มิสเตอร์พี เจ้าของสวน คือ พ.จ.อ.พีรภัทร ปิ่นทอง สวนลูกประดู่แห่งราชนาวีไทย เปิดใจถึงเส้นทางแห่งความสำเร็จในการเพาะเลี้ยง “ชวนชม” ให้รวย เป็นที่ต้องการของคนในวงการว่า เหตุที่มาเล่นชวนชมเพราะเป็นไม้ที่ไม่ถูกบีบด้วย “เงื่อนเวลา” แขวนไว้เป็นปีๆ ก็อยู่ได้ เป็นไม้ที่เลี้ยงง่าย และจัดส่งทางไปรษณีย์ง่าย ในแง่ธุรกิจจึงมีความเสี่ยงน้อย
วิธี การดัดชวนชม โดยไม่เข้าลวด
อีกอย่างเขามาเล่นชวนชมเพราะมีความชอบเป็นทุนเดิม เมื่อเริ่มเลี้ยงชวนชมด้วยการซื้อมาเลี้ยง โดยที่ไม่รู้ว่าจะขายให้ใครด้วยซ้ำ แม้แต่ “เวลา” สำหรับการดูแล หรือเลี้ยงดู ชวนชม ก็เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ เท่านั้น จันทร์-ศุกร์ ต้องพักในกรุงเทพฯ ต้องปฏิบัติราชการนั่นเอง การดัดชวนชม การดัดชวนชม การดัดชวนชม การดัดชวนชม
เวลาของมิสเตอร์พีจึงมีค่ามากกว่าหลายๆ คน เขาจึงต้องทำเวลาให้เกิดประโยชน์ ในการพัฒนาชวนชมให้เป็นที่ต้องการของตลาด หรือ “การตัดกิ่ง จัดโครงสร้าง ทั้งทรงแท่ง ทรงโหย่ง และทรงต้น” ให้ได้รูปทรงตรงตามที่ต้องการ ทรงเหล่านี้จะทำได้ง่าย เห็นผลไว เพราะมันแตกกิ่งได้มากใน 1-2 อาทิตย์ ก็เลือกกิ่งที่ต้องการได้แล้ว
แต่การเข้าลวดเพื่อบังคับกิ่ง ต้องใช้ตลอดชีวิตของต้นไม้ ถ้าแกะลวดออกจะเสียทรง ไม่สวย ก็ต้องเข้าลวดใหม่ ทำให้เสียเวลาดังนั้นทางสวนมิสเตอร์พีจึงคิดค้นวิธีทำทรงชวนชม โดยไม่เข้าลวด “เราพยายามหนีลวด ให้ไม้มันสวยด้วยตัวเอง ให้สวยแบบธรรมชาติ มันไม่ยาก แต่ต้องเข้าใจว่ามันเหมือนบอนไซ” มิสเตอร์พียืนยัน และเมื่อสำเร็จจะเปิดเผยอย่างเป็นทางการ การดัดชวนชม การดัดชวนชม การดัดชวนชม การดัดชวนชม การดัดชวนชม การดัดชวนชม
การทดลองเพื่อจะให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ โดยไม่ต้องเข้าลวด แต่ใช้ลวดแค่เป็นองค์ประกอบเท่านั้น เมื่อเอาลวดออก กิ่งจะไม่ดีดกลับที่เดิม ไม้ต้องอยู่ในสภาพเดิม ซึ่งทดลองทำกับไม้รุ่นเล็กไปได้ดี
วิธีปลูกชวนชม การทำ ต้นชวนชม รูปทรง “ทรงสูง”
ในเรื่องรูปทรงนั้น แต่ละอย่างมีวิธีการต่างกัน เช่น “ทรงสูง” ต้องเลี้ยงในขวดน้ำดื่ม 1.5 ลิตร โดยเจาะข้างขวด 4-5 รู ให้สูงกว่าก้นขวด 4 นิ้ว ตัดขวดให้เหมือนวัสดุปลูก เวลาที่รากงอกมันจะไม่งอ จะมี 3-4 ราก และรากจะยาว เพราะมันจะดิ่งไปหาความชื้นที่ก้นขวดนั่นเอง
