ถ้าพูดถึงเรื่องหญ้า การปลูกหญ้า ถ้าเป็นในภาคการเกษตรอาจจะมองว่าเป็นวัชพืชที่ควรจะกำจัดทิ้ง แต่ถ้ามองในมุมทั่วไป หญ้านั้นอาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องถอนหรือกำจัดทิ้งเพียงอย่างเดียว เพราะว่าถ้าเป็นในเรื่องของการตกแต่งสวนหรือประดับบ้าน หญ้าก็นับว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะว่าจะช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับบริเวณบ้านได้เป็นอย่างดี อีกทั้งช่วยให้ไม่สัมผัสกับดินเปล่าๆโดยตรงอีกด้วย เพราะจะช่วยเพิ่มความสบายในการนั่ง เวลาสัมผัสกับพื้นดินจะไม่เปื้อนมากด้วยนั่นเอง
คุณสมบัติของหญ้า
หญ้า พืชสีเขียวที่ดูเหมือนจะไม่ได้มีประโยชน์อะไรมาก แต่ก็ถือว่าเป็นตัวช่วยชั้นดีในการตกแต่งสวน และช่วยในการป้องกันหน้าดินได้เป็นอย่างดี หญ้านั้นนับว่าเป็นวัชพืชที่มองข้ามไปไม่ได้เลยทีเดียว เพราะมีการนำหญ้ามาใช้ได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการจัดสวน การทำสนามหญ้าเทียม การนำหญ้าแฝกมาช่วยในการป้องกันหน้าดินพังทลาย ฯลฯ เห็นได้เลยว่าหญ้าก็มีประโยชน์ในตัวได้เช่นกัน
นอกจากนี้หญ้ายังสามารถซื้อขายได้ด้วย โดยอาจจะเป็นหญ้าที่มีความสำเร็จรูปมาแล้วส่วนใหญ่ โดยปกติแล้วหญ้าที่สำเร็จรูปนั้นจะมีราคาขายที่ไม่ตายตัว บ้างก็ขายเป็นกิโล บ้างก็ขายในราคาที่แตกต่างกันออกไป จึงบอกได้เลยว่าหญ้านั้นไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ที่ควรมองข้ามเลยทีเดียว
หญ้าที่อาจจะมองว่าเหมือนไม่มีประโยชน์ แต่กลับว่ามีประโยชน์ที่มีความหลากหลายเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ตัวหญ้าเองยังให้เหลืออย่างมากมาย เพราะไม่ใช่แค่หญ้าจะนำมาใช้งานเพียงอย่างเดียว แต่หญ้ายังสามารถที่จะนำมาประดับตกแต่งสวนหน้าบ้านได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงตามสวนที่ใช้หญ้าเป็นตัวตกแต่งเพิ่มความเขียวขจีให้กับพื้นที่ อีกทั้งหญ้ายังช่วยรองรับความนุ่มสบายเท้า ไม่ให้เท้าเรานั้นสัมผัสกับดินโดยตรงอีกด้วย เห็นได้เลยว่าหญ้านั้นช่วยในเรื่องของความสวยงาม และความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตได้ด้วย
ในช่วงเวลาหนึ่งเราต้องคุ้นเคยหรือมีการสัมผัสกับหญ้ากันมาตั้งแต่เด็กกันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ซึ่งนอกจากจะเป็นวัชพืชที่หลายๆ คนเข้าใจแล้วนั้น หญ้ายังมีประโยชน์ในอีกหลายด้านเลยทีเดียว ซึ่งเรามองว่าหญ้านั้นถือว่าเป็นตัวช่วยในการรองรับแรงกระแทกจากเท้าของเราไม่ให้สัมผัสกับดินโดยตรงได้
ลักษณะทั่วไปของหญ้า
