กรเกียรติฟาร์ม มุ่งส่งเสริมผลิตปลานิล / ปลาทับทิม เพิ่มผลผลิตด้วยนวัตกรรม

โฆษณา
AP Chemical Thailand

กรเกียรตฟาร์มมุ่งส่งเสริมผลิตผลานิลปลาทับทิม

ประเทศไทยอดีตคืออู่ข้าว อู่น้ำ แต่ปัจจุบัน “ แหล่งน้ำ ” ตามธรรมชาติถูกทำลายด้วยมลพิษที่มาจากหลาย ๆ ทางกระทบต่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำโดยตรง ขณะเดียวกันภาวะ  “ น้ำแล้ง – น้ำล้น ” กลายเป็นภัยพิฆาตที่ทำลายวงการผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำมาตลอด และจะรุนแรงขึ้นเหตุจากภาวะโลกเดือดนั่นเอง

คุณกรเกียรติ พรมจวง เจ้าของ กรเกียรติฟาร์ม
คุณกรเกียรติ พรมจวง เจ้าของ กรเกียรติฟาร์ม

หน่วยงานภาครัฐทุกแห่ง ได้แต่ตั้งรับตามแก้ปัญหา วนเวียนอยู่ในวัฏจักรแห่งความล้มเหลว ภาคธุรกิจเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ บางคนประสบความสำเร็จทางธุรกิจอย่าง คุณกรเกียรติ พรมจวง เกษตรกรดีเด่น ด้านการปรับปรุงพันธุ์ตามหลักพันธุศาสตร์ดีเยี่ยม ระดับชาติเจ้าของ กรเกียรติฟาร์ม กำแพงเพชร ผู้พัฒนาตนเองด้านธุรกิจ จนเป็นบริษัทชั้นนำของประเทศ ด้านการผลิต ลูกพันธุ์ปลานิลสีนิล หัวเล็กตัวกว้าง ตัวใหญ่โตเร็ว กับปลาทับทิมเพชร ป้อนผู้เลี้ยงทั่วประเทศ และ ส่งออกต่างประเทศด้วยปริมาณลูกพันธุ์กว่า 100 ล้านตัว ในปีหน้าโดยใช้เวลาพัฒนาธุรกิจจากฟาร์มเล็กๆจนเป็นฟาร์มชั้นนำของประเทศ

กรเกียรติฟาร์ม จับมือ ส.ทรัพย์สำรวย (สุพจน์ฟาร์ม) จัดสัมมนา

คุณกรเกียรติ+อ.ประพันธศักดิ์ + ส.ทรัพย์สำรวย+อินเทคค์

ล่าสุด คุณกรเกียรติ จับมือกับ ส. ทรัพย์สำรวย (สุพจน์ฟาร์ม)  พร้อมกับ พรทิพย์ฟาร์ม และ บริษัท อินเทคค์ โกลบอล จำกัด จัดสัมมนาให้ความรู้เชิงลึก  เรื่อง “ เลี้ยงปลานิลอย่างไรให้รอด และรวยอย่างยั่งยืน

บรรยากาศการจัดประชุม
บรรยากาศการจัดประชุม

โดยเชิญ รศ.ดร.ประพันธ์ศักดิ์  ศรีษะภูมิ อาจารย์ภาควิชาเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ บางเขน มาเป็นวิทยากรพิเศษ ให้ความรู้แก่เกษตรกร ณ ส.ทรัพย์สำรวย ฟาร์ม (สุพจน์ฟาร์ม)  เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 67 โดยมีผู้เลี้ยงปลานิล – ทับทิม ร่วม 100 คน ในเขตอำเภอคลองเขื่อน จังหวัดฉะเชิงเทรา มาร่วมงาน

ผู้เข้าร่วมการสัมมนา

นอกจากนี้ ยังมีเกษตรกรหัวก้าวหน้าจากจังหวัดอื่น ๆ  เช่น บังเล็ก (คุณรัชชา แสงวิมาน)  และ คุณเพชรลดา ดำรักษ์  (ศ.ศุภณัฐ ฟาร์ม) จังหวัดนครศรีธรรมราช  มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การเลี้ยงปลานิล – ทับทิม ของกรเกียรติฟาร์ม ภายใต้การสนับสนุนการจัดงานของ ส.ทรัพย์สำรวย ฟาร์ม นอกจากนี้ยังมี  บริษัท อินเทคค์ โกลบอล จำกัด บริษัทชื่อดัง ด้านอาหารปลา และ อาหารกุ้ง มาส่งเสริมเต็มที่

