ราตรี แก้วขาว ชาวสวนทุเรียนขลุง จันทบุรี มั่นใจ “พีค โพลี” ตลอด 3 ปี ช่วยบำรุงต้นให้สมบูรณ์ แข็งแรง ผลผลิตมีคุณภาพ ห่างไกลจาก โรครากเน่าโคนเน่า ในทุเรียน ได้ผลจริง
ประเทศไทยมี “เกษตรกรรายย่อย” อยู่เป็นจำนวนมาก กระจายอยู่ในพื้นที่ และทุกสาขาอาชีพ ไม่เว้นแม้กระทั่ง “ชาวสวนทุเรียน” ซึ่งเป็นไม้ผลที่ขึ้นชื่อของไทย มีชื่อโด่งดังไปทั่วโลก อีกทั้งผลผลิตทุเรียนส่วนใหญ่ที่ออกสู่ตลาดไทย และตลาดโลก ก็มาจากเกษตรกรรายย่อยเหล่านี้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นเกษตรกรรายย่อยจึงเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอย่างแท้จริง
เช่นเดียวกับ “ชาวสวนทุเรียนรายย่อย” อย่าง คุณราตรี แก้วขาว ที่มุ่งมั่นทำสวนทุเรียนบนเนื้อที่ 12 ไร่ ภายในพื้นที่ อ.ขลุง จ.จันทบุรี หรือเมืองนครแห่งผลไม้เมืองร้อน ด้วยใจรักในการทำสวนผลไม้ตลอดมา ส่งผลให้การทำ “สวนทุเรียน” ในพื้นที่ 12 ไร่ ให้ผลผลิตที่ดี มีรายได้ที่ดี มีอาชีพที่มั่นคงเรื่อยมา บนพื้นฐานการดูแลรักษาสวนทุเรียนอย่างถูกต้อง และทั่วถึง ภายใต้การบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ เน้นใช้แรงงานในครอบครัวดูแลสวนทุเรียน ที่ได้รู้ความเป็นไปภายในสวนทุเรียนในทุกช่วงเวลาเป็นอย่างดี เมื่อพบโรคและแมลงเข้าทำลาย จึงสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที ป้องกันความเสียหายได้ดี
คุณราตรีเปิดเผยเส้นทางการทำสวนทุเรียนจากอดีตจนถึงปัจจุบันให้ทราบว่า เดิมทีครอบครัวยึดอาชีพการทำสวนทุเรียนมาตลอด มุ่งเน้นการปลูกทุเรียนไว้หลากหลายสายพันธุ์ บนเนื้อที่ 12 ไร่ รวมแล้วประมาณ 200 กว่าต้น มีทั้งทุเรียนสายพันธุ์กระดุม หมอนทอง ชะนี ก้านยาว พวงมณี จันทบุรี1 และจันทบุรี2 โดยมีสัดส่วนของกระดุมมากที่สุด ที่ 60 ต้น หมอนทอง 40 ต้น ส่วนสายพันธุ์อื่นๆ ก็ปลูกแบบเฉลี่ยจำนวนกันไป
นอกจากนี้คุณราตรียังได้ทำ “การค้าขาย” เป็นอาชีพเสริม โดยให้พี่สาวเป็นคนช่วยดูแลการ “เปิดร้านเสริมสวย” และยังได้ “เลี้ยงกุ้ง หรือทำบ่อกุ้ง” เสริมอีกด้วย ทั้งหมด 8 ไร่ เน้นดูแลเอง และจัดการเอง เพื่อให้ได้ผลผลิตและรายได้ที่ดี
สายด่วน : โรครากเน่าโคนเน่า โทร. 08-7977-1590 , 08-1533-8499
การบำรุงดูแลรักษาต้นทุเรียน
ที่สำคัญการทำสวนทุเรียนทั้ง 12 ไร่นี้ เดิมทีเคยมีปัญหามากมาย ทั้งเรื่องการจัดการและการดูแลรักษาโรคและแมลงในแต่ละช่วง ดังนั้นการจัดการส่วนใหญ่จึงเป็นไปแบบลองผิดลองถูก ใครว่ายาตัวไหนดีก็สรรหามาใช้ทุกอย่าง เมื่อใช้แล้วไม่ได้ผล จึงทำให้ต้นทุเรียนทั้งหมด 200 กว่าต้น สุ่มเสี่ยงต่อโรคและแมลงเข้าทำลายได้ง่าย
