ประเทศไทยนั้นได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งผลไม้ที่มีความหลากหลาย และมีรสชาติที่คงความเป็นเอกลักษณ์ในเรื่องของความสด หวาน อร่อย ทำให้ต่างชาติส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวนั้นต่างบอกว่าผลไม้ของเมืองไทยนั้นอร่อยจนเป็นที่ต้องการในระดับสากลเลยทีเดียว วิธีปลูกมะพร้าวน้ําหอม
ถ้าพูดถึงผลไม้และดื่มด่ำกับบรรยากาศชายทะเล คงจะหนีไม่พ้นมะพร้าว มะพร้าวน้ำหอมถือว่าเป็นผลไม้ที่เป็นเครื่องดื่มชั้นดีสำหรับนักท่องเที่ยว ครั้งนี้เราจะมาทำความรู้จักกับเจ้าตัว มะพร้าวน้ำหอม กันว่ามีวิธีการปลูกอย่างไร ถึงได้ผลผลิตที่เป็นเอกลักษณ์มากขนาดนี้
การปลูกมะพร้าวน้ำหอม
มะพร้าวน้ำหอม ถือได้ว่าเป็นพืชหรือผลไม้ที่นับว่าเป็นตัวทำเงินอีกหนึ่งชนิดที่มีความสำคัญของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ นอกจากจะได้รับความนิยมทั่วประเทศแล้ว ยังมีการส่งออกไปยังต่างประเทศเป็นจำนวนมากอีกด้วย เพราะถือว่าเป็นผลไม้ที่เหมาะกับการนำไปประกอบอาหาร ทำเบเกอรี่ ทำเป็นเครื่องดื่ม และยังมีการนำมาสกัดเป็นเวชสำอางอีกด้วย ทำให้ปัจจุบันถือว่าความต้องการในการบริโภคและแปรรูปนั้นมีความต้องการที่สูงมาก อีกทั้งวิธีการปลูกก็สามารถทำได้ง่าย ถ้ารู้จักพื้นที่ที่เหมาะสมและดูแลก็จะได้มะพร้าวน้ำหอมที่มีคุณภาพพร้อมจำหน่ายเลยทีเดียว
สายพันธุ์มะพร้าวน้ำหอม
ถ้าให้พูดถึงผลไม้ที่เป็นสุดยอดของไทยเลย คงหนีไม่พ้นทุเรียนกับมังคุด แต่อีกหนึ่งสุดยอดผลไม้ที่สามารถนำมาดื่มเพื่อดับกระหาย และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเมื่อไปเที่ยวตามชายทะเล หรือเป็นผลไม้ที่ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวตามโรงแรม จะต้องมี มะพร้าว หรือมะพร้าวน้ำหอม
ซึ่งถือได้ว่าเป็นผลไม้ที่มีราคา และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก อีกทั้งในเมืองไทยเองยังสามารถหารับประทานมะพร้าวน้ำหอมได้ง่าย เพราะเป็นพื้นที่ที่เหมาะกับการปลูกผลไม้ชนิดนี้เป็นอย่างมาก อีกทั้งต่างชาติที่ได้ลิ้มลองต่างก็ติดใจในรสชาติที่หอม หวาน และชุ่มคอ เป็นอย่างมาก ถือเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์เลยก็ว่าได้ ว่าถ้ามาเมืองไทย และไม่ได้ลองกินมะพร้าวน้ำหอม ถือว่าอาจจะพลาดของเด็ดเลยก็ว่าได้
ซึ่งมะพร้าวน้ำหอมนั้นสามารถที่จะแยกออกเป็น 2 พันธุ์ใหญ่ได้ คือ มะพร้าวน้ำหอมต้นเตี้ย และมะพร้าวน้ำหอมต้นสูง ซึ่งเชื่อว่ามะพร้าวน้ำหอมนั้นเกิดจากกลายพันธุ์ และคัดเลือกพันธุ์โดยธรรมชาติจากต้นมะพร้าวต้นเตี้ยพันธุ์หมูสีเขียว
