หลายทศวรรษที่ชาวญี่ปุ่นติดใจรสชาติกล้วยหอมทองของไทย แม้รสชาติจะหวานนำ แต่เนื้อไม่เละ และหอมนุ่ม เปลือกบาง สุกสีเหลืองดั่งทอง เป็นกล้วยปลอดสารพิษ ที่สหกรณ์ญี่ปุ่นได้พิสูจน์ซ้ำแล้วซ้ำอีก จนมั่นใจนำเข้าไปขายทั่วญี่ปุ่น ยังมั่นใจว่า “คุณภาพ” กล้วย ไม่ว่าจะออกปีไหนไม่เปลี่ยนแปลง รับซื้อกล้วยหอมทอง
แต่ “ปริมาณ” ย่อมเปลี่ยนแปลงบ้าง เพราะอิทธิพลสภาพอากาศแปรปรวนในไทย สหกรณ์การเกษตรบ้านลาดจำกัด เป็นองค์กรหลักที่ผลิตกล้วยหอมส่งสหกรณ์ในญี่ปุ่น เป็นสหกรณ์มาตรฐานการผลิตที่มีรางวัลต่างๆ การันตี กล้วยที่ตกไซซ์จะถูกนำมาแปรรูปเป็น “กล้วยอบ” พลังงานแสงอาทิตย์ความร้อน 60 องศาฯ
การปลูกกล้วยหอมทอง
คุณองอาจ จิตเพชร คนเมืองเพชร เกิดและเติบโตมากับกล้วย ปลูกกล้วยหอมทอง รับซื้อและขายให้กับสหกรณ์การเกษตรบ้านลาดจำกัด และสหกรณ์การเกษตรท่ายางจำกัด เป็นหลัก เมื่อกล้วยหอมทองดังทั่วประเทศ หลายจังหวัดเริ่มปลูก อย่าง เมืองกาญจน์ แต่ไม่มีตลาด คุณองอาจตัดสินใจเข้าไปส่งเสริม โดยการหาตลาดให้ลูกสวน และร่วมมือกันปลูกเมื่อปี 2559 เนื่องจากชาวเมืองกาญจน์ส่วนใหญ่ปลูกกล้วยน้ำว้าเป็นหลัก ดังนั้นเขาจะไม่เชื่อว่ากล้วยหอมมีอนาคต
“ผมบอกกับลูกไร่ว่าเรามีตลาดรองรับแน่นอน ทั้งเอกชน และสหกรณ์ เราปลูกตามจำนวนที่เขาต้องการ ตลาดจะไม่ล้น” คุณองอาจเปิดเผย
จากเริ่มต้นส่งเสริมปลูกกล้วยหอมทองแค่ 4 ไร่ วันนี้ขยายเป็น 20 ไร่ “โดยจะปลูกตามออร์เดอร์ที่สหกรณ์และที่บริษัทสั่ง โดยจะส่งเสริมให้ลูกไร่ทยอยปลูกในแต่ละเดือน เพื่อที่ผลผลิตออกในแต่ละเดือน เพื่อให้ลูกไร่มีรายได้ตลอด และที่สำคัญส่งเสริมการปลูกให้มีคุณภาพ เน้นปลอดสาร”
ขั้นตอนการปลูกและบำรุงดูแลกล้วยหอมทอง
การปลูกกล้วยหอมทองให้ได้มาตรฐาน ต้องใช้ฝีมือ มันไม่ได้กล้วยๆ อย่างที่คนภายนอกเข้าใจ
เรื่องแรก คือ ต้องเตรียมดินที่จะปลูก ต้องไถพรวนดิน โดยไถแปร 1 รอบ ไถกลับหน้า 3 อีก 1 รอบ แล้วไถแปรอีก 1 รอบ รวม 3 รอบ จากนั้นก็ “ชักร่อง” ให้ลึก 20 ซม. แต่ละร่องห่างกัน 2×2 เมตร
เรื่องที่ 2 “ระบบน้ำ” มี 2 อย่าง ได้แก่
1.น้ำร่อง โดยการต่อท่อน้ำมาเปิดที่หัวร่อง ซึ่งระบบนี้ที่เมืองกาญจน์หน้าแล้งความร้อนจะขึ้น จนทำให้ใบกล้วยไหม้
2.น้ำสปริงเกลอร์ ซึ่งระบบให้น้ำแบบนี้ แม้จะลงทุนค่อนข้างสูง แต่มีข้อดีมาก เมื่อเปิดน้ำจะช่วยระบายความร้อนได้ดี ทำให้กล้วยโตไว
