ต้องยอมรับว่า ณ หมู่ 11 บ้านคำใหญ่ ต.คำใหญ่ อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ มีสภาพพื้นที่เป็นดินทราย ทำให้อุ้มน้ำไม่ได้ เป็นดินไม่เหมาะการปลูกพืช
การปลูกอ้อย อินทผลัม มันสำปะหลัง
แต่ คุณจิราภรณ์ แสงจันทร์ มีที่ดิน 2,000 ไร่ นำไปปลูกอ้อยป้อนโรงงานน้ำตาลเหมือนกับเกษตรกรทั่วไป โดยใช้ขี้เค้กจากหม้อกรองในโรงงานน้ำตาลมาใส่เพื่อปรับปรุงดิน แต่ต้องใช้ทุนพอสมควร และไม่ตอบโจทย์ ปรากฏว่าอาชีพทำไร่อ้อยตกมาถึงรุ่นคุณจิราภรณ์ ซึ่งมาสานต่อการทำอาชีพเกษตร ทำไร่อ้อย จึงเสาะหาวิธีเพิ่มผลผลิต/ไร่ และสร้างผลตอบแทน
จึงแบ่งพื้นที่บางส่วนมาปลูกอินทผลัม พันธุ์บาฮีเพาะเนื้อเยื่อมาปลูก และได้ทดลองใช้ระบบเกษตรสูตรสำเร็จของ “อาจารย์เล็ก โปรพลัส” ในไร่อินทผลัม ทั้งสวน เมื่อเห็นผลลัพธ์แล้ว เธอจึงนำมาใช้กับไร่อ้อย จำนวน 2,000 กว่าไร่ และ ไร่มันสำปะหลัง จำนวน 400 ไร่ พูดง่ายๆ ว่า วันนี้คุณจิราภรณ์ได้นำ “ระบบโปรพลัส” สร้างดินใหม่ด้วย EF BALL ให้ดินมีอินทรียวัตถุ มีจุลินทรีย์ช่วยย่อยสลายให้เป็นปุ๋ยที่พืชสามารถนำไปใช้ได้
“เรามาต่อยอดจาก รุ่นพ่อ รุ่นแม่ ของเรา เพื่อปรับปรุงดินที่เรามีให้ดีขึ้น เพราะเราไม่สามารถจะไปซื้อที่ดินป่าใหม่ เพราะไม่มีแล้ว” คุณจิราภรณ์ ให้ความเห็น และวันนี้อินทผลัมให้ผลผลิตดี และจะมีปริมาณมากขึ้นตามอายุ ซึ่งต่างจากอ้อยและมันสำปะหลังโดยสิ้นเชิง ส่วนการตลาดไม่มีปัญหา เน้นขายส่งเป็นหลัก
การปรับปรุงดิน
การปรับปรุงดินด้วย “EF BALL” ทำหน้าที่ปรับปรุงบำรุงดินด้วยคลื่นควอนตัมที่มีระบบถี่ในแปลง จึงดูดความร้อนลงไปใต้ดิน และคลายความชื้นขึ้นมาย่อยปุ๋ยหรือธาตุอาหารที่ตกค้างในดิน รากพืชก็จะดูดธาตุอาหารไปใช้ได้ ทำให้สุขภาพของพืชดี พืชมีภูมิคุ้มกันตนเอง การฝัง EF BALL จึงได้คุณค่ามากกว่าการใส่ปุ๋ย “เมื่อดินดี ปลูกอะไรก็ดี ผลผลิตก็ดีด้วย”
การให้ธาตุอาหารพืชตามระบบโปรพลัสของอาจารย์เล็ก อินทผลัมทะลายเพิ่มขึ้นและดก ต้องปลิดทิ้งบ้าง ส่วนทะลายที่ไว้ไซซ์จะใหญ่ ได้น้ำหนัก ผลใหญ่ กรอบ รสชาติหวาน ไม่ฝาด ขายได้ราคา แต่การปลูกอินทผลัมต้องเจอศัตรูอย่างด้วง ต้องเอาใจใส่ และหลังจากเก็บผลผลิตแล้วต้องตัดแต่งทางใบ และใส่ปุ๋ยเพื่อให้สะสมอาหารตามช่วงระยะที่อาจารย์เล็กได้เขียนระบบไว้ให้แล้ว
ข้อดีของระบบโปรพลัส