อีกทั้งจุดเด่นของมะพร้าวน้ำหอมเลย ก็คือ รสชาติ และกลิ่นที่มีความหอม หวาน ในแบบเฉพาะตัว ซึ่งกว่าจะได้รสชาติที่ออกมาดีนั้นจะต้องมีการดูแลและการปลูกในพื้นที่ที่เหมาะสม ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ที่จะปลูกมะพร้าวน้ำหอมได้ดีนั้นส่วนใหญ่แล้วจะเป็นพื้นที่ที่อยู่ในภาคกลาง ถือว่าเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมเป็นอย่างมากในการปลูก ซึ่งมักจะปลูกใน อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และราชบุรี
ลักษณะทั่วไปของต้นมะพร้าวน้ำหอม
มะพร้าวน้ำหอมนั้นถือได้ว่าเป็นไม้ยืนต้นที่เป็นลำต้นเดียวตั้งตรง และมีลำต้นที่เป็นลักษณะกลมๆ แข็งและเหนียว มีสีเทา ลักษณะของผลนั้นจะมีเปลือกสีเขียว อาจจะเป็นทรงรีหรือทรงกลมก็ได้ ขาวในจะมีกะลาแข็ง มีเนื้อนุ่มสีขาว รสชาติหวานมัน ข้างในมีน้ำใสๆ รสชาติหอม หวาน มีกลิ่นหอม และสามารถรับประทานได้
–มีระบบรากเป็นรากแก้ว ต้นของมะพร้าวน้ำหอมนั้นจะมีระบบรากเป็นรากแก้วที่เริ่มแทงลึกลงไปในดิน มีลักษณะกลมๆ จะมีรากแขนง รากฝอยเล็ก แตกแยกออกมารอบๆ
–ใบและดอก ในส่วนของใบจะลักษณะคล้ายกับขนนก โคนก้านใบใหญ่จะแผ่กาบหุ้มลำต้นไว้ และมีสีเขียวแก่ ปลายใบจะแหลม ส่วนดอกนั้นจะมีดอกเป็นช่อออกตามซอกใบ มีสีเหลืองนวล และมีน้ำหวานอยู่มาก
–ผลของมะพร้าวน้ำหอม ลักษณะของผลนั้นจะออกเป็นทรงกลม หรืออาจจะเป็นทรงรีก็ได้ มีผิวที่เรียบ ผลอ่อนเปลือกจะมีสีเขียว จะมีเส้นใยนุ่ม ข้างในจะมีกะลาแข็ง แล้วก็มีเนื้อสีขาวนุ่ม รสชาติหวาน มันอร่อย ข้างในผลนั้นนอกจากมีเนื้อแล้วยังมีน้ำใสๆ ที่ให้รสชาติหวาน หอม และเมื่อนำมาดื่มก็ช่วยเพิ่มความสดชื่นได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญมีกลิ่นที่หอมด้วย
วิธีปลูกมะพร้าวน้ําหอม
สำหรับการจะเริ่มปลูกมะพร้าวน้ำหอมนั้นต้องมารู้จักกับสภาพดินและสภาพแวดล้อมที่จะปลูกก่อนเป็นอันดับแรก ถึงแม้ว่าต้นมะพร้าวน้ำหอมนั้นสามารถที่จะปลูกได้กับดินแทบทุกสภาพถ้าเป็นดินที่ดี แต่ปกติแล้วก็เป็นพืชที่ชอบดินที่มีความร่วนซุย หรือดินที่มีความชื้นเหมาะสม น้ำไม่ขังมากจนเกินไป และยังสามารถปลูกได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทยเลยทีเดียว
นอกจากปลูกได้ทุกภาคแล้วยังสามารถปลูกได้ทุกฤดูเลยก็ว่าได้ ถือว่าเป็นพืชที่มีความทนทานต่อสภาพอากาศแล้งได้เป็นอย่างดี โดยปกติแล้วก่อนที่จะเริ่มปลูกเราก็ต้องมีการคัดผลและสายพันธุ์ที่จะนำมาปลูกก่อนที่จะเริ่มทำการปลูก นอกจากนี้ยังจะต้องมีการเตรียมหลุมเพื่อเตรียมทำการปลูกด้วยเช่นกัน