มิหนำซ้ำหลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตเสร็จแล้วในทุกปี ยังพบว่าต้นทุเรียนต้องเป็น “โรครากเน่า โคนเน่า” หรือ “โรคไฟท็อปธอร่า” หากเจ้าของสวนดูแลรักษาไม่ทันท่วงที นั่นหมายความว่า ต้นทุเรียนจะต้องตายลงไปในที่สุด ต้องเสียเวลาปลูกต้นทุเรียนใหม่ทดแทน กว่าจะตกลูกเก็บเกี่ยวผลผลิตได้อีกทีก็นาน 4-5 ปี
ซึ่งทำให้ชาวสวนเสียโอกาสเป็นอย่างมาก ส่วนต้นที่ยังไม่ตายก็รักษาไปตามอาการ ทั้ง “ตัดกิ่งทิ้ง และตัดต้นส่วนบนทิ้ง” ก่อนใช้สารเคมีทารักษา ซึ่งจะเห็นว่าต้นทุเรียนบางต้นมีอายุมาก แต่ต้นเตี้ย เพราะถูกตัดต้นทิ้ง คล้ายกับการทำสาว ก่อนที่กิ่งกระโดงที่แตกออกมาจะเจริญเติบโตพัฒนาเป็นต้นใหม่อีกครั้ง นอกจากนี้ยังพบว่าต้นทุเรียนจะ “ใบเหลือง ใบเรียวเล็ก” ทั้งสวน โดยมีโรคและแมลงเข้าทำลายอีกด้วย
การใช้ผลิตภัณฑ์ พีค โพลี ในการจัดการสวนทุเรียน หายขาดจากโรคไฟท็อปธอร่า โรครากเน่าโคนเน่า
แต่ปัญหาเหล่านี้ได้หมดไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว หลังจากคุณราตรีได้ค้นพบแนวทางในการจัดการสวนทุเรียนอย่างถูกต้อง ด้วยการใช้สารอินทรีย์ และเคมี แบบผสมผสาน แบบลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตได้จริง อย่าง “พีค โพลี” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชีวภัณฑ์คุณภาพ นวัตกรรมใหม่ด้านการจัดการสวนทุเรียนให้ห่างไกลจากโรครากเน่า โคนเน่า หรือ “โรคไฟท็อปธอร่า” โรครากเน่าโคนเน่า ซึ่งเป็นโรคประจำในทุเรียนให้หายไปจากสวนทุเรียนแห่งนี้
ได้ผ่านการแนะนำจาก “พี่สาว” ที่ใช้ “พีค โพลี” อยู่แล้ว โดยในตอนแรกนั้นคุณราตรีไม่ได้ปักใจเชื่อ แต่ด้วยความที่ต้นทุเรียนมีปัญหาหนักมาก ใกล้ตาย และคิดว่าต้องตายแน่นอน จึงไม่มีทางเลือก
จึงตัดสินใจทดลองใช้ “พีค โพลี ร่วมกับไตรโคเดอร์มา” ฉีดพ่น เพียง 1 สัปดาห์ ผลลัพธ์ที่ได้ คือ ต้นทุเรียนไม่ตาย ต้นเริ่มฟื้นตัว และเริ่มแตกใบอ่อน ใบเริ่มเขียวขึ้น ใบสมบูรณ์ขึ้น จึงเริ่มเปิดใจยอมรับ พร้อมกับทดลองใช้อย่างต่อเนื่อง ต้นทุเรียนจึงไม่ตาย และหายจากโรคไฟท็อปธอร่าในที่สุด ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของคุณราตรีที่หันมาใช้ “พีค โพลี” อย่างเต็มตัว และใช้มาอย่างต่อเนื่อง
การใช้ “พีค โพลี” ทั้ง 3 รูปแบบ คือ
1.ใช้ “พีค โพลี” ร่วมกับ “สารกำจัดแมลง ทั้งหนอน และเพลี้ย”
ที่หาซื้อได้จากร้านเคมีเกษตรทั่วไป ฉีดพ่นทางใบทุก 7-10 วัน/ครั้ง ช่วยป้องกันโรคและแมลงได้ดี เพิ่มความสมบูรณ์ให้กับใบทุเรียนได้ดี