รศ.ดร.ประพันธ์ศักดิ์ ศรีษะภูมิ อาจารย์ภาควิชาเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ม.เกษตรฯ (วิทยากร)
รศ.ดร.ประพันธ์ศักดิ์ ศรีษะภูมิ อาจารย์ภาควิชาเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ม.เกษตรฯ (วิทยากร)

งานนี้วิทยากรชื่อดังโชว์เดี่ยว เพราะ 25 ปี ในวงการปลานิล อาจารย์ประพันธ์ศักดิ์ เข้าใจเรื่องปลาตระกูลนี้อย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะความก้าวหน้าของไทยในการพัฒนาพันธุกรรม ยอดเยี่ยมระดับโลก ถึงขนาด แอฟริกา และ อเมริกา สั่งลูกปลาไปเลี้ยงเชิงธุรกิจโดยเฉพาะอเมริกา นำเข้าปลานิล 6 แสนตัน/ปี เพราะใช้ทำอาหาร และผลิตภัณฑ์หลากหลาย  “ ตอนนี้ปลานิลมูลค่าแซง สัตว์น้ำทุกตัวมูลค่า 9.2 พันล้านUS ดอลลาร์ ของโลก ”  อาจารย์ประพันธศักดิ์ ฟันธง แต่การผลิตปลานิลในไทยป้อนตลาดในประเทศ 95% แต่ถ้าเอาปลานิลส่งออกสัก 10,000 ตัน/ปี ราคาปากบ่อจะเพิ่มขึ้น 20 -30 บาท/กก. โดยเฉพาะ ตลาดจีนต้องเจาะให้ได้

โฆษณา
AP Chemical Thailand

เลี้ยงปลานิลอย่างไรให้รอด และรวย อย่างยั่งยืน ??

หัวข้อที่ อาจารย์ประพันธ์ศักดิ์ ต้องบรรยายโดยระบุว่าอุตสาหกรรมปลานิลขึ้นกับ “การตลาด” เท่านั้น ถ้าเอา

การผลิตนำ  เตรียมตัวตาย ถึงต้องบอกว่า ถ้ารัฐเอาปลานิลสัก 10,000 ตัน/ปี  ส่งออก ราคาปลาปากบ่อขึ้น

20 -30 บาท ทันที

การเริ่มต้นการเลี้ยงต้องเตรียมอะไรบ้าง ?

ในส่วนของการผลิต เริ่มตั้งแต่ การเตรียมบ่อเลี้ยง ซึ่งอาจารย์ในมหาวิทยาลัยเกษตรฯ สอนมาตลอดว่า เลี้ยงปลาต้อง “ เลี้ยงน้ำ ”  เมื่อเลี้ยงน้ำได้แล้วต่อไปต้อง “ เลี้ยงดิน ” เพราะดินกับน้ำเป็นสิ่งเดียวกัน เพราะความสมบูรณ์ของแร่ธาตุในดินลดลงตลอด  ดังนั้น ต้อง ตากบ่อ ให้แห้งหมาด ๆ และ ก้นบ่อต้องลดความเป็นกรดด้วยการใส่วัสดุปูนมาร์ล เพิ่มอัลคาไลน์ หรือด่างในน้ำ ระหว่างการเลี้ยง นอกจากนี้ต้องการให้ จุลินทรีย์ตัวดี  ต้องการความชื้น จึงไม่ต้องเอาดินก้นบ่อออก ยกเว้น เลนหนาเกินเข่า ของเสียยังอยู่ต้องจัดการเอาออก เหลือ 5 -10 ซม. เวลาใส่ปูนขาว 100 – 160 กก./ไร่ ต้องอยู่เหนือลม ทิ้งไว้ 7 วันต้องไถพรวน หรือคราด เพื่อกลับหน้าดิน แล้วใสปูนขาวซ้ำอีกครั้ง ก่อนสูบน้ำเข้าบ่อใช้เวลา 1 -2 สัปดาห์

ลูกพันธุ์ปลาทับทิมเพชร กรเกียรติฟาร์ม
ลูกพันธุ์ปลาทับทิมเพชร กรเกียรติฟาร์ม
ลูกพันธ์ปลานิลสีนิล กรเกียรติฟาร์ม
ลูกพันธ์ปลานิลสีนิล กรเกียรติฟาร์ม