สภาพพื้นที่ปลูกมะพร้าวน้ำหอม
การจะปลูกมะพร้าวน้ำหอมนั้นสิ่งที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆ เลย ก็คือ การเลือกสถานที่ที่เหมาะสมกับการปลูก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสมบูรณ์ของสภาพอากาศ ความสมบูรณ์ของดินที่มีการระบายน้ำได้ดี อีกทั้งควรจะปลูกในพื้นที่ที่ใกล้กับแหล่งน้ำ นอกจากพื้นที่ที่ทำการปลูกควรจะใกล้กับแหล่งน้ำแล้ว ยังต้องเป็นพื้นที่ที่ฝนสามารถตกกระจายได้อย่างสม่ำเสมอด้วย อุณหภูมิที่เหมาะสมนั้นควรจะอยู่ที่ 20-29 องศาเซลเซียส และปริมาณแสงแดดต้องไม่มากเกินไป อาจจะอยู่ที่ประมาณ 7 ชั่วโมง ต่อวันก็ได้
สำหรับการเตรียมหลุมเพื่อที่จะเริ่มปลูกมะพร้าวน้ำหอมนั้น ปกติแล้วขนาดหลุมจะขุดประมาณ 1.0×1.0x1.0 เมตร หรือจะต้องขุดหลุมให้ลึกพอประมาณ และต้องมีความกว้างพอสมควร ต้องไม่ลืมแยกส่วนหน้าดินกับดินล่างออก หลังจากที่เราขุดหลุมไปแล้วก็ให้ทำการตากหลุมไว้อย่างน้อยประมาณ 1 สัปดาห์
นอกจากนี้ถ้ามีปลวกหรือแมลงในดินก็ให้ทำการเผาใบไม้แห้งในหลุม หรืออาจจะใช้ยากันปลวกโรยลงก้นหลุมก็ได้ แต่ถ้าใครปลูกในพื้นที่แห้งอาจจะมีการใช้กาบมะพร้าวรองไว้ที่ก้นหลุมก็ได้เช่นกัน เพราะว่ากาบมะพร้าวนั้นจะช่วยกักเก็บความชื้นในดินได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าหากใครหากาบมะพร้าวมาใช้ไม่ได้อาจจะใช้เป็นฟางข้าว ใบไม้แห้ง หรือหญ้าแห้ง แทนก็ได้เช่นกัน หลังจากนั้นก็ให้ใส่ดินที่มีการผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปด้วย ในปริมาณส่วน 1 ใน 7 ของหลุม เพื่อเป็นการรองก้นหลุม จากนั้นก็ให้เอาดินที่มีการผสมด้วยฟอสเฟตใส่ลงไปในหลุมจนเต็มและทิ้งไว้จนกว่าจะเริ่มปลูก
สำหรับระยะในการปลูกนั้นเป็นพื้นที่ราบแบบสามเหลี่ยมทั่วไป หรือเป็นแบบสี่เหลี่ยมด้านเท่า อาจจะเว้นระยะในการปลูกประมาณ 6.0×6.0 หรือ 6.5×6.5 เมตร ก็ได้เช่นกัน ถ้าเป็นสภาพพื้นที่ลุ่ม น้ำไม่ท่วมขัง การปลูกแบบยกร่อง หรือปลูกแบบแถวคู่ และแถวเดียว ก็เว้นระยะประมาณ 6.0×6.0 หรือ 6.5×6.5 ระยะของหลุมห่างจากขอบร่องน้ำประมาณ 2 เมตร