2.ใช้ “พีค โพลี” ร่วมกับ “ไตรโคเดอร์มา”
ผสมน้ำฉีดพ่นทางดินที่โคนต้นทุเรียนอย่างสม่ำเสมอ ทุก 7-10 วัน/ครั้ง จะช่วยเร่งราก ปรับสภาพดิน ช่วยให้รากเดินได้ดี เพิ่มธาตุอาหารรอง และเสริม ให้กับต้นทุเรียนได้ดี
3.ใช้ “พีค โพลี คลุกเคล้ากับปุ๋ยสูตร”
หว่านให้ทั่วทั้งสวนทุเรียนอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้เม็ดปุ๋ยค่อยๆ ปลดปล่อยธาตุอาหารไปให้กับต้นทุเรียนใช้ได้อย่างสม่ำเสมอ ได้รับธาตุอาหารหลัก เพื่อการเจริญเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง
คุณราตรียืนยันว่าผลที่ได้รับจากการใช้ “พีค โพลี” ในสวนทุเรียนตลอด 3 ปีที่ผ่านมา คือ สภาพดินดีขึ้น ดินร่วนซุย ทุเรียนไม่ตาย ทุเรียนฟื้นต้นได้ดี ต้นแข็งแรง สมบูรณ์ แตกใบอ่อนได้ดี ใบเขียว สมบูรณ์ ใบใหญ่ สังเคราะห์แสงได้ดี ใบหนา ใบมัน ลดต้นทุนได้มากขึ้น เพิ่มผลผลิตได้จริง สุขภาพชาวสวนดีขึ้น เพราะใช้แล้วปลอดภัย ได้ผลผลิตเป็นที่ต้องการของตลาด และผู้บริโภค
การเก็บเกี่ยวผลผลิตทุเรียน
คุณราตรีย้ำว่าขณะนี้สวนทุเรียนมีต้นทุเรียนที่สามารถเก็บผลผลิตได้เพียง 100 กว่าต้นเท่านั้น ส่วนอีก 100 ต้น จะสามารถให้ผลผลิตในเชิงการค้าได้อีก 2 ปีข้างหน้า ส่วนสาเหตุที่เลือกปลูกทุเรียนสายพันธุ์ “กระดุม” มากกว่าหมอนทอง เนื่องจาก “กระดุม” เก็บเกี่ยวผลผลิตได้เร็วกว่า “หมอนทอง” หนีน้ำได้ทัน เพราะปีนี้มีฝนตกมาก
อีกทั้งพื้นที่อำเภอขลุงยังเป็นแหล่งปลูกทุเรียนสายพันธุ์กระดุมมากที่สุดในจังหวัดจันทบุรี ขายได้ราคาดี ยิ่งผลโตยิ่งได้ราคาดี (เคยทำได้ 6 กก./ลูก) มีพ่อค้าวิ่งเข้ามารับซื้อผลผลิตถึงหน้าสวน
- “หมอนทอง” กำหนดให้ผลผลิตมีขนาดไม่เกิน 7 กก./ลูก และ
- “ชะนี” กำหนดให้ผลผลิตมีขนาดไม่เกิน 6 กก./ลูก
ส่วนการขายผลผลิตของสวนทุเรียนแห่งนี้เน้นขายแบบเหมาสวนคละไซซ์ ในราคา 125-130 บาท/กก. สำหรับกระดุมโดยที่ให้ผลผลิตในรอบแรกของปีนี้ประมาณ 2 ตันเศษ ที่นำมาซึ่งรายได้ที่ดี
ขอขอบคุณ คุณราตรี แก้วขาว สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ร้านตัวแทนจำหน่าย
“ร้านสามเกษตร” 22/3 ม.9 ต.เกรียนหัก อ.ขลุง จ.จันทบุรี โทร.08-8582-8919
สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ติดต่อ
“บริษัท พีค อโกรเคมี 2 จำกัด” 32/21 หมู่ที่ 4 ต.ท้ายเกาะ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี 12160
สายด่วน : โรครากเน่าโคนเน่า โทร. 08-7977-1590 , 08-1533-8499
สั่งซื้อสินค้า : 06-2691-8568, 08-7977-1590
Line ID : @peakagrokemee2, Facebook : พีค อโกรเคมี 2, www.peakagro.co.th