ในการเตรียมน้ำ ช่วงเตรียมบ่อจะมีน้ำอยู่ที่ผิวน้ำไม่ได้ เพราะต้องการให้อากาศได้สัมผัสกับดินโดยตรง หากบ่อเลี้ยงที่ไม่เคยเตรียมบ่อมาก่อน เลนจะหนาข้างล่างจะดำ ใส่ปูนรอบแรกบาง ๆ ไม่ต้องเยอะข้างบนจะกลายเป็นสีเทา จากสีเทาจะกลายเป็นสีน้ำตาล ดังนั้นเมื่อเตรียมบ่อ และน้ำที่ดี อาหารธรรมชาติเกิดได้มากขึ้น ลูกปลาแข็งแรง และอัตรารอดตายสูงขึ้น อัตราการเจริญเติบโตของปลาดีขึ้น คุณภาพน้ำเปลี่ยนแปลงยาก ปลาเกิดความเครียดได้ยาก เชื้อโรคเกิดยาก ปลาแข็งแรง ต้านทานต่อเชื้อต่าง ๆ ได้ดี ลดค่าใช้จ่าย ในการซื้อยา และ สารเคมี  อย่างไรก็ดี อาจารย์ประพันธ์ศักดิ์  เห็นว่าไม่ควรปล่อยลูกปลาแบบหนาแน่น ต้องควบคุมอาหารให้เหมาะสม ควบคุมคุณภาพน้ำที่สำคัญๆ ให้ดี เพราะเมื่อสภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงกะทันหัน จะมีผลต่ออุณหภูมิ และ ปริมาณออกซิเจนในน้ำ รวมทั้งมีผลต่อการกินอาหารของปลา “ ผมทดสอบโดยการวัดอุณหภูมิในน้ำทุกวันทุก ๆ ชั่วโมง โดยใช้เทอร์โมมิเตอร์ รายงานทุกครึ่งชั่วโมง พบว่าปลากินอาหารดีในช่วง 31-32 องศาเซลเซียส พอ 34-35 องศาเซลเซียส จะกินลดลง เพราะมันร้อน เกษตรกรให้อาหารแบบเหลือไว้ก่อนกลัวปลาไม่อิ่ม อาหารเหลือตามขอบบ่อ ขอบกระชังพงหญ้า ล้วนเป็นบ้านของเชื้อโรค ผมกลัวช่วงฤดูร้อนมากกว่าฤดูหนาว เหตุผลเพราะปลากินอาหารมากขึ้น ออกซิเจนที่ละลายในน้ำของปลา และ สิ่งมีชีวิตในน้ำสูงขึ้น ของเสียมากขึ้น อัตราการย่อยสลายของเสีย และ ปริมาณจุลชีพ และ แพลงตอนพืชในน้ำเพิ่มปริมาณสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดการแยกชั้นของอุณหภูมิของน้ำได้ง่าย โดยแยกเป็นข้างบนเป็นน้ำร้อน ด้านล่างเย็น ถ้าแยกชั้นติดต่อกัน 3-4 วัน ปลาจะป่วยอย่างเห็นได้ชัด และ ออกซิเจนละลายน้ำได้น้อยลง ” อาจารย์ประพันธ์ศักดิ์ ให้ความเห็นอุณหภูมิช่วงหน้าร้อนจะทำให้ปลาแย่งออกซิเจน น้ำเกิดการขาดออกซิเจน ก่อให้เกิดสารพิษเช่น แอมโมเนียในน้ำสูงกว่าฤดูอื่น อุณหภูมิของน้ำ 27-28 องศาเซลเซียส ปลาเลยไม่ตาย แต่เมื่ออุณหภูมิของน้ำ 31-32 องศาเซลเซียส ติดต่อกัน 3-4 วัน เกษตรกรให้อาหารต่อเนื่อง ทำให้ปลาตายอย่างต่อเนื่อง เทคนิคคือวัดอุณหภูมิ และคุมอาหาร วันไหนอุณหภูมิอากาศ 38 องศาเซลเซียส ให้ลดอาหาร  และให้ออกซิเจน 3 มิลลิกรัม เป็นต้นไป แต่ไม่ต้องให้ทุกวัน เหมือนบ่อกุ้ง แต่ถ้าร้อนติดต่อกัน ฟ้าครึ้ม ฝนตก ต้องให้ทุกวัน ป้องกันการแยกชั้นของน้ำ บริเวณไหนที่ความเค็ม 2-3 แต้ม น้ำจะแยกชั้นเร็วมากปลาจะป่วย  อาจารย์ประพันธ์ศักดิ์ ได้ให้ความรู้หลายเรื่อง

การใช้โปรไบโอติกเสริมภูมิคุ้มกันให้ปลาได้อย่างไร?