การคัดเลือกสายพันธุ์มะพร้าวน้ำหอมที่จะนำมาปลูกนั้นจะต้องเป็นสายพันธุ์มะพร้าวน้ำหอมแท้ หรือก็คือ ผลมะพร้าวที่เพาะจนแทงต้นอ่อนออกมาแล้ว เปลือกของผลมะพร้าวจะย่นๆ เป็นริ้วๆ หรือจะใช้วิธีการดูที่สีก็ได้ ถ้าเป็นหน่อพันธุ์แท้จะเป็นสีเขียว หรือใช้วิธีการขยี้ปลายรากและดมกลิ่น ถ้ามีกลิ่นหอมคล้ายใบเตย ก็คือ พันธุ์มะพร้าวน้ำหอมแท้ นอกจากใช้วิธีการดังกล่าวอาจจะต้องมีการหาต้นพันธุ์ที่มีอายุมากกว่าสิบปีขึ้นไปด้วย หรือถ้าเป็นไปได้พันธุ์มะพร้าวที่จะนำมาปลูกนั้นยิ่งแก่ยิ่งดี อาจจะใช้พันธุ์ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปก็ได้ ที่สำคัญต้องเป็นมะพร้าวน้ำหอมพันธุ์แท้ ยิ่งเกรดเอยิ่งดี
ในช่วงเวลาของการเริ่มปลูกมะพร้าวน้ำหอมนั้นก็จะไม่แตกต่างจากมะพร้าวทั่วไปเท่าไหร่นัก เพราะว่าโดยส่วนใหญ่แล้วมะพร้าวถ้าปลูกในช่วงฤดูฝนก็จะเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุด เพราะว่าการให้น้ำในแต่ละครั้งนั้นจะช่วยให้เกษตรกรที่ทำการปลูกนั้นประหยัด และไม่ต้องรดน้ำบ่อยมากนัก เพราะปริมาณน้ำฝนนั้นสามารถช่วยให้ดินมีความชื้นตลอดเวลาด้วย นอกจากปลูกในช่วงฤดูฝนแล้ว การคัดหน่อที่ช้ำออกก็ถือว่าเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นเหมือนกัน จากนั้นก็ใช้ปูนขาวหรือยากันเชื้อราทาตรงที่ตัดรากช้ำออก แล้วค่อยนำลงไปวางในหลุมโดยต้องวางให้หน่อตั้งตรงและหันไปในทางเดียวกันด้วย
หลังจากที่หย่อนต้นมะพร้าวลงหลุมแล้วให้ทำการกลบดินประมาณ 2ใน 3 ของผล หรืออาจจะให้มิดผลเลยก็ได้แต่ต้องระวังไม่ให้ดินทับโคนหน่อมากเกินไป เพราะจะทำให้หน่อนั้นถูกรัด และจะทำให้ต้นโตได้ช้า แต่เมื่อต้นมะพร้าวน้ำหอมโตขึ้นให้กลบดินให้สูงขึ้นกว่าเดิม ซึ่งการปลูกในช่วงแรกนั้นอาจจะต้องทำในที่ร่ม หรือที่แดดไม่จัดมากนัก เพราะว่าจะช่วยลดอัตราการตาย เนื่องจากแสงแดดนั้นแรงเกินไปสำหรับต้นอ่อนได้ นอกจากนี้ถ้าบริเวณที่ปลูกเป็นพื้นที่โล่ง และมีสัตว์เลี้ยง ควรจะทำคอกหรือรั้วกั้นเพื่อไม่ให้สัตว์เข้ามาทำลายด้วย
การให้ปุ๋ยและน้ำต้นมะพร้าวน้ำหอม
หลังจากที่เราพอจะทราบเรื่องของวิธีการปลูกมะพร้าวน้ำหอมไปบ้างแล้ว ต่อมาเราก็มาดูกันว่าวิธีการดูแลรักษาสวนมะพร้าวน้ำหอมหรือมะพร้าวน้ำหอมที่ปลูกนั้นมีวิธีการใส่ปุ๋ยและให้น้ำ รวมไปถึงการดูแลอย่างไร เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีและมีคุณภาพพร้อมจำหน่ายสู่มือผู้บริโภคได้
การใส่ปุ๋ยนั้นส่วนใหญ่แล้วมะพร้าวน้ำหอมจะแบ่งการใส่ปุ๋ยออกเป็นตามปี ในช่วงปีแรกนั้นหลังจากที่เริ่มปลูกมะพร้าวได้ 4 เดือน ก็จะเริ่มใส่ปุ๋ยครั้งแรก โดยจะใช้เป็นปุ๋ยเคมีสูตร 13-13-21 และ 12-12-17-2 ในปริมาณต้นละ 1 กิโลกรัม พร้อมกับแมกนีเซียมซัลเฟต 200 กรัม และครั้งที่ 2 นั้นก็จะใส่ในปริมาณเท่าเดิม แต่ใส่ในช่วงปลายฤดูฝน
