จากข้อมูลที่ได้รับผู้เขียนและทีมงานไม้ดอกไม้ประดับ อาจจะฟันธงไปว่าการผลิต ดอกหน้าวัว ตัดดอก ไม่อาจจะ “จดทะเบียนสมรส” กับภาคใต้ได้ หากไม่ได้รับข้อมูลอีกด้านหนึ่งว่า มีสวนหน้าวัวขนาดไม่ใหญ่มากประสบความสำเร็จกับการผลิต ดอกหน้าวัว คุณภาพ ใน อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ส่งขายร้านดอกไม้รายใหญ่ย่านปากคลองตลาด 3,000 ดอก/สัปดาห์
คำถามก็คือ ผู้ผลิตรายนี้ เอาชนะ “ฝน” และ “แดด” ของภาคใต้ได้อย่างไร
สวนหน้าวัวดังกล่าวมีชื่อว่า “พิบูลย์ รอยัล ฟลาวเวอร์” ตั้งอยู่ใน ต.ควนเกย อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช มี
คุณวิกันดา คงสวัสดิ์ เป็นเจ้าของ
หากแต่การลงทุนสวนหน้าวัวในภาคใต้ ของสวน พิบูลย์ รอยัล ฟลาวเวอร์ ต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง โดยเฉพาะ สายพันธุ์ โรงเรือนกึ่งระบบปิด ระบบน้ำ และวัสดุปลูก มีรายละเอียดดังนี้
สายพันธุ์หน้าวัวนำเข้าจากประเทศฮอลแลนด์
หลักเกณฑ์การคัดเลือกสายพันธุ์หน้าวัว เจ้าของสวนบอกว่าควรเลือกสีตามที่ตลาดใช้งานต้องการ เช่น สีขาว สีแดง สีชมพู สีเขียว และสีทูโทนบางตัว เป็นต้น โดยเฉพาะสีแดง เป็นตัวที่มีความต้องการสูงที่สุด จึงเลือกปลูกในสวนมากถึง 50%
ไม่ใช่เพียงสีสันเท่านั้น พันธุ์หน้าวัวที่เลือกปลูก ต้องทนทานต่อโรคสูง โดยเฉพาะโรคเชื้อราที่มีสาเหตุมาจากความน้ำและความชื้น อีกทั้งพื้นที่ปลูกหน้าวัวของสวนนี้อยู่ใกล้กับสวนยาง ซึ่งมีการระบาดของเชื้อไฟทอปธอราสูง ถ้าพันธุ์อ่อนแอต่อโรคมีโอกาสเสียหายและขาดทุนได้
ด้วยความสำคัญของพันธุ์หน้าวัว สวนแห่งนี้จึงเลือกนำเข้าพันธุ์จากบริษัท แอนทูร่า ประเทศฮอลแลนด์ แม้จะมีราคาสูงกว่าพันธุ์ในประเทศก็ตาม ได้แก่พันธุ์ Tropical (แดงสด) Casino (ส้ม) Rosa (ชมพู) Angel (ขาว) Fantasia (ครีมขอบแดง) Pistache (เขียวเข้ม) Marshall (ชมพูสีโอบาเกะ หูเขียว)
โรงเรือนกึ่งระบบปิด และระบบน้ำสเปรย์หมอก
ปัญหาหนึ่งของสวนหน้าวัวภาคใต้คือ มีปริมาณฝนตกชุกติดต่อกันหลายเดือน ทำให้ต้นหน้าวัวมีโอกาสเกิดโรคได้ง่าย ยิ่งหากปลูกกับพื้นและวัสดุปลูกระบายน้ำไม่ดี จะเกิดความเสียหายอย่างหนักในระยะยาว ขณะเดียวกันน้ำฝนเมื่อตกแรงๆ จะทำให้ดอกฉีกขาด
เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว โรงงานปลูกหน้าวัวทั้งหมดจึงต้องทำหลังคาจากพลาสติก ป้องกันน้ำฝน สามารถแก้ปัญหาช่วงหน้าฝนได้อย่างดี
จากนั้นจึงคลุมด้วยซาแรนพลางแสง 70% ด้านบน และด้านข้างทั้ง 4 ด้าน
แม้ว่าโรงเรือนพลาสติกจะแก้ปัญหาหน้าวัวช่วงหน้าฝนได้ แต่กลับสร้างปัญหาช่วงหน้าแล้ง หรือช่วงที่อากาศร้อน ภายในโรงเรือนจะมีอุณหภูมิสูง ทำให้หน้าวัวดอกเหี่ยวใบไหม้ เป็นต้น ดังนั้นโรงเรือนจึงต้องสูง ประมาณ 5 เมตร และติดตั้งระบบสเปรย์หมอกน้ำจากด้านบน เพื่อลดอุณหภูมิให้ต่ำลง โดยจะตั้งเวลาทำงานตั้งแต่ 11.00 – 15.00 น. สเปรย์เป็นรอบทุกๆ 15 นาที แต่ละรอบนาน 1 นาที
ปัจจุบันสวนเลิกใช้ระบบสเปรย์หมอกไปกว่า 1 ปีแล้ว เจ้าของสวนให้เหตุผลว่า “ระยะหลังอุณหภูมิผันแปรเร็ว คือ ปกติร้อน เราจะฉีดสเปรย์ทันที ทำให้ต้นไม้ปรับตัวไม่ทัน เพราะหน้าวัวเป็นพืชที่ค่อนข้างอ่อนไหว มาก ทำให้ดอกไม่ออก หรือดอกเพี้ยนผิดรูป และจะมีปัญหาเรื่องการจัดการ และยังประสบปัญหาเรื่องน้ำในช่วงหน้าแล้งไม่เพียงพอ จึงปล่อยให้ต้นหน้าวัวปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศในพื้นที่ ผลก็คือ ได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น”