หญ้านั้นก็มีหลากหลายชนิดมากมาย ให้เราได้ทำความรู้จัก ซึ่งหลายๆ คนอาจจะรู้จักหญ้าแฝกเพียงอย่างเดียว แต่ในความเป็นจริงนั้นหญ้าส่วนใหญ่แล้วจะนิยมใช้ในการนำมาประดับสวนนั้นจะเป็นหญ้าที่ปลูกขึ้นเฉพาะการทำสวนเลยทีเดียว ซึ่งหญ้าที่ใช้ตกแต่งนั้นส่วนใหญ่แล้วจะเป็นหญ้าสำเร็จรูปที่ทำมาแบบเป็นแผ่นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหญ้าญี่ปุ่น หญ้านวลจันทร์ ต่างก็เป็นหญ้าที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการนำมาตกแต่งสวน
นอกจากนี้ยังมีหญ้าเทียมที่นิยมนำมาใช้ในสนามฟุตบอลเป็นอย่างมาก เพราะว่าสำหรับสนามฟุตบอลแล้วส่วนใหญ่จะไม่ค่อยนิยมใช้หญ้าจริง ทำให้หญ้าเทียมนั้นเข้าเป็นตัวเลือกอีกทางได้เป็นอย่างดีเลย เอาเป็นว่าเราจะเริ่มเข้าไปทำความรู้จักกับหญ้าที่จะนำมาใช้ในการตกแต่งสวน และใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ กันดีกว่า
หญ้านั้นอาจจะมองว่าเป็นพืชที่อยู่ในระดับล่างของพืชทั่วไป ซึ่งหญ้านั้นก็มีอยู่หลากหลายสกุล และหลายสายพันธุ์ ที่มีความแตกต่างกันออกไป ซึ่งทำให้เราอาจจะไม่คุ้นหน้าคุ้นตาหญ้าที่มีลักษณะแตกต่างกันออกไปบ้าง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรมากนัก
เรามาดูว่าหญ้าในบ้านเรานั้นเป็นอย่างไร และทำความรู้จักให้มากขึ้นกันดีกว่า โดยรวมๆ แล้วหญ้านั้นมีรูปแบบและลักษณะอย่างไรในความเข้าใจของเราที่พบเห็นหญ้าได้ทั่วๆ ไป
ในลำต้นของหญ้านั้นจะเป็นข้อกลมๆ และกลวง ใบจะยาวออก แบนและเรียวยาว โดยใบจะงอกออกเป็นแนวตรงข้ามกันของตัวลำต้น และรากจะเป็นรากฝอยเล็กๆ พันกันอยู่ ที่สำคัญหญ้านั้นมีดอกที่มีขนาดเล็กมาก ถ้าไม่สังเกตจะไม่รู้เลยว่ามีดอก ถ้ามีลักษณะเหล่านี้ก็ระบุได้ว่าอาจจะเป็นพืชตระกูลเดียวกับหญ้าก็ได้เช่นกัน ถึงแม้ว่าหญ้านั้นจะมีหลายตระกูล และมีลักษณะที่เหมือนกัน แต่ก็จะมีบางชนิดที่มีความแตกต่างกันออกไปบ้าง
โดยหญ้านั้นอาจจะมีมากถึง 10,000 ชนิด เลยก็ได้ ซึ่งหญ้าแต่ละชนิดนั้นก็จะมีความสูงที่ไม่เท่ากันตามสายพันธุ์นั้นๆ โดยหญ้าทั่วไปอาจจะมีความสูงประมาณ 2 เมตร แต่ถ้าเป็นสายพันธุ์อื่นอาจจะมีความสูงถึง 40 เมตร เลยก็ได้ ซึ่งความสูงระดับนี้จะเป็นพวกหญ้าตระกูลไผ่บางชนิด
นอกจากนี้หญ้ายังเป็นพืชหลักชนิดแรกๆ ที่เริ่มขึ้นมาปกคลุมพื้นแผ่นดินของโลก จึงไม่แปลกเลยว่าจะเป็นพืชชนิดแรกๆ เพราะว่าหญ้านั้นเป็นพืชที่สามารถปรับตัวได้ดีที่สุดในโลก ซึ่งสามารถขึ้นได้ทั้งขั้วโลกเหนือและทะเลทราย รวมไปถึงป่าเขตร้อน และที่ลาดตามเขา หรือจะเป็นพื้นที่ที่มีพรรณไม้ขึ้นหนาแน่น