พอเข้าสู่ปีที่ 2 ก็ให้ใช้ปุ๋ยเคมีสูตรเดียวกับปีแรก แต่จะเพิ่มปริมาณอยู่ที่ 2 กิโลกรัม ต่อต้นต่อปี ส่วนแมกนีเซียมซัลเฟตเพิ่มขึ้นมาเป็น 300 กรัม และให้ใส่โดโลไมท์เพิ่มเติ่มอีก 1 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี และเข้าสู่ปีที่ 3 ก็ให้ใส่ปุ๋ยเพิ่มขึ้นอีก 1 กิโลกรัม คือ จะอยู่ที่ 3 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี แมกนีเซียมซัลเฟตเพิ่มขึ้นเป็น 400 กรัม และโดโลไมท์เพิ่มเป็น 2 กิโลกรัม และเมื่ออายุได้ 4 ปีขึ้นไป การใส่ปุ๋ยนั้นจะเพิ่มเป็น 4 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี แมกนีเซียมซัลเฟตก็ใช้ในปริมาณ 500 กรัม แต่ให้ใส่โดโลไมท์เท่าเดิม
สำหรับการใส่ปุ๋ยในมะพร้าวน้ำหอมนั้นส่วนมากแล้วจะมีการแบ่งใส่ปีละ 2 ครั้ง ซึ่งก็ให้ทำการหว่านปุ๋ยรอบๆ บริเวณทรงพุ่ม พรวนดินตื้นๆ กลบปุ๋ยรอบบริเวณดิน ทั้งนี้นอกจากจะมีการใส่ปุ๋ยแล้วอาจจะมีการใส่เกลือแกงให้มะพร้าวประมาณ 1.5 กิโลกรัม ต่อต้นต่อปีด้วย เพื่อเป็นการช่วยเพิ่มธาตุอาหารคลอไรด์ จะช่วยทำให้มะพร้าวนั้นติดผลได้ดี และมีเนื้อที่หนาขึ้น ซึ่งเป็นคำแนะนำที่เหมาะกับการใช้ในพันธุ์ลูกผสม หรือจะมีการนำมาปรับใช้ในพันธุ์อื่นๆก็ได้
การให้น้ำถือว่าเป็นหัวใจหลักในการปลูกมะพร้าวน้ำหอมเลยก็ว่าได้ เพราะว่าในช่วงฤดูแล้งถือว่ามีความจำเป็นอย่างมากที่ช่วยในเรื่องของการเติบโตของมะพร้าว และช่วยให้ได้ผลผลิตที่เพิ่มขึ้น และมีคุณภาพมากขึ้นด้วย อีกทั้งถ้าฝนทิ้งช่วงนานเกินไปอาจจะ 1-2 เดือน การมีน้ำไว้สำรองก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี จึงเหมาะอย่างมากที่จะต้องปลูกใกล้กับแหล่งน้ำ และการให้น้ำแต่ละครั้งก็ดูตามความเหมาะสมของสภาพดินเป็นหลักด้วยเช่นกัน
การป้องกันและกำจัด โรค แมลง ศัตรูพืช วัชพืช ต้นมะพร้าวน้ำหอม
วัชพืชนั้นถือว่าเป็นศัตรูที่มีความอันตรายเป็นอย่างมากสำหรับการปลูกมะพร้าวน้ำหอม เพราะว่าเมื่อไหร่ที่หญ้าหรือวัชพืชขึ้นรกมากเกินไปก็อาจจะทำให้มาแย่งธาตุอาหารที่มีความจำเป็นต่อมะพร้าวน้ำหอมได้ ฉะนั้นการควบคุมและคอยกำจัดวัชพืชถือว่ามีความจำเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะคอยแย่งอาหารแล้ว ยังคอยแย่งน้ำในดินด้วยเช่นกัน ซึ่งจะทำให้ดินบริเวณรอบๆ โคนต้นนั้นแห้งได้ง่าย ซึ่งวิธีการง่ายๆ เพียงแค่คอยดูว่าหญ้าขึ้นมากเกินไปหรือไม่ ถ้าเยอะมากก็ใช้เครื่องมือในการกำจัดออกได้เลย