หินภูเขาไฟ และถ่าน เครื่องปลูกสู้ฝน
ปกติเครื่องปลูกหน้าวัวคุณสมบัติดี ต้นทุนต่ำที่สุดคือ กาบมะพร้าวสับ แต่นั่นอาจจะเป็นเครื่องปลูกชั้นดีของภูมิภาคอื่น ไม่ใช่ภาคใต้
เนื่องจากกาบมะพร้าวเมื่อถูกน้ำฝนตกชุกจะทำให้กาบมะพร้าวย่อยสบายหรือผุไว ต้องเติมอยู่เรื่อยๆ และยังเป็นแหล่ง “ทำคลอด” เชื้อโรคเชื้อราต่างๆ ได้ง่าย
วัสดุปลูกที่เหมาะสมจึงต้องย่อยสลายช้า และไม่เก็บน้ำมากจนเกินไป
ถ่าน เป็นวัสดุอีกชนิดหนึ่งที่มีความเหมาะสม ไม่อุ้มน้ำมาก ระบายน้ำได้ดี และย่อยสลายช้า สวนนี้จึงเลือกใช้เป็นตัวหลัก
น้ำ สำหรับหน้าวัวต้องสะอาดบำรุงปุ๋ย ทุกๆ 3 วัน
น้ำเป็นส่วนสำคัญมากของหน้าวัว จึงต้องสะอาด ไม่ควรมีสารพิษอันตรายในน้ำ แต่สวนหน้าวัวแห่งนี้ไม่มีแหล่งน้ำธรรมชาติ จึงใช้น้ำบาดาล ซึ่งจะมีหินปูน จึงต้องปรับค่าโดยเติมกรดไนตริก และตรวจวัดความเป็นกรด-ด่างระหว่าง 5.8-6.2 เป็นกรดอ่อนๆ ค่า EC ไม่เกิน 0.5 กรัม/ลิตร
“การรดน้ำ ให้น้ำทุกวัน เช้า-เย็น ในช่วงอากาศร้อน แต่ถ้าอากาศชื้นหรือฝนตกจะไม่รด เพราะหน้าวัวชอบชื้น แต่ไม่แฉะ ห้ามน้ำท่วมขัง”
ด้านการใช้ปุ๋ยบำรุงต้นและดอกสวนหน้าวัว สวนพิบูลย์ รอยัล ฟลาวเวอร์ จะทำตามสูตรของบริษัท แอนทูร่า โดยการใช้แม่ปุ๋ยชนิดเกร็ด นำมาผสมเอง
“ทางแอนทรูร่าจะคำนวณสูตรมาให้ว่า ระยะต้นในช่วงนี้ สมมุติว่า ขนาดต้นอายุ 1-2 ปี ต้องการธาตุอาหารไนโตรเจนกี่โมลาร์ต่อต้น คำนวณมาเสร็จของธาตุแต่ละตัว และเขาก็ให้เรามาว่าคุณปลูกกี่ต้น แล้วให้ชั่งปุ๋ยเป็นกิโลกรัมหน้าวัวก็จะได้อาหารทุกตัว ทั้งธาตุหลัก ธาตุรอง จุลธาตุ ได้หมดเลย
“การให้ปุ๋ย จะให้น้อยแต่บ่อยครั้ง คือให้ทุกๆ 3 วัน เป็นการให้ปุ๋ยทางรากโดยละลายไปกับน้ำ จะไม่รดให้ถูกใบเลย”
ผลผลิต 3,000 ดอก/สัปดาห์ ส่งร้านดอกไม้ปากคลองตลาด
คุณวิกันดา ให้ข้อมูลว่า สวนจะตัดดอกหน้าวัว สัปดาห์ละ 3,000 ดอก จากนั้นจะนำมาคัดขนาดดอก มีทั้งหมด 5 ขนาด ได้แก่
ขนาด S = 8 ซ.ม.
ขนาด M = 10 ซ.ม. ราคา 8-12 บาท
ขนาด L = 12 ซ.ม. ราคา 12-15 บาท
ขนาด XL = 14 ซ.ม.
ขนาด XXL = 16 ซ.ม.
ดอกหน้าวัวขนาดคุณภาพจะห่อดอกด้วยถุงพลาสติก ส่วนดอกตกเกรดไม่จำเป็นต้องห่อดอกจากนั้นแพ็คลงกล่อง ส่งขึ้นรถไปมายังร้านดอกไม้ปากคลองตลาด
“ดอกหน้าวัวใช้งานได้นาน ถ้าอยู่ในอุณหภูมิห้องปกติ แช่อยู่ในน้ำ อยู่ได้นานประมาณ 10 วัน แต่ถ้าใส่ตู้เย็นหรือตู้แช่ ก็จะอยู่ได้ 3 เดือนขึ้นไป”
ขอขอบคุณ
วิกันดา คงสวัสดิ์
สวนพิบูลย์รอแยลฟลาวเวอร์
55 หมู่ 1 ต.ควนเกย อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช 80130 โทรศัพท์ 08-1829-3631
tags: การปลูก ดอกหน้าวัว เพื่อตัดดอกขาย ภายในโรงเรือนปิด ปลูกดอกหน้าวัว ดอกหน้าวัว หน้าวัว การปลูก ดอกหน้าวัว ภายในโรงเรือนปิด ปลูกดอกหน้าวัว ดอกหน้าวัว หน้าวัว
[wpdevart_like_box profile_id=”328462947197738″ connections=”show” width=”300″ height=”220″ header=”big” cover_photo=”show” locale=”th_TH”]