“ซึ่งตรงกันข้ามถ้าเลี้ยงในกระถาง รากมันจะใหญ่ และลงรูออกนอกกระถาง เพื่อไปหาความชื้นนั่นเอง”
เริ่มต้นในการปลูกเลี้ยงชวนชมเมื่อปี 2551 เกือบ 10 ปี ในวงการที่เพาะเลี้ยงพัฒนาชวนชมจนดังระดับประเทศนั้น ทุกก้าวย่างล้วนมีคุณค่า เพราะได้ “องค์ความรู้” ที่เกิดจากการวิจัยและพัฒนาแบบชาวบ้าน ที่ใช้การสังเกตเป็นหลัก มาขยายผลให้เกิดธุรกิจ ที่ข้าราชการไทยหลายคนทำไม่ได้
จุดเด่นของไทยโซโคทรานัม
ในเรื่อง “สายพันธุ์” ซึ่งเป็นเหมือนอิฐก้อนแรกในการสร้างกำแพง มิสเตอร์พีเล่นไทยโซโคทรานัมมาก่อน ตามด้วยอาราบีคัม แม้เม็ดโซโคฯ บางปีราคาพุ่งถึง 40 บาท ก็ต้องซื้อมาพัฒนา หรือจะถูกหลอกบ้างก็ยอม ถือว่าเสียค่าหน่วยกิต บนเนื้อที่ 4 ไร่ มิสเตอร์พีคิดว่านี่คือห้องทดลอง หรือห้องปั้นนางสาวไทย ที่ชื่อ “ไทยโซโคฯ” นั่นเอง ปั้นอย่างไรให้ดังระดับชาติ และขายได้ราคา..?? นั่นเป็นภารกิจที่ต้องเรียนรู้ และปรับตัวตลอดเวลา
“ที่สวนจะเน้นไทยโซโคทรานัม ที่คนไทยรู้จักกันดี ไทยโซโคฯ จุดเด่นของมันอยู่ที่ระบบราก และระบบกิ่ง ลำต้น มีลูกเล่นได้หลากหลาย เช่น รากโหย่ง ทรงต้น ทรงแท่ง ทรงสูง ทำอะไรได้ทั้งหมด” มิสเตอร์พียืนยันถึงประโยชน์ของมัน
วิธีการทำ รูปทรง “ทรงสูง” ทรงรากกระจาย ได้รับความนิยมมาก
เมื่อพูดถึง “ทรง” ปรากฏว่าทรงรากกระจาย ได้รับความนิยมมาก ส่วนทรงอื่นๆ ก็ได้รับความนิยมรองๆ ลงไป
ซึ่งมิสเตอร์พียอมรับว่าตนไม่ได้ยึดติดกับรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ตัวไหนดีเด่นก็ทำขึ้นมา สังเกตได้ว่าในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา รูปแบบเปลี่ยนแปลงตลอด ไม่เคยหยุดนิ่ง แม้แต่คนใหม่ๆ ที่เข้ามาในวงการ แต่ทำไม้ได้สวย ทรงใหม่ๆ เขาก็ต้องตามด้วยเช่นกัน เพราะคนรุ่นใหม่เก่งด้านไอที มีข้อมูลไว และรอบด้าน
การทำชวนชมให้ได้ทรงต่างๆ
การทำชวนชมให้ได้ทรงต่างๆ จะใช้หลัก “บอนไซ” มาประยุกต์ แต่การทำบอนไซจะทำให้เกิดทรงต่างๆ ได้ เพราะเป็นไม้เนื้อแข็ง ต่างจากชวนชมเป็นไม้เนื้ออ่อน หากใช้ “ลวด” มาบังคับกิ่ง
สำหรับ “ทรงเตี้ย” หรือไม้ที่ตัดทำรากใหม่ ซึ่งการตัดรากก็ต้องเสี่ยงอาจตายได้ แน่นอนว่าจะเห็นฟอร์ม หรือรูปทรง ต้องใช้เวลาเกือบ 3 ปี ถ้าเป็นทรงแท่งต้อง 4 ปี เมื่อถามถึง “เสน่ห์” ของชวนชม มิสเตอร์พีเปิดเผยว่าอยู่ที่ระบบราก แต่ปัจจุบันเริ่มหันมาเล่นทรงแท่งมากขึ้น ซึ่งนักพัฒนา หรือนักผสมพันธุ์ มีเทคนิคการเล่น หรือจัดราก ไม่เหมือนกัน ก่อให้เกิดลูกเล่นที่ต่างกัน