สำหรับมะพร้าวน้ำหอมและมะพร้าวทุกชนิดนั้นต่างก็ต้องพบเจอกับปัญหาในเรื่องของแมลงศัตรูพืชเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่แมลงศัตรูพืชที่ทำให้ชาวสวนมะพร้าวนั้นแทบหมดตัวนั้นก็มีอยู่ไม่กี่ชนิดที่ต้องเฝ้าระวัง ถ้าเกิดว่าพบต้องกำจัดทันที เพราะจะส่งผลเสียต่อสวนมะพร้าวได้
ด้วงแรด หนึ่งในแมลงศัตรูพืชที่มักจะพบได้ในสวนมะพร้าว
โดยด้วงชนิดนี้จะเข้ามาทำลายโดยการเจาะใบ มะพร้าวที่บริเวณโคนทางใบที่ 2 หรือ 3 ทะลุเข้าไปถึงยอดอ่อนตรงกลาง และจะทำลายบริเวณยอดอ่อนที่ยังไม่คลี่ ทำให้ใบมะพร้าวขาดแหว่งได้ นอกจากจะส่งผลเสียต่อใบมะพร้าว ยังส่งผลเสียต่อการเจริญเติบโตของผลมะพร้าวด้วย ซึ่งตรงนี้ก็เป็นสิ่งที่ทำให้อาจจะนำแมลงและโรคอื่นๆ เข้ามาได้ง่าย
วิธีการป้องกันและกำจัดด้วงแรด อาจจะมีการใช้เชื้อราเขียว สร้างกับดักราเขียวโดยใช้ขุยมะพร้าวที่หมักแล้วผสมกับหัวเชื้อราเขียวเพื่อล่อให้ด้วงแรดมาวางไข่ จากนั้นก็เมื่อด้วงแรดฟักออกจากไข่ก็ถูกราเขียวเข้าทำลายและตายได้ในที่สุด
ด้วงงวงมะพร้าว
ด้วงชนิดนี้จะเข้าไปทำลายโดยการขยายพันธุ์อยู่ภายในคอมะพร้าวและพบบ้างที่โคนลำต้น ซึ่งจะ
ทำให้ต้นนั้นตายได้ อาการที่จะบอกว่าโดนด้วงชนิดนี้ทำลาย คือ ยอดอ่อนจะมีอาการเหี่ยวแห้งและใบเหลือง
วิธีการป้องกันและกำจัดด้วงมะพร้าว การป้องกันนั้นต้องป้องกันตั้งแต่ด้วงแรดเลย เพราะว่าไม่ควรให้ด้วงแรดนั้นสามารถเข้ามาทำลายได้ เพราะเมื่อไหร่ที่ด้วงแรดเข้ามาทำลายต้นมะพร้าวได้ จะทำให้ด้วงมะพร้าวสามารถเข้าไปวางไข่ภายในลำต้นได้ นอกจากนี้ต้องหมั่นดูแลความสะอาดของต้นมะพร้าวอยู่เสมอด้วย ถ้าพบว่าเริ่มมีการทำลายเกิดขึ้นให้ใช้สารฆ่าแมลงคลอร์ไพริฟอส ปริมาณ 80 มิลลิกรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ผสม และทำการฉีดพ่นทั่วๆ บริเวณ
แมลงดำหนาม
เป็นแมลงอีกหนึ่งชนิดที่จะสามารถทำลายต้นมะพร้าวได้ง่าย โดยถ้าเป็นตัวหนอนและตัวเต็มวัยก็จะกัดกินยอดอ่อนที่สุดของใบมะพร้าวที่ยังไม่คลี่ อีกทั้งยังทำให้ยอดอ่อนของมะพร้าวนั้นชะงักการเจริญเติบโตได้ เมื่อมีการทำลายรุนแรงจะมองเห็นยอดเป็นสีขาวโพลนชัดเจน การระบาดทำลายได้ทั้งมะพร้าวต้นเล็กและต้นสูง
การป้องกันและวิธีการกำจัด สำหรับการกำจัดแมลงดำหนามนั้นส่วนใหญ่แล้วจะใช้วิธีควบคุม โดยใช้แตนเบียนเพศเมียเข้าไปทำลายหนอนแมลงดำหนาม อีกวิธี คือ การใช้สารเคมีที่มีอันตรายน้อย และสลายตัวได้เร็ว คือ คาร์บาริล ประมาณ 30 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ในแปลงเพาะชำ หรือต้นขนาดเล็ก ก็จะช่วยป้องกันแมลงชนิดนี้ได้