ความทนทานนั้นนับเป็นหนึ่งในสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับหญ้าทุกชนิด เพราะว่าทำให้หญ้านั้นมีความทนทานต่อสภาพอากาศ โรค และสามารถปรับตัวได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะแตกต่างกับพืชชนิดอื่นๆ เป็นอย่างมาก แต่เมื่อเราตัดหญ้าออกไป ส่วนที่เติบโตของหญ้าก็จะหายไป หญ้าก็จะไปแย่งอาหารจากพืชอื่นๆ ทำให้พืชอื่นๆ ไม่สามารถเติบโตได้ เป็นสาเหตุว่าทำไมเราต้องคอยตัดหญ้าอยู่ตลอด
อีกทั้งลำต้นของหญ้านั้นเมื่อโดนเหยียบหรือโดนทับก็สามารถจะกลับมาตั้งตรงได้เหมือนเดิม และส่วนที่อยู่ติดกับดินนั้นจะเติบโตได้เร็วกว่าส่วนด้านบน จึงเป็นเหตุที่ว่าหญ้าทำไมจึงได้เปรียบพืชอื่นๆ เพราะสามารถฟื้นตัวได้เร็ว ทำให้ได้เปรียบในเรื่องของการแย่งแสงแดดด้วย เราต้องยอมรับว่าชีวิตเราก็ต้องมีการพึ่งพาหญ้าเป็นตัวช่วยในเรื่องการรองรับพื้นต่างๆ ไม่ให้โดนดินโดยตรงด้วย
ชนิดของหญ้า
การตกแต่งสวนนั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย คือ เรื่องของหญ้า เพราะว่าไม่มีใครอยากได้สวนที่มีแต่ดินเปล่าๆ อย่างแน่นอน ซึ่งหญ้านั้นก็มีหลากหลายชนิดให้เลือกนำมาใช้ อีกทั้งยังสามารถเลือกให้เหมาะกับการใช้งานได้อีกด้วย ที่สำคัญหญ้านั้นมีหลายสายพันธุ์ที่มีความเหมาะสมเป็นอย่างมาก ที่จะนำมาประดับตกแต่งสวนหน้าบ้าน หรือประดับตกแต่งสวนเพื่อความสวยงาม ซึ่งเราจะมาแนะนำหญ้าที่เหมาะแก่การใช้ในการประดับตกแต่งสวนกันว่ามีหญ้าชนิดไหนบ้างที่ได้รับความนิยมมาใช้ในการตกแต่งสวนหน้าบ้าน
หญ้าญี่ปุ่น
หญ้าญี่ปุ่น นับว่าหญ้าชนิดนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการนำมาประดับตกแต่งสวน รวมไปถึงใช้เป็นสนามหญ้าหน้าบ้าน ซึ่งหญ้าญี่ปุ่นนั้นจะสามารถแบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ ชนิดใบกว้าง และใบกลม หญ้าญี่ปุ่นนั้นจะมีใบค่อนข้างเล็กและละเอียดกว่า เป็นหญ้าที่นิยมปลูกในประเทศไทยเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
นอกจากนี้หญ้าญี่ปุ่นนั้นเป็นหญ้าที่ชอบน้ำเป็นอย่างมาก และเติบโตค่อนข้างช้า อาจจะใช้เวลาเป็นเดือนหรือเป็นปีกว่าจะขึ้นได้เต็มสนามหญ้า เพราะถ้าไม่ได้น้ำก็จะทำให้ใบหญ้านั้นเหลืองได้ในทันที แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นหญ้าที่โตได้ช้า แต่เมื่อโตได้เต็มที่แล้วจะมีความหนาแน่นเป็นอย่างมาก จนทำให้วัชพืชนั้นไม่สามารถที่จะแทรกขึ้นมาได้เลย ด้วยใบที่มีความเขียวเข้ม ใบเล็กและละเอียด ขอบใบเรียบ ไม่มีขน จึงเหมาะอย่างมากในการนำมาทำเป็นสนามหญ้าหรือปูเป็นสวนหย่อมได้เป็นอย่างดี และยังเหมาะกับพื้นที่ที่ไม่ได้กว้างนัก แต่ไม่ใช่ว่าหญ้าญี่ปุ่นนั้นจะมีแต่ข้อดี ข้อเสียก็มีเช่นกัน คือ ใบหญ้านั้นจะแข็ง ทำให้เวลาจะตัดแต่ละครั้งค่อนข้างลำบาก และต้องใช้แรงค่อนข้างมาก ควรจะมีเครื่องตัดหญ้าติดไว้ที่บ้านจะดีกว่าตัดเอง