การคัดเลือกสายพันธุ์ที่ดี
การคัดเลือกสายพันธุ์ที่ดี โดยดูจากการเดินกิ่ง กิ่งสะอาด ใบสวย แตกกิ่งดี และมีเปอร์เซ็นต์การให้หัวไม้ที่ดี จากนั้นก็นำเมล็ดไปเพาะ ถ้าปรากฏว่า 100 เมล็ด เพาะแล้วได้มาแค่ 2 ต้น ถือว่าสายพันธุ์ไม่ดี
การขยายพันธุ์ชวนชม
ในการขยายพันธุ์ชวนชม นอกจากเพาะเมล็ดแล้ว ยังมีการเสียบยอด ต่อยอด ถ้าเป็นไม้สีก็นำไม้สีสวยๆ มาต่อกิ่งเสียบยอดได้ง่ายนิดเดียว
ในด้านการปลูก มิสเตอร์พีแนะนำการปลูกใหม่ๆ ช่วงแรกไม่ต้องรดน้ำมาก เพราะรากยังไม่แตกเต็มที่ ถ้าใบเริ่มแตกค่อยให้น้ำตามปกติ หรืออัดน้ำได้เต็มที่ “ต้นไม้รอด ไม่รอด อยู่ที่ขั้นตอนการให้น้ำ ไม้บางตัวเหมือนไม่เน่า แต่อยู่ดีๆ มันก็เน่า ตอนปลูกจึงต้องทำใจว่าเน่าก็เน่า” มิสเตอร์พีให้ความเห็นถึงความเสี่ยงในการปลูกชวนชม
การเลือกใช้ วัสดุปลูก
วัสดุปลูกก็เป็นสิ่งสำคัญ มิสเตอร์พีใช้ “ใบก้ามปู” ที่ผุพังที่อยู่ใต้ต้นของมัน พร้อมทั้งดิน ร่วมกับ “กาบมะพร้าวสับ” ในอัตรา 1:1 ถ้ามีขี้หมู ขี้ไก่ ขี้วัว ที่ผ่านการหมักแล้วไปผสมก็จะดี เนื่องจากเขาไม่มีเวลาหมัก จึงใช้แบบสดๆ ผสม ซึ่งวัสดุปลูกบางคนใช้ “แกลบดำ” หรือ “กาบมะพร้าว” ก็ได้
ในเรื่องการขยายพันธุ์ชวนชมด้วยการตอนกิ่ง หรือปักชำกิ่ง นั้น มิสเตอร์พีให้แง่คิดว่าคนทำต้องมือเบา มีดสะอาด ต้องปาดครั้งเดียว เพราะถ้าแผลช้ำ เนื้อเยื่อช้ำ มันจะเน่านั่นเอง
การป้องกันกำจัดโรคและแมลง
อย่างไรก็ดีในการผลิตชวนชมให้ได้คุณภาพในเมืองร้อนชื้น อย่างไทย ย่อมเจอ “หนอนด้วง” ทำลายเสียหายง่ายมาก “สังเกตว่ามีหนอนหรือไม่ คือ หน้าดินจะฟู นิ่ม เวลากดลงไปจะยุบ อันนี้มีหนอนแน่ ต้องใช้ยาฆ่า ละลายน้ำราด มันจะขึ้นมาตายให้เห็น” มิสเตอร์พี ยืนยัน มันเป็นยาดูดซึม ใช้แล้วสะใจ หนอนขึ้นมาตายให้เห็น
นอกจากหนอนด้วงแล้ว ยังมี “ไรแดง” ทำลายใบชวนชม ก็ต้องใช้ยากำจัดเช่นกัน ซึ่งไรแดงมากับน้ำฝน พอเข้าหน้าหนาวก็จะมากับน้ำค้าง ยกเว้นหน้าแล้งไรแดงไม่ระบาด