หนอนหัวดำมะพร้าว
เป็นศัตรูต่างถิ่นที่ระบาดเข้ามาในไทย ตัวเต็มวัยเป็นผีเสื้อกลางคืน ขนาดลำตัววัดจากหัวถึง
ปลายท้องยาว 1-1.2 เซนติเมตร ปีกสีเทาอ่อน มีจุดสีเทาเข้มที่ปลายปีก ลำตัวแบน ชอบเกาะนิ่งแนบตัวติดผิวพื้นที่เกาะ เวลากลางวันจะเกาะนิ่งหลบอยู่ใต้ใบมะพร้าวหรือในที่ร่ม
การป้องกันและการกำจัดหนอนหัวดำ ตัดใบที่มีหนอนหัวดำลงทำลาย นำลงมาเผาหรือฝังทำลาย การพ่นด้วยชีวภัณฑ์ บีที ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ใช้ในการควบคุมหนอนผีเสื้อศัตรูพืช อัตรา 80-100 มิลลิลิตร ผสมน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นต้นละ 3-5 ลิตร ให้ทั่วทรงพุ่ม และเครื่องพ่นให้พ่น 3 ครั้ง ติดต่อกัน ห่างกันครั้งละ 7-10 วัน การใช้แตนเบียนควบคุมหนอนหัวดำมะพร้าว แตนเบียนโกนิโอซัส นีแฟนติดีส แนะนำให้ปล่อยตัวเต็มวัยอัตรา 50-100 ตัว ต่อไร่ ปล่อย 3 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกัน 1 เดือน หากสามารถปล่อยแตนเบียนโกนิโอซัสได้มากจะทำให้เห็นผลในการควบคุมเร็วขึ้น
การเก็บเกี่ยวผลผลิตมะพร้าวน้ำหอม
โดยปกติของมะพร้าวนั้น ถ้าหากเกษตรกรที่ทำการปลูกมีวิธีการดูแลสวนที่ดี ให้ปุ๋ย ให้น้ำ อย่างสม่ำเสมอ มะพร้าวก็จะเริ่มออกจั่นได้เร็วที่สุดเลย คือ อายุประมาณ 3 ปีเศษ ก็จะเริ่มทยอยเก็บผลผลิตได้แล้ว โดยปกติแล้วมะพร้าวน้ำหอมนั้นจะเริ่มเก็บผลอ่อนได้ก็ต่อเมื่อมีอายุได้ 7 เดือน หรือประมาณ 190-200 วัน ซึ่งถือว่ามะพร้าวน้ำหอมในช่วงอายุนี้นั้นจะมีความหวานและหอมที่เป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งเนื้อจะนุ่ม ซึ่งเหมาะสำหรับการบริโภคได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
การสังเกตมะพร้าวที่ให้ผลอ่อนกำลังดีนั้นให้ดูที่สีของผลเป็นหลัก โดยรอบกลีบเลี้ยงนั้นจะมีวงสีขาวล้อมรอบเพียงเล็กน้อย หรือให้ดูที่ทะลายอ่อนที่อยู่เหนือเยื้องทะลายที่จะตัดมีขนาดใหญ่กว่ากำปั้นเล็กน้อย อาจจะนับวันหลังจากตัดทะลายแรกผ่านไปแล้วประมาณ 20 วัน ก็ได้ พอหลังจากครบ 20 วัน ก็สามารถเริ่มตัดทะลายใหม่ได้ นอกจากนี้อาจจะใช้วิธีการสังเกตหางหนู หรือดีดที่ผลก็ได้เช่นกัน
ด้านตลาดและช่องทางจำหน่ายมะพร้าวน้ำหอม
มะพร้าวน้ำหอมนั้นถือว่าเป็นพืชหรือผลไม้เศรษฐกิจที่มีความสำคัญของประเทศอยู่แล้ว โดยตามท้องตลาดทั่วไปจะวางขายในราคาผลละ 30-35 บาท ถือว่าเป็นเครื่องบ่งชี้ที่ว่าจะทำให้เกษตรกรนั้นมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