หญ้านวลน้อย
หญ้านวลน้อย จัดว่าเป็นหญ้าที่ได้รับความนิยมเช่นกัน พอๆ กับหญ้าญี่ปุ่น โดยหญ้านวลน้อยนั้นจะมีลักษณะใกล้เคียงกับหญ้าญี่ปุ่น แต่จะมีลักษณะใบที่กว้างและนุ่มกว่ามาก เติบโตได้เร็วพอสมควร และยังทนต่อการเหยียบย่ำได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงทนต่ออุณหภูมิที่สูงได้ดีด้วย แต่ถึงแม้ว่าจะทนต่อความร้อนได้ดี ในช่วงหน้าแล้งก็จำเป็นที่ต้องรดน้ำให้สม่ำเสมอด้วย ไม่เช่นนั้นใบจะเหลืองเอาได้ เหมาะกับการนั่งพักผ่อนหรือนั่งเล่นในสวนได้เป็นอย่างดี
การตัดแต่งนั้นควรจะใช้เครื่องมือในการตัดหญ้าได้ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นกรรไกรตัดหญ้า หรือรถตัดหญ้า โดยการตัดนั้นควรตัดทุกๆ 7-14 วัน และควรที่จะตัดให้สั้นประมาณ 0.5 นิ้วโดยประมาณ เพื่อไม่หญ้านวลน้อยนั้นยาวเกินไป เนื่องจากหญ้านวลน้อยนั้นมีช่อดอกที่ค่อนข้างยาว ทำให้เมื่อเวลาที่ตัดแต่งหญ้าแล้วจะทำให้ดูสวยงาม โดยดอกที่มีสีน้ำตาลนั้นจะพัดไปตามแรงลม เมื่อออกดอกจะเห็นได้ค่อนข้างชัดเลยทีเดียว นับว่าเป็นหญ้าอีกหนึ่งชนิดที่นิยมนำมาปลูกประดับสวนหน้าบ้าน
หญ้ามาเลเซีย
หญ้ามาเลเซีย หญ้าชนิดนี้ส่วนใหญ่จะนิยมใช้ในการทำสนามหญ้าเป็นหลัก อาจจะมีการนำไปจัดเป็นสวนหย่อมบ้าง แต่ก็จะใช้ร่วมกับหญ้าชนิดอื่นๆ ด้วยเช่นกัน เนื่องจากว่าเป็นหญ้าที่มีขนาดใบค่อนข้างใหญ่กว่าหญ้าชนิดอื่นๆ จึงเหมาะที่จะปลูกในที่ร่มเป็นหลัก หรือปลูกใต้ต้นไม้ใหญ่ เพราะเป็นหญ้าที่ต้องการปริมาณแสงค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับหญ้าชนิดอื่นๆ แต่ก็สามารถที่จะปลูกไว้กลางแจ้งได้ แต่ต้องให้น้ำในปริมาณที่มากกว่าปกติเสียหน่อยเพราะว่าเมื่อขาดน้ำจะทำให้ใบนั้นเปลี่ยนสีได้
หญ้าชนิดนี้เมื่อเทียบกับหญ้านวลน้อยแล้วจะไม่ค่อยมีความทนต่อการเหยียบย่ำเท่าไหร่นัก เนื่องจากใบที่มีความอวบน้ำและเปราะง่าย ถ้าใช้นั่งพักผ่อนก็จะเปียกที่ก้นกางเกงได้ แต่หญ้ามาเลเซียนั้นไม่ต้องตัดบ่อยเหมือนหญ้าชนิดอื่น เพราะสามารถตัดให้สั้นประมาณ 1-2 นิ้วได้ โดยตัดทุกๆ 15 วัน ในการตัดแต่งนั้นส่วนใหญ่จะใช้เครื่องมือตัดหญ้าได้ทุกชนิดเลยทีเดียว
หญ้าเบอร์มิวด้า