ชวนชมเป็นไม้ที่ไม่ชอบน้ำมาก : ชวนชมเป็นไม้ที่มีแหล่งกำเนิดมาจากทะเลทราย จึงเป็นไม้ที่มีความอดทนต่อสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้ง และการขาดน้ำได้ดี แต่จะว่าชวนชมไม่ชอบน้ำก็ไม่เชิง เพราะถ้าได้น้ำดี ปุ๋ยดี ชวนชมก็สามารถเจริญเติบโตได้ดีเช่นกัน เราจึงสามารถรดน้ำเยอะได้ แต่ไม่ควรให้น้ำขัง และต้องมีเวลาให้ดินแห้งบ้าง
การใส่ปุ๋ยชวนชม
สำหรับปุ๋ยเคมี สมัยก่อนมิสเตอร์พีใช้สูตร 0-0-60 เพื่อให้รากใหญ่ แต่ตอนนี้ไม่ใช้ เพราะเมื่อทำให้รากชวนชมได้น้ำ ได้แสงแดด ที่เพียงพอ มันจะโตเร็ว หาอาหารเก่ง จน “ลำต้น” เติบโตเร็วโดยธรรมชาติ
ชวนชมเป็นไม้ที่ชอบแสงแดดจัด ตามแหล่งกำเนิด หากได้รับแสงแดดตลอดทั้งวันจะทำให้ชวนชมแข็งแรง ผิวพรรณดี การเจริญเติบโตรูปร่างสมส่วน แต่ถ้าได้รับแสงแดดไม่เต็มที่ก็จะทำให้ ต้นชวนชม ไม่สวย ดังนั้นการปลูกชวนชมต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีแดดสม่ำเสมอ เช่น กลางทุ่ง กลางสนาม แต่ถ้ามีพื้นที่น้อยควรให้ได้แสงแดดวันละ 3-4 ชั่วโมง หรือต้องกลับ “กระถาง” ให้ข้างที่ไม่ได้รับแสงได้รับแสงแดดบ้าง
เรื่องวางกระถางชวนชมก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม มิสเตอร์พีกล่าวว่าอยู่ที่ความเหมาะสม ขึ้นอยู่กับวิธีการของแต่ละคน บางคนวางกับพื้น บางคนใช้กระเบื้องรอง บางคนวางบนอิฐบล็อกที่ก่อขึ้นเป็นขา แล้ววางกระถางให้อยู่ในระดับพอดีกับการทำงาน
การพัฒนาสายพันธุ์ชวนชม
เมื่อถามถึงภาพรวมชวนชม มิสเตอร์พียอมรับว่ามีการพัฒนามาตลอด คนไทยเป็นมือผสมพันธุ์อันดับ 1 ในอาเซียน เพราะมีการแข่งขันกันตลอดเวลา โดยเฉพาะการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีไม้พันธุ์ใหม่ๆ สวยๆ ออกมาตลอด ทุกคนหยุดนิ่งไม่ได้ ต้องประดิษฐ์ประดอย ประณีตสูง ให้ได้ไม้สวยๆ
นอกจากนี้คนในวงการชวนชมแม้จะแข่งกันพัฒนาฝีมือ แต่ก็รักกันเหมือนพี่น้อง เจอกันทักทายกันในงานประกวดต่างๆ หรือทางโซเชียลมีเดีย มีอะไรดีๆ จะถ่ายเทซึ่งกันและกัน ไม่หวงวิชา หลายจังหวัดจึงตั้ง “ชมรม” เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
“การมีชมรมจะทำให้เกิดการแชร์ข้อมูล เผยแพร่ เพื่อพัฒนาไม้ในกลุ่มให้สวยขึ้น การเข้าลวดแบบไหนที่ถูกต้อง เทคนิคต่างๆ ก็ได้จากการพบปะกันนี่แหละ” มิสเตอร์พียืนยันถึงข้อดีของการมีชมรม