เรื่องที่ 3 การให้น้ำ ก็มีความสำคัญ เพราะกล้วยหอมทองเป็นพืชไม่ชอบดินแฉะ แต่ชอบความชื้นตลอดเวลา เพราะกล้วยเป็นพืชกินอาหารหน้าดิน รากไม่ได้ลงลึกเหมือนพืชชนิดอื่น ดังนั้นการให้น้ำในร่องอาทิตย์ละ 2 ครั้ง
เรื่องที่ 4 การให้ปุ๋ย คุณองอาจได้ใช้ทั้งปุ๋ยอินทรีย์ และปุ๋ยเคมี โดยเฉพาะตอนเตรียมดิน ช่วงไถพรวนก็ใส่ขี้ไก่ไข่อัดเม็ด 100 กก./ไร่ พอปลูกกล้วยไปแล้ว 3 เดือน ก็ใส่อีกรอบ โดยโรยบนหน้าดิน แต่ต้องเป็นขี้ไก่ที่ไม่มีแกลบ ป้องกันโซดาไฟที่ทำให้กล้วยเหลืองตาย ส่วนปุ๋ยเคมี 3 เดือนแรก ใส่ 46-0-0 ปุ๋ยยูเรีย จากนั้นก็ใส่ 25-7-7 เพื่อให้กล้วยแตกหน่อ พอตัดหน่อทิ้งเอาต้นแม่ไว้ อีก 3 เดือน ใส่ 16-16-16 หรือ 15-15-15 พอกล้วยมีปลีก็ใส่ 13-13-21 เพื่อให้สมบูรณ์
การเก็บเกี่ยวกล้วยหอมทอง
กล้วยหอมทองที่สมบูรณ์ 5-6 เดือน ก็จะให้ปลีแล้ว โดยไว้ต้นละปลี อีก 2 เดือน ปลีหมด ก็จะได้กล้วยอย่างต่ำ 5 หวี
กล้วยที่มาตรฐานตรงตามที่ตลาดต้องการ คือ ความยาวของลูก 14 ซม. น้ำหนัก 120 กรัม/ลูก ความแก่ 80% ถึงผู้บริโภคจะสุกพอดี ผิวเปลือกต้องไม่ขรุขระ ดังนั้นกล้วยทุกทะลายจึงต้องห่อด้วยถุงที่มีรูระบายอากาศใช้ได้หลายรุ่น
รับซื้อกล้วยหอมทอง ด้านตลาดและช่องทางจำหน่าย
สุดท้ายเรื่องตลาดเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าเกษตรกรไม่มั่นใจ ทั้ง 2 ฝ่าย ไปไม่รอด ดังนั้นคำพูดของผู้ส่งเสริมต้องศักดิ์สิทธิ์
“เราต้องทำให้เขาเชื่อว่าเรามีตลาดรองรับแน่นอน ทางเรามีการประกันขั้นต่ำ กก.ละ 10 บาท 1 หวี 2-3 กิโลกรัม เรามีแผนการปลูกเดือน/เดือน ให้ลูกไร่แต่ละราย เพื่อให้ผลผลิตออกมาไม่ชนกัน และที่สำคัญถ้าเราจะปลูกอะไรเราต้องหาตลาดมารองรับผลผลิตของเราก่อน ไม่งั้นถ้าเราปลูกไปโดยไม่คำนึงถึงตลาด หรือไม่มีตลาดรองรับ ผลผลิตของเราก็จะไม่มีที่ขายสินค้า ตลาดล้น ขายไม่ได้ เกษตรกรก็ลำบาก เงินลงทุนไปก็จมหาย ผมเลยมองว่าตลาดเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ ในการปลูกพืชแต่ละอย่าง” คุณองอาจเปิดเผยถึงแรงจูงใจให้ลูกไร่ศรัทธา
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ เอเอ บานาน่าฟาร์ม โทร.086-016-7347 (คุณองอาจ จิตเพชร) ไอดีไลน์ : aa98banana 89 หมู่ที่ 2 ตำบลท่าม่วง อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี 71110