กรเกียรติฟาร์ม (9)

แต่เรื่องหนึ่งที่ทันกับสถานการณ์ภาวะโลกเดือดได้แก่ การใช้ โปรไปโอติก (Probiotics) หรือ จุลินทรีย์ เสริมเข้าไปในน้ำ หรือในอาหาร จะทำให้เกิดการคุมเชื้อโรคต่าง ๆ กระตุ้น และสร้างภูมิคุ้มกันให้ปลา ปรับปรุงคุณภาพน้ำ “ การเลือกใช้ โปรไบโอติกส์ ผมมั่นใจว่า สายพันธุ์ท้องถิ่น ผมเลือกเก็บมาศึกษาจะมีโอกาสได้ใช้ 5 – 6 ตัว ปีหน้าจะออกมาเป็น โปรไบโอติกส์ประเทศไทย ใช้ผสมก็ได้ สาดน้ำก็ได้  หลักการสำคัญคือ 2 สัปดาห์แรก ต้องให้ทุกวัน จากนั้นให้ซ้ำทุกสัปดาห์จนถึงจับ การใส่จุลินทรัย์ตั้งแต่เริ่มต้นเพื่อให้ไปอยู่กับตัวปลาปรับตัวให้ได้ก่อน จากนั้นฝนจะตก น้ำจะท่วม อากาศจะเปลี่ยน ต้องให้ทุกสัปดาห์ ที่สำคัญ เมื่อไหร่ที่ให้โปรไบโอติกส์ จะขาดอากาศไม่ได้ ห้ามใช้ยาปฏิชีวนะ และสารเคมีร่วมกับโปรไบโอติกส์ อาจารย์ประพันธ์ศักดิ์ ให้ความเห็น จะเห็นได้ชัดว่า  กรเกียรติฟาร์ม  มุ่งใช้นวัตกรรม และเทคโนโลยี ในการพัฒนาพันธุกรรม ปลานิล-ทับทิม จนได้สายพันธุ์ ปลานิลศรีนิล  และ ทับทิมเพชร ที่ตอบโจทย์ทางธุรกิจให้เกษตรกร ทั่วประเทศ

โฆษณา
AP Chemical Thailand
คุณกรเกียรติ สุ่มตรวจปลาฟาร์มลูกค้า
คุณกรเกียรติ สุ่มตรวจปลาฟาร์มลูกค้า

ดังนั้น เมื่อจังหวะเหมาะสม จะนำทีมงานลงพื้นที่พบปะเกษตรกร เอเย่น แพปลา อาหารปลา ที่เป็น “ ภาคีธุรกิจ ” เพื่อนำนวัตกรรมจากสถาบันการศึกษา และของฟาร์ม ไปประยุกต์ใช้ในการเพิ่มผลผลิต ก่อให้เกิด “ กำไร ”  แก่เกษตรกร และคู่ค้าชัดเจน แม้กระทั่ง การติดตามการประเมินผลลูกค้าที่ซื้อปลาไปเลี้ยงอย่าง กลุ่มพานทอง ชลบุรี เมื่อมีจังหวะก็นำทีมงานเข้าไปสุ่มตรวจ การเติบโตของปลาในแต่ละฟาร์ม  เมื่อวันที่  3 ธันวาคม 2567

ต้องการสั่งซื้อสินค้า หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม  บริษัท กรเกียรติฟาร์ม 789 จำกัด

เลขที่ 342 บ้านวังแขม หมู่ 2 ต.วังแขม อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร 62120

Facebook : กรเกียรติฟาร์ม 789  e-mail : [email protected]

Tel.  065-628-9391  (ภาคเหนือ)  , 065-628-9454  (ภาคกลาง)

 099-282-4149  (ภาคอีสาน)  ,  096-263-9564   (ภาคใต้)

 

อ้างอิง : นิตยสารสัตว์น้ำ ฉบับ 424 (ธ.ค 67)

 

ใบสมัครสมาชิก