หญ้าเบอร์มิวด้า ซึ่งลักษณะของหญ้าเบอร์มิวด้านั้นจะมีความละเอียด นิ่ม และทนต่อการเหยียบย่ำเป็นอย่างมาก อีกทั้งหญ้าชนิดนี้ยังสามารถที่จะทนความร้อนได้เป็นอย่างดี และสามารถทนแล้งได้ดีด้วย รวมไปถึงเมื่อเกิดน้ำท่วมขัง หญ้าชนิดนี้ก็สามารถที่จะทนอยู่ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ซึ่งหญ้าเบอร์มิวด้านั้นจะมีใบที่ค่อนข้างสวยงาม ซึ่งจะเหมาะมากแก่การนำมาทำสนามกอล์ฟ และสวนสาธารณะ แต่เป็นหญ้าที่ไม่เหมาะแก่การนำมาทำสนามฟุตบอล ซึ่งหญ้าชนิดนี้จะได้รับความนิยมมากๆ ในช่วงหลังๆ แต่ก็เป็นหญ้าที่หาได้ยากไม่เท่ากับหญ้านวลน้อยและหญ้าญี่ปุ่นเท่าไหร่นัก
การปลูกหญ้า และ การบำรุงดูแลรักษาหญ้า
การปูหญ้าสำหรับการตกแต่งสวน สิ่งแรกเลยก่อนจะปูจะต้องมีการปรับสภาพดินให้มีความเรียบร้อย เพื่อความสวยงาม บางคนอาจจะออกแบบเป็นเนินโค้งสวยงาม จากนั้นเราก็เพิ่มสารอาหารในดินด้วยการใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก บางคนอาจจะมีการใช้ทรายขี้เป็ดในการโรย เมื่อโรยปุ๋ยหรือทรายขี้เป็ดตามต้องการแล้วก็ให้รดน้ำให้ทั่วจนดินนั้นชุ่มชื้นขึ้นพอดี มีความชุ่มชื้นและอ่อนนุ่มขึ้น ก็ให้นำพันธุ์หญ้าที่เราได้เตรียมมาเพื่อปูทำการปูให้เต็มพื้นที่
โดยสิ่งสำคัญในการปูหญ้านั้นเราจะต้องกดหญ้าให้ติดกับพื้นดินมากที่สุด โดยใช้อุปกรณ์ช่วย ไม่ว่าจะเป็นจอบ หรือเครื่องมือทำสวน เพื่อที่จะปรับแต่งดินให้มีความเรียบร้อย แล้วรดน้ำตามให้ชุ่ม ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยในการเตรียมดิน
การดูแลรักษาหญ้าที่ปูเรียบร้อยแล้วนั้น ไม่ใช่ว่าเมื่อปูเสร็จแล้วก็ปล่อยเลยตามเลย จะต้องดูแลเอาใจใส่เพื่อให้หญ้าที่เราปูนั้นมีความเขียวขจีอยู่ตลอดเวลา รวมไปถึงไม่ให้หญ้านั้นยาวเกินไปจนทำให้ดูรก โดยเราควรรดน้ำทุกๆ วัน ประมาณ 1 อาทิตย์ หลังจากที่เริ่มปลูกไปแล้ว เพื่อที่รากจะได้เติบโตและงอกออกมาได้เต็มที่ หลังจากนั้นก็ตัดแต่งทุกๆ 2 อาทิตย์ เพื่อไม่ให้หญ้านั้นยาวเกินไป ในช่วงไหนที่แดดจัด หรืออากาศค่อนข้างแห้ง ควรรดน้ำทันที ไม่ต้องรอเวลาเย็น เพื่อที่หญ้าจะได้ไม่แห้ง และเกิดใบเหลือง รดน้ำจนดินนั้นมีความชุ่มชื้นมากขึ้น ประมาณ 2 อาทิตย์ หญ้าก็จะสามารถตั้งตัวได้แล้ว
หลังจากที่เรารดน้ำไปเรื่อยๆ จนหญ้าสามารถที่จะตั้งตัวได้แล้วก็ให้ทำการลดการให้น้ำลง แต่อาจจะต้องให้ในช่วงที่อากาศร้อน หรือแห้งแล้งหน่อย จากนั้นก็บำรุงหญ้าด้วยปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยยูเรีย ก็ได้เช่นกัน โดยให้ปุ๋ยนั้นประมาณเดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งเมื่อเราได้หญ้าที่มีความเขียวสดแล้วก็สามารถนำอุปกรณ์เพื่อการตกแต่งสวนเข้ามาในสวนได้เลย เพียงเท่านี้ก็จะได้หญ้าที่สวย และได้สวนที่งดงามตามความต้องการแล้ว