อย่างไรก็ดีการทำให้ชวนชมมีคุณภาพจะต้องทำให้ลำต้นดี รากดี และกิ่งดี ต้องครบ 3 ดี ดังนั้นมิสเตอร์พีจึงต้องทำให้ดีทุกอย่าง ทุกทรง ต้องดีครบ 3 อย่าง โดยเฉพาะการทำให้กิ่งดีต้องมีฝีมือ ตั้งแต่การเพาะเมล็ดนั่นเอง กิ่งจึงเป็นตัวแปรสำคัญในการผลิตชวนชมแต่ละรูปทรง ซึ่งมิสเตอร์พีให้ความสำคัญเป็นพิเศษ
ด้านการตลาดชวนชม
เมื่อพูดถึงความน่านิยมของตลาดปัจจุบัน มิสเตอร์พีบอกว่าวงการชวนชมแบ่งเป็น 2 ตลาด คือ ตลาดใน และตลาดต่างประเทศ ตลาดใน หมายถึง ตลาดนักเล่นชวนชมด้วยกัน มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนกันแบบพี่ แบบน้อง ภายในวงการ ใครมีตัวไหนเด่นๆ สวยๆ ก็จะนำมาแชร์แบ่งปันขายกัน
ตลาดต่างประเทศ มิสเตอร์พียอมรับว่าไม้ธรรมดาก็ยังขายได้เรื่อยๆ ถ้าพูดถึงเรื่องราคาก็อาจจะไม่สูงมากเหมือนแต่ก่อน เนื่องจากสมัยนี้มีตลาดมาก และการแข่งขันสูง คนที่หันมาทำชวนชมมีจำนวนมากขึ้น นักเล่นมือใหม่ก็มีมาก นักเล่นมือใหม่บางรายฝีมือมิใช่ย่อย ทั้งสวย โครงสร้างดี บางคนเด่นกว่าคนที่ทำมานานหลาย 10 ปีด้วยซ้ำ ทำให้เกิดช่องทางเลือกแก่ลูกค้ามากขึ้น
ดังนั้นการที่จะทำให้ลูกค้าหันมาสนใจสินค้าก็ต้องรู้จักพัฒนาไม้ให้เด่น และ มีคุณภาพกว่าคนอื่นๆ แค่นี้ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะขายไม่ออก ถึงอย่างไรลูกค้าส่วนใหญ่ชอบของแปลก สิ่งใหม่ เห็นสินค้าใหม่ๆ ก็น่าซื้อ น่าลอง มิสเตอร์พีมีการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยยึดหลักความมีคุณภาพเป็นหลัก ในการผลิตและปั้นพัฒนาไม้ป้อนสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง
ประโยชน์ของชวนชม ดอกชวนชม
ชวนชมทุกสไตล์นอกจากจะดูความสวย ลีลา สไตล์การเล่นแล้ว ยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ด้านการจัดสวน ประดับบ้าน อาคารสถานที่ จะสังเกตได้ว่าสมัยนี้รอบข้างเราเต็มไปด้วยตึก อาคาร สถานประกอบการ น้อย ใหญ่ ห้องเช่า มีตึกมากมาย บางคนมีพื้นที่คับแคบ บางทีอยากอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติก็ยาก
ด้วยเหตุนี้นักพัฒนาชวนชมจึงคิดค้นหาวิธีการเพื่อปรับให้ทันเข้ากับเหตุการณ์โลกปัจจุบัน โดยการสร้างชวนชมลักษณะฟอร์มเล็กจิ๋ว กะทัดรัด เหมาะเจาะ สมแล้วที่นักพัฒนาฝีมือดีสร้างขึ้นเหมาะกับผู้ที่มีพื้นที่น้อย หรือพื้นที่มาก ก็ตาม โดยเฉพาะคนในเมืองกรุงจะหาพื้นที่ที่กว้างขวางอย่างบ้านนอกได้ยากยิ่ง ดังนั้นชวนชมที่อยู่ในรูปแบบกระถาง ลักษณะทรงพุ่มคล้ายไม้ใหญ่ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้หลายๆ คนที่รักต้นไม้ อยากอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติได้สมหวัง โดยเฉพาะที่สวนมิสเตอร์พีมีพร้อมทุกสไตล์