สำหรับมันสำปะหลัง จำนวน 400 ไร่ เหตุที่คุณจิราภรณ์ต้องเอาจริงจังเพราะเห็นว่าราคาดี และเป็นพืชที่ท้าทายภายใต้คำแนะนำจากอาจารย์เล็ก ปรากฏว่าได้ผลผลิตเฉลี่ยไร่ละ 10 ตัน ราคาขาย 3.10 บาท/กก.และขายต้นมันสำปะหลัง เกิดรายได้ 2 ทาง ดังนั้นคุณจิราภรณ์จึงมั่นใจระบบโปรพลัส “เราทดลองด้วยตัวเอง ไม่ลองไม่รู้ ของเราไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ดินเสื่อม พอลองใช้ก็รู้ว่าดินดี มีชีวิตขึ้น เดินในไร่ดินจะนิ่ม นุ่ม สัมผัสได้ เพราะเมื่อก่อนดินแข็งกระด้าง ไม่อุ้มน้ำ ใครผ่านมาเห็นไร่มันสำปะหลัง มีแต่คนชมว่ามันฯ ต้นสูง ลำใหญ่”
จากดินที่หมดสภาพปลูกอะไรไม่ขึ้น เพราะไม่มีอินทรียวัตถุ ไม่มีธาตุอาหาร เมื่อเปิดใจใช้ “ระบบโปรพลัส เกษตรสูตรสำเร็จ” ของอาจารย์เล็ก พิสูจน์แล้วว่าวันนี้กลายเป็นดินสมบูรณ์ ช่วยเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังที่ปลูกในระบบโปรพลัส ต้นและใบจะโต แข็งแรง สมบูรณ์ ถูกแดดใบจะไม่ตก ในแง่การลงทุนระบบโปรพลัสไร่ละ 6,000 บาท คุณจิราภรณ์พอใจเพราะได้กำไรที่คุ้มค่า และได้ขุดมันฯ ขายก่อนคนอื่น เพื่อนำเงินไปหมุนเวียนได้รวดเร็ว โดยขายให้ลานรับซื้อราคา 3.10 บาท ไม่ต้องรอคิวนานเหมือนขายให้กับโรงแป้ง อีกอย่างลานมันก็ชอบเพราะหัวมันฯ ใหญ่ เปอร์เซ็นต์แป้งดี โดยจะใช้แรงงานแบบเหมาเพื่อขุดมันในแปลงพร้อมส่งถึงลานรับซื้อ ราคา 550-600 บาท/ตัน
จุดเริ่มต้นปลูกมันสำปะหลัง
การปลูกมันสำปะหลังระบบน้ำฝน ในสภาพดินทรายล้วนปลูกอะไรก็ไม่ค่อยขึ้น ปลูกอ้อยก็ไม่ขึ้น จึงนำ EF BALL จำนวน 40 ลูก/ไร่ มาฝังในไร่มันทั้ง 400 ไร่ ซึ่งมี คุณสมจิตร เป็นผู้ดูแลทั้งหมด ได้ให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้เขามีหน้าที่ดูแลแปลงอ้อยทั้งหมด 2,000 กว่าไร่ ซึ่งไม่เคยปลูกมันสำปะหลังเลย แต่เมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา เถ้าแก่ได้ตัดสินใจปลูกมันสำปะหลังตามคำแนะนำของอาจารย์เล็ก และเลือกพื้นที่ปลูกจำนวน 400 ไร่ ซึ่งเป็นดินที่เสื่อมสภาพสุดๆ ถึงขั้นที่ปลูกอ้อยก็ไม่ขึ้นแล้ว และไปขอท่อนพันธุ์มันสำปะหลังจากชาวบ้านมาปลูก ทำให้มันที่ปลูกเป็นสายพันธุ์รวม
“เราไม่ได้เน้นสายพันธุ์มันสำปะหลัง ตอนที่อาจารย์เล็กเข้ามาที่ตรงนี้ปลูกอ้อยไม่ได้ ก็เลยมาปลูกมันสำปะหลังตามคำแนะนำ ก็เลยไปขอท่อนพันธุ์มันมาจากหลายแหล่ง ซึ่งเป็นท่อนมันที่เหลือจากเขาปลูกแล้ว ต้นก็เล็ก พูดง่ายๆ ว่าเหลือเลือกแล้วก็ว่าได้” คุณสมจิตรเปิดเผยถึงจุดเริ่มต้นปลูกมันสำปะหลัง
สภาพพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง
หลังจากได้ท่อนพันธุ์มันสำปะหลังมาแล้ว นำมาปลูกตามระบบของเกษตรโปรพลัส นำต้นมันสำปะหลังทั้งลำที่เป็นมัดๆ ตัดบริเวณยอดอ่อนออก แล้วไปแช่ในกระบะตัดครึ่ง ขนาด 2,000 ลิตร แช่ได้ครั้งละ 100 มัด ใช้ “โปรพลัส 1” ผสมกับ “โปรพลัส 2” อัตราส่วน 20 ซีซี./น้ำ 20 ลิตร ร่วมกับ “ท๊อกซิน” อัตรา 20-30 ซีซี./น้ำ 20 ลิตร เพื่อป้องกันและกำจัดโรคเชื้อรา โดยแช่ท่อนมันทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที ก่อนนำไปปลูกแนวตั้งด้วยรถปลูกมัน ปลูกระยะห่าง 1.20 x1.20 เมตร หลังจากปลูกแล้วเริ่มแตกยอดได้ 15-20 วัน จะใช้โปรพลัส 1 อัตรา 20 ซีซี. และโปรพลัส 2 อัตรา 50 ซีซี./น้ำ 20 ลิตร แล้วใช้ “ฟาสฟูดส์” 10 ห่อ แช่น้ำทิ้งไว้ อัตราส่วน 50 ลิตร นำมาผสมทั้งหมด ใส่โดรนฉีดพ่นทางใบ 1 ครั้ง/เดือน หรือ 3-4 ครั้ง ก่อนมันสำปะหลังอายุ 4 เดือน
หลังจากมันสำปะหลังอายุ 4 เดือนไปแล้ว ไม่ได้ฉีดหรือใส่ปุ๋ยอะไรอีก ปล่อยจนกระทั่งมันอายุครบ 8-11 เดือน จะขุดขายให้กับลานรวบรวม ช่วงที่สำคัญของมันสำปะหลังอยู่ช่วงอายุระหว่าง 1-4 เดือน ที่ต้องกำจัดหญ้าให้ได้ และเติมธาตุอาหารให้มันได้กินครบ แต่เรื่องหญ้าคุณสมจิตรบอกว่าไม่ห่วง เพราะใช้โปรพลัสฉีดพ่นทางใบตั้งแต่ครั้งแรก มันสำปะหลังจะเจริญเติบโตได้ดี แตกใบเยอะ โตเร็ว คลุมหญ้าได้ทันใจ
การจำหน่ายมันสำปะหลัง
ผลผลิตในปี 2565 ได้ประมาณ 15 ตัน/ไร่ ซึ่งถือว่าเยอะมากสำหรับการปลูกมันสำปะหลังครั้งแรก แถมยังตัดขายต้นพันธุ์ในราคา 3 บาท/ลำ ทำให้ปี 2566 ลงมือปลูกมันสำปะหลังอีกครั้งในวันที่ 25 พ.ค.2566 ซึ่งปัจจุบันมันสำปะหลังอายุได้ 5 เดือนกว่า ณ วันที่ 9 ตุลาคม 2566 ทางทีมงานอาจารย์เล็กและคณะได้ลงแปลงดูต้นมันสำปะหลัง
ปรากฏว่ามันสำปะหลังสูงท่วมหัว และมีลำขนาดใหญ่สมบูรณ์ ลำมันยังเขียวหมายถึงต้นยังไม่แก่ แต่เมื่อแดดร้อนจัดๆ ใบมันสำปะหลังจะไม่เหี่ยว แม้จะต้นสูงแต่ไม่ล้ม ในขณะที่ของแปลงอื่นๆ ที่ใช้ระบบปลูกทั่วไป อายุมัน 5 เดือน เท่ากัน ยังโตไม่ถึงไหน ต้นมันยังเล็กมาก
ต้องการพิสูจน์ระบบโปรพลัส เกษตรสูตรสำเร็จ ด้วยตนเอง โทร.063-997-8949 250 หมู่ 11 บ้านคำใหญ่ ต.คำใหญ่ อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ 46170