ลักษณะของหญ้าเทียม
หลายๆ คนคงจะได้ยินมาบ้างแล้วว่า หญ้าเทียมนั้นคือหญ้าอะไร มีลักษณะหน้าตาเป็นอย่างไร เพราะเป็นที่รู้กันอยู่ว่าสนามฟุตบอลหญ้าเทียม หญ้าเทียมอื่นๆ เป็นต้น ซึ่งหญ้าเทียมนั้นก็มีหลายเกรด หลายลักษณะ ขึ้นอยู่กับวิธีการนำไปใช้ว่าจะใช้ในเรื่องอะไร
หญ้าเทียม หรือหญ้าปลอม เป็นวัสดุที่ช่วยในการปูพื้นหรือตกแต่งจากพลาสติกที่ทำขึ้นเพื่อเป็นการลอกเลียนแบบหญ้าจริงตามธรรมชาติ โดยหญ้าเทียมที่มีการผลิตนั้นจะผลิตจากพลาสติกเป็นส่วนใหญ่ โดยผลิตจากพลาสติก 2 ชนิดเป็นหลัก คือ
-พลาสติกลีเอทิลีน ซึ่งพลาสติกชนิดนี้จะผลิตด้วยแรงดันสูง มีความเหนียวและยืดหยุ่นได้เป็นอย่างดี ทนต่อการกรอบและแตกได้ ซึ่งเป็นที่นิยมมากในการนำมาผลิตหญ้าเทียมที่เป็นเกรดดีเยี่ยม มีความคงทนต่อสภาพการใช้งาน โดยนิยมนำมาใช้ในงานกีฬา งานสวนที่ต้องออกแบบภายนอก ที่ต้องโดนทั้งแดดและฝน ซึ่งความทนทานนั้นสามารถใช้งานได้ยาวนาน และไม่จำเป็นที่จะต้องมีการเปลี่ยนบ่อย ในสนามฟุตบอล หรือฟุตซอล นั้นจะนิยมนำมาใช้เป็นอย่างมาก
-พลาสติกพอลีโพรไพลีน เป็นพลาสติกที่นำมาทำหญ้าเทียมได้เช่นกัน แต่มีสภาพความคงทน และการทนความร้อนที่ไม่มากนัก แต่พลาสติกชนิดนี้จะทนสารเคมีได้ค่อนข้างดี อีกทั้งยังมีราคาถูก จึงถูกนำมาใช้ในการทำเป็นหญ้าชั่วคราวมากกว่า หรือใช้ในงานภายในที่มีการนิยมจัดบูธออกสวนภายในห้างสรรพสินค้า หรือโชว์รูมต่างๆ
โดยส่วนประกอบของหญ้าเทียมนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะประกอบด้วย 3 ส่วนใหญ่ๆ เลย คือ ใบหญ้าเทียม ผ้ายืดหญ้าเทียม และยางเคลือบหญ้าเทียม
ใบหญ้าเทียมนั้นส่วนใหญ่แล้วจะทำมาจากพลาสติก PE โดยพลาสติกนั้นก็จะมีอยู่หลายเกรด ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการใช้แบบไหน เกรดอะไร ต่อมา คือ การเคลือบยางที่ด้านหลัง ถ้าการเคลือบเป็นแบบหนานั้นจะดีมาก เพราะจะช่วยเพิ่มอายุการใช้งานให้นานยิ่งขึ้น และผ้ายืดหญ้าเทียมนั้นส่วนใหญ่แล้วจะไม่มีความแตกต่างกันมากนัก
การบำรุงดูแลรักษาหญ้าเทียม
ในการดูแลหญ้าเทียมนั้น ถ้าในสนามบอลหรือสนามกีฬาแล้วมีเศษดินหรือโคลน หรือคราบต่างๆ อาจจะใช้แปรงซักผ้า หรือแปรงที่เหมาะสม ขัดออกเบาๆ หรือจะใช้น้ำฉีดเลยก็ได้ นอกจากนี้ถ้าหญ้าเริ่มหลุดแต่ยังไม่มากนัก ก็สามารถใช้กาวติดกลับไปได้ทันที แต่ถ้าเป็นหญ้าที่สามารถเดินเหยียบได้ จะมีความคงทนมากอยู่แล้ว ก็สามารถใช้เครื่องดูดฝุ่นมาดูดออกได้เลย โดยไม่ต้องกังวลว่าหญ้าจะหลุดติดออกมา อายุการใช้งานของหญ้าเทียมนั้นจะขึ้นอยู่กับการใช้งานในรูปแบบต่างๆ ถ้าเป็นกลางแจ้งหรือสนามหญ้าเทียมที่มีคนใช้งานตลอดเวลา อาจจะอยู่ได้ประมาณ 3-4 ปี แต่ทั้งนี้ก็จะขึ้นอยู่กับเกรดของหญ้าที่นำมาใช้ด้วยว่าใช้หญ้าเทียมเกรดไหน ลักษณะการใช้งานจึงจำเป็นอย่างมากที่ต้องคำนึงถึงด้วย
ข้อดีและข้อเสียของการใช้หญ้าเทียม
หญ้าเทียมนั้นต่างก็มีข้อเสียและข้อดีแตกต่างกันออกไปเหมือนนำไปเปรียบเทียบกับหญ้าจริง
โดยข้อดีของหญ้าเทียมนั้นก็ที่รู้ๆ เลย คือ มีความทนทานกว่าหญ้าจริง อีกทั้งยังมีอายุการใช้งานอยู่ได้ 6-8 ปี โดยไม่จำเป็นต้องดูแลรักษามากนัก เมื่อเทียบกับการดูแลหญ้าจริง อีกทั้งยังสามารถติดตั้งภายในอาคารหรือที่พักอาศัยได้ด้วย
ส่วนข้อเสียของหญ้าเทียมเลย คือ จะไม่มีความนุ่มเท่ากับหญ้าจริงมากนัก เพราะว่าทำมาจากพลาสติก จึงไม่ต้องสนใจเรื่องความนุ่มเลย ยิ่งถ้าเป็นในที่โล่งแจ้ง หญ้าเทียมนั้นจะเก็บความร้อนและคลายความร้อนได้ค่อนข้างช้า ผู้ใช้งานเสี่ยงที่จะได้รับสารเคมีที่มากับหญ้าเทียม อีกทั้งยางที่ใช้ปูเป็นพื้น มีผลกระทบต่อผู้เป็นโรคหอบหืดได้อีกด้วย ในการใช้งานจึงจำเป็นที่จะต้องมีความระมัดระวัง นอกจากนี้พื้นที่ใช้ปูหญ้าเทียมนั้นส่วนใหญ่อาจจะไม่ใช้ดินเสียทีเดียว อาจจะเป็นพื้นปูน และปูด้วยหญ้าเทียม การใช้งานจึงมีความจำเป็นที่จะต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้
ด้านตลาดและช่องทางจำหน่ายหญ้าเทียม และหญ้าประเภทต่างๆ
ในการลงทุนนั้น หญ้าอาจจะไม่ได้มีขายเป็นต้นๆ มากนัก แต่จะมีหญ้าสำเร็จรูปพร้อมส่งเสียส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นหญ้าสำเร็จรูปที่เป็นหญ้าจริง และหญ้าเทียม ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันออกไปตามคุณภาพและปริมาณในการใช้ ซึ่งราคาสำหรับหญ้าเทียมนั้นส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ที่ 19-20 บาท ต่อ 1 แผ่น แต่ถ้าคิดเป็นตารางเมตรก็จะตกอยู่ที่ประมาณ 75-90 บาท ต่อตารางเมตร ซึ่งราคาหญ้าเทียมนั้นอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง หรือขึ้นอยู่กับผู้ผลิตด้วยว่าคุณภาพและการใช้งานนั้นประมาณไหน ที่สำคัญวัสดุที่ใช้ในการทำหญ้าเทียมนั้นอันตรายต่อผู้นำมาใช้หรือไม่
หญ้ามาเลเซีย ลักษณะหญ้าประเภทนี้จะมีใบใหญ่กว่าหญ้าทั่วไป โดยราคาจะต้องอยู่ที่ตารางเมตรละ 20-30 บาท ซึ่งปริมาณในการใช้และซื้อก็จะแตกต่างกันออกไปอยู่ดี โดยราคาดังกล่าวนี้อาจจะไม่รวมค่าติดตั้ง ในกรณีที่จ้างช่างมาติดตั้งให้ด้วย โดยค่าแรงในการติดตั้งอาจจะอยู่ที่ประมาณ 50-100 บาท ขึ้นอยู่กับตารางเมตรที่ติดตั้ง อาจจะมากหรือน้อยกว่านี้ก็ได้