ชวนชมเป็นไม้ประดับจัดสวน ตั้งโชว์ หรือจัดตั้งเรียงราย ไว้ที่บ้าน บางสายพันธุ์มีความโดดเด่นทางทรงต้น ราก และกิ่ง ปัจจุบันนิยมสร้างเป็นรูปแบบของบอนไซ และรูปแบบอื่นที่หลากหลาย เช่น ทรงแท่ง ทรงรากแผ่ รากโหย่ง โขดใหญ่ จัดแจงอย่างสวยงาม หรือจะเป็นไม้สีที่ให้ ดอกชวนชม สีสันสดใส มีทั้ง ดอกชวนชม แบบซ้อน และ ดอกชวนชม แบบเดี่ยว หลากสีมาก ดอกชวนชม ดอกชวนชม ดอกชวนชม ดอกชวนชม ดอกชวนชม ดอกชวนชม
คุณสมบัติเด่นของชวนชม
ชวนชมจากชื่อก็มีความหมายอยู่แล้ว ว่าหมายถึง “ชวนให้คนชม ชวนให้คนดู” เพราะเป็นไม้ดอกไม้ประดับที่สวยงาม ซึ่งนอกจากจะปลูกเลี้ยงเพื่อความสวยงามแล้ว การปลูกเลี้ยงยังสะท้อนถึงความเชื่อของผู้ปลูกอีกด้วยว่าการปลูกเลี้ยงชวนชมนั้นจะทำให้ผู้คนหันมาชื่นชม นำมาซึ่งความเป็นสิริมงคลมาสู่ตัวเอง และครอบครัว เงินทองไหลมาเทมา ทำให้คนนิยมนำไปปลูกไว้ในบ้าน และห้างร้านต่างๆ เช่น อาคารที่พัก ระเบียงห้องนอน ร้านอาหาร อาคารพาณิชย์ หรือตามบริษัทใหญ่ๆ ก็สามารถเข้าไปประดับแต่งเติมได้
“ชื่อดีมีชัยไปกว่าครึ่ง” การตั้งชื่อในทางสิริมงคลจึงทำให้ชวนชมได้รับความนิยม เพราะหากชื่อไม่ดีก็ยากที่จะได้รับความนิยม ยกตัวอย่าง ต้นลีลาวดี แต่ก่อนชื่อลั่นทม ชื่อไม่เป็นมงคล คนก็ไม่นิยมนำมาปลูกประดับในบ้าน พอเปลี่ยนชื่อเป็นลีลาวดี ปัจจุบันจึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก
โดยรวมสวนมิสเตอร์พีเป็นที่นิยมกันในวงการชวนชม มิใช่แต่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังแพร่หลายไปในหมู่นักชวนชมในต่างประเทศ เช่น ประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย จีน และไต้หวัน เป็นต้น ด้วยประสบการณ์ทำให้เขาได้รับความเชื่อถือ และไว้วางใจ จากนักเล่นชวนชมทั่วประเทศ ในเรื่องสินค้ามีคุณภาพสูง ต้นชวนชม ต้นชวนชม
สนใจติดต่อ พ.จ.อ.พีรภัทร ปิ่นทอง สายด่วน 08-6513-2519 ที่อยู่ 50/1 หมู่ที่ 10 (บ้านทุ่งลานโพธิ์) ต.วังลึก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี 72130