มะพร้าวน้ำหอมนั้นถือว่าเป็นพืชที่ปลูกง่าย และให้ผลที่คุ้มทุน เนื่องจากว่าการส่งจำหน่ายและการปลูกนั้นมีต้นทุนที่ไม่สูงมาก อีกทั้งความหอมหวานที่ตรึงใจผู้บริโภคนั้นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เป็นที่ถูกใจของใครหลายคนเลยทีเดียว แต่ว่าการเพิ่มมูลค่าให้ผลผลิตและเกษตรกรนั้นไม่ใช่เพียงแต่การปลูกมะพร้าวน้ำหอมเพียงอย่างเดียว
การสร้างกำไรให้กับเกษตรกรในช่วงที่รอผลผลิตนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเช่นกัน เพราะว่ากว่าจะได้ผลผลิตของมะพร้าวน้ำหอมก็ต้องรออีกประมาณ 3-4 ปี เกษตรกรจึงจำเป็นที่จะควรปลูกพืชชนิดอื่นแทนด้วยเช่นกัน
โดยพืชที่สามารถปลูกเพื่อเป็นการทดแทนและรอผลผลิตนั้นก็มีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นพืชตระกูลถั่ว ฟักทอง แตงกวา ข้าวโพดหวาน ถือว่าเป็นตัวเลือกอีกทางหนึ่งที่ระหว่างรอผลผลิตของมะพร้าวน้ำหอม สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรที่ทำการปลูกมะพร้าวน้ำหอมได้อีกทางด้วย
ฝากถึงผู้ที่สนใจปลูกมะพร้าวน้ำหอม
มะพร้าวน้ำหอมนั้นถือว่าเป็นผลผลิตที่มีคุณภาพ และเป็นที่ครองตลาดของเกษตรกรหลายรายเลยทีเดียว ด้วยรสชาติที่หอม หวาน และเป็นเครื่องดื่มชั้นดี ทำให้มีตลาดทั้งในและต่างประเทศเป็นจำนวนมาก จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมะพร้าวน้ำหอมนั้นยังคงครองตลาดมาได้อย่างยาวนาน อีกทั้งวิธีการปลูกและการดูแลก็ไม่วุ่นวาย เป็นผลไม้และพืชทางเลือกให้กับเกษตรกรได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
จะเห็นได้เลยว่าครั้งนี้เราพูดถึงมะพร้าวน้ำหอม มะพร้าวที่มีชื่อเสียงและคุณภาพที่โดดเด่น ด้วยวิธีการปลูกและการดูแลที่ใส่ใจของเกษตรกร ถือว่าเป็นอีกหนึ่งผลผลิตที่มีคุณภาพ และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกเลยทีเดียว ซึ่งบทความในครั้งนี้ก็ตอบโจทย์เป็นอย่างมาก สำหรับผู้ที่สนใจที่จะเริ่มต้นในการปลูกมะพร้าวน้ำหอม เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่อยากให้ลองและได้ศึกษาเพิ่มเติมกันจริงๆ วิธีปลูกมะพร้าวน้ําหอม วิธีปลูกมะพร้าวน้ําหอม วิธีปลูกมะพร้าวน้ําหอม
แหล่งข้อมูลอ้างอิง วิธีปลูกมะพร้าวน้ําหอม วิธีปลูกมะพร้าวน้ําหอม วิธีปลูกมะพร้าวน้ําหอม
http://postnoname.com,https://www.technologychaoban.com,https://www.baanjomyut.com,https://www.baanjomyut.com,http://www.okmd.or.th,https://www.sentangsedtee.com