หญ้านวลน้อย เป็นหญ้าที่ค่อนข้างได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการนำมาติดตั้ง เพราะว่าเป็นหญ้าที่มีความคงทนต่อสภาพอากาศเป็นอย่างดี ชอบแดดจัด และตายยาก ที่สำคัญโตเร็ว และไม่ควรปล่อยหญ้าชนิดนี้ให้ยาวเกินไป เพราะจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ไม่สวยงามน่ามอง โดยราคาอาจจะตกอยู่ที่ 10-15 บาท ต่อแผ่น และ 50-75 บาท ต่อตารางเมตร ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับร้านที่จำหน่ายด้วยเช่นกัน
โดยส่วนมากนั้นราคาหญ้าจริงและหญ้าเทียมนั้นอาจจะมีราคาที่แตกต่างกันไม่มากนัก โดยราคาหญ้าจริงนั้นส่วนใหญ่อาจจะมีราคาถูกกว่าราคาหญ้าเทียม แต่ทั้งนี้ก็จะขึ้นอยู่กับวัสดุและอุปกรณ์อื่นๆ โดยรวมด้วย โดยราคาหญ้าจริงจะตกอยู่ที่แผ่นละ 8-20 บาท ต่อแผ่น แต่ถ้าเป็นหญ้าเทียมอาจจะตกอยู่ 18-25 บาท ต่อแผ่น ทั้งนี้ราคาต่อแผ่นและต่อตารางเมตรอาจจะมีการเพิ่มหรือลดก็ขึ้นอยู่กับผู้รับเหมาด้วยเช่นกัน
ประโยชน์ของหญ้าประเภทต่างๆ
การปลูกหญ้า แต่ละประเภทก็มีความสำคัญในการใช้งานที่ต่างกันออกไป โดยหญ้าบางชนิดก็มีส่วนช่วยในการบำรุงดินให้มีความชุ่มชื้น และป้องกันการพังทลายของดิน บ้างก็เป็นอาหารสัตว์ บ้างก็สามารถนำมาใช้งานในสวนได้ ซึ่งหญ้าก็ไม่จำเป็นที่จะต้องทำลายทิ้งเพียงอย่างเดียว แต่ก็ยังมีส่วนที่ดีเช่นกัน
นอกจากนี้หญ้าก็ยังมีแบบสำเร็จรูปเป็นแบบแผ่นๆ ที่ใช้ในการตกแต่งสวน หรือนำไปทำสนามหญ้าเป็นสนามกีฬาได้ ทั้งนี้ราคาหญ้าแบบสำเร็จรูปเองก็จะแตกต่างกันออกไป ตามแต่มาตรฐานการทำหรือการใช้งานด้วย เห็นได้เลยว่าหญ้าไม่ใช่แค่วัชพืชอย่างเดียว แต่ก็ยังมีประโยชน์อีกหลายด้านที่เรายังไม่รู้ด้วยเช่นกัน
เรื่องหญ้านั้นไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวมากนัก เพราะชีวิตประจำวันเราก็มักจะพบเจออยู่เป็นเรื่องปกติ แต่หญ้าที่เราเห็นบางทีอาจจะมองเป็นแค่หญ้าธรรมดา ไม่ได้มีความพิเศษอะไรมากมาย พอเราได้ลองค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องหญ้า เรา เราจะเจอเลยว่าหญ้านั้นมีอะไรมากกว่าที่คิด ไม่ใช่แค่หญ้าธรรมดา แต่หญ้ายังมีเรื่องราวที่น่าค้นหาเป็นอย่างมาก ทั้งนี้บทความเกี่ยวกับหญ้านี้เป็นการนำเสนอข้อมูลเรื่องราวคร่าวๆ ให้ได้รู้กันว่าหญ้านั้นมีที่มาอย่างไร ปลูกอย่างไร และหญ้าช่วยอะไรได้บ้าง จึงอยากจะบอกว่าหญ้าไม่ใช่แค่หญ้าอีกต่อไป อยากให้มองว่าหญ้านั้นเป็นพืชชนิดหนึ่งที่ไม่ใช่วัชพืช
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
http://www.dnp.go.th,https://medthai.com,https://www.moe.go.th,https://www.cctgroup.co.th