงศรี (สวนเขากระดาษ)
ที่อยู่ 103 ม.6 ต.คลองหินปูน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว 27210 โทร.08